Goblin Kingdom 78

ตอนที่ 78

[เผ่าพันธุ์] ก็อบลิน

[เลเวล] 72

[คลาส] ลอร์ด, หัวหน้ากลุ่ม

[ทักษะ] <<Ruler of the Horde>> <<จิตวิญญาณผู้ท้าทาย>> <<คำรามอย่างรุนแรง>> <<ความชำนาญการใช้ดาบ B+>> <<ความละโมบที่ไม่สิ้นสุด>> << การจ้องมองจากปีศาจ >> << จิตวิญญาณของราชัน >> <<ผู้ควบคุมแห่งปัญญา I>> << นัยน์ตาชั่วร้ายของงูตาเดียว>> <<การเต้นรำแห่งความตาย>> <<การจัดการเวทมนตร์>> <<นักรบคลั่ง>> <<Third Impact>> <<สัญชาตญาณ>> <<ครอบครัวของพระเจ้า>>

[การคุ้มครองจากพระเจ้า] เทพธิดาแห่งนรก อัลทีเซีย

[แอตทริบิวต์] ความมืด, ความตาย

[สัตว์ใต้บังคับบัญชา] โคโบลชั้นสูง (เลเวล 1) กัสต้า (เลเวล 20) ซินเธีย (เลเวล 20) บุย (เลเวล 36)

◇◆◇

หลังจากกิซาร์เลื่อนคลาสเป็นชาแมน พวกเราก็วิ่งไปหาโอเกอร์ลอร์ดที่กำลังบ้าคลั่ง

“เราจะชนะได้ใช่ไหม?” เขาถาม

“อันนั้นเป็นหน้าที่ข้าเอง” ผมพูดกลับไป

ผมใช้ทักษะ << นัยตาน์ปีศาจของงูตาเดียว>> เพื่อค้นหาจุดอ่อนของโอเกอร์ลอร์ด ผมไม่รู้ว่ามันเป็นเพราะสมบัติทั้งสี่หรือเป็นเพราะ <<จิตวิญญาณผู้ท้าทาย>> ที่เพิ่งเรียนรู้ แต่โอเกอร์ลอร์ดไม่สามารถยกเลิกทักษะของผมได้อีกต่อไป

จุดอ่อนของโอเกอร์ลอร์ดอยู่ที่ฝ่าเท้า

ไม่แปลกเลยที่เราไม่สามารถทำอะไรมันได้

ตอนนี้เรารู้แล้วว่าเราต้องทำให้มันล้มลง แต่มันก็ไม่เรื่องที่ง่ายนัก ขวานของโอเกอร์นั้นมีระยะที่ยาวกว่า

น่าเสียดายที่ผมสูญเสียดาบไป ถ้ายังมีมันอยู่ ผมจะสามารถใช้มันเพื่อปะทะกับขวานเล่มนั้นได้

“ฝ่าเท้าเป็นจุดอ่อนของมัน เราต้องโค่นมันลงแล้วโจมตี เจ้าคิดว่ายังไง? “

“ข้าคิดว่าเราต้องส่งมันกระเด็นออกไปอย่างรวดเร็ว” กิซาร์ยิ้มอย่างไม่เกรงกลัว กับขวานของโอเกอร์ที่แกว่งลง

“ผืนดินจงสะเทือนเพื่อข้า! Grand Slam”

แผ่นดินสั่นสะเทือนโค่นล้มเรา ขณะที่รอยแตกยื่นออกมาจากขวานที่ฟาดลงของโอเกอร์

“ท้องฟ้าจงสั่นสะเทือนเพื่อข้า Ru Grand Slam!”

จากนั้นอากาศก็สั่นสะเทือนและลูกบอลลมก็พุ่งออกมา

“ข้าจะถือว่ามันเป็นความท้าทาย” กิซาร์ยิ้มขณะที่เขายืนขึ้นและร่ายเวทย์ “โอม ผู้สูงส่ง ผู้ได้ยินเสียงเรียกของข้า ข้าแต่เทพเจ้าแห่งสายลม ขอให้ความแข็งแกร่งของท่านสำแดงแก่โลกใบนี้ Castor Lance!”

บทร่ายสุดท้ายนั้นยาวกว่าปกติ แต่เขาก็ร่ายได้เร็วขึ้นเช่นกัน

อีเธอร์จำนวนมากรวมตัวกันที่มือขวาของกิซาร์ กลั่นตัวเป็นหอกสายลม กิซาร์ใช้หอกนั้นปะทะกับลูกบอลลมของโอเกอร์ลอร์ด

พายุไซโคลนปะทุขึ้นเมื่อพลังทั้งสองปะทะกัน และเมฆฝุ่นหมุนวนราวกับก้อนหินขนาดเล็กที่กระเด็นเป็นครั้งคราว เมื่อหรี่ตาลง ผมก็พุ่งเข้าใส่โอเกอร์ลอร์ด

“เจ้าตัวเล็ก!!” โอเกอร์ลอร์ดรู้สึกหงุดหงิดอย่างเห็นได้ชัด

“ตอนนี้ใครบอกเจ้าว่าข้าเสร็จแล้ว” กิซาร์ใช้ลมที่พัดโหมกระหน่ำอีกครั้ง “เคียวสายลม”

สายลมพัดหมุนตามคำสั่งของกิซาร์ไปยังโอเกอร์ลอร์ด กลุ่มฝุ่นฟุ้งกระจายพร้อมเคลื่อนไหวรวมกันเป็นหนึ่งเดียว ผมวิ่งอยู่ใต้การปะทะของพวกเขาโดยที่ทุกคนมองไม่เห็น

เมื่อโอเกอร์ลอร์ดปัดสายลมออก ผมก็ยืนอยู่ที่อกของมัน

อีเธอร์ที่ผมนำมาจากเวริดแล่นผ่านแขนขวาของผม แต่โอเกอร์ลอร์ดที่สังเกตเห็นผมจึงส่งเสียงร้องคำราม กระจายอีเธอร์ที่ผมรวบรวมมา

“กูรูวอาาาาาาาา!”

อย่างที่คิด ระยะเผาขนอยู่ใกล้มันเกินไป ผมไม่สามารถใช้อีเธอร์ของตัวเองได้

ในกรณีนั้น…

– ผมต้องเผาผลาญอีเธอร์จากภายใน!

ผมยังจำคำพูดของกิซาร์ได้ มันไม่มีทางเลือกอื่น ผมต้องเสี่ยงกับมัน

การควบคุมอีเธอร์ภายในร่างกายไม่ใช่เรื่องง่าย …ผมรู้

ตัวอย่างเช่นในการเสริมสร้างความแข็งแกร่งด้วยอีเธอร์ เราจะต้องใส่อีเธอร์เข้าไปในกล้ามเนื้อและควบคุมการไหลอย่างระมัดระวัง

ถ้าผิดพลาดแม้แต่ขั้นเดียว มันจะไม่จบลงที่การร่ายมนตร์ที่ที่ถูกยกเลิก มันจะเป็นเหมือนลูกโป่งที่แตกออกจากแรงดันภายใน ส่วนที่ได้รับผลกระทบจะถูกฉีกออกจากกัน และในกรณีนั้นมันหมายความว่าแขนขวาของผมจะหายไป

ไม่มีทางเลือกอื่น ไม่มีสิ่งใดสามารถเคลื่อนย้ายสิ่งมีชีวิตขนาดใหญ่ตัวนี้ได้ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงผมในตอนนี้ที่ไม่มีดาบ

ดังนั้นผมจึงปล่อยให้อีเธอร์ไหลไปที่แขนขวาอย่างระมัดระวัง ไม่ให้มีอะไรรั่วไหลออกมา ผมต้องทำด้วยความตั้งใจ หากผมลังเลสักครู่ขวานนั้นจะฟาดลงมาที่ผม

“กูว…”

มีอีเธอร์รั่วออกมาเล็กน้อย ผมรู้สึกได้ว่าเส้นเลือดบางเส้นที่อยู่ใต้เนื้อของผมแตกออก แต่ผมกัดฟันสู้และต่อยมันเข้ากับโอเกอร์ลอร์ด

มันให้ความรู้สึกเหมือนต่อยยางรถยนต์ ในขณะที่ร่างกายอันแข็งแกร่งของโอเกอร์ลอร์ดยุบลงไป

“กูว โกรโรวววว!” โอเกอร์ลอร์ดส่งเสียงร้องด้วยความเจ็บปวด

แน่นอนว่านั่นยังไม่เพียงพอที่จะฆ่ามันได้ อย่างมากก็แค่ดันกลับไป

“รับนี่ไปซะ! ” อีกครั้งผมใส่อีเธอร์เข้าไปในกำปั้นขวาและกระแทกมันเข้าไป

การควบคุมอีเธอร์ที่ไม่ดีนักทำให้เลือดพุ่งออกมาจากแขนขวา แต่ตอนนี้โอเกอร์ลอร์ดดิ้นพล่านด้วยความเจ็บปวด

“ไอ้บ้า!”

โอเกอร์ลอร์ดเต็มไปด้วยความโกรธ ขณะที่มันเหวี่ยงขวานลงมาหาผม << จิตวิญญาณผู้ท้าทาย>> แผดเผาด้วยความร้อนแรงทำให้พลังของผมมาถึงขีดจำกัด

ผมถอยไม่ได้ ถ้าผมสะดุดที่นี่โอเกอร์ลอร์ดจะไม่ยอมให้ผมเข้าใกล้มันอีก

ผมเงยหน้าขึ้นมองขวานที่ฟาดลงมา

อีเธอร์พุ่งเข้าใส่หมัดของผม ขณะนี้มันเต็มไปด้วยพลัง

ผมจะต้องรับมันให้ได้!

ในช่วงเวลาเดียวกันนั้น << ผู้ควบคุมแห่งปัญา II>> ก็เปิดใช้งาน เพิ่มทั้งความเสียหายที่ผมทำได้และได้รับ

ผมไม่รู้ว่าการโต้ตอบนี้จะช่วยป้องกันผมได้อย่างไร แต่ถ้าผมไม่ใช้มันตอนนี้ ผมก็จะโดนขวานนั้นบดขยี้

“กูรูวอาาาาาา!”

ขณะที่ผมเปิดใช้งานทักษะและควบคุมอีเธอร์ภายใน ร่างกายของผมกรีดร้องอย่างรุนแรงต่อเส้นเลือดแตกออกทีละเส้น

แต่ในทะเลเลือดนั้นมีเปลวเพลิงสีดำเริ่มคืบคลานเข้ามาใต้ผิวหนังของผม

หนึ่งในผลกระทบของ << จิตวิญญาณผู้ท้าทาย>>

การขโมยพลังจากเทพเจ้าที่เป็นตัวแทน

อีเธอร์ที่ผมขโมยมาจากเวริดพุ่งเข้าสู่ร่างกายของทำให้บาดแผลของผมลุกไหม้ อีเธอร์ในแขนของผมหนาแน่นขึ้นจนเหมือนว่ามันจะระเบิดได้ทุกเมื่อ

เมื่อขวานฟาดลงมา มันก็ปะทะกับหมัดของผม

เสียงของบางสิ่งที่ถูกบดขยี้ดังก้อง

แขนของผมพังลงอีกครั้ง แต่ในการแลกเปลี่ยน โอเกอร์ก็ไม่มีขวานอีกแล้ว

“โกวโรววว!?” โอเกอร์ลอร์ดมองด้วยสายตาที่เบิกกว้าง เขาไม่อยากจะเชื่อสิ่งที่เกิดขึ้นต่อหน้า

แต่ผมไม่ใจดีพอที่จะรอให้มันฟื้นสติ ผมรีบพุ่งไปที่หัวของมัน

“- โกว!?”

ในเวลาเดียวกันกิซาร์ได้ฟาดฟันโอเกอร์ลอร์ดด้วยหอกสายลมอีกครั้ง โอเกอร์ลอร์ดจึงล้มลงและผมก็ฟาดหมัดด้วยอีเธอร์ลงบนฝ่าเท้าเพื่อกำราบมันครั้งแล้วครั้งเล่า

ดูเหมือนมันแข็งแรงมาก แต่ตอนนี้มีเลือดพุ่งออกมาจากปากของมัน

ผมฟาด ฟาด ฟาด ฟาดหมัดของตัวเองไปเรื่อย ๆ โดยไม่ได้หยุดชะงัก ผมโจมตีโดยไม่สนใจร่างกายที่เจ็บปวดและจิตวิญญาณที่บ้าคลั่ง

“อ – ไอ้…สารเลว…”

โอเกอร์ลอร์ดจ้องมองมาที่ผมด้วยแววตาที่ขุ่นมัว แขนขวาของผมใช้ไม่ได้อีกต่อไป แต่มันเป็นราคาที่เล็กน้อย ที่ต้องจ่ายเพื่อชัยชนะ

.และเช่นนั้นโอเกอร์ลอร์ดก็ตายลง

“เราชนะแล้ว” กิซาร์กล่าว

ผมพยักหน้า “ไปรวบรวมพวกเขามา แล้วเราจะไปเคาะประตูนั้นกัน”

กิซาร์พยักหน้าและเขาก็ออกไปตรวจดูก็อบลินทีละตัว

ในขณะเดียวกันผมมองขึ้นไปที่ประตูที่นำไปสู่ลอร์ดแห่งความเสื่อมโทรม

◇◆◇

“แล้วเจ้าจะอธิบายยังไงเกี่ยวกับเรื่องนี้? ” เทพธิดาแห่งนรกจ้องมองอย่างเย็นเยียบ

“ดูเหมือนว่าเด็กปีศาจแห่งความโกลาหลจะชนะแล้ว” งูตาเดียวพูด ขณะที่เขามองผ่านกระจกวิเศษ

“ข้าไม่ได้สั่งให้เจ้าหยุดช่วยเขา?” เทพธิดาถาม

“มาสเตอร์ ท่านก็รู้จักข้าดี ข้าเป็นผู้รับใช้ที่ซื่อสัตย์ของท่าน ข้าไม่ได้ขัดต่อคำพูดของท่านหรือพยายามที่จะแอบทำเรื่องนี้” เวริดส่ายหัว

“อืม…ถ้าเป็นเช่นนั้นก็ดี”

ก็อบลินได้รับชัยชนะ ความสดใสของจิตวิญญาณได้กลับคืนมาและก็ได้รับชัยชนะในที่สุด

มันเป็นผลลัพธ์ที่เธอต้องการในตอนแรก แต่ด้วยเหตุผลบางอย่างเทพธิดายังคงมีปัญหา

“เขาได้ไปเท่าไหร่?”

“หนึ่งส่วนขอรับ มาสเตอร์”

หนึ่งในสิบ เพียงหนึ่งในสิบส่วน แต่นั่นเป็นหนึ่งในสิบส่วนของงูหนึ่งในสี่ตัวที่เคยท้าทายโลกมนุษย์ พลังที่อยู่เบื้องหน้านั้น ต่อให้มีเพียงหนึ่งส่วนก็ไม่ใช่อะไรที่จะเย้ยหยันได้

“…น่าสนใจ” รอยยิ้มที่น่าหลงใหลปรากฏขึ้นบนริมฝีปากของเทพธิดาแห่งนรก “ข้าปฏิบัติกับเขาราวกับสัตว์เลี้ยงมาโดยตลอด แต่…ข้าเปลี่ยนใจแล้ว ข้าจะเฝ้าดูเขาอย่างจริงจัง”

“ตามที่ท่านสั่ง”

ตามคำสั่งของเทพธิดา งูตัวนั้นก็ครุ่นคิด

ตอนนี้ก็อบลินไม่สามารถควบคุมพลังนั้น แต่เขาจะทำมันได้ในอนาคต มิฉะนั้นไม่มีทางเขาจะได้รับพลังนั้นตั้งแต่แรก

เวริดจะสนับสนุน ตราบเท่าที่เจ้านายของเขาสั่ง ดังนั้นจึงเป็นเรื่องที่น่าหนักใจหากเขาทำไม่ได้ตามความคาดหวัง

“จงแข็งแกร่งขึ้น …น้องชาย” เวริดพึมพำ

◇◆◇◆

เลเวลเพิ่มขึ้น

72 → 89

◇◆◇◆

หมายเหตุผู้แต่ง:

ภารกิจสำเร็จ! แต่เป็นเทพธิดาแห่งนรกที่สุ่มมอบพรของเธอให้แก่โอเกอร์ลอร์ด

อย่างไรก็ตาม เช่นนี้เส้นทางสู่ลอร์ดแห่งความเสื่อมโทรมได้ถูกเปิดออกแล้ว

เทพธิดาที่ซุกซน งูแดงและมนุษย์กลุ่มหนึ่ง…ดูเหมือนการกลับมาของราชาจะมาถึงจุดสุดยอดในไม่ช้า

ค่าสถานะ

[เผ่าพันธุ์] โอเกอร์

[เลเวล] 70

[คลาส] ลอร์ด,หัวหน้ากลุ่ม

[ทักษะ] <<เสียงคำรามแห่งความหวาดกลัว>> <<ผู้หาประโยชน์>> <<การควบคุมเวทมนตร์>> <<ผิวเหล็ก>> <<การคุ้มครองจากเทพธิดาแห่งนรก>> << เทียมเท่านักรบนับพัน >> <<ความชำนาญการใช้ขวาน A+ >>

[การคุ้มครองจากพระเจ้า] เทพธิดาแห่งนรก

[แอตทริบิวต์] ความมืด

◇◆◇◆◇◆◇◆

Options

not work with dark mode
Reset