[เผ่าพันธุ์] ก็อบลิน
[เลเวล] 72
[คลาส] ลอร์ด, หัวหน้ากลุ่ม
[ทักษะ] <<Ruler of the Horde>> <<จิตวิญญาณผู้ท้าทาย>> <<คำรามอย่างรุนแรง>> <<ความชำนาญการใช้ดาบ B+>> <<ความละโมบที่ไม่สิ้นสุด>> << การจ้องมองจากปีศาจ >> << จิตวิญญาณของราชัน >> <<ผู้ควบคุมแห่งปัญญา I>> << นัยน์ตาชั่วร้ายของงูตาเดียว>> <<การเต้นรำแห่งความตาย>> <<การจัดการเวทมนตร์>> <<นักรบคลั่ง>> <<Third Impact>> <<สัญชาตญาณ>> <<ครอบครัวของพระเจ้า>>
[การคุ้มครองจากพระเจ้า] เทพธิดาแห่งนรก อัลทีเซีย
[แอตทริบิวต์] ความมืด, ความตาย
[สัตว์ใต้บังคับบัญชา] โคโบลชั้นสูง (เลเวล 1) กัสต้า (เลเวล 20) ซินเธีย (เลเวล 20) บุย (เลเวล 36)
◇◆◇
หลังจากกิซาร์เลื่อนคลาสเป็นชาแมน พวกเราก็วิ่งไปหาโอเกอร์ลอร์ดที่กำลังบ้าคลั่ง
“เราจะชนะได้ใช่ไหม?” เขาถาม
“อันนั้นเป็นหน้าที่ข้าเอง” ผมพูดกลับไป
ผมใช้ทักษะ << นัยตาน์ปีศาจของงูตาเดียว>> เพื่อค้นหาจุดอ่อนของโอเกอร์ลอร์ด ผมไม่รู้ว่ามันเป็นเพราะสมบัติทั้งสี่หรือเป็นเพราะ <<จิตวิญญาณผู้ท้าทาย>> ที่เพิ่งเรียนรู้ แต่โอเกอร์ลอร์ดไม่สามารถยกเลิกทักษะของผมได้อีกต่อไป
จุดอ่อนของโอเกอร์ลอร์ดอยู่ที่ฝ่าเท้า
ไม่แปลกเลยที่เราไม่สามารถทำอะไรมันได้
ตอนนี้เรารู้แล้วว่าเราต้องทำให้มันล้มลง แต่มันก็ไม่เรื่องที่ง่ายนัก ขวานของโอเกอร์นั้นมีระยะที่ยาวกว่า
น่าเสียดายที่ผมสูญเสียดาบไป ถ้ายังมีมันอยู่ ผมจะสามารถใช้มันเพื่อปะทะกับขวานเล่มนั้นได้
“ฝ่าเท้าเป็นจุดอ่อนของมัน เราต้องโค่นมันลงแล้วโจมตี เจ้าคิดว่ายังไง? “
“ข้าคิดว่าเราต้องส่งมันกระเด็นออกไปอย่างรวดเร็ว” กิซาร์ยิ้มอย่างไม่เกรงกลัว กับขวานของโอเกอร์ที่แกว่งลง
“ผืนดินจงสะเทือนเพื่อข้า! Grand Slam”
แผ่นดินสั่นสะเทือนโค่นล้มเรา ขณะที่รอยแตกยื่นออกมาจากขวานที่ฟาดลงของโอเกอร์
“ท้องฟ้าจงสั่นสะเทือนเพื่อข้า Ru Grand Slam!”
จากนั้นอากาศก็สั่นสะเทือนและลูกบอลลมก็พุ่งออกมา
“ข้าจะถือว่ามันเป็นความท้าทาย” กิซาร์ยิ้มขณะที่เขายืนขึ้นและร่ายเวทย์ “โอม ผู้สูงส่ง ผู้ได้ยินเสียงเรียกของข้า ข้าแต่เทพเจ้าแห่งสายลม ขอให้ความแข็งแกร่งของท่านสำแดงแก่โลกใบนี้ Castor Lance!”
บทร่ายสุดท้ายนั้นยาวกว่าปกติ แต่เขาก็ร่ายได้เร็วขึ้นเช่นกัน
อีเธอร์จำนวนมากรวมตัวกันที่มือขวาของกิซาร์ กลั่นตัวเป็นหอกสายลม กิซาร์ใช้หอกนั้นปะทะกับลูกบอลลมของโอเกอร์ลอร์ด
พายุไซโคลนปะทุขึ้นเมื่อพลังทั้งสองปะทะกัน และเมฆฝุ่นหมุนวนราวกับก้อนหินขนาดเล็กที่กระเด็นเป็นครั้งคราว เมื่อหรี่ตาลง ผมก็พุ่งเข้าใส่โอเกอร์ลอร์ด
“เจ้าตัวเล็ก!!” โอเกอร์ลอร์ดรู้สึกหงุดหงิดอย่างเห็นได้ชัด
“ตอนนี้ใครบอกเจ้าว่าข้าเสร็จแล้ว” กิซาร์ใช้ลมที่พัดโหมกระหน่ำอีกครั้ง “เคียวสายลม”
สายลมพัดหมุนตามคำสั่งของกิซาร์ไปยังโอเกอร์ลอร์ด กลุ่มฝุ่นฟุ้งกระจายพร้อมเคลื่อนไหวรวมกันเป็นหนึ่งเดียว ผมวิ่งอยู่ใต้การปะทะของพวกเขาโดยที่ทุกคนมองไม่เห็น
เมื่อโอเกอร์ลอร์ดปัดสายลมออก ผมก็ยืนอยู่ที่อกของมัน
อีเธอร์ที่ผมนำมาจากเวริดแล่นผ่านแขนขวาของผม แต่โอเกอร์ลอร์ดที่สังเกตเห็นผมจึงส่งเสียงร้องคำราม กระจายอีเธอร์ที่ผมรวบรวมมา
“กูรูวอาาาาาาาา!”
อย่างที่คิด ระยะเผาขนอยู่ใกล้มันเกินไป ผมไม่สามารถใช้อีเธอร์ของตัวเองได้
ในกรณีนั้น…
– ผมต้องเผาผลาญอีเธอร์จากภายใน!
ผมยังจำคำพูดของกิซาร์ได้ มันไม่มีทางเลือกอื่น ผมต้องเสี่ยงกับมัน
การควบคุมอีเธอร์ภายในร่างกายไม่ใช่เรื่องง่าย …ผมรู้
ตัวอย่างเช่นในการเสริมสร้างความแข็งแกร่งด้วยอีเธอร์ เราจะต้องใส่อีเธอร์เข้าไปในกล้ามเนื้อและควบคุมการไหลอย่างระมัดระวัง
ถ้าผิดพลาดแม้แต่ขั้นเดียว มันจะไม่จบลงที่การร่ายมนตร์ที่ที่ถูกยกเลิก มันจะเป็นเหมือนลูกโป่งที่แตกออกจากแรงดันภายใน ส่วนที่ได้รับผลกระทบจะถูกฉีกออกจากกัน และในกรณีนั้นมันหมายความว่าแขนขวาของผมจะหายไป
ไม่มีทางเลือกอื่น ไม่มีสิ่งใดสามารถเคลื่อนย้ายสิ่งมีชีวิตขนาดใหญ่ตัวนี้ได้ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงผมในตอนนี้ที่ไม่มีดาบ
ดังนั้นผมจึงปล่อยให้อีเธอร์ไหลไปที่แขนขวาอย่างระมัดระวัง ไม่ให้มีอะไรรั่วไหลออกมา ผมต้องทำด้วยความตั้งใจ หากผมลังเลสักครู่ขวานนั้นจะฟาดลงมาที่ผม
“กูว…”
มีอีเธอร์รั่วออกมาเล็กน้อย ผมรู้สึกได้ว่าเส้นเลือดบางเส้นที่อยู่ใต้เนื้อของผมแตกออก แต่ผมกัดฟันสู้และต่อยมันเข้ากับโอเกอร์ลอร์ด
มันให้ความรู้สึกเหมือนต่อยยางรถยนต์ ในขณะที่ร่างกายอันแข็งแกร่งของโอเกอร์ลอร์ดยุบลงไป
“กูว โกรโรวววว!” โอเกอร์ลอร์ดส่งเสียงร้องด้วยความเจ็บปวด
แน่นอนว่านั่นยังไม่เพียงพอที่จะฆ่ามันได้ อย่างมากก็แค่ดันกลับไป
“รับนี่ไปซะ! ” อีกครั้งผมใส่อีเธอร์เข้าไปในกำปั้นขวาและกระแทกมันเข้าไป
การควบคุมอีเธอร์ที่ไม่ดีนักทำให้เลือดพุ่งออกมาจากแขนขวา แต่ตอนนี้โอเกอร์ลอร์ดดิ้นพล่านด้วยความเจ็บปวด
“ไอ้บ้า!”
โอเกอร์ลอร์ดเต็มไปด้วยความโกรธ ขณะที่มันเหวี่ยงขวานลงมาหาผม << จิตวิญญาณผู้ท้าทาย>> แผดเผาด้วยความร้อนแรงทำให้พลังของผมมาถึงขีดจำกัด
ผมถอยไม่ได้ ถ้าผมสะดุดที่นี่โอเกอร์ลอร์ดจะไม่ยอมให้ผมเข้าใกล้มันอีก
ผมเงยหน้าขึ้นมองขวานที่ฟาดลงมา
อีเธอร์พุ่งเข้าใส่หมัดของผม ขณะนี้มันเต็มไปด้วยพลัง
ผมจะต้องรับมันให้ได้!
ในช่วงเวลาเดียวกันนั้น << ผู้ควบคุมแห่งปัญา II>> ก็เปิดใช้งาน เพิ่มทั้งความเสียหายที่ผมทำได้และได้รับ
ผมไม่รู้ว่าการโต้ตอบนี้จะช่วยป้องกันผมได้อย่างไร แต่ถ้าผมไม่ใช้มันตอนนี้ ผมก็จะโดนขวานนั้นบดขยี้
“กูรูวอาาาาาา!”
ขณะที่ผมเปิดใช้งานทักษะและควบคุมอีเธอร์ภายใน ร่างกายของผมกรีดร้องอย่างรุนแรงต่อเส้นเลือดแตกออกทีละเส้น
แต่ในทะเลเลือดนั้นมีเปลวเพลิงสีดำเริ่มคืบคลานเข้ามาใต้ผิวหนังของผม
หนึ่งในผลกระทบของ << จิตวิญญาณผู้ท้าทาย>>
การขโมยพลังจากเทพเจ้าที่เป็นตัวแทน
อีเธอร์ที่ผมขโมยมาจากเวริดพุ่งเข้าสู่ร่างกายของทำให้บาดแผลของผมลุกไหม้ อีเธอร์ในแขนของผมหนาแน่นขึ้นจนเหมือนว่ามันจะระเบิดได้ทุกเมื่อ
เมื่อขวานฟาดลงมา มันก็ปะทะกับหมัดของผม
เสียงของบางสิ่งที่ถูกบดขยี้ดังก้อง
แขนของผมพังลงอีกครั้ง แต่ในการแลกเปลี่ยน โอเกอร์ก็ไม่มีขวานอีกแล้ว
“โกวโรววว!?” โอเกอร์ลอร์ดมองด้วยสายตาที่เบิกกว้าง เขาไม่อยากจะเชื่อสิ่งที่เกิดขึ้นต่อหน้า
แต่ผมไม่ใจดีพอที่จะรอให้มันฟื้นสติ ผมรีบพุ่งไปที่หัวของมัน
“- โกว!?”
ในเวลาเดียวกันกิซาร์ได้ฟาดฟันโอเกอร์ลอร์ดด้วยหอกสายลมอีกครั้ง โอเกอร์ลอร์ดจึงล้มลงและผมก็ฟาดหมัดด้วยอีเธอร์ลงบนฝ่าเท้าเพื่อกำราบมันครั้งแล้วครั้งเล่า
ดูเหมือนมันแข็งแรงมาก แต่ตอนนี้มีเลือดพุ่งออกมาจากปากของมัน
ผมฟาด ฟาด ฟาด ฟาดหมัดของตัวเองไปเรื่อย ๆ โดยไม่ได้หยุดชะงัก ผมโจมตีโดยไม่สนใจร่างกายที่เจ็บปวดและจิตวิญญาณที่บ้าคลั่ง
“อ – ไอ้…สารเลว…”
โอเกอร์ลอร์ดจ้องมองมาที่ผมด้วยแววตาที่ขุ่นมัว แขนขวาของผมใช้ไม่ได้อีกต่อไป แต่มันเป็นราคาที่เล็กน้อย ที่ต้องจ่ายเพื่อชัยชนะ
.และเช่นนั้นโอเกอร์ลอร์ดก็ตายลง
“เราชนะแล้ว” กิซาร์กล่าว
ผมพยักหน้า “ไปรวบรวมพวกเขามา แล้วเราจะไปเคาะประตูนั้นกัน”
กิซาร์พยักหน้าและเขาก็ออกไปตรวจดูก็อบลินทีละตัว
ในขณะเดียวกันผมมองขึ้นไปที่ประตูที่นำไปสู่ลอร์ดแห่งความเสื่อมโทรม
◇◆◇
“แล้วเจ้าจะอธิบายยังไงเกี่ยวกับเรื่องนี้? ” เทพธิดาแห่งนรกจ้องมองอย่างเย็นเยียบ
“ดูเหมือนว่าเด็กปีศาจแห่งความโกลาหลจะชนะแล้ว” งูตาเดียวพูด ขณะที่เขามองผ่านกระจกวิเศษ
“ข้าไม่ได้สั่งให้เจ้าหยุดช่วยเขา?” เทพธิดาถาม
“มาสเตอร์ ท่านก็รู้จักข้าดี ข้าเป็นผู้รับใช้ที่ซื่อสัตย์ของท่าน ข้าไม่ได้ขัดต่อคำพูดของท่านหรือพยายามที่จะแอบทำเรื่องนี้” เวริดส่ายหัว
“อืม…ถ้าเป็นเช่นนั้นก็ดี”
ก็อบลินได้รับชัยชนะ ความสดใสของจิตวิญญาณได้กลับคืนมาและก็ได้รับชัยชนะในที่สุด
มันเป็นผลลัพธ์ที่เธอต้องการในตอนแรก แต่ด้วยเหตุผลบางอย่างเทพธิดายังคงมีปัญหา
“เขาได้ไปเท่าไหร่?”
“หนึ่งส่วนขอรับ มาสเตอร์”
หนึ่งในสิบ เพียงหนึ่งในสิบส่วน แต่นั่นเป็นหนึ่งในสิบส่วนของงูหนึ่งในสี่ตัวที่เคยท้าทายโลกมนุษย์ พลังที่อยู่เบื้องหน้านั้น ต่อให้มีเพียงหนึ่งส่วนก็ไม่ใช่อะไรที่จะเย้ยหยันได้
“…น่าสนใจ” รอยยิ้มที่น่าหลงใหลปรากฏขึ้นบนริมฝีปากของเทพธิดาแห่งนรก “ข้าปฏิบัติกับเขาราวกับสัตว์เลี้ยงมาโดยตลอด แต่…ข้าเปลี่ยนใจแล้ว ข้าจะเฝ้าดูเขาอย่างจริงจัง”
“ตามที่ท่านสั่ง”
ตามคำสั่งของเทพธิดา งูตัวนั้นก็ครุ่นคิด
ตอนนี้ก็อบลินไม่สามารถควบคุมพลังนั้น แต่เขาจะทำมันได้ในอนาคต มิฉะนั้นไม่มีทางเขาจะได้รับพลังนั้นตั้งแต่แรก
เวริดจะสนับสนุน ตราบเท่าที่เจ้านายของเขาสั่ง ดังนั้นจึงเป็นเรื่องที่น่าหนักใจหากเขาทำไม่ได้ตามความคาดหวัง
“จงแข็งแกร่งขึ้น …น้องชาย” เวริดพึมพำ
◇◆◇◆
เลเวลเพิ่มขึ้น
72 → 89
◇◆◇◆
หมายเหตุผู้แต่ง:
ภารกิจสำเร็จ! แต่เป็นเทพธิดาแห่งนรกที่สุ่มมอบพรของเธอให้แก่โอเกอร์ลอร์ด
อย่างไรก็ตาม เช่นนี้เส้นทางสู่ลอร์ดแห่งความเสื่อมโทรมได้ถูกเปิดออกแล้ว
เทพธิดาที่ซุกซน งูแดงและมนุษย์กลุ่มหนึ่ง…ดูเหมือนการกลับมาของราชาจะมาถึงจุดสุดยอดในไม่ช้า
ค่าสถานะ
[เผ่าพันธุ์] โอเกอร์
[เลเวล] 70
[คลาส] ลอร์ด,หัวหน้ากลุ่ม
[ทักษะ] <<เสียงคำรามแห่งความหวาดกลัว>> <<ผู้หาประโยชน์>> <<การควบคุมเวทมนตร์>> <<ผิวเหล็ก>> <<การคุ้มครองจากเทพธิดาแห่งนรก>> << เทียมเท่านักรบนับพัน >> <<ความชำนาญการใช้ขวาน A+ >>
[การคุ้มครองจากพระเจ้า] เทพธิดาแห่งนรก
[แอตทริบิวต์] ความมืด
◇◆◇◆◇◆◇◆