Chapter 142: ฉันเลือกที่อื่นแล้ว
เมื่อได้ยินคําพูดของหานเฟยนักเรียนทุกคนต่างก็โกรธ
มีคนตะโกนทันทีว่า “เจ้าอ้วนแกอวดดีเกินไปแล้ว ให้ฉันสอนบทเรียนให้แกเอง”
หานเฟยเหลือบมองเขา “ คุณอ่อนแอเกินไป”
“อะไรนะ”
ชายหนุ่มวิ่งและเหวี่ยงเบ็ดไปที่หานเฟยและคนรอบข้างก็ส่งเสียงเชียร์เขา
บางคนหัวเราะเยาะ “สมน้ําหน้าเขาแล้ว”
โครม!
ชายหนุ่มที่โจมตีด้วยเบ็ดถูกชกอย่างรุนแรงและกระเด็นไปชนเข้ากับหลาย ๆ คน
หานเฟยแทงเบ็ดไผ่สีม่วงลงกับพื้น “ฉันบอกไปแล้วนี่นาว่าคุณอ่อนแอเกินไป..นี่คือทั้งหมดที่พวกคุณมีหรอ? ใครอีกไหม?”
“ไอ้อ้วนหุบปากซะ ให้ฉันสู้กับแกเอง”
“หานเฟยมาสู้กันตัวต่อตัว”
“ไอ้บ้าฉันจะนั่นแกเป็นชิ้น ๆ ”
หานเฟยได้ยินเสียงทุกคนอยู่ในหูของเขาอย่างต่อเนื่องและเขามองคนเหล่านี้อย่างดูถูกเหยียดหยามและพูดว่า “ฉันจะให้โอกาสคุณได้ท้าทายฉัน มาพร้อมกันเลยก็ได้!”
“แก…ฉันจะสู้กับแกเอง”
ชายคนหนึ่งแทงหอกยาวเข้าที่ร่างของหานเฟยพร้อมกับกระตุกและปลายของมันก็ส่องแสงด้วยพลังวิญญาณที่ริบหรี่
หานเฟยขยับร่างกายไปด้านข้างเล็กน้อยและเบ็ดไผ่สีม่วงทันที จากนั้นผู้โจมตีก็ถูกส่งลอยไปด้วยความเร็วที่เร็วกว่าที่ตัวเขาเองจะเคลื่อนที่ทัน
เหล่านักเรียนเริ่มตัวแข็ง “คนอ้วนนี้ดูเหมือนจะรับมือไม่ง่ายนัก”
“ไม่เลวนี่ แต่แกหยิ่งเกินไป แกต้องเรียนรู้ที่จะเคารพคนอื่น”
“ให้ฉันสู้กับเขา ฉันมาก่อน”
“ไปให้พ้น ให้ฉันสู้กับเขา!”
พวกเขาทั้งหมดเริ่มรวมกลุ่มมาใกล้กับหานเฟย
แบมแบมแบม…
ที่ประตูของโรงเรียนน้ําตกมีผู้คนจํานวนมาก และหลังจากนั้นเพียงไม่กี่นาที่ผู้คนมากกว่าหนึ่งโหลก็ถูกส่งลอยไปในอากาศ
ยังมีนักเรียนอีกหลายคนที่ล้อมหานเฟยและเตรียมที่จะต่อสู้กับเขา ทันใดนั้นก็มีคนตะโกนอยู่ข้างหลังเขาว่า “เกิดอะไรขึ้นที่นี่? วุ่นวายอะไรกัน!”
“ให้ตายเถอะวังหมิงของแผนกต่อสู้นี่ คราวนี้หานเฟยตายแน่ หวังหมิงเป็นปรมาจารย์การตกปลาขั้นสูง เขาสามารถเอาชนะคนอ้วนนี้ได้อย่างง่ายดาย
หานเฟยมองไปที่วังหมิงและส่ายหัว “คุณไม่ใช่คู่ต่อสู้ของฉัน ไปเรียกเย่หนานเฟยออกมา”
หวังหมิงตะลึงไปชั่วขณะเมื่อเขาเห็นคําที่เขียนบนป้ายเขาก็โกรธมาก “นั่นมันจะมากเกินไปแล้วนะ! คุณมาจากโรงเรียนไหนกัน โรงเรียนทะเลครามหรือว่าโรงเรียนไร้ขอบเขต”
“ฉันไม่ได้อยู่ในโรงเรียนใด ๆ ฉันมาจากหมู่บ้านน้ําสวรรค์!”
หวังหมิงตกใจอีกครั้ง มาจากหมู่บ้าน? แล้วเขากล้ายั่วโมโหคนอื่นขนาดนี้ได้ยังไงกัน!
วังหมิงหัวเราะเยาะ “ฉันจะสู้กับคุณเอง”
หานเฟยพูดอย่างเรียบเฉย “ฉันบอกว่าคุณไม่ใช่คู่ต่อสู้ของฉัน”
วังหมิงโกรธอีกครั้ง “แล้วมาดูกันว่าใครจะแพ้”
มีคนตะโกนว่า “ไอ้อ้วนคิดว่าตัวเองเป็นใคร! ฉันพนันได้เลยว่าคุณไม่สามารถรอดจากการโจมตีเพียงครั้งเดียวจากหวังหมิงได้”
บางคนเยาะเย้ย “ใช่บางที่หัวของเขาอาจจะถูกตัดออกก็ได้”
อาวุธของหวังหมิงคือขวาน เขากระโดดขึ้นไปในอากาศและขวานในมือของเขาก็ส่องประกายวาบ
เมื่อหวังหมิงกําลังจะโจมตีด้วยการระเบิดพลังวิญญาณ เขาก็พบว่าทันใดนั้นร่างของหานเฟยก็ปรากฏตัวต่อหน้าเขา
โครม!
“อึก…”
เบ็ดไผ่สีม่วงของหานเฟยสว่างวาบและหวังหมิงก็ถูกฟาดกระเด็นออกมาและกระอักเลือด
หานเฟยปลดปล่อยพลังระดับปรมาจารย์ตกปลาผู้ยิ่งใหญ่ออกมาอย่างเต็มที่ และพลังวิญญาณที่พุ่งสูงที่ออกมาจากในร่างกายของเขา ทําให้คนรอบข้างต้องถอยห่างออกไป
“อะไรกันปรมาจารย์ตกปลาผู้ยิ่งใหญ่หรอ?”
“มันเป็นไปได้ยังไงกัน? เจ้าอ้วนนี้อายุเท่าไหร่? เป็นไปได้อย่างไรที่เขาจะเป็นปรมาจารย์ตกปลาผู้ยิ่งใหญ่?”
“แถมเขายังไม่ได้เข้าโรงเรียนใดๆด้วยงั้นหรอ”
“จริงหรอเนี่ย คนจากหมู่บ้านจะแข็งแกร่งขนาดนี้ได้อย่างไร”
“เร็วเข้า ไปรายงานอาจารย์”
แม้ว่าจะยังคงมีผู้คนอยู่รอบ ๆ ตัวเขา แต่พวกเขาก็อยู่ห่าง ๆ จากเขา ไม่มีใครอยู่ในระยะห้าเมตรจากหานเฟยเลยในตอนนี้
ไม่เพียงแค่ในสถาบันที่สาม แต่เมืองทั้งเมืองก็อยู่ในความโกลาหล
ผู้ที่สัญจรไปมาต่างประหลาดใจ “คุณได้ยินไหม? เด็กสารเลวจากชนบทขวางประตูเพื่อท้าทายสถาบันที่สามและยังบอกอีกว่าในสถาบันที่สามมีแต่คนขี้ขลาด”
” จริงหรอ”
“ใช่พวกเขาต่อสู้กันแล้ว”
“ไปดูกันๆ”
หลังจากผ่านไปสิบนาที่มีคนหลายสิบคนมาที่ประตู
ชายที่เดินอยู่ข้างหน้าคือเย่หนานเฟยซึ่งหานเฟยรู้จัก นอกจากเย่หนานเฟยแล้วยังมีผู้อาวุโสอีกหลายคน พวกเขาเป็นครูซึ่งล้วนเป็นปรมาจารย์ด้านการตกปลาผู้ยิ่งใหญ่
นอกจากอาจารย์เหล่านี้แล้วหานเฟยยังเห็นนักเรียนอีกสองสามคนที่เป็นปรมาจารย์ตกปลา
“ไม่เลว! ดูเหมือนว่าจะมีปรมาจารย์ตกปลาผู้ยิ่งใหญ่หลายคน”
“หานเฟยหานเฟย…”
ทันใดนั้นหานเฟยก็เห็นร่างที่วิ่งเข้ามา นั่นคือเจียถง
เจียถงแทบไม่เชื่อสายตาตัวเอง ว่านี่คือหานเฟยจริงๆ!
“ให้ตายสิ…ทําไมคุณถึงมาที่นี่”
หานเฟยประหลาดใจ “คุณเรียนที่นี่เหรอ”
เจียถงพยักหน้า “ไม่ใช่แค่ฉัน เฉินซิงก็อยู่ที่นี่ด้วย เขากําลังมาที่นี่ตอนนี้ ฉันไม่เชื่อเลยเมื่อได้ยินชื่อของคุณ คุณมาทําอะไรที่นี่เนี่ย?”
หานเฟยยิ้ม “ฉันมาที่นี่เพื่อท้าทายใครบางคนนั่นดูสิเขามาแล้ว”
เย่หนานเฟยเดินไปหาหานเฟย “เจ้าอ้วนตัวน้อยนี่ว้าว! คุณลดน้ําหนักแล้ว”
หานเฟยยกศีรษะขึ้น “ฉันเคยผอมมาก่อนน่า เมื่อคราวก่อนนักเรียนของคุณมายุ่งกับฉัน ตอนนี้ฉันมาที่นี่เพื่อท้าทายคุณ คุณกล้ารับคําท้าของฉันไหม”
หานเฟยมองไปข้างหลังเย่หนานเฟยและเห็นเด็กถือดาบ และเด็กถือธนูที่เขาพบในวันนั้นเขาก็ยิ้มให้พวกเขา “ดูเหมือนว่าฉันมาถูกเวลาแหะ”
เด็กชายถือดาบพูดอย่างเย็นชาว่า “วันนั้นพวกเราห้าคนต่อสู้กับคุณและวันนี้ฉันจะท้าทายคุณคนเดียว”
หานเฟยเย้ยหยัน “ฉันรู้ว่าคุณเป็นปรมาจารย์ตกปลาระดับสูงสุดแล้ว แต่นั่นยังไม่เพียงพอ คุณไม่สมควรที่จะต่อสู้กับฉันก่อนที่คุณจะกลายเป็นปรมาจารย์ตกปลาผู้ยิ่งใหญ่
เด็กถือดาบตะโกนว่า “มากไปแล้ว!”
หานเฟยพูดอย่างเฉื่อยชา “พวกเธอทั้งห้าคนสู้ฉันด้วยกันได้ ฉันไม่คิดจะเอาชนะคุณอีกแล้ว”
เด็กชายถือดาบกําลังจะพูด แต่ถูกเย่หนานเฟยหยุดไว้ เขาพูดง่ายๆว่า “ตกลงหานเฟย ฉันรับคําท้าของคุณ มาเลย!”
หลังจากที่เย่หนานเฟยพูดแบบนั้น อาจารย์หญิงคนหนึ่งพูดว่า “ นาย เจ้าแน่ใจหรือว่ารับคํา ท้าของเด็กชายคนนั้น”
ในความคิดของครูหญิงคนนี้นี่เป็นเรื่องที่ไม่ฉลาดมาก เนื่องจากหานเฟยกล้าเข้ามาเขาจึงต้อง มีอะไรบางอย่างในตัวเขา พวกเขาทุกคนเคยได้ยินเกี่ยวกับการต่อสู้แบบหนึ่งต่อห้าของหานเฟย ถ้าเขาไม่มั่นใจในความแข็งแกร่งของเขาเขาก็คงไม่มาที่นี่
ที่สําคัญกว่านั้นคือไม่มีอะไรใหม่สําหรับนักเรียนที่จะเอาชนะครู มีนักเรียนมากมายที่สามารถเอาชนะครูได้เกือบทุกโรงเรียน!
หานเฟยมองไปรอบ ๆ “สู้ที่นี่ไหม”
เย่หนานเฟยพยักหน้า “ใช่”
“โอเคตามที่คุณต้องการ”
เย่หนานเฟยพูดกับคนรอบข้าง “ทุกคนถอยหลัง 20 เมตร”
หานเฟยถือเบ็ดของเขา
“ เริ่ม”
สิ้นเสียงสัญญาณของเย่หนานเฟย หานเฟยจึงก้าวออกไปอย่างรวดเร็วราวกับสายฟ้าและทิ้งรอยเท้าลึกไว้ที่พื้น
ทันใดนั้นเย่หนานเฟยก็ดึงเบ็ดยาวในมือของเขาออกมาซึ่งกลายเป็นเงามืดนับสิบ เบ็ดไผ่สีม่วงของหานเฟยเปล่งประกายด้วยพลังวิญญาณและเขาก็ควงมันเป็นวงกลมกลางอากาศอย่างรวด เร็วและในทันใดนั้นก็มีพลังวิญญาณวงใหญ่ปรากฏขึ้นและปิดกั้นเงานับสิบนั้น
หานเฟยถือโอกาสโจมตี การโจมตีของเขารวดเร็วราวกับสายฟ้าทรงพลังและรุนแรงมาก แม้ว่าเขาจะไม่ได้ใช้พลังวิญญาณมากนัก แต่การโจมตีของเขาก็ทรงพลังพอ ๆ กับการระเบิดพลังวิญญาณ
” ผสาน”
เย่หนานเฟยดูเคร่งขรึม เด็กคนนี้แข็งแกร่งเกินไป! แม้ว่าเขาจะเพิ่งกลายเป็นปรมาจารย์ตกปลาผู้ยิ่งใหญ่ระดับกลาง แต่เขาก็ยังไม่สามารถต้านทานพลังรุนแรงของหานเฟยได้
“ทั้งแดงหายากนี่”
ไม่ไกลนักมีนักเรียนคนหนึ่งตะโกนอย่างตื่นเต้น
หานเฟยยิ้มเยาะ แล้วไงล่ะ? เมื่อทั้งเหวี่ยงหนวดสองข้างใส่หานเฟยเขาก็ก้าวขึ้นไปในอากาศ หันหลังกลับและขว้างเบ็ดไผ่สีม่วงในมือออกมาเหมือนคันธนู
โครม!
นักเรียนรอบข้างต่างสั่นคลอนขณะที่พวกเขาถอยห่างจากพลังมหาศาล
หานเฟยแตะพื้นด้วยปลายนิ้วเท้าและดึงมีดสองเล่มของเขาออกมา
เกิดเสียงดังลั่น ..
เมื่อได้เห็นฉากนี้ทุกคนตะลึง มันเร็วเกินไป! เขาใช้มีดเร็วขนาดนี้ได้ยังไง?
เด็กชายถือดาบหน้าซีด ผู้ชายคนนี้แข็งแกร่งขนาดนี้แล้วหรอ! เขายังสามารถเอาชนะอาจารย์เย่…
เย่หนานเฟยก็ตกใจเช่นกัน ทักษะการต่อสู้แส้เงาของเขาถูกกําจัดโดยสิ้นเชิงและสัตว์วิญญาณของเขาก็ไม่สามารถใช้ความสามารถได้เช่นกัน
“ใบมีดหมุน…”
หานเฟยโยนมีดสองเล่มในมือออกไปและปรากฏตัวขึ้นข้างหลังเย่หนานเฟยในพริบตา
“เกราะพลังวิญญาณ”
เย่หนานเฟยปกคลุมร่างกายของเขาทันทีด้วยเกราะป้องกันจากพลังวิญญาณและกวาดเบ็ดยาวของเขาไปด้านหลัง ขณะที่หานเฟยก็เหวี่ยงเบ็ดไผ่สีม่วงของเขากลางอากาศ
“โจมตีหมุนเกลียว”
ทันใดนั้นเบ็ดไผ่สีม่วงหมุนวนและตรงไปที่หน้าอกของเย่หนานเฟยเพิ่ง แต่เย่หนานเฟยก็บล็อกเบ็ดของหานเฟยได้ทันแต่ทว่าด้วยแรงปะทะมหาศาล
โครม!
เย่หนานเฟยถูกส่งไปไกลหลายสิบเมตรและก่อนที่เขาจะมีปฏิกิริยาใด ๆ หานเฟยได้วางมีดสองเล่มไว้ที่คอของเขา
ในสายตาที่ตกตะลึงของทุกคนหานเฟยถอนมีดคู่ของเขาหยิบเบ็ดไผ่สีม่วงขึ้นมาแล้วหันไป
“เดี๋ยวก่อน” เย่หนานเฟยตะโกน
“หานเฟยคุณสนใจเข้าร่วมสถาบันของเรามั้ย”
หานเฟยพูดโดยไม่หันกลับไปมองว่า “ไม่ ฉันเลือกโรงเรียนอื่นแล้ว”
ฝูงชนหลีกทางให้เขาและหลังจากหานเฟยหายไปในฝูงชนเย่หนานเฟยก็กระอักเลือดออกมา