[ชื่อ] กิด้า
[เผ่าพันธุ์] ก็อบลิน
[เลเวล] 36
[คลาส] แรร์
[ทักษะ] <<ความชำนาญการใช้หอก C->> <<ความรู้เกี่ยวกับหอก>> <<ขว้างหอก>> <<คำรามอย่างรุนแรง>> <<ดื้อรั้นอย่างไม่มีเหตุผล>>
[การคุ้มครองจากพระเจ้า] ไม่มี
[แอตทริบิวต์] ไม่มี
◇◆◇
ก็อบลินที่หลบหนีไม่สามารถเคลื่อนที่ได้รวดเร็วได้ เนื่องจากพวกมนุษย์และก็อบลินที่ตั้งท้อง แต่พวกเขายังคงออกจากหมู่บ้านอย่างเป็นระเบียบโดยมีกิก้า แรกซ์เป็นผู้นำและมีกิด้าเฝ้าระวังอยู่ข้างหลัง
ผ่านไปหนึ่งวันเต็มแล้วตั้งแต่กิก้าและคนของเขาออกจากหมู่บ้าน ในเวลานี้อลาชได้มาถึงที่ที่ราชาอยู่แล้ว แม้ว่าเขาจะสกปรกและไม่ได้อาบน้ำ แต่สิ่งแรกที่เขาทำคือการเข้าเฝ้าราชา
เขาบอกราชาถึงภัยคุกคามของมนุษย์ที่ใกล้เข้ามา แววตาของราชาตกตะลึง แต่นั่นคือทั้งหมดและเป็นเพียงชั่วครู่
“รวบรวมคนทั้งหมดมา!” ราชาพูด “เราออกเดินทางทันที! คุซาน เจ้าจงอยู่เฝ้าป้องกันป้อมปราการ!”
ขณะที่คุซานเฝ้าป้อมปราการ ราชาจึงออกไปพร้อมกับกองทัพก็อบลินที่เหลือ ผู้นำเส้นทางคือกิกิตามด้วยหัวหน้าหนุ่มเผ่าพาราดัว ฮัลและราชาเองก็นำก็อบลินตัวอื่น ๆ
เช่นนี้กองทัพก็อบลินจึงมุ่งหน้าไปทางตะวันออก
◆◆◇
ในขณะเดียวกันกลุ่มนักผจญภัยที่นำโดยกัลแลนด์ถูกบังคับให้หยุดระหว่างทางหนึ่งวัน ตรงจุดที่กิโซถูกสังหาร
“โกเวน ไอ้แก่นั่น!”
กัลแลนด์ส่งเสียงร้องขณะที่มองหาโกเวน เรนิดที่เพิ่งมาถึง
“มันช่วยไม่ได้ เราไม่สามารถเคลื่อนย้ายได้โดยปราศจากอาหาร ” ไวแอตต์กล่าว ขณะที่เขาพยายามทำให้กัลแลนด์สงบลง
“มันเป็นเพราะสิ่งเดียวที่เขามี คือร่างกายอันใหญ่โตเท่านั้น” มิลล์กล่าวขัดกัลแลนด์ แต่เธอรู้สึกรำคาญอย่างเห็นได้ชัด เมื่อไม่สามารถออกไปจากค่ายได้
“เราไม่จำเป็นต้องรีบร้อน นี่ก็เป็นเจตจำนงของพระเจ้าเช่นกัน” หัตถ์ขาวแห่งชีวิตกล่าวอย่างจริงใจ ซึ่งวิตซ์และยูกิลที่คุ้นเคยกับการแสดงออกของเธอมองหน้ากันแล้วยิ้ม
ตอนนี้สำหรับสาเหตุที่นักผจญภัยพบว่าตัวเองหยุดนิ่ง มันคำตอบนั้นง่ายมาก เพราะพวกเขาไม่มีอาหาร
แต่เดิมอัศวินศักดิ์สิทธิ์ทั้งสามตกลงที่จะไปตามทางของตัวเอง
เพื่อบรรลุเป้าหมายของตัวเอง ทั้งสองคนจึงตัดสินใจที่จะละเลยภารกิจในการช่วยเหลือนักบุญ โกเวนต้องการที่ดินและกัลแลนด์ต้องการออกล่า คนหนึ่งเป็นขุนนางดินแดนที่ต้องการขยายอาณาเขตของตน และอีกคนเป็นนักผจญภัยที่มีชื่อเสียง ไม่ใช่เรื่องยากที่จะคิดได้ว่าพวกเขาจะได้รับประโยชน์อะไรบ้าง หากพวกเขาละทิ้งอารมณ์และทำงานร่วมกัน
เจ้าดินแดนจะจัดหาเสบียงอาหาร น้ำ ยาและสิ่งอื่น ๆ ให้ ในขณะที่นักผจญภัยกำจัดและกวาดล้างสัตว์อสูร
“เจ้ามันคนขี้ขลาด ที่ไม่สามารถแม้แต่จะปกป้องตัวเองได้” กัลแลนด์กล่าว
“ก็คิดซะว่า ข้าจ้างหมามาเฝ้าบ้านละกัน” โกเวนตอบอย่างใจเย็น
ด้วยวิธีนี้ทำให้ทั้งสองคนจึงตกลงกัน และด้วยเหตุนี้นักผจญภัยจึงไม่สามารถไปจากคนของโกเวนได้มากนัก เพราะพวกเขาไม่มีเสบียง
พวกนักผจญภัยต้องการออกไปล่าก็อบลินที่เหลือ แต่มันทำไม่ได้เพราะกลุ่มขุนนางที่ช้าเกินไป แต่นั่นเป็นสิ่งที่คาดเดาได้ เนื่องจากพวกเขาสร้างถนนตามมาจากด้านหลัง
อาจไม่มีสัตว์อสูรเหลือให้พวกเขาสู้ แต่พวกเขายังคงต้องดึงต้นไม้และขุดดินออก แน่นอนว่าพวกเขาต้องล่าช้า
โดยปกตินักผจญภัยสามารถเข้าไปในดันเจี้ยนโดยใช้เวลา 1 สัปดาห์ แต่ด้วยตำแหน่งของหมู่บ้านก็อบลินที่ไม่แน่นอน ไม่มีการบอกว่าพวกเขาจะต้องเดินทางไปไกลแค่ไหนก่อนจะพบ เพราะเหตุนี้พวกเขาจึงไม่สามารถไปไกลเกินไป หากปราศจากอาหาร
สำหรับนักผจญภัยที่รู้ตำแหน่งที่แน่นอนของดันเจี้ยน การมีทรัพยากรเป็นเงื่อนไขที่สำคัญที่สุดในการออกล่า พวกเขาจะไม่โจมตีดันเจี้ยนแล้วตายด้วยความหิวโหย พวกเขารู้เรื่องนี้ดี ยิ่งไปกว่านั้นเมื่อกล่าวว่านักผจญภัยชั้นหนึ่งอย่างกัลแลนด์ ก็ไม่สามารถก้าวข้ามมันได้
“ไอ้บ้า!” เขาด่า
แต่ถึงอย่างนั้นโกเวนก็ยังสั่งให้ทหารสร้างค่าย พวกเขาจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากรอ
สองวันต่อมาพวกเขาถึงได้รับเสบียง
ทันทีที่พวกเขาได้รับมัน กัลแลนด์และคนของเขาก็พากันออกไปเหมือนกับฝูงหมาป่าที่พยายามจะไล่ล่าฝูงแกะ
เมื่อโกเวนเห็นเช่นนั้นเขาก็พูดด้วยใบหน้าที่ไร้ความรู้สึก “พาหยวนไปสอดแนมและติดตามนักผจญภัยเล่านั้น”
“ตามที่ท่านสั่ง!”
สายตาอันเย็นชาของเขามองตามด้านหลังของนักผจญภัย
◆◇◇
ฝูงก็อบลินยังคงหนีไปทางเหนือ
กิก้าต่อสู้กับมอนสเตอร์ที่ขวางทาง โดยมีกิด้าและนักรบก็อบลินตัวอื่น ๆ อยู่เพื่อความปลอดภัยจากด้านหลัง ในกรณีที่มนุษย์ไม่สามารถตามทัน
การเดินทางผ่านป่าโดยไม่มีถนนไม่ใช่เรื่องง่าย พวกเขาใช้เวลาสองวันในการผ่านไปถึงทะเลสาบ จากนั้นพวกเขาก็มุ่งหน้าไปทางตะวันตก เป้าหมายของพวกเขาคือภูเขาหินที่กิโกเคยอยู่ มีสัตว์อสูรไม่กี่ตัวอยู่รอบ ๆ และมันเคยเป็นบ้านของเกร์วูล์ฟ กิก้าคิดว่ามันน่าจะเป็นสถานที่พักผ่อนที่ดี
ผู้ฝึกสัตว์อุ้มก็อบลินที่ได้รับบาดเจ็บไปกับสัตว์อสูร ในขณะที่กลุ่มสมาชิกของกิโกนำทางพวกเขาไป
“คิช่า!”
ในขณะที่พวกเขาพักผ่อนอยู่ริมฝั่งทะเลสาบ เสียงร้องที่คุ้นเคยก็ดังขึ้น พร้อมกับเสียงของมนุษย์ที่กรีดร้อง
ลิซาร์ดแมน!!
กิก้าเดินเข้าหาพวกมันด้วยหอกเพียงข้างเดียวในมือ ในขณะที่กิด้ามองตามไปจากด้านหลัง
ลิซาร์ดแมนเป็นศัตรูที่เขาเคยพบริมฝั่ง เขาจึงหยุดอยู่ต่อหน้าพวกมันชั่วขณะ “เขาไม่พลาดการเปิดตัวที่พวกมันแสดงให้เห็น เมื่อหนึ่งในนั้นใช้ดาบโค้งฟันลงมา และในช่วงเวลาถัดไปหอกก็เสียบเข้าที่หน้าอกของลิซาร์ดแมน
“งดงาม”
กิก้าใช้การโจมตีจากระยะไกลเพื่อกำจัดลิซาร์ดแมน ในขณะที่กิด้ารับมือกับพวกที่เข้ามาใกล้ด้วยหอกสั้นของเขา
ภายในเวลาไม่ถึงห้านาที พวกเขาสามารถกำจัดลิซาร์ดแมนได้ห้าตัว กิก้าเต็มไปด้วยอารมณ์ขณะมองลงไปที่ซากศพของพวกมัน เมื่อเห็นเช่นนั้นกิด้าก็เรียกเขา
“ท่านกิก้า เกิดอะไรขึ้นหรือเปล่า?” เขาถาม
“ครั้งหนึ่งข้าเคยต่อสู้ร่วมกับราชาที่นี่” กิก้าตอบ
ย้อนกลับไปตอนนั้นราชาบอกให้เขาสู้ ในขณะที่เขาไม่สามารถเคลื่อนไหวได้อีกต่อไป ราชาก็ก้าวเข้ามาเพื่อช่วยชีวิตเขา
…ตอนนั้นเขายังเด็กและไม่มีประสบการณ์
เขาอดไม่ได้ที่จะหัวเราะอย่างขมขื่นเมื่อคิดเช่นนั้น แม้ว่ามันจะทำให้ความตั้งใจของเขาเข้มแข็งขึ้น แต่ราชากำลังรอคอยพวกเขาอยู่ในทิศทางนั้น
“ตอนนี้ข้ายังตายไม่ได้”
เมื่อความรู้สึกของเขากลับมาอีกครั้ง กิก้าเตรียมที่จะจากไปจากที่นี่
◆◇◆
“นี่คือหมู่บ้านของพวกมัน” ฟิคพูดในขณะที่ทักษะ <<ดวงตาที่แท้จริงของเหยี่ยว>> เพื่อเปิดเผยเส้นทางอีกด้านหนึ่งของต้นไม้
“เท่าไหร่? ” มิลล์ถาม โดยเธอเป็นหนึ่งในสองคนที่มากับฟิคที่เพื่อสอดแนม พวกเขาได้รับเลือกเพราะความเร็วและความคล่องตัว นั่นหมายความว่าพวกเขาจะสามารถนำข้อมูลกลับไปได้อย่างแน่นอน
“อย่างมากก็… 5”
“เอาล่ะ กลับกันก่อนเถอะ”
ฟิคและมิลล์กลับไปรายงานกัลแลนด์และคนของเขา
เมื่อพวกเขากลับไปได้ครึ่งทาง พวกเขาก็พบกัลแลนด์และเบลแลนที่กำลังมุ่งหน้ามา
“นี่มันเกิดอะไรขึ้น? ” ฟิคถามในขณะที่มิลล์ค่อนข้างประหลาดใจ เพราะพวกเขาสังเกตเห็นสิ่งที่ตามมา
“พวกเราถูกมองจากด้านหลัง” เบลแลนพูดอย่างขมขื่น
เมื่อมิลล์ขอคำอธิบายจากไวแอตต์ เขายิ้มขณะมองไปตามทิศทางที่พวกเขามา “เห็นได้ชัดว่าลอร์ดเรนิดไม่ไว้วางใจเรามากนัก”
มิลล์เดินตามทิศทางที่เขามองไป ที่นั่นเธอก็เห็นหน่วยสอดแนมกลุ่มหนึ่งแอบมองพวกเขา
“ข้าไม่ชอบเลย” เธอกล่าว
“แน่นอน” ฟิคเห็นด้วย
แต่ก็ไม่สามารถผลักดันให้พวกเขาออกไปได้เช่นกัน พวกเขามีอิสระที่จะทำตามคำสั่ง ดังนั้นนักผจญภัยจึงหันมาสนใจรายงานของมิลล์และฟิค
“ไม่มีทางที่พวกมันจะมีแค่ห้าตัว มันไม่ใช่สิ่งที่จะเกิดขึ้นกับฝูงก็อบลินระดับนั้น” วิตซ์พึมพำ ซึ่งยูกิลก็พยักหน้า
“เจ้ากำลังบอกว่าไม่เชื่อในทักษะของข้า?” ฟิคถามอย่างไม่มีความสุข
“สิ่งที่พวกเขากล่าวคือ มันอาจจะเป็นกับดัก” หัตถ์ขาวแห่งชีวิตกล่าวเสริม
กลุ่มนักผจญภัยเริ่มนึกถึงคำพูดเหล่านั้น
“ไม่สำคัญ” กัลแลนด์กล่าว “เราจะล่าก็อบลินทั้งหมด แม้ว่านั่นจะเป็นกับดักก็ตาม”
มันไม่สำคัญว่าก็อบลินจะแข็งแกร่งแค่ไหนหากมีเพียงห้าตัว
“มีใครมีปัญหาอะไรอีกมั้ย ถ้าไม่มีงั้นเราจะไปกันต่อ!”
ด้วยดาบบลูไลท์นิงที่ด้านหลัง กัลแลนด์จึงออกเดินทางไปยังหมู่บ้านพร้อมกับนักผจญภัย
◆◇◆◇◆◇◆◇
[ชื่อ] ฟิค บาร์แบด
[เผ่าพันธุ์] มนุษย์
[เลเวล] 78
[อาชีพ] นักผจญภัยผู้ชำนาญ
[ทักษะ] <<ดวงตาที่แท้จริงของเหยี่ยว>> << Meld>> << Shadow Walker>> <<จมูกสุนัข>> <<ความชำนาญการใช้ดาบ C+>> << ความชำนาญการใช้ธนู C+>>
[การคุ้มครองจากพระเจ้า] ไม่มี
[แอตทริบิวต์] ไม่มี
ตาที่แท้จริงของเหยี่ยว
– มองผ่านอุปสรรคระหว่างทางเพื่อมองหาศัตรู
– ไม่มีผลกับศัตรูที่มีคลาสสูงกว่าตัวเอง 2 ระดับ
Meld
– ซ่อนตัวตนเพื่อลอบเข้าหาศัตรู
Shadow Walker
– การมองเห็นจะไม่ถูกขัดขวางโดยความมืด
จมูกสุนัข
– สามารถติดตามกลิ่นได้อย่างแม่นยำ
หมายเหตุผู้แต่ง:
กิก้าพบว่าตัวเองนึกถึงราชาที่ไม่ได้ปรากฏตัวเมื่อเร็ว ๆ นี้
ใช้เวลาประมาณ 10 วันในการไปยังป้อมปราการแห่งนรก แต่นั่นคือขณะที่เดินและล่าอาหารไปด้วย … และเมื่อพวกเขาเดินทางไปที่นั่นครั้งแรกเท่านั้น พวกเขาคงจะไปเร็วขึ้นเมื่อคุ้นชินกับเส้นทางมากกว่านี้
◇◆◇◆◇◆◇◆
อ่านนิยายล่วงหน้าได้ในกลุ่ม ที่เพจ Koel-Translate นิยายแปล (ตอนนี้แปลถึงตอน 400 กว่าแล้วนะครับ)
https://www.facebook.com/pg/Koel-Translate-%E0%B8%99%E0%B8%B4%E0%B8%A2%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B9%81%E0%B8%9B%E0%B8%A5-111530443746222/posts/