ผ่านไป 10 วัน… เมืองทะเลทรายตอนใต้!
เมืองแห่งนี้อยู่ทางตอนใต้ของเกาะเผิงไหล บริเวณนั้นเป็นทะเลทราย มีปราณวิญญาณที่อุดมสมบูรณ์
สถานที่แห่งนี้นับเป็นสรวงสวรรค์ของผู้เชี่ยวชาญ…แต่เป็นผู้เชี่ยวชาญฝ่ายอธรรม
เพราะสถานที่แห่งนี้คือที่ตั้งของนิกายกระถางปรุงโอสถ ซึ่งเป็นสถานที่จัดงานประมูลกระถางขัดเกลา!
ในทะเลทรายแห่งนั้น มีโอเอซิสอยู่แห่งหนึ่ง พื้นที่กว้างกว่าพันลี้ และมีกำแพงสูงล้อมรอบ
ผู้เชี่ยวชาญประสานวิญญาณและผู้เชี่ยวชาญแก่นทองคำจำนวนมากขี่อูฐมุ่งตรงไปยังงานประมูล
ยามนี้ หนิงฝานนำชุ่ยหลิงและเย่หลิงโดยสารอูฐสูงใหญ่กว่า 10 จ้าง วิ่งตะบึงตรงไปยังงานประมูล
อูฐตัวนี้มีเป็นสัตว์อสูรในขอบเขตแก่นทองคำ ความเร็วของมันเทียบเท่าผู้เชี่ยวชาญแก่นทองคำขั้นสุดท้าย
อูฐแต่ละตัวจะโดยสารคนได้ 10 คน แต่ละคนที่ขึ้นโดยสาร ต่างนั่งแยกกันไป
บนหลังอูฐที่หนิงฝานโดยสาร มีผู้เชี่ยวชาญแก่นทองคำหลายคน
ชายชราในชุดคลุมม่วงผู้หนึ่ง ดวงตาหรี่แคบ ใบหน้าซีดขาวราวกับเพิ่งเสร็จสมอารมณ์หมายกับสตรีมา
มันได้รับมอบหมายให้เดินทางมาเยือนนิกายกระถางปรุงโอสถ
ชายชราผู้นี้หันมองไปยังทิศทางที่หนิงฝานนั่งอยู่พลางกลืนน้ำลาย
มันไม่ได้มองหนิงฝาน แต่มองสาวงามข้างกายหนิงฝาน!
แต่ไม่ใช่แค่มันคนเดียว ผู้เชี่ยวชาญแทบทุกคนบนหลังอูฐมองพวกนาง สายตาหื่นกระหายหวาดผ่านเรือนร่างของพวกนาง
เหตุที่เป็นเช่นนี้ เพราะหนิงฝานอำพรางระดับพลังของตนไว้เพียงแก่นทองคำขั้นกลาง เพราะอยากพาพวกนางเที่ยวชมโลกอย่างผ่อนคลาย
แต่ดูเหมือนผู้เชี่ยวชาญที่อยู่บนหลังอูฐยามนี้ ปรารถนาพวกนางเป็นอย่างมาก
กระถางขัดเกลามีราคาแพงมาก หากช่วงชิงกระถางขัดเกลาของหนิงฝานได้ ย่อมขายได้ราคางาม เพราะพวกนางเป็นถึงผู้เชี่ยวชาญแก่นทองคำขั้นกลาง ทั้งยังงดงามเป็นอย่างมาก
ในบรรดาผู้ที่ร่วมเดินทาง มีเพียงชายชราในชุดคลุมม่วงเท่านั้นที่เผยแววตาโลภอย่างชัดเจน
เพราะมีมันเดียวที่เป็นผู้เชี่ยวชาญแก่นทองคำขั้นสูง มันมั่นใจว่าสามารถจัดการกับผู้เชี่ยวชาญแก่นทองคำขั้นกลางทั้งสามคนได้
“ไอ้หนู… พวกนางเป็นกระถางขัดเกลาชั้นยอดหนิ… ข้าขอพวกนางได้หรือเปล่า? ข้าจะเอาพวกนางไปขัดเกลาผสาน พอหมดประโยชน์ก็จะเอาไปขายไป น่าจะได้ราคางามน่าดู… ข้าเป็นคนของ ‘นิกายอักขระม่วง’ ฝีกฝนวิชายันต์ ถ้าจะให้จัดการพวกเจ้าทั้ง 3 คนคงไม่ใช่เรื่องยาก แต่ติดปัญหาแค่อย่างเดียว คือเกาะเผิงไหล่ไม่อนุญาติให้มีการต่อสู้ แต่มันก็พอมีข้อยกเว้นอยู่บ้าง… ตรงไปตามเส้นทางนี้สักพัก จะเป็นพื้นที่สุสานของนิกายกระถางปรุงโอสถ ที่นั่นสามารถเข่นฆ่ากันได้ตามใจ แต่ถึงข้าไม่ลงมือ ผู้เชี่ยวชาญแก่นทองคำขั้นสูงคนอื่นๆคงไม่ปล่อยให้พวกนางรอดมือไปแน่!”
มันมองชุ่ยหลิงและเย่หลิงด้วยแววตาหื่นกระหาย ก่อนหันหนีไปอีกทาง
ตัวมันในยามนี้ ยืนมือไพล่หลังอย่างองอาจ ราวกับผู้เชี่ยวชาญที่เก่งที่สุดในโลก
ผู้เชี่ยวชาญแก่นทองคำคนหนึ่งที่นั่งอยู่ มองชายชราคนนั้นด้วยแววตานับถือ
“สมแล้วที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของนิกายใหญ่ทั้ง 10… ข้านับถือยิ่งนัก คนที่ยิ่งใหญ่เช่นท่าน เกิดมาข้าเพิ่งเคยพบเห็น! หรือท่านจะเป็นผู้เชี่ยวชาญแก่นทองคำขั้นสูงที่ทรงพลังที่สุดในนิกาย?”
“ใช่ที่ไหน… สหายเต๋ากล่าวเกินไป ในนิกายของข้ามีผู้เชี่ยวชาญแก่นทองคำขั้นสูงมากมาย ข้าไม่ควรค่าให้กล่าวถึงหรอก”
แม้จะกล่าวว่าสหายเต๋า แต่สายตาที่ชายชรามองผู้เชี่ยวชาญคนนั้น ราวกับไม่คู่ควรให้พูดคุยด้วย เพราะอีกฝ่ายเป็นเพียงผู้เชี่ยวชาญแก่นทองคำขั้นต้น
แต่การได้รับคำเยินยอเช่นนั้นก็ทำให้มันพอใจมาก
มันเป็นผู้อาวุโสของนิกายอักขระม่วงฝ่ายนอก
มันแผ่กลิ่นอายของผู้เชี่ยวชาญแก่นทองคำขั้นสูงที่น่าเกรงขาม ทำให้อูฐที่โดยสารหวาดกลัว
โดยทั่วไปแล้ว อูฐทะเลทรายมักเป็นสัตว์อสูรที่เย่อหยิ่ง ผู้เชี่ยวชาญแก่นทองคำขั้นสูงและผู้เชี่ยวชาญดวงจิตแรกเริ่มสามารถแผ่แรงกดดันให้อูฐไม่กล้าขัดขืนได้ แต่ยังไม่อาจทำให้มันยอมศิโรราบ
“การที่ข้าทำให้อูฐยอมศิโรราบ แสดงว่าแข็งแกร่งไม่ธรรมดา อาจจะเหนือกว่าผู้เชี่ยวชาญแก่นทองคำขั้นสูงสุดบางคนเลยด้วยซ้ำ” ชายชรากล่าวในใจพลางยิ้ม
แต่มันเข้าใจบางอย่างผิดไป
ที่อูฐดูหวาดกลัวนั้น ไม่ได้เป็นเพราะตัวมัน
แต่ที่มันหวาดกลัวคือหนิงฝาน ที่กำลังนั่งจิบสุราอย่างสบายใจ!
โดยทั่วไปแล้ว สัตว์อสูรจะมีสัมผัสรู้ถึงอันตรายร้ายแรง มันสัมผัสได้ถึงอันตรายที่แผ่ออกมาจากหนิงฝาน จนทำให้มันสั่นสะท้าน
“นายท่าน พวกมันคิดจะล่วงเกินข้า…” ชุ่ยหลิงและเย่หลิงกล่าวกับหนิงฝานด้วยสัมผัสเทพ
“อืม…” หนิงฝานยังคงจิบสุราต่อไป
“ฮ่าฮ่า เจ้าดูสบายใจมาก ทั้งๆที่เจ้านั่นคิดจะฆ่าเจ้า” หลังจากที่หลั่วโยว่ช่วยหนิงฝานทำให้ทหารศิลาเป็นทาส นางก็กล่าวว่าจะพักผ่อน 29 วัน จากนั้นก็จะมาคอยดูหนิงฝานดูดซับพลังจากเหล่าสตรี เพราะหากหนิงฝานทำให้วิชาแปลงหยินหยางทะลวงระดับได้
หนิงฝานยิ้มเล็กน้อย
แม้หนิงฝานจะดูไม่สนใจ แต่เขารู้ดีว่าใครมีเจตนาร้าย หรือใครที่คิดล่วงเกินพวกนาง
ผ่านไปไม่นาน อูฐทะเลทรายก็พาไปถึงผู้เชี่ยวสถานที่ที่เขียวชอุ่มแห่งหนึ่ง ในนั้นมีต้นไม้โบราณขนาดใหญ่ตั้งอยู่
และบนกึ่งก้านขนาดใหญ่ของมัน มีศีรษะของผู้เชี่ยวชาญห้อยอยู่กว่าหลายพัน
ส่วนใหญ่คนที่ตายคือผู้เชี่ยวชาญแก่นทองคำ แต่ในจำนวนศีรษะเหล่านั้น ก็มีผู้เชี่ยวชาญดวงจิตแรกเริ่มราว 10 คน
สถานที่แห่งนั้นมีไว้สำหรับการฆ่าฟัน
ชั่วลมหายใจนั้นเอง ชายชราอาภรณ์ม่วงหันกลับมาหาหนิงฝาน ในมือถือยันต์สีม่วงไว้ 3 แผ่น!
แววตาที่มันมองหนิงฝาน เปี่ยมไปด้วยเจตนาสังหาร!
“ไอ้หนู ข้าจะให้โอกาสเจ้า… ส่งสตรีสองคนนั้นมา แล้วข้าจะเมตตาปล่อยเจ้าไป!”
เมื่อกล่าวจบ ยันต์ในมือมันสลายกลายเป็นเพลิงสีม่วงลุกโหมขึ้นบนฝ่ามือของมัน
“คาดไม่ถึงว่าจะเป็นยันต์ระดับสูง… ยันต์เพลิงม่วงที่ทรงพลังพอที่จะสังหารผู้เชี่ยวชาญแก่นทองคำขั้นกลางได้
ง่ายๆ… เพียงแต่เพลิงนั้นอาจทำอันรายพวกนางไปด้วย…”
“ตาเฒ่านั่นโหดเหี้ยมจริงๆ แต่ก็คาดไม่ถึงว่ามันกล้ากล่าวว่าจะปล่อยไป… สถานที่แห่งนี้เป็นสถานที่ที่สังหารได้อย่างอิสระ ไม่ใครปล่อยมันไว้หรอก”
ผู้เชี่ยวชาญคนอื่นๆบนหลังอูฐเตรียมพร้อมอาวุธ หากหนิงฝานหรือชายชราเพลี่ยงพล้ำ พวกมันจะลงมือทันที
สถานที่แห่งนี้คือสุสาน เป็นที่ฝังสมบัติหรืออาวุธมากมาย เหมาะกับการเก็บไปขายเพื่อทำเงิน
ในขณะที่ผู้เชี่ยวชาญแก่นทองคำกำลังขบคิด จู่ๆพวกมันกลับรู้สึกหวาดกลัวอย่างบอกไม่ถูก
พวกมันสัมผัสได้ถึงอันตรายร้ายแรง!
หนิงฝานกำลังจะลงมือ!
แรงกดดันที่ทรงพลังของหนิงฝานทำให้บริเวณโดยรอบสั่นสะเทือน
การสั่นสะเทือนและแรงกดดัน ทำให้อูฐตกใจกลัว และเริ่มออกนอกเส้นทาง
“ถ้าเจ้าไปผิดทาง ข้าจะฆ่าเจ้า”
หนิงฝานกล่าวพร้อมกับแผ่เจตนาสังหาร แรงกดดันเพิ่มพูนจนแปรเปลี่ยนเป็นกลิ่นอายของผู้เชี่ยวชาญดวงจิตแรกเริ่ม!
รอยยิ้มบนใบหน้าชายชราหายไป มันรู้ว่ามันไม่มีทางรอดแล้ว!
ผู้เชี่ยวชาญคนอื่นๆก็หวาดกลัวและตกตะลึง ใครจะไปคิดว่าเด็กหนุ่มร่างกายผอมบางจะเป็นผู้เชี่ยวชาญดวงจิตแรกเริ่ม!
“แย่แล้ว!”
“พวกมันตะโกนในใจแทบพร้อมกัน”
ถึงแม้พวกมันจะสัมผัสถึงอันตรายร้ายแรง แต่พวกมันกลับไม่มีโอกาสได้หนี!
“เขตสุสาน… สังหารเพื่อช่วงชิง ข้าชอบ!”
สัมผัสกระบี่กวาดผ่าน ผู้เชี่ยวชาญนับ 10 ถูกสังหาร!
แม้เป็นผู้ที่ควบคุมอูฐก็ไม่รอด!
เหลือเพียงอูฐทะเลทรายที่ยังทนกับความหวาดกลัว และวิ่งตะบึงต่อไป
ชุ่ยหลิงและเย่หลิงตกตะลึง พวกนางไม่ได้ตกตะลึงที่หนิงฝานสังหาร แต่ตกตะลึงที่หนิงฝานไม่กลัวว่าจะยั่วยุนิกายต้นสังกัดของพวกมัน
อย่างเช่นการสังหารชายชราชุดคลุมม่วง นิกายอักขระม่วงของมันต้องส่งผู้เชี่ยวชาญที่ทรงพลังมาตามล่า!
“นายท่าน ดูเหมือนตาเฒ่าชุดคลุมม่วงจะเป็นคนของ 10 นิกายใหญ่ บางทีอาจจะมีผู้เชี่ยวชาญตัดวิญญาณอยู่…”
ผู้เชี่ยวชาญตัดวิญญาณแข็งแกร่งขนาดไหนนั้น พวกนางคาดไม่ถึง
แต่เมื่อหนิงฝานแสดงทหารศิลาให้พวกนางดู พวกนางก็เข้าใจ
“แล้วเราจะควบคุมอูฐตัวนี้ยังไง ตอนนี้คนบังคับมันก็ตายไปแล้ว…” ชุ่ยหลิงกล่าวถาม
“ข้ายกหน้าที่ให้เจ้า… เจ้าไปนั่งที่นั่งตรงนั้น ทหารศิลารับหน้าที่สังหาร พวกเจ้าสองคนก็คอยป้องกันช่วยกัน… พวกเราจะฆ่าเพื่อชิงสมบัติที่นี่!”
หนิงฝานต้องการหยกสวรรค์เป็นจำนวนมาก
และต้องการให้คนของนิกายกระถางปรุงโอสถมาที่นี่…
นิกายกระถางปรุงโอสถ… ห้องลับแห่งหนึ่ง บรรพบุรุษนิกายกระถางขัดเกลา ‘เซียวว่านโหลว’ กำลังเก็บตัวฝึกฝนเพื่อทะลวงขอบเขตดวงจิตแรกเริ่มขั้นสูงสุด
“การประมูลน่าจะเริ่มแล้ว…” เซียวว่านโหลวขบคิดราวกับอยากออกไปร่วมงานประมูล แต่ในขณะนั้นเอง ประมุขนิกายกระถางปรุงโอสถกลับวิ่งมาอย่างหน้าตาตื่น
“ท่านบรรพบุรุษ เกิดเรื่องแล้ว! มีคนมาสังหารเพื่อช่วงชิงสมบัติในเขตสุสาน!”
“ฮ่าฮ่า แค่เรื่องเล็ก ไว้พวกมันสังหารจนได้หยกสวรรค์มากพอ หยกสวรรค์พวกนั้นก็จะกลายเป็นของเราอยู่ดี”
“ครั้งนี้ไม่ใช่แบบนั้น… คนที่ก่อเรื่องคือผู้เชี่ยวชาญดวงจิตแรกเริ่ม มันขวางเส้นทางมาที่นี่ และสังหารทุกคนที่ผ่านมา! ตอนนี้มันฆ่าผู้เชี่ยวชาญแก่นทองคำไปหลายพันคนแล้ว!”
“อะไรนะ? ผู้เชี่ยวชาญดวงจิตแรกเริ่ม? พลังระดับนั้นย่อมสังหารแก่นทองคำได้ง่าย แต่การทำเช่นนั้นไม่ต่างไปกับการยั่วยุขุมกำลังในทะเลส่วนนอก…”
“แต่นอกจากแก่นทองคำแล้ว ยังมีดวงจิตแรกเริ่มอีก 11 คน ในจำนวนนั้นมี 3 คนเป็นดวงจิตแรกเริ่มขั้นสูง!”
“มันเป็นผู้เชี่ยวชาญดวงจิตแรกเริ่มขั้นสูงสุดเหรอ? มันชื่ออะไร?”
“ซัวหมิง!”