[ชื่อ] กิโซ
[เผ่าพันธุ์] ก็อบลิน
[เลเวล] 19
[คลาส] ดรูอิด
[ทักษะ] <<การจัดการเวทมนตร์>> <<Water Manipulation>> <<สร้างแรงบันดาลใจ>>
[การคุ้มครองจากพระเจ้า] เทพเจ้าแห่งน้ำ (ไอเรน)
[แอตทริบิวต์] น้ำ
◇◆◇
ดรูอิดน้ำกิโซยิงวอเทอร์บอลใส่นักผจญภัยที่ป้องกันด้วยโล่ กิโซจึงไม่สามารถล้มเขาลงได้ แต่การยิงวอเทอร์บอลอย่างไม่หยุดยั้งก็ทำให้นักผจญภัยไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากต้องปกป้องตัวเอง
ถึงกระนั้นสีหน้าของกิโซก็ยังดูเคร่งเครียด
เหตุผลคือผู้รักษาที่อยู่เบื้องหลังนักผจญภัยทั้งสอง
“ตามความประสงค์ของพระเจ้า Heal!”
แสงสีขาวที่น่าหงุดหงิดนั้นห่อหุ้มตัวนักผจญภัยทั้งสอง และทันใดนั้นเองที่พวกเขาก็กลับมามีสภาพปกติ คล้ายกับรถถังที่มีพลังป้องกันสูงมาก และผู้โจมตีที่จะฟันก็อบลินปกติเป็นชิ้น ๆ แต่สิ่งที่น่ารำคาญที่สุดคือผู้รักษาซึ่งไม่เพียงแต่ฟื้นฟูร่างกาย แต่ยังฟื้นฟูความแข็งแกร่งของตัวเองด้วย
พลังเวทมนตร์ที่ดูเหมือนจะไม่มีที่สิ้นสุด ทำให้พวกเขาค่อย ๆ ลดจำนวนของก็อบลินลง
พวกเขาสามารถรักษาได้มากเท่าที่ต้องการ ฟื้นฟูบาดแผลและความแข็งแกร่ง ในขณะที่ก็อบลินบาดเจ็บมากขึ้นเรื่อย ๆ ถึงอย่างนั้นกิโซก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องอดทน แต่…
“เทพศักดิ์สิทธิ์ผู้ยิ่งใหญ่ Confusion!”
“วอเทอร์บอล!”
หากพวกเขายอมแพ้แม้แต่น้อย ผู้รักษาจะร่ายมนตร์แห่งความสับสนเพื่อพยายามทำลายข้อได้เปรียบใดที่พวกเขามี กิโซพยายามเล็งไปที่เธอ แต่นักผจญภัยที่เงียบขรึมก็หยุดการโจมตีไว้ด้วยโล่
“กูว …” กิโซกัดฟันของตัวเองด้วยความหงุดหงิด
พวกเขาไม่สามารถชนะได้ ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไป
เขาจำเป็นต้องสงบสติอารมณ์และคิดหาวิธีที่จะชนะ
ก็อบลิน 5 ใน 30 ตัวถูกฆ่าไปแล้ว พวกเขาต้องคิดหาวิธีลดจำนวนศัตรูลง ถ้าไม่อย่างนั้นอย่างน้อยก็ต้องหาวิธีหยุดพวกเขา …
ทันใดนั้นเองที่เทพธิดาแห่งปัญญายิ้มให้เขา
“ไปเตรียมหินให้พร้อม!” กิโซสั่งและกลุ่มก็อบลินสามตัวก็เริ่มเก็บก้อนหิน
“เป้าหมายคือมนุษย์ด้านหลัง”
กิโซสั่งให้ก็อบลินปกติมุ่งเป้าไปที่ผู้รักษา
“ไอ้บ้า! พวกมันคิดออกแล้ว!” นักผจญภัยสูงวัยใช้ร่างกายของตัวเองเพื่อปกป้องหัตถ์สีขาวแห่งชีวิต
กิโซยิ้มอย่างราวกับปีศาจเมื่อเห็นเช่นนั้น
“…เธอคือเป้าหมายของเรา โยนหินพวกนั้นไปเรื่อย ๆ!”
ทีมขว้างหินปิดผนึกการเคลื่อนไหวของหัตถ์สีขาวแห่งชีวิต กิโซสั่งไม่ให้พวกก็อบลินโจมตีนักผจญภัยที่ถือดาบ เพื่อบังคับให้นักผจญภัยที่ถือโล่ป้องกันตัวเอง
ตราบใดที่ก้อนหินยังถูกขว้างไปยังนักผจญภัยที่ถือดาบซึ่งอยู่ห่างจากผู้ถือโล่ นักผจญภัยที่ถือดาบจะไม่สามารถโจมตีกลับมาได้ แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือผู้รักษา เพราะเธอคือจุดอ่อนในตอนนี้
“ตามความประสงค์ของพระเจ้า Heal!”
การรักษาก่อนหน้านี้ เป็นข้อพิสูจน์ว่าโล่ของมนุษย์จะอยู่ได้อีกไม่นาน
“ชัยชนะอยู่ตรงหน้าแล้ว! ในที่สุดเราก็จะล้างแค้นให้กิเดะ!”
ตอนนั้นเองที่จิตวิญญาณของก็อบลินลุกโชน
◇◆◇
” นี่มันแย่จริง ๆ” นักผจญภัยสูงวัยกัดฟันขณะที่เขาปัดหิน ใครจะคิดล่ะว่า ก็อบลินจะมีความสามารถในการวางแผนด้วย
พวกมันไม่เพียงแต่ต่อสู้ร่วมกันได้ดี พวกมันยังคิดแผนการที่จะปิดผนึกการเคลื่อนไหวของพวกเขา
เมื่อนักผจญภัยสูงวัยหันหลังไป เขาก็เห็นหัตถ์สีขาวแห่งชีวิตที่หายใจอย่างเกรี้ยวกราด ขณะที่เธอกัดฟัน
“ตามความประสงค์ของพระเจ้า Heal!”
การรักษาครั้งนี้เป็นครั้งที่สิบแล้ว ชุดเกราะของนักผจญภัยที่เงียบขรึมไม่เหมือนกับในอดีตอีกต่อไป ขณะที่ก็อบลินโจมตีใส่พวกเขาทีละคน ในตอนนี้พวกเขาทั้งหมดกำลังจะตาย
เมื่อนักผจญภัยสูงวัยคิด เขาก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะ แม้ว่าเขาจะพยายามทำตัวเข้มแข็งก็ตาม
“เมื่อเป็นเช่นนี้ เราควร…” เขากำลังจะพูด ก็มีเสียงจากด้านหลัง
“ฉันจะเปิดทางเอง” หัตถ์สีขาวแห่งชีวิตกล่าว
เมื่อพวกเขาหันกลับมามอง พวกเขาเห็นเธอหายเข้าลึก ๆ
เธอมองไปที่พวกเขา ขณะที่พวกเขามองกลับมาที่เธอ นี่เป็นครั้งแรกที่พวกเขาเห็นใบหน้าของเธอ …มันสวยมาก
“…เจ้ามีแผนใช่ไหม?”
“แน่นอน … Heal!”
ก็อบลินเข้ามารุมล้อมพวกเขา ดังนั้นเธอจึงต้องใช้ Heal เพื่อโต้กลับ
“เราไม่มีเวลามาคุย แค่พูดในสิ่งที่เจ้าต้องการ!”
“เราจะฝ่ากำแพงหนีไป ยูกิลก่อนจากนั้นฉัน แล้วก็คุณ”
วิทซ์ นักผจญภัยสูงวัยไม่คิดว่าเธอจะจำชื่อของพวกเขาได้จริง ๆ ครู่หนึ่งเขามองเธอด้วยตาเบิกกว้าง นักผจญภัยระดับสูงหัตถ์สีขาวแห่งชีวิตจำชื่อของพวกเขาได้
“คำถามล่ะ?”
“ไม่มี – ไม่มี”
เขาอาจเสี่ยงชีวิตได้หากเพื่อผู้หญิงที่สวยงาม เขาพยายามเชื่อมั่นในตัวเอง
“ยูกิลจะคอยดูด้านหลัง ในขณะที่คุณเข้ามาแทนที่ก็อบลิน หลังจากนั้นปล่อยที่เหลือให้เป็นหน้าที่ฉัน” หัตถ์สีขาวแห่งชีวิตกล่าว
“ตกลง! ” เขาตอบกลับ “ยูกิลเรากำลังจะเปลี่ยนตำแหน่ง!”
ยูกิล นักผจญภัยผู้ถือโล่ที่ดูประหลาดใจครู่หนึ่ง แต่เขาก็ฟื้นสติอย่างรวดเร็ว และวิ่งหนีจากก็อบลิน พวกมันพยายามไล่ตามเขา แต่วิทซ์ก็เข้ามาแทนตำแหน่งของยูกิล ทำให้พวกมันไม่สามารถไปได้อีก
“Wind Slash!”
สายลมพัดเข้าหาก็อบลิน แต่พวกมันสามารถป้องกันได้ อย่างมากก็มีก็อบลินหนึ่งหรือสองตัวได้รับบาดเจ็บ แต่ไม่เป็นไร เขาต้องการซื้อเวลาเท่านั้น
“แกควรจะดูที่นี่!” วิทซ์พูด ขณะที่ก็อบลินพยายามพุ่งผ่านด้านจากข้าง เขาโจมตีออกไปด้วยพลังทั้งหมด
“วอเทอร์บอล!”
ด้านเรียบของดาบตัดผ่านวอเทอร์บอลและเหมือนว่าเขาจะเปลี่ยนวิถีของมัน
“เวทมนตร์ไม่ได้ผลกับข้า ตอนนี้มีใครต้องการสู้อีกบ้าง?” วิทซ์ยิ้ม
เมื่อพวกก็อบลินเห็นเขาปัดเวทย์ที่แข็งแกร่งที่สุดของดรูอิดออกไปได้ พวกเขาทั้งหมดก็เบิกตากว้างไปชั่วขณะ สิ่งที่พวกเขาไม่รู้ก็คือตอนนี้วิทซ์กำลังเสี่ยง
การปัดป้องก่อนหน้านี้เป็นแค่เรื่องโชคดีเท่านั้น มันไม่ใช่สิ่งที่เขาจะทำซ้ำได้ง่าย ๆ เพราะโอกาสในการสำเร็จไม่ได้สูงขนาดนั้น มันเป็นการพนัน 50-50 แต่เนื่องจากเขาชนะ มันจึงคุ้มค่า
“วิทซ์ถอยกลับมา!” หัตถ์สีขาวแห่งชีวิตกล่าว
เมื่อวิทซ์ได้ยินเช่นนั้น เขาก็ถอย
“ไล่ตามเขาไป! ”
ได้ยินเสียงหงุดหงิดของก็อบลินที่อยู่ข้างหลัง แต่เขาไม่มีความลังเล เขาจึงรีบวิ่งให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้
◇◆◇
กิโซเสียใจกับการตัดสินใจของตัวเอง เมื่อเห็นนักผจญภัยวิ่งหนีไปอย่างรวดเร็ว เทคนิคในตอนนั้นไม่มีอะไรมากไปกว่าการบลัฟ
ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจที่จะไล่ตามพวกมันไป แต่ทันใดนั้นก็มีแสงสีขาวสว่างจ้า
“แสงสว่างของพระเจ้าจะชี้นำทาง Light”
เมื่อคำพูดของมนุษย์ดังกระทบหู แสงสว่างก็ทำให้ดวงตาของเขาไหม้เกรียมไปชั่วขณะ เขาพบว่าตัวเองไม่สามารถขยับได้ จนเมื่อถึงเวลาที่เขากลับมามองเห็น พวกมนุษย์ก็หายไปแล้ว
“…ไล่ตามไป! อย่าปล่อยให้พวกมันหนีไปได้เด็ดขาด!”
เขาสามารถบอกได้ทันทีว่ามนุษย์วิ่งหนีไปทางไหน ยังมีรอยบนหญ้าและกลิ่นของมนุษย์หลงเหลืออยู่
“นำผู้บาดเจ็บกลับไป ถ้าลอร์ดกิก้ากลับมา ให้รายงานสถานการณ์ให้เขาฟัง!”
เมื่อผู้บาดเจ็บหายไปจึงเหลือก็อบลินเพียง 20 ตัว กิโซพาคนที่เหลือไล่ตามพวกมนุษย์ เมื่อผ่านไปกลิ่นของมนุษย์ก็รุนแรงขึ้น
อย่างไรก็ตามมันไม่ใช่กลิ่นของฆาตกรที่ฆ่ากิเดะ แต่นั่นเป็นเหตุผลที่ทำให้เขาไม่สามารถปล่อยให้พวกมันไปได้ ตามรายงานของผู้ใต้บังคับบัญชากิเดะ ที่นี่มีพวกมนุษย์จำนวนมาก
มันมากเกินกว่าที่จะนับได้
แค่เพียงสามคนก็แข็งแกร่งแล้ว หากพวกเขาไม่ลดจำนวนศัตรู หมู่บ้านของพวกเขาก็จะล่มสลายอย่างแน่นอน
เขาไม่แน่ใจว่า แม้แต่ราชาเองจะจัดการกับมนุษย์จำนวนมากได้หรือไม่ ดังนั้นเขาจึงต้องหยุดพวกมันที่นี่
“ไปต่อข้างหน้า! สังหารพวกมนุษย์!”
ก็อบลินวิ่งเร็วขึ้นตามคำพูดของกิโซ เดิมทีก็อบลินวิ่งเร็วกว่ามนุษย์มากในป่า เพราะพวกเขาสามารถเคลื่อนไหวได้ตามที่ต้องการ มันใช้เวลาไม่นาน ก่อนที่ร่างของมนุษย์จะปรากฏต่อหน้าพวกเขา ทันใดนั้นกิโซก็ยิงวอเทอร์บอลออกไป
“วอเทอร์บอล!”
มนุษย์สามารถหลบได้โดยการย่อตัว แต่พวกเขาก็ต้องวิ่งช้าลง
“ล้อมพวกมันไว้!”
กิโซซึ่งสั่งให้ก็อบลิน มนุษย์จึงถูกล้อมขณะหันหลังชนกัน ไม่มีโอกาสที่พวกเขาจะหนีไปอีกแล้ว กิโซจึงสั่งให้ก็อบลินขว้างก้อนหินอีกครั้ง
ไม่จำเป็นต้องรีบร้อน หากพวกเขาต้องค่อย ๆ ลดจำนวนศัตรูลง ในที่สุดพวกเขาก็จะจบการต่อสู้นี้ได้
ในขณะที่เขายับยั้งความโกรธที่เกิดขึ้นภายใน กิโซก็ออกคำสั่งพวกก็อบลินอย่างใจเย็น
◇◆◇
เขาปัดหินที่ปามา แม้จะรู้สึกหงุดหงิด
“แน่ใจนะว่าอยู่ที่นี่!?” วิทซ์ถาม
“ใช่” หัตถ์สีขาวแห่งชีวิตตอบ
พวกเขาทั้งสามปัดหินที่ปามา พวกเขานำก็อบลินมาที่นี่ตามแผนของหัตถ์สีขาวแห่งชีวิต แต่วิทซ์ไม่เห็นว่าสิ่งนี้ดีกว่าเดิมยังไง ไม่สิ ตอนนี้พวกเขาตกอยู่ในสถานการณ์ที่เลวร้ายกว่าเดิม เนื่องจากตอนนี้พวกเขาถูกล้อมไว้จริง ๆ
“ไม่ต้องกังวล” หัตถ์สีขาวแห่งชีวิตกล่าว
เขาไม่โกรธเธอ คนที่ตัดสินใจด้วยคือเขา และเขาเองก็ไม่ได้ถูกบังคับให้ทำเช่นนั้น เขาจึงไม่มีสิทธิ์โกรธเพียงเพราะแผนที่ผิดพลาด
ค่อย ๆ มีก้อนหินมากขึ้นปามาที่พวกเขา บางอันลอยตรงมาและบางอันก็ลอยโค้ง มันยุ่งยากอย่างแท้จริง
ท่ามกลางสายฝนหินที่ดูเหมือนจะไม่มีที่สิ้นสุด มันเป็นช่วงเวลาเพียงครู่เดียว แต่ในขณะนั้นเองที่มีก้อนหินตกลงบนศีรษะของเขา
“ชิ!?”
จิตใจของเขาหม่นหมองลงเล็กน้อย เขาพยายามที่จะยืนขึ้น แต่ก้อนหินอีกก้อนได้พุ่งเข้ามา มีแม้กระทั่งวอเทอร์บอลที่ผสมอยู่ในนั้น
โล่ของยูกิลกลายเป็นเศษเหล็กไปนานแล้ว ในขณะที่เกราะของเขาก็เต็มไปด้วยรูโหว่ แม้แต่เสื้อคลุมของหัตถ์สีขาวแห่งชีวิตก็ย้อมด้วยสีแดง
นี่คือจุดจบเหรอ –
แต่ในขณะที่เขากำลังจะยอมแพ้ ก็มีเสียงกรีดร้องของก็อบลินดังขึ้น
“- เขาทำได้แล้ว”
ด้วยโล่ที่มีขนาดใหญ่กว่ายูกิลหลายเท่า นั่นไม่ใช่ใครอื่นนอกจากเฮอร์คูเลียน ไวแอตต์แห่งเผ่าบลัดโอทธ์สวอนโล่ว ผู้ปกป้องพวกเขา
“มันคงจะแย่มาก ถ้านั่นไม่ใช่ป้ายจริง ๆ” ฮอร์กอาย ฟิกกล่าวติดตลก
“ปล่อยส่วนที่เหลือให้เราจัดการ” นักฆ่า จอมเวทย์ มิลล์ก็ปรากฏตัวขึ้นข้างหลังพวกเขา
ขณะที่ก็อบลินกรีดร้องด้วยความเจ็บปวด ด้วยการแกว่งของดาบใหญ่ที่ตัดผ่านอากาศ – ตามฉายาของเขา – อัศวินพายุ
“ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า! ตาย! ตายเถอะ ไอ้พวกมอนสเตอร์สกปรก!!”
อัศวินพายุกัลแลนด์ ชายผู้บ้าคลั่งและอาจหาญ ด้วยการแกว่งดาบใหญ่ของเขา ก็อบลินก็กระเด็นไปที่ต้นไม้และบางส่วนถูกฆ่าไปพร้อมกับดาบในมือ
ดาบใหญ่ที่รู้จักกันในชื่อบลูไลท์นิง ความแข็งแกร่งของเขาเป็นนิยามของคำว่าวีรบุรุษอย่างแท้จริง
◇◆◇
เขาจะอธิบายฉากตรงหน้าว่ายังไง?
กิโซนึกคำอื่นไม่ออก นอกจากคำว่า…สิ้นหวัง
สิ่งที่กิโซกังวลเพียงสิ่งเดียว คือพวกมนุษย์ที่กำลังโจมตีพวกเขา
เมื่อไม่นานมานี้พวกเขากำลังไล่ตามกลุ่มมนุษย์ที่แข็งแกร่ง เมื่อพวกเขาตามทันและผลักดันให้พวกเขาไปจนมุม แต่ทันใดนั้นทุกอย่างก็เปลี่ยนไป ด้วยดาบใหญ่ที่ปกคลุมไปด้วยพายุ …ทันใดนั้นพวกเขาก็พบว่าตัวเองกำลังจะพ่ายแพ้
“ไอ้สารเลว…”
พวกเขากำลังจะแพ้
นี่เป็นความจริงที่ไม่อาจโต้แย้ง
“ไม่! มันเป็นแบบนี้ไม่ได้!”
เขาไม่สามารถยืนเฉย ๆ โดยไม่ทำอะไร ถึงพวกเขาจะไม่สามารถเอาชนะได้ แต่พวกเขาต้องสู้ อย่างน้อยที่สุดเขาต้องซื้อเวลา
“ล่าถอย! ทุกคนถอย! ต้องมีคนกลับไปที่หมู่บ้าน!”
ในขณะที่เขาสั่งลูกน้อง เขาก็ยิงวอเทอร์บอลใส่มนุษย์ที่เพิ่งเข้ามา แต่วอเทอร์บอลนั้นถูกนักผจญภัยสาวฟันทิ้งอย่างง่ายดาย
วอเทอร์บอลที่บินอยู่ในอากาศถูกตัดอย่างหมดจดด้วยกรงเล็บอันแหลมคม
“แย่สุด ๆ”
คำพูดสองสามคำออกมาจากริมฝีปาก ก่อนที่เธอจะวิ่งไปหากิโซ ในพริบตาเธอก็อยู่ตรงหน้าเขา กิโซยิงวอเทอร์บอลใส่เธอมากขึ้น แต่ทั้งหมดก็สลายไป
นักฆ่า จอมเวทย์ ในกรงเล็บของเธอมีพลังต่อต้านอีเธอร์ เมื่อเธอตีตรามันเข้ากับกิโซ เขาก็รีบหันกลับไปเพื่อสร้างระยะห่าง
“อะไ…!?”
แต่พายุที่อยู่ข้างหลังเธอได้ฟันผ่านกิโซไปแล้ว เมื่อถึงเวลาที่เขาจะถอยออกไป เขาก็กลายเป็นชิ้นเนื้อเล็กๆ นับพันชิ้นแล้ว
“กัลแลนด์ เจ้ากล้าดียังไง!?”
กัลแลนด์ยังคงฟันเหยื่อรายต่อไป โดยไม่กังวลแม้แต่น้อย
“อย่ามาดูถูก” เธอกล่าว “ถ้าเจ้ายังไม่อยากถูกข้าฆ่า”
ริมฝีปากของเขากระตุกยิ้มอย่างโหดร้าย ขณะที่เขาเข่นฆ่าก็อบลินทีละตัว
◇◆◇
ค่าสถานะ
[ชื่อ] กัลแลนด์ ริฟนิน
[เผ่าพันธุ์] มนุษย์
[เลเวล] 88
[อาชีพ] อัศวินศักดิ์สิทธิ์,อัศวินวายุ,นักเดินทาง,ผู้แสวงหามอนสเตอร์,ดาบคลั่ง,วิญญาณของนักรบที่บ้าคลั่ง
[ทักษะ] <<Strong Arm>><<ความชำนาญการใช้ดาบ A->> << เสน่ห์ >> << บ้าเลือด>><<วิญญาณของนักรบผู้บ้าคลั่ง>> <<ความโลภอย่างบ้าคลั่ง>><<ผู้สังหารปีศาจนับร้อย>> <<การอวยพรของเทพเจ้าแห่งไฟ>><<จิตวิญญาณปฏิปักษ์ >>
[การคุ้มครองจากพระเจ้า] เทพเจ้าไฟ
[ แอตทริบิวต์ ] ไฟ
[อุปกรณ์สวมใส่] บลูไลท์นิง (ดาบใหญ่)
Strong Arm
– ป้องกันการสะท้อนกลับเมื่อใช้ทักษะ
เสน่ห์
– เพิ่มอิทธิพลต่อคนอื่นให้เคารพคุณ
ผู้แสวงหามอนสเตอร์
– เมื่อต่อสู้ในดันเจี้ยน ความแข็งแกร่งและมานาจะเพิ่มขึ้น (ต่ำ)
ดาบคลั่ง
– ฟาดฟันใส่เป้าหมายระยะไกลอย่างต่อเนื่องด้วยพายุดาบ
วิญญาณของนักรบผู้บ้าคลั่ง
– ความแข็งแกร่งจะทวีคูณขึ้นหลายเท่าเมื่อแลกกับสติสัมปชัญญะ
ความโลภอย่างบ้าคลั่ง
– โอกาสในการขโมยไอเท็มจากศัตรูที่พ่ายแพ้จะเพิ่มขึ้น หากเป้าหมายไม่มีสิ่งของใด ๆ ความเสียหายจะเพิ่มขึ้น
ผู้สังหารปีศาจนับร้อย
– การฟื้นฟูตัวเองจะเพิ่มขึ้น หลังจากเอาชนะมอนสเตอร์ (ต่ำ)
– มานาเพิ่มขึ้น (กลาง)
การอวยพรของเทพเจ้าแห่งไฟ
– ความเสียหายจากไฟลดลง (สูง)
จิตวิญญาณปฏิปักษ์
– เมื่อต่อสู้กับศัตรูที่มีคลาสสูงกว่า การโจมตีทางจิตจะถูกลบล้าง
◇◆◇◆◇◆◇◆
หมายเหตุผู้แต่ง:
ก็อบลินที่ตาย: กิเดะ กิโซและก็อบลินปกติ 20 ตัว
การบาดเจ็บของมนุษย์: ไม่มีเลย (หัตถ์สีขาวแห่งชีวิตรักษาพวกเขาได้)
[ชื่อ] กิโซ
[เผ่าพันธุ์] ก็อบลิน
[เลเวล] 19
[คลาส] ดรูอิด
[ทักษะ] <<การจัดการเวทมนตร์>> <<Water Manipulation>> <<สร้างแรงบันดาลใจ>>
[การคุ้มครองจากพระเจ้า] เทพเจ้าแห่งน้ำ (ไอเรน)
[แอตทริบิวต์] น้ำ
◇◆◇
ผู้ใต้บังคับบัญชาของกิเดะกลับมาอย่างเร่งรีบเพื่อรายงานต่อกิโซ
“มนุษย์กำลังโจมตี?”
กิโซไม่รู้จักพวกมนุษย์มากนัก สิ่งที่เขารู้มากที่สุดคือสมบัติของราชาอย่างเรเชียและลิลลี่ จากนั้นก็มีแมตทิสที่มักจะเตรียมเนื้อแห้งสำหรับพวกเขาหรือมนุษย์ที่ซ่อมแซมรั้ว
“มนุษย์ฆ่ากิเดะ!?”
ก็อบลินที่รายงานตัวสั่นด้วยความตกใจ เมื่อเขาเห็นกิโซที่มักจะสงบนิ่งโกรธเกรี้ยว ก็อบลินยังคงตัวสั่น ขณะที่เขารายงานว่ากิเดะยอมเสียสละตัวเองเพื่อให้พวกเขากลับมา ในตอนท้ายของรายงานกิโซกำลังสั่นด้วยความโกรธ
“ไม่สำคัญว่าพวกมันจะเป็นใคร หากเขี้ยวเล็บของพวกมันแว้งกัดใส่พวกเรา ข้าจะตอบแทนพวกมันอย่างสาสม”
เขาจำเป็นต้องแจ้งกิด้าด้วย ดังนั้นเขาจึงสั่งให้ก็อบลินไปส่งข่าวและเขาต้องไปหาสมบัติของราชา
อาจมีความไม่สงบเกิดขึ้น หากพวกเขารู้ว่าเราต่อสู้กับใคร เขาหวังว่าเรเชียและลิลลี่จะช่วยระงับสิ่งเหล่านั้นได้ และลักษณะเฉพาะของเขาที่กังวลเกี่ยวกับความรู้สึกของผู้อื่นนี้ เป็นสิ่งหนึ่งที่ราชาและกิซาร์ชื่นชม
สำหรับก็อบลินที่พลังอำนาจคือทุกอย่าง สิ่งต่าง ๆ เช่นความห่วงใยหรือการเอาใจใส่ไม่มีผลต่อสถานะในสังคมของก็อบลิน
กิโซเองไม่เห็นว่าพลังของเขายิ่งใหญ่ไปกว่าคนรอบข้าง ด้วยเหตุนี้เขาจึงรู้สึกว่าหน้าที่ของตนมีน้ำหนักมากในฐานะผู้ดูแลหมู่บ้าน
“ท่านเรเชีย ลอร์ดลิลลี่ ข้าคือกิโซ” กิโซเคาะประตูและพวกเธอก็อนุญาตให้เข้ามา
ทัศนคติที่เคารพต่อสมบัติราชาของกิโซ เกิดจากความรู้สึกรับผิดชอบของเขาเช่นกัน เมื่อเขาเข้าไปในบ้านของราชาที่เป็นระเบียบเรียบร้อย เขาก็เริ่มอธิบายสถานการณ์ต่าง ๆ เขาระงับอารมณ์ที่เต็มไปด้วยความโกรธจากการตายของกิเดะ ขณะรายงานอย่างใจเย็น หลังจากนั้นเขาขอให้พวกเธอช่วยทำให้มนุษย์สงบลง
“ได้ค่ะ ฉันจะทำตามที่คุณขอ” เรเชียกล่าว
กิโซออกจากบ้านด้วยความโล่งอก แต่ในดวงตาของเขาเผาผลาญไปด้วยไฟแห่งความโกรธ
“ลอร์ดกิโซ” กิด้าวางหอกไว้ที่ไหล่ขณะเรียก
“ลอร์ดกิก้ากลับมาแล้วเหรอ?” กิโซถาม ซึ่งกิด้าส่ายหัว “ถ้าอย่างนั้นก็ไม่มีทางเลือกอื่น เราจะต้องเอาชนะอันตรายนี้ด้วยตัวเอง…ลอร์ดกิด้า ข้าจะปล่อยให้เจ้าดูแลหมู่บ้าน ส่วนข้าจะไปล้างแค้นพวกมนุษย์เอง”
ดวงตาของกิด้าเบิกกว้างเมื่อได้ยินคำพูดเหล่านั้น
“ไม่ ข้าควรจะไป! ลอร์ดกิโซเป็นผู้นำหมู่บ้านในตอนนี้! ”
หัวใจที่ลุกเป็นไฟของเขาดูเหมือนจะปะทุขึ้น เขากระทืบเท้าและยังกระแทกพื้นด้วยหอก
“ไม่ เป็นลอร์ดกิก้าที่ดูแลหมู่บ้านนี้ ข้าเป็นเพียงตัวแทนและหน้าที่ของข้าคือการปกป้องหมู่บ้าน”
ในที่สุดกิด้าก็เข้าใจ หลังจากกิโซอธิบายให้เขาฟังซ้ำแล้วซ้ำเล่า ความแตกต่างระหว่างความฉลาดของก็อบลินแรร์กับดรูอิดนั้นมีขาดใหญ่มาก โชคดีที่กิโซสามารถโน้มน้าวกิด้าได้สำเร็จ
“ข้าจะทำเท่าที่ทำได้ แม้ว่าหัวใจของข้าจะไม่มั่นคง ข้าคงต้องขอให้เจ้าดูแลที่นี่ลอร์ดกิด้า!
” ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของข้าเอง!”
ก็อบลินตัวผู้มีจำนวน 90 ตัว แต่ในนั้นรวมถึงผู้บาดเจ็บและพวกที่ไม่มีประสบการณ์
ก็อบลินสามารถแพร่พันธุ์ได้อย่างต่อเนื่อง จึงไม่แปลกที่พวกเขาจะมีจำนวนเพิ่มขึ้นหลังจากสงครามออร์ค
กิโซเอาก็อบลินไปกับเขาเพียงหนึ่งในสาม แต่ทุกตัวล้วนเป็นก็อบลินที่มีประสบการณ์
ฝูงก็อบลินจึงมุ่งหน้าไปทางตะวันออก
◇◆◆
นักผจญภัยหญิงที่รู้จักกันในนามหัตถ์ขาวแห่งชีวิต สวมเสื้อคลุมสีขาวตั้งแต่หัวจรดเท้า
” มันจบแล้ว! ข้าบอกเจ้าไปแล้วไง!” นักผจญภัยสูงวัยพูดเมื่อเห็นฉากตรงหน้า
“ไม่เป็นไร ทุกอย่างจะดีขึ้นเอง” หัตถ์สีขาวแห่งชีวิตยังมองโลกในแง่ดีเช่นเคย
“…” อาจเป็นเพราะบุคลิกเงียบขรึม ทำให้นักผจญภัยอีกคนถือโล่อย่างเงียบ ๆ ทั้ง ๆ ที่ดูเหมือนว่าเขากำลังจะสาปแช่งโชคชะตาอยู่ในขณะนี้
มีก็อบลินฝูงหนึ่งอยู่ต่อหน้าพวกเขา
หลังจากที่กลุ่มของกัลแลนด์ได้ทำลายหมู่บ้านออร์คไป พวกเขาก็เข้าไปในป่าลึกขึ้น เพื่อค้นหานักบุญและเล่นสนุกกับการล่าสัตว์อสูร
เมื่อคิดอย่างมีเหตุผลแล้ว พวกออร์คน่าจะอยู่บนสุดของห่วงโซ่อาหาร ที่นี่มีกลุ่มของพวกมันจำนวนมาก แต่หลังจากการโจมตี พวกมันก็รีบหนีไปทันที ถ้าพวกออร์คเหล่านั้นอยู่ในอันดับต้น ๆ ก็ควรจะเป็นเหตุผลว่าทำไมระดับของมอนสเตอร์โดยรอบ ๆ จึงไม่สูงนัก ดังนั้นกัลแลนด์จึงแบ่งกลุ่มของพวกเขาออกเป็นสามกลุ่ม
“ไปกับหัวหน้าจะดีกว่ามั้ยนะ? หรือจะเป็นไม้กายสิทธิ์แห่งการทำลายล้างก็ได้?” นักผจญภัยสูงวัยบ่น
หัตถ์สีขาวแห่งชีวิตไม่พอใจกับการบ่นพึมพำของเขา ขณะเธอเติมไม้กายสิทธิ์ในมือด้วยพลังเวทย์
“พระเจ้าอยากให้คุณทำงานของตัวเองมากกว่าที่จะบ่น” เธอกล่าว
“ใช่แล้ว…ตอนนี้ข้าควรจะเริ่มนับถือพระเจ้าแล้วใช่ไหม?”
ในขณะที่นักผจญภัยสูงวัยยังคงพูด นักผจญภัยที่เงียบขรึมก็พยักหน้า
“Shield Rush!”
เขาใช้โล่ป้องกันฝูงก็อบลินที่กำลังจะมาถึงเพื่อเปิดเส้นทาง มันทำให้ก็อบลินกระเด็นไปรอบบ ๆ และมีทางเล็ก ๆ ให้พวกเขาหลุดออกจากการถูกล้อม นักผจญภัยที่เงียบขรึมเป็นตัวอย่างของอัศวินผู้กล้าหาญ แต่ด้วยความแตกต่างด้านจำนวนที่มากเกินไป พวกก็อบลินจึงพยายามอ้อมไปด้านหลังของพวกเขา
“ขอโทษนะ แต่ข้าปล่อยให้พวกแกทำอย่างนั้นไม่ได้! Wind Slash!” นักผจญภัยสูงวัยฟันก็อบลินด้วยดาบยาว มันเคลื่อนที่เร็วกว่าสายลม โดยไม่มีช่องว่างให้ก็อบลินโต้ตอบ
นักผจญภัยกลุ่มเล็ก ๆ ร่วมมือกันเพื่อหลบหนีจากก็อบลิน
“เทพศักดิ์สิทธิ์อันยิ่งใหญ่ Confusion!”
พลังเวทมนตร์เล็ดลอดออกมาจากไม้กายสิทธิ์ของหัตถ์ขาวแห่งชีวิต ทำให้บริเวณโดยรอบสั่นสะเทือน
มันเป็นเวทมนตร์ที่ทำให้ก็อบลินสับสนและช้าลงเมื่อมองไม่เห็นศัตรู
“นี่เป็นสิ่งที่คาดหวังได้จากนักบวชผู้รักพระเจ้า!” นักผจญภัยสูงวัยกล่าว ขณะฟาดดาบเข้ากับก็อบลินที่มีสติ
“เร็วเข้าและรีบออกไปจากที่นี่!” หัตถ์สีขาวแห่งชีวิตกล่าว ขณะที่พวกเขาเล็ดลอดผ่านก็อบลินที่สับสน
“ไปเร็ว” นักผจญภัยเงียบขรึมกล่าว
แต่ในขณะที่พวกเขากำลังจะผ่านไปนั้น…
“กระสุนน้ำ! Water ball”
“หือ!? ”
เสียงครวญครางด้วยเจ็บปวดดังมาจากหนึ่งในนั้น
สิ่งที่ยืนต่อหน้าพวกเขาคือก็อบลินผิวแดงที่ถือไม้เท้าไว้ในมือ มันเป็นมอนสเตอร์ระดับบอส
“…นั่นคือดรูอิดเหรอ?” นักผจญภัยสูงวัยพึมพำ ซึ่งนักผจญภัยที่เงียบขรึมพยักหน้า
“ตั้งสติ! จำราชาของพวกเจ้าเอาไว้!” คำพูดของดรูอิดปลุกก็อบลินออกจากอาการมึนงง และพวกเขาจับกระบองของตัวเอง เพื่อโจมตีใส่นักผจญภัยทั้งสามอีกครั้ง
“แค่ต่อสู้ตามปกติ! อย่าลดการป้องกัน!”
ตามคำพูดของดรูอิดทำให้พวกก็อบลินทั้งหมดโจมตี
“…ชิ!” นักผจญภัยเงียบขรึมกัดฟันของตัวเอง
มีก็อบลินสองตัวโจมตีที่ด้านข้าง ในขณะเดียวกันกระบอกก็แกว่งมาจากด้านหน้า ทำให้เขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากกระโดดถอยหลัง
“ไอ้บ้า!” นักผจญภัยสูงวัยสาปแช่ง
เขาฟาดดาบใส่ก็อบลินตัวหนึ่ง แต่มันก็รับการโจมตีของเขาได้ ขณะที่เขายังลืมตาอยู่ ก็อบลินอีกตัวก็เล็งไปที่ขาเพื่อทำลายการทรงตัวของเขา นั่นจะเป็นการโจมตีที่ร้ายแรง หากเขาไม่สามารถป้องกันได้ ประกายไฟที่ปะทุออกมาจากดาบและกระบองของก็อบลินทำให้เขาเหงื่อตก
เขากระโดดถอยหลังเพื่อสร้างระยะห่าง แต่เบื้องหลังเขาคือนักผจญภัยที่เงียบขรึม …พวกเขาหันหลังชนกัน
“กี๋ กี๋!” ก็อบลินร้อง
พวกก็อบลินการโจมตีอย่างต่อเนื่อง ทำให้นักผจญภัยสูงวัยต้องรีบใช้ดาบของตัวเองเป็นโล่
“โอ๊ย!” นักผจญภัยสูงวัยร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด
ก็อบลินเล็งไปที่ขาของเขา แต่มีก็อบลินเพียงตัวเดียวที่เขาสามารถจัดการได้ และมีอีกสามตัวที่โจมตีมาในเวลาเดียวกัน
ก็อบลินต่อสู้ร่วมกันได้ดี ใช่…มันดีเกินไป ก่อนที่จะรู้ตัว เสื้อผ้าของเขาก็เปียกโชกไปด้วยเหงื่อ
“ชิ!”
เขากวาดด้วยดาบยาวเพื่อสู้กับก็อบลิน
“นี่มันแย่จริง ๆ แล้ว”
ก็อบลินทำงานร่วมกันได้ดีกว่าที่เขาคาด ใครจะคิดล่ะว่ามีคนอื่นนอกจากเอลฟ์หรือกึ่งมนุษย์ของทวีปหลัก ที่สามารถต่อสู้ร่วมกันได้
การโจมตีที่เขารับไปก่อนหน้านี้รุนแรง ถึงแม้ชีวิตของเขาจะยังไม่อยู่ในจุดวิกฤต แต่เขาก็ไม่สามารถหนีได้อีกต่อไป
นักผจญภัยที่เงียบขรึมก็ไม่ต่างกัน โล่ของเขาติดอยู่ที่พื้น และดูเหมือนว่ามือของเขาจะถูกโจมตี ในขณะที่เขาพยายามอย่างเต็มที่เพื่อหยุดเลือดที่ไหล
การวิ่งหนีไม่ใช่ทางออก แต่การเอาชนะก็อบลินทั้งหมดนั้นยากยิ่งกว่า ในกรณีนี้เหลือเพียงทางเลือกเดียว พวกเขาต้องเอาชนะหัวหน้าฝูง
น่าเสียดายที่นั่นเป็นความฝันอันห่างไกล เนื่องจากกำแพงก็อบลินทำให้พวกเขาอยู่ห่างจากดรูอิด
“ตามความประสงค์ของพระเจ้า Heal!”
ทันใดนั้นความเจ็บปวดก็หายไป และนักผจญภัยทั้งสองพบว่าตัวเองเต็มไปด้วยพลัง เมื่อพวกเขาหันไปตามเสียง พวกเขาพบว่าหัตถ์สีขาวแห่งชีวิตรายล้อมไปด้วยพลังที่พวกเขาไม่สามารถทำออกมาได้
“พระเจ้ายังไม่ทอดทิ้งเรา ได้โปรดทำให้ดีที่สุด” เธอกล่าว
เสื้อคลุมของเธอเปิดออกเพียงเล็กน้อย แต่นักผจญภัยสูงวัยมั่นใจว่าเขาเห็นรอยยิ้มของเธอในตอนนั้น
“ชิ…ข้าไม่รู้เรื่องเกี่ยวกับพระเจ้าหรืออะไรก็ตาม แต่ที่แน่ ๆ คือเจ้ากำลังเอาเปรียบเราอยู่ โดยไม่ต้องเสี่ยงชีวิต! เจ้าคนเงียบ! เจ้ายังสู้ไหวไหม!?” นักผจญภัยสูงวัยถาม
“แน่นอน” นักผจญภัยเงียบขรึมตอบ ขณะหยิบขวานออกมาจากโล่
ขณะนั้นเองที่นักผจญภัยและพวกก็อบลินจ้องมองซึ่งกันและกัน ม่านแห่งความตายระหว่างมนุษย์และก็อบลินก็ถูกดึงออก
◇◆◇◆◇◆◇◆
อ่านนิยายล่วงหน้าได้ในกลุ่ม ที่เพจ Koel-Translate นิยายแปล (ตอนนี้แปลถึงตอน 400 กว่าแล้วนะครับ)
https://www.facebook.com/pg/Koel-Translate-%E0%B8%99%E0%B8%B4%E0%B8%A2%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B9%81%E0%B8%9B%E0%B8%A5-111530443746222/posts/