[เผ่าพันธุ์] ก็อบลิน
[เลเวล] 10
[คลาส] ลอร์ด , หัวหน้ากลุ่ม
[ทักษะ] <<Ruler of the Horde>> <<ปฏิปักษ์>> <<คำรามอย่างรุนแรง>> <<ความชำนาญการใช้ดาบ B – >> <<ความละโมบที่ไม่สิ้นสุด>> <<การจ้องมองจากปีศาจ>> <<จิตวิญญาณของราชัน>> <<ผู้ควบคุมแห่งปัญญา>> <<ดวงตามรกตของงู>> <<การเต้นรำแห่งความตาย>> <<ดวงตาของงูสีชาด>> <<การจัดการเวทมนตร์>> <<นักรบคลั่ง>> <<Third Impact>> <<สัญชาตญาณ>> <<ผู้ควบคุมแห่งปัญญา II>>
[การคุ้มครองจากพระเจ้า] เทพธิดาแห่งนรก อัลทีเซีย
[แอตทริบิวต์] ความมืด, ความตาย
[สัตว์ใต้บังคับบัญชา] โคโบลชั้นสูง (เลเวล 1) กัสต้า (เลเวล 20) ซินเธีย (เลเวล 20) บุย (เลเวล 36)
◇◆◇
หลังจากปิดผนึกการเคลื่อนไหวเผ่าพาราดัวแล้ว กองทัพทั้งหมดก็เดินทางไปอย่างมั่นใจ ผู้นำทางคือหัวหน้าเผ่าพาราดัวที่ได้รับการแต่งตั้งใหม่ ฮัล
เขาเก็บความลังเลฝังไว้ในก้นบึ้งของหัวใจ ขณะนำฝูง เขาเลือกเส้นทางที่สั้นและง่ายที่สุดในเขาทำหน้าที่ของตัวเองได้ดี
แม้ผมจะให้เวลาก็อบลินเผ่าพาราดัวสองอีกหนึ่งวันสำหรับการพักผ่อน แต่เราก็มาถึงหมู่บ้านเผ่าพาราดัวในเวลาไม่นาน
เมื่อมองจากระยะไกล จะเห็นเผ่าเกิร์ดการ์มารวมตัวกันที่ใจกลางหมู่บ้าน ในบรรดาฝูงชนกลุ่มนั้น มีก็อบลินตัวหนึ่งที่โดดเด่นซึ่งน่าจะเป็นหัวหน้าของพวกเขา
แม้จำนวนของพวกเขาจะลดน้อยลงมาก แต่นี่ไม่ใช่สิ่งที่จะเบาใจได้
นอกจากนี้ผมยังไม่ต้องการลดจำนวนก็อบลินลงอีกแล้ว
“ท่านจะเรียกร้องให้พวกเขายอมจำนนหรือ?” กิลมิไม่แน่ใจว่าเขาได้ยินถูกไหม แต่นั่นเป็นเพียงการความคาดหวัง เราได้โจมตีหมู่บ้านของพวกเขาไปแล้ว ไม่มีทางที่พวกเขาจะให้อภัยเราง่าย ๆ
เมื่อได้ยินแบบนั้น แม้แต่กิลมิที่ปกติจะสงบนิ่ง ก็อดไม่ได้ที่จะสงสัยในการตัดสินใจของผม ปฏิกิริยาของก็อบลินเผ่ากันระตัวอื่น ๆ ก็เช่นกัน
“ใช่ ถ้าเป็นไปได้ ข้าไม่ต้องการให้มีผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก” ผมกล่าว แต่ต่างจากปกติที่กิลมิจะไม่เห็นด้วยในทันที เขาดูหนักใจอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะพยักหน้า
“หากเป็นความต้องการของท่าน มันคงช่วยไม่ได้” กิลมิเห็นด้วยอย่างไม่เต็มใจ “แต่ถ้าการต่อสู้เกิดขึ้น -!”
การตอบสนองอย่างเร่งรีบของกิลมิ แสดงให้เห็นว่าความโกรธเกรี้ยวของเขารุนแรงเพียงใด
“ข้าจะเอาชนะรัสกาเป็นการส่วนตัว แต่ถ้ามีปัญหาหลังจากนั้น…”
“ข้าเข้าใจแล้ว”
ด้วยเหตุนี้เขาจึงถอนตัวไปอย่างเงียบๆ เพื่ออธิบายให้ก็อบลินเผ่ากันระคนอื่น ๆ ฟัง
◇◆◇
ผมมีช่วงเวลาที่ยากลำบากในการตัดสินใจว่าจะให้ใครไปเป็นผู้ส่งสาร แต่อลูฮาลิฮาลจากเผ่าพาราดัวก็ขออาสาเป็นการส่วนตัว ผมเดาจากมุมมองของเขา เขาคงต้องการออกหน้าให้เร็วที่สุด หากเขาได้รับความสำเร็จบางอย่าง ตำแหน่งและเผ่าของเขาจะปลอดภัยมากขึ้น
แต่มีอีกเหตุผลหนึ่งที่ควรจะส่งเขาไป
ชนเผ่าทั้งสี่มีความหยิ่งผยองในตัวเอง พวกเขาดูถูกก็อบลินภายนอกและมีแนวโน้มที่จะทำสิ่งต่าง ๆ ด้วยตัวเองมากกว่า แม้แต่เจ้าหญิงนาร์ซาของเผ่ากันระก็คล้ายคลึงกัน นอกจากนี้ดูเหมือนเขาปรารถนาที่จะเสียสละเพื่อเผ่าเป็นการส่วนตัว
“ได้ ข้าจะฝากเรื่องนี้ไว้กับเจ้า”
ถ้าได้หัวหน้าเผ่าที่เก่าแก่ที่สุดเป็นคนส่งข้อความ การเคลื่อนไหวนี้จะทำให้พวกเขาสั่นคลอน เมื่อผู้ที่พวกเขามองมาตลอดว่ามีอำนาจเหนือกว่ากลายเป็นผู้ส่งสารของศัตรู พวกเขาจะตอบสนองอย่างไร? หรือพวกเขาจะสั่นไปด้วยความหวาดกลัวและจินตนาการว่า ‘ศัตรูจะแข็งแกร่งแค่ไหนกัน?’
…ตามปกติแล้วผมหวังให้มันจะเป็นอย่างหลัง
ความสามารถในการโจมตีระยะไกลของเผ่ากันระ และความสามารถในการเคลื่อนที่ผ่านสนามรบอย่างว่องไวของเผ่าพาราดัว ทั้งสองอย่างนี้ตกอยู่ในมือของผมแล้ว หากเผ่าเกิร์ดการ์ตัดสินใจที่จะต่อสู้ ผมมีกำลังมากพอที่จะปะทะกับพวกเขา
“ข้ายินดี”
อลูฮาลิฮาลได้ปีนสัตว์อสูรของเขาจิโร่ และออกเดินทางไปยังหมู่บ้านอย่างกล้าหาญ ในกรณีที่เลวร้ายที่สุด รัสกาอาจจับเขาไปเป็นตัวประกันหรืออาจจะฆ่าเขาก็ได้ แต่ทั้งสองกรณีนี้สามารถใช้ประโยชน์เพื่อรวมกลุ่ม
ศัตรูที่เข้าใจง่ายจะทำให้เรารวมตัวกัน ช่องว่างเล็ก ๆ ที่มีอยู่ระหว่างเผ่าพาราดัว เผ่ากันระและตัวผมจะสร้างขึ้นด้วยการเสียสละของอลูฮาลิฮาล
ตัวเขาเองก็เข้าใจเช่นกัน
อาจกล่าวได้ว่า อดีตหัวหน้าคนนี้บอกให้ผมรวมฝูงผ่านการเสียสละของเขา
ไม่ว่าจะประสบความสำเร็จหรือล้มเหลว ผลที่ตามมาก็ไม่เป็นอันตรายต่อผม
ผมทั้งเข้าใจและก็ไม่เข้าใจ … ทั้งหมดนี้เป็นเพราะความไร้เดียงสาของผม
“ช่างเป็นความคิดที่น่ารังเกียจ” ผมถอนหายใจออกมาและปรับอารมณ์ของตัวเอง
อลูฮาลิฮาลถามและผมก็แค่อนุญาต แม้เขาจะคุยกับผมเพียงเล็กน้อย
“กิกูว ฮัล กิลมิ กิซาร์และกิโก เตรียมตัวให้พร้อม การต่อสู้จะเริ่มขึ้นในไม่ช้า”
ผมสั่งผู้ใต้บังคับบัญชาของตัวเอง ขณะเฝ้าดูการต่อสู้ของอลูฮาลิฮาลอย่างอดทน
◆◇◆
“มาสเตอร์อลูฮาลิฮาลกลับมาแล้ว”
ก็อบลินเผ่าเกิร์ดการ์มารายงานต่อรัสกา ผู้นำของพวกเขา
“ให้ข้าออกไปพบเขาเอง”
ขณะที่รัสกาลุกขึ้นยืนและสั่งให้ก็อบลินที่มาส่งข้อความจากไป เมื่อรัสกายืนยันว่าเป็นอลูฮาลิฮาล คิ้วของเขาก็ขมวดขึ้น
“…มาแค่คนเดียว”
“หรือเผ่าพาราดัวพ่ายแพ้ไปแล้ว? เป็นไปไม่ได้ ..”
ก็อบลินที่อยู่รอบ ๆ พูดถึงความกลัวของพวกเขา แต่เพียงแวบเดียว พวกเขาก็เงียบลงโดยรัสกา
“ข้าขอประกาศต่อรัสกา หัวหน้าเผ่าเกิร์ดการ์”
เมื่อหยุดลงครึ่งทาง อลูฮาลิฮาลก็พูดด้วยเสียงที่ดัง จนใครหลายคนสงสัยว่าเขากำลังทำอะไร
“วางอาวุธของเจ้าลงและคุกเข่าต่อหน้าราชา! ถ้าไม่เช่นนั้นจะเกิดการทำลายล้างขึ้นกับเผ่าของเจ้า!!”
“เผ่าพาราดัวยอมจำนนต่อศัตรูไปแล้วเหรอ?”
“มาสเตอร์รัสกา …”
ก็อบลินหนุ่มคนนั้นกำลังจะพูดว่า ‘ไปฆ่าเขาเถอะ’ แต่เมื่อเขาเห็นการจ้องมองของรัสกา เขาก็พบว่าตัวเองไม่สามารถเปิดปากได้ นอกจากนี้ยังมีก็อบลินตัวอื่น ๆ ที่บ้าคลั่งด้วยความโกรธ แต่ก็มีหลายคนที่สูญเสียความตั้งใจที่จะต่อสู้ ผู้ที่อยู่รอบ ๆ รัสกาไม่ใช่ข้อยกเว้น เพียงแค่พวกเขาตกใจมากเกินไปและอดไม่ได้ที่จะมองไปที่อลูฮาลิฮาลอย่างว่างเปล่า
“การทำลายล้าง …”
เมื่อรัสกาเห็นจำนวนก็อบลินที่หวาดกลัว ความโกรธก็ปะทุขึ้น
อลูฮาลิฮาลรู้แผนนี้อยู่แล้วตั้งแต่พวกเขาก่อตั้งพันธมิตร พวกเขาจะรวบรวมพลังของทั้งสี่เผ่าเพื่อพิชิตป้อมปราการแห่งนรก
หากพวกเขาไม่ทำเช่นนั้น ทั้งสี่เผ่าก็จะไม่มีอนาคตเหลืออยู่ หรืออย่างน้อยที่สุดพวกเขาก็ไม่สามารถเผชิญหน้ากับบรรพบุรุษได้
เขารู้แผนแล้วยัง…ทำไม? รัสกากำลังสูญเสียเหตุผล แต่แล้วเขาก็จำลักษณะการพูดที่ไม่ใส่ใจของอลูฮาลิฮาล ด้วยเหตุนี้เขาจึงตระหนักได้
—- ก็อบลินจากตะวันออกผู้ที่ช่วยเผ่ากันระ ก็อบลินที่มีผิวสีเทา เขาสามเขาและหาง
สำหรับอลูฮาลิฮาลที่จะทำอะไรแบบนี้ บางสิ่งบางอย่างจะต้องมีอิทธิพลต่อเขาอย่างมาก ถ้าเป็นเช่นนั้น …
“ก็อบลิน…จากทางตะวันออก”
เขาคิดว่าเป็นไปไม่ได้ บัลลังก์ที่เขาใฝ่ฝัน การดำรงอยู่ในตำนานที่เขาสิ้นหวัง ราชาที่จะช่วยเหลือเหล่าก็อบลิน
“…ทำไมต้องเป็นตอนนี้? …”
เป็นเพราะเขาสิ้นหวังในราชา เขาจึงสร้างพันธมิตรกับเผ่าพาราดัวและพยายามที่จะยึดครองเผ่ากันระอย่างแท้จริง
“คำตอบของเจ้าคืออะไร!? “
มีหอกในมือรัสกาเท่านั้นที่เดินไปข้างหน้า
“อลูฮาลิฮาลผู้ไร้ยางอาย เราจะไม่อยู่ข้างคนขี้ขลาดที่สูญเสียความภาคภูมิใจ! จงจากไป! ส่งข้อความหาเจ้านายของเจ้า ว่าเราจะไม่ยอมจำนน!”
รัสกาขว้างหอกด้วยความโกรธขึ้นไปในอากาศ ก่อนที่มันจะแทงทะลุพื้นดินข้างหน้าอลูฮาลิฮาล
“เจ้าจะไม่เสียใจแน่เหรอ?”
“สิ่งที่ข้าเสียใจมีเพียง การที่ได้เป็นพันธมิตรกับคนขี้ขลาดเช่นเจ้า!”
รัสกาสบถ แต่อลูฮาลิฮาลกลับเพิกเฉยและหันไปรอบ ๆ จากนั้นเขาก็พยักหน้าเบา ๆ
แล้วอลูฮาลิฮาลก็ยกหอกขึ้น
ในขณะนั้นเองที่มีเสียงตะโกนดังก้องไปทั่วป่า ผืนดินและต้นไม้ก็สั่นสะเทือน ก็อบลินเผ่าเกิร์ดการ์ต่างตื่นตระหนก ขณะที่มีก็อบลินวิ่งมาจากรอบทิศทาง
แม้รัสกาจะรู้ว่าพวกเขาพ่ายแพ้ต่อสงครามทางจิตวิทยา แต่เขาก็ยังคงรวบรวมคนไว้ด้วยกัน
“เจ้ามันเลว อลูฮาลิฮาล!”
เขาจ้องมองไปที่ด้านหลังของอลูฮาลิฮาลอย่างเกลียดชัง แต่เมื่อเขาทำเช่นนั้น …
“หัวหน้าเผ่าเกิร์ดการ์!”
เพียงแต่เขาไม่ได้กำลังมองไปที่อลูฮาลิฮาล
ก็อบลินผิวสีเทาผู้มีเขาสามเขา หางอันพลิ้วไหว แผงคอสีดำที่กระพือไปตามสายลมและดาบขนาดใหญ่พาดอยู่บนไหล่ ออร่าอันน่ากลัวที่ซึมออกมา หลังจากที่เขาพูด
“…”
เมื่อมาถึงจุดนี้รัสกาสามารถฟื้นสติจากความโกรธของตัวเองได้ เขาได้ชื่อว่าเป็นคนที่แข็งแกร่งที่สุดในสี่เผ่า ไม่เพียงแต่มีความแข็งแกร่งในการต่อสู้เท่านั้น เขายังมีจิตใจและเจตจำนงที่แน่วแน่
ก็อบลินที่อยู่ต่อหน้าเขา น่าจะเป็นก็อบลินคนเดียวกับที่อ้างว่าตัวเองเป็นราชาของหมู่บ้านทางตะวันออก แม้รัสกาจะผ่านการต่อสู้มานับครั้งไม่ถ้วน แต่เมื่อเขาเห็นร่างตรงหน้า เขาก็อดไม่ได้ที่จะจ้องมองด้วยความประหลาดใจ
เขาพูดไม่ออก …เมื่อไม่นานมานี้เขารู้สึกโกรธแค้นต่อการทรยศของอลูฮาลิฮาล แต่ตอนนี้เขาเข้าใจแล้วว่าก็อบลินตัวนี้มีเสน่ห์บางอย่างกับเขา เสน่ห์ที่ไม่อาจละสายตา
“หัวหน้าเผ่าเกิร์ดการ์!”
เสียงที่สั่นสะเทือนบรรยากาศช่างงดงามอะไรเช่นนี้!
“ข้าอยู่นี่! “
เขาต้องตอบสนอง ขณะที่อารมณ์ที่ปั่นป่วนภายในและเขาพยายามจะควบคุมมัน
“เจ้ากล้าประลองกับข้าหรือไม่!?”
ดาบที่ปกคลุมไปด้วยเปลวเพลิงสีดำอันมืดมิดค่อย ๆ ชี้มาที่เขา ขณะนั้นทุกอย่างหายไป ไม่ว่าจะเป็นเหตุผลของชนเผ่าหรือป้อมปราการแห่งนรก
มันถูกแทนที่ด้วยความปรารถนา เพื่อเรียกร้องชัยชนะที่เหนือต่อก็อบลินตรงหน้า
“รัสกาบุตรแห่งมิชกา รับคำท้าของเจ้า!”
เขาแยกเขี้ยวคำราม
เขาจะพิสูจน์ความแข็งแกร่งของตัวเองต่อผู้ยิ่งใหญ่ที่ยืนอยู่ตรงหน้า
◆◇◇◆◆◇◇◆
อ่านนิยายล่วงหน้าได้ในกลุ่ม ที่เพจ Koel-Translate นิยายแปล (ตอนนี้แปลถึงตอน 400 กว่าแล้วนะครับ)
https://www.facebook.com/pg/Koel-Translate-%E0%B8%99%E0%B8%B4%E0%B8%A2%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B9%81%E0%B8%9B%E0%B8%A5-111530443746222/posts/