[ชื่อ] กิโซ
[เผ่าพันธุ์] ก็อบลิน
[เลเวล] 19
[คลาส] ดรูอิด
[ทักษะ] <<การจัดการเวทมนตร์>> <<Water Manipulation>> <<สร้างแรงบันดาลใจ>>
[การคุ้มครองจากพระเจ้า] เทพเจ้าแห่งน้ำ (ไอเรน)
[แอตทริบิวต์] น้ำ
◇◆◇
ผู้ใต้บังคับบัญชาของกิเดะกลับมาอย่างเร่งรีบเพื่อรายงานต่อกิโซ
“มนุษย์กำลังโจมตี?”
กิโซไม่รู้จักพวกมนุษย์มากนัก สิ่งที่เขารู้มากที่สุดคือสมบัติของราชาอย่างเรเชียและลิลลี่ จากนั้นก็มีแมตทิสที่มักจะเตรียมเนื้อแห้งสำหรับพวกเขาหรือมนุษย์ที่ซ่อมแซมรั้ว
“มนุษย์ฆ่ากิเดะ!?”
ก็อบลินที่รายงานตัวสั่นด้วยความตกใจ เมื่อเขาเห็นกิโซที่มักจะสงบนิ่งโกรธเกรี้ยว ก็อบลินยังคงตัวสั่น ขณะที่เขารายงานว่ากิเดะยอมเสียสละตัวเองเพื่อให้พวกเขากลับมา ในตอนท้ายของรายงานกิโซกำลังสั่นด้วยความโกรธ
“ไม่สำคัญว่าพวกมันจะเป็นใคร หากเขี้ยวเล็บของพวกมันแว้งกัดใส่พวกเรา ข้าจะตอบแทนพวกมันอย่างสาสม”
เขาจำเป็นต้องแจ้งกิด้าด้วย ดังนั้นเขาจึงสั่งให้ก็อบลินไปส่งข่าวและเขาต้องไปหาสมบัติของราชา
อาจมีความไม่สงบเกิดขึ้น หากพวกเขารู้ว่าเราต่อสู้กับใคร เขาหวังว่าเรเชียและลิลลี่จะช่วยระงับสิ่งเหล่านั้นได้ และลักษณะเฉพาะของเขาที่กังวลเกี่ยวกับความรู้สึกของผู้อื่นนี้ เป็นสิ่งหนึ่งที่ราชาและกิซาร์ชื่นชม
สำหรับก็อบลินที่พลังอำนาจคือทุกอย่าง สิ่งต่าง ๆ เช่นความห่วงใยหรือการเอาใจใส่ไม่มีผลต่อสถานะในสังคมของก็อบลิน
กิโซเองไม่เห็นว่าพลังของเขายิ่งใหญ่ไปกว่าคนรอบข้าง ด้วยเหตุนี้เขาจึงรู้สึกว่าหน้าที่ของตนมีน้ำหนักมากในฐานะผู้ดูแลหมู่บ้าน
“ท่านเรเชีย ลอร์ดลิลลี่ ข้าคือกิโซ” กิโซเคาะประตูและพวกเธอก็อนุญาตให้เข้ามา
ทัศนคติที่เคารพต่อสมบัติราชาของกิโซ เกิดจากความรู้สึกรับผิดชอบของเขาเช่นกัน เมื่อเขาเข้าไปในบ้านของราชาที่เป็นระเบียบเรียบร้อย เขาก็เริ่มอธิบายสถานการณ์ต่าง ๆ เขาระงับอารมณ์ที่เต็มไปด้วยความโกรธจากการตายของกิเดะ ขณะรายงานอย่างใจเย็น หลังจากนั้นเขาขอให้พวกเธอช่วยทำให้มนุษย์สงบลง
“ได้ค่ะ ฉันจะทำตามที่คุณขอ” เรเชียกล่าว
กิโซออกจากบ้านด้วยความโล่งอก แต่ในดวงตาของเขาเผาผลาญไปด้วยไฟแห่งความโกรธ
“ลอร์ดกิโซ” กิด้าวางหอกไว้ที่ไหล่ขณะเรียก
“ลอร์ดกิก้ากลับมาแล้วเหรอ?” กิโซถาม ซึ่งกิด้าส่ายหัว “ถ้าอย่างนั้นก็ไม่มีทางเลือกอื่น เราจะต้องเอาชนะอันตรายนี้ด้วยตัวเอง…ลอร์ดกิด้า ข้าจะปล่อยให้เจ้าดูแลหมู่บ้าน ส่วนข้าจะไปล้างแค้นพวกมนุษย์เอง”
ดวงตาของกิด้าเบิกกว้างเมื่อได้ยินคำพูดเหล่านั้น
“ไม่ ข้าควรจะไป! ลอร์ดกิโซเป็นผู้นำหมู่บ้านในตอนนี้! ”
หัวใจที่ลุกเป็นไฟของเขาดูเหมือนจะปะทุขึ้น เขากระทืบเท้าและยังกระแทกพื้นด้วยหอก
“ไม่ เป็นลอร์ดกิก้าที่ดูแลหมู่บ้านนี้ ข้าเป็นเพียงตัวแทนและหน้าที่ของข้าคือการปกป้องหมู่บ้าน”
ในที่สุดกิด้าก็เข้าใจ หลังจากกิโซอธิบายให้เขาฟังซ้ำแล้วซ้ำเล่า ความแตกต่างระหว่างความฉลาดของก็อบลินแรร์กับดรูอิดนั้นมีขาดใหญ่มาก โชคดีที่กิโซสามารถโน้มน้าวกิด้าได้สำเร็จ
“ข้าจะทำเท่าที่ทำได้ แม้ว่าหัวใจของข้าจะไม่มั่นคง ข้าคงต้องขอให้เจ้าดูแลที่นี่ลอร์ดกิด้า!
” ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของข้าเอง!”
ก็อบลินตัวผู้มีจำนวน 90 ตัว แต่ในนั้นรวมถึงผู้บาดเจ็บและพวกที่ไม่มีประสบการณ์
ก็อบลินสามารถแพร่พันธุ์ได้อย่างต่อเนื่อง จึงไม่แปลกที่พวกเขาจะมีจำนวนเพิ่มขึ้นหลังจากสงครามออร์ค
กิโซเอาก็อบลินไปกับเขาเพียงหนึ่งในสาม แต่ทุกตัวล้วนเป็นก็อบลินที่มีประสบการณ์
ฝูงก็อบลินจึงมุ่งหน้าไปทางตะวันออก
◇◆◆
นักผจญภัยหญิงที่รู้จักกันในนามหัตถ์ขาวแห่งชีวิต สวมเสื้อคลุมสีขาวตั้งแต่หัวจรดเท้า
” มันจบแล้ว! ข้าบอกเจ้าไปแล้วไง!” นักผจญภัยสูงวัยพูดเมื่อเห็นฉากตรงหน้า
“ไม่เป็นไร ทุกอย่างจะดีขึ้นเอง” หัตถ์สีขาวแห่งชีวิตยังมองโลกในแง่ดีเช่นเคย
“…” อาจเป็นเพราะบุคลิกเงียบขรึม ทำให้นักผจญภัยอีกคนถือโล่อย่างเงียบ ๆ ทั้ง ๆ ที่ดูเหมือนว่าเขากำลังจะสาปแช่งโชคชะตาอยู่ในขณะนี้
มีก็อบลินฝูงหนึ่งอยู่ต่อหน้าพวกเขา
หลังจากที่กลุ่มของกัลแลนด์ได้ทำลายหมู่บ้านออร์คไป พวกเขาก็เข้าไปในป่าลึกขึ้น เพื่อค้นหานักบุญและเล่นสนุกกับการล่าสัตว์อสูร
เมื่อคิดอย่างมีเหตุผลแล้ว พวกออร์คน่าจะอยู่บนสุดของห่วงโซ่อาหาร ที่นี่มีกลุ่มของพวกมันจำนวนมาก แต่หลังจากการโจมตี พวกมันก็รีบหนีไปทันที ถ้าพวกออร์คเหล่านั้นอยู่ในอันดับต้น ๆ ก็ควรจะเป็นเหตุผลว่าทำไมระดับของมอนสเตอร์โดยรอบ ๆ จึงไม่สูงนัก ดังนั้นกัลแลนด์จึงแบ่งกลุ่มของพวกเขาออกเป็นสามกลุ่ม
“ไปกับหัวหน้าจะดีกว่ามั้ยนะ? หรือจะเป็นไม้กายสิทธิ์แห่งการทำลายล้างก็ได้?” นักผจญภัยสูงวัยบ่น
หัตถ์สีขาวแห่งชีวิตไม่พอใจกับการบ่นพึมพำของเขา ขณะเธอเติมไม้กายสิทธิ์ในมือด้วยพลังเวทย์
“พระเจ้าอยากให้คุณทำงานของตัวเองมากกว่าที่จะบ่น” เธอกล่าว
“ใช่แล้ว…ตอนนี้ข้าควรจะเริ่มนับถือพระเจ้าแล้วใช่ไหม?”
ในขณะที่นักผจญภัยสูงวัยยังคงพูด นักผจญภัยที่เงียบขรึมก็พยักหน้า
“Shield Rush!”
เขาใช้โล่ป้องกันฝูงก็อบลินที่กำลังจะมาถึงเพื่อเปิดเส้นทาง มันทำให้ก็อบลินกระเด็นไปรอบบ ๆ และมีทางเล็ก ๆ ให้พวกเขาหลุดออกจากการถูกล้อม นักผจญภัยที่เงียบขรึมเป็นตัวอย่างของอัศวินผู้กล้าหาญ แต่ด้วยความแตกต่างด้านจำนวนที่มากเกินไป พวกก็อบลินจึงพยายามอ้อมไปด้านหลังของพวกเขา
“ขอโทษนะ แต่ข้าปล่อยให้พวกแกทำอย่างนั้นไม่ได้! Wind Slash!” นักผจญภัยสูงวัยฟันก็อบลินด้วยดาบยาว มันเคลื่อนที่เร็วกว่าสายลม โดยไม่มีช่องว่างให้ก็อบลินโต้ตอบ
นักผจญภัยกลุ่มเล็ก ๆ ร่วมมือกันเพื่อหลบหนีจากก็อบลิน
“เทพศักดิ์สิทธิ์อันยิ่งใหญ่ Confusion!”
พลังเวทมนตร์เล็ดลอดออกมาจากไม้กายสิทธิ์ของหัตถ์ขาวแห่งชีวิต ทำให้บริเวณโดยรอบสั่นสะเทือน
มันเป็นเวทมนตร์ที่ทำให้ก็อบลินสับสนและช้าลงเมื่อมองไม่เห็นศัตรู
“นี่เป็นสิ่งที่คาดหวังได้จากนักบวชผู้รักพระเจ้า!” นักผจญภัยสูงวัยกล่าว ขณะฟาดดาบเข้ากับก็อบลินที่มีสติ
“เร็วเข้าและรีบออกไปจากที่นี่!” หัตถ์สีขาวแห่งชีวิตกล่าว ขณะที่พวกเขาเล็ดลอดผ่านก็อบลินที่สับสน
“ไปเร็ว” นักผจญภัยเงียบขรึมกล่าว
แต่ในขณะที่พวกเขากำลังจะผ่านไปนั้น…
“กระสุนน้ำ! Water ball”
“หือ!? ”
เสียงครวญครางด้วยเจ็บปวดดังมาจากหนึ่งในนั้น
สิ่งที่ยืนต่อหน้าพวกเขาคือก็อบลินผิวแดงที่ถือไม้เท้าไว้ในมือ มันเป็นมอนสเตอร์ระดับบอส
“…นั่นคือดรูอิดเหรอ?” นักผจญภัยสูงวัยพึมพำ ซึ่งนักผจญภัยที่เงียบขรึมพยักหน้า
“ตั้งสติ! จำราชาของพวกเจ้าเอาไว้!” คำพูดของดรูอิดปลุกก็อบลินออกจากอาการมึนงง และพวกเขาจับกระบองของตัวเอง เพื่อโจมตีใส่นักผจญภัยทั้งสามอีกครั้ง
“แค่ต่อสู้ตามปกติ! อย่าลดการป้องกัน!”
ตามคำพูดของดรูอิดทำให้พวกก็อบลินทั้งหมดโจมตี
“…ชิ!” นักผจญภัยเงียบขรึมกัดฟันของตัวเอง
มีก็อบลินสองตัวโจมตีที่ด้านข้าง ในขณะเดียวกันกระบอกก็แกว่งมาจากด้านหน้า ทำให้เขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากกระโดดถอยหลัง
“ไอ้บ้า!” นักผจญภัยสูงวัยสาปแช่ง
เขาฟาดดาบใส่ก็อบลินตัวหนึ่ง แต่มันก็รับการโจมตีของเขาได้ ขณะที่เขายังลืมตาอยู่ ก็อบลินอีกตัวก็เล็งไปที่ขาเพื่อทำลายการทรงตัวของเขา นั่นจะเป็นการโจมตีที่ร้ายแรง หากเขาไม่สามารถป้องกันได้ ประกายไฟที่ปะทุออกมาจากดาบและกระบองของก็อบลินทำให้เขาเหงื่อตก
เขากระโดดถอยหลังเพื่อสร้างระยะห่าง แต่เบื้องหลังเขาคือนักผจญภัยที่เงียบขรึม …พวกเขาหันหลังชนกัน
“กี๋ กี๋!” ก็อบลินร้อง
พวกก็อบลินการโจมตีอย่างต่อเนื่อง ทำให้นักผจญภัยสูงวัยต้องรีบใช้ดาบของตัวเองเป็นโล่
“โอ๊ย!” นักผจญภัยสูงวัยร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด
ก็อบลินเล็งไปที่ขาของเขา แต่มีก็อบลินเพียงตัวเดียวที่เขาสามารถจัดการได้ และมีอีกสามตัวที่โจมตีมาในเวลาเดียวกัน
ก็อบลินต่อสู้ร่วมกันได้ดี ใช่…มันดีเกินไป ก่อนที่จะรู้ตัว เสื้อผ้าของเขาก็เปียกโชกไปด้วยเหงื่อ
“ชิ!”
เขากวาดด้วยดาบยาวเพื่อสู้กับก็อบลิน
“นี่มันแย่จริง ๆ แล้ว”
ก็อบลินทำงานร่วมกันได้ดีกว่าที่เขาคาด ใครจะคิดล่ะว่ามีคนอื่นนอกจากเอลฟ์หรือกึ่งมนุษย์ของทวีปหลัก ที่สามารถต่อสู้ร่วมกันได้
การโจมตีที่เขารับไปก่อนหน้านี้รุนแรง ถึงแม้ชีวิตของเขาจะยังไม่อยู่ในจุดวิกฤต แต่เขาก็ไม่สามารถหนีได้อีกต่อไป
นักผจญภัยที่เงียบขรึมก็ไม่ต่างกัน โล่ของเขาติดอยู่ที่พื้น และดูเหมือนว่ามือของเขาจะถูกโจมตี ในขณะที่เขาพยายามอย่างเต็มที่เพื่อหยุดเลือดที่ไหล
การวิ่งหนีไม่ใช่ทางออก แต่การเอาชนะก็อบลินทั้งหมดนั้นยากยิ่งกว่า ในกรณีนี้เหลือเพียงทางเลือกเดียว พวกเขาต้องเอาชนะหัวหน้าฝูง
น่าเสียดายที่นั่นเป็นความฝันอันห่างไกล เนื่องจากกำแพงก็อบลินทำให้พวกเขาอยู่ห่างจากดรูอิด
“ตามความประสงค์ของพระเจ้า Heal!”
ทันใดนั้นความเจ็บปวดก็หายไป และนักผจญภัยทั้งสองพบว่าตัวเองเต็มไปด้วยพลัง เมื่อพวกเขาหันไปตามเสียง พวกเขาพบว่าหัตถ์สีขาวแห่งชีวิตรายล้อมไปด้วยพลังที่พวกเขาไม่สามารถทำออกมาได้
“พระเจ้ายังไม่ทอดทิ้งเรา ได้โปรดทำให้ดีที่สุด” เธอกล่าว
เสื้อคลุมของเธอเปิดออกเพียงเล็กน้อย แต่นักผจญภัยสูงวัยมั่นใจว่าเขาเห็นรอยยิ้มของเธอในตอนนั้น
“ชิ…ข้าไม่รู้เรื่องเกี่ยวกับพระเจ้าหรืออะไรก็ตาม แต่ที่แน่ ๆ คือเจ้ากำลังเอาเปรียบเราอยู่ โดยไม่ต้องเสี่ยงชีวิต! เจ้าคนเงียบ! เจ้ายังสู้ไหวไหม!?” นักผจญภัยสูงวัยถาม
“แน่นอน” นักผจญภัยเงียบขรึมตอบ ขณะหยิบขวานออกมาจากโล่
ขณะนั้นเองที่นักผจญภัยและพวกก็อบลินจ้องมองซึ่งกันและกัน ม่านแห่งความตายระหว่างมนุษย์และก็อบลินก็ถูกดึงออก