Goblin Kingdom 62

ตอนที่ 62

[เผ่าพันธุ์] ก็อบลิน

[เลเวล] 10

[คลาส] ลอร์ด , หัวหน้ากลุ่ม

[ทักษะ] <<Ruler of the Horde>> <<ปฏิปักษ์>> <<คำรามอย่างรุนแรง>> <<ความชำนาญการใช้ดาบ B – >> <<ความละโมบที่ไม่สิ้นสุด>> <<การจ้องมองจากปีศาจ>> <<จิตวิญญาณของราชัน>> <<ผู้ควบคุมแห่งปัญญา>> <<ดวงตามรกตของงู>> <<การเต้นรำแห่งความตาย>> <<ดวงตาของงูสีชาด>> <<การจัดการเวทมนตร์>> <<นักรบคลั่ง>> <<Third Impact>> <<สัญชาตญาณ>> <<ผู้ควบคุมแห่งปัญญา II>>

[การคุ้มครองจากพระเจ้า] เทพธิดาแห่งนรก อัลทีเซีย

[แอตทริบิวต์] ความมืด, ความตาย

[สัตว์ใต้บังคับบัญชา] โคโบลชั้นสูง (เลเวล 1) กัสต้า (เลเวล 20) ซินเธีย (เลเวล 20) บุย (เลเวล 36)

◇◆◇

[ก็อบลิน] กิก้า

ก็อบลินที่อาศัยอยู่ผู้นำคนก่อนพ่ายแพ้ให้กับออร์ค แต่ปัจจุบันเขาเป็นก็อบลินที่แข็งแกร่งที่สุดในบรรดาผู้ใต้บังคับบัญชาของผม เขาเป็นผู้ใช้หอก

[ก็อบลิน] กิกูว

อดีตผู้นำหมู่บ้าน เขาถูกกดดันเพื่อสละตำแหน่งให้กับผม เขาใช้ดาบยาวและค่อนข้างฉลาดถ้าเทียบกับก็อบลินแรร์ทั่วไป

[ก็อบลิน] กิกิ

เป็นที่รู้จักในฐานะผู้ฝึกสัตว์ เขาเลื่อนคลาสในหลังจากการล่ากวางเอเรล เป็นความสามารถที่ค่อนข้างหายากและเขาชอบที่จะใช้ขวาน

[ก็อบลิน] กิโก

ก็อบลินที่มีบาดแผลมากมายทั่วร่าง อาหารส่วนใหญ่มักถูกขโมยโดยเกรย์วูฟ ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจที่จะติดตามผม เขาเป็นคนที่มีประสบการณ์มากที่สุดในหมู่พวกก็อบลินแรร์

[ก็อบลิน] กิซาร์

ดรูอิด (ก็อบลินแรร์) ผู้ใช้เวทย์ลม ที่เพิ่งเข้ากลุ่มมา

[ก็อบลิน] กิจิ

ก็อบลินแรร์ที่เลื่อนคลาส (ตอนที่ 37) จากการออกล่ากับกลุ่มของกิก้า

[ก็อบลิน] กิโด

ดรูอิดผู้ใช้เวทย์ลม

[ก็อบลิน] กิจี

ก็อบลินแรร์จากกลุ่มของกิกูว เขามีทักษะ <<ดวงตาที่เปิดกว้าง>> ซึ่งทำให้เขาสามารถเห็นจุดอ่อนของคู่ต่อสู้

[ก็อบลิน] กิด้า

ก็ก็อบลินแรร์จากกลุ่มของกิก้า เขามีทักษะที่โดดเด่นอย่าง <<ความรู้เกี่ยวกับหอก>> และ <<ดื้อรั้นอย่างไม่มีเหตุผล>>

[ก็อบลิน] กิซู

ก็อบลินแรร์ผู้ถูกเทพเจ้าผู้บ้าคลั่ง (ซู โอรุ) คุ้มครอง มีทักษะ <<หมาบ้า>>

◇◆◇

ผมถอนหายใจอย่างโล่งอกเมื่อเห็นอลูฮาลิฮาลพยักหน้า

พูดตามตรงแล้ว การเสียสละในการต่อสู้ครั้งนี้มีมากเกินไป เผ่ากันระที่เพิ่งกลับมาเสียชีวิตไปแล้วส่วนหนึ่ง ถึงแม้ผมจะวางวงล้อมรอบโดยมีกิกูวและกิโกจากด้านข้าง แต่จริง ๆ แล้วการล้อมระดับนี้ไม่ใช่อะไรมากไปกว่ากระดาษแผ่นบาง ๆ

“หยุดการต่อสู้! ชนเผ่าพาราดัวยอมแพ้แล้ว! นี่คือชัยชนะของพวกเรา!”

เมื่อประกาศถึงชัยชนะ ขวัญกำลังใจของศัตรูก็ลดลง

ในขณะที่ลูกน้องของผมส่งเสียงเชียร์ ก็อบลินเผ่าพาราดัวก็ดูเคร่งเครียด เรารวบรวมก็อบลินที่พ่ายแพ้มาไว้ในพื้นที่เดียว แล้วผมก็ให้ลูกน้องคอยตรวจสอบพวกเขา

“เจ้าทำได้ดีมากกิลมิ”

“แต่มีผู้เสียชีวิตมากเกินไป”

ขณะที่กิลมิก้มหัวลง ผมก็บอกเขา

“แต่ไม่มีใครสามารถทำให้เผ่าพาราดัวยอมจำนนได้เหมือนเจ้า ดังนั้นเจ้าทำได้ดีมาก”

พูดตามตรงผมยังสงสัยอยู่ครึ่งหนึ่งว่ากิลมิจะมีชีวิตรอดกลับมาหรือไม่ ดังนั้นผมจึงสั่งให้กิจิซ่อนตัวอยู่ในเส้นทางหลบหนี เพื่อช่วยเมื่อกิลมิและคนอื่น ๆ

แต่สองในสามของก็อบลินเผ่ากันระ สามารถเอาชีวิตรอดมาได้ แม้จะเหลือก็อบลินเพียง 10 ตัวก็ตาม

“เราจะกล่าวถึงรางวัลในภายหลัง เจ้าควรจะคิดถึงส่วนนั้นให้ดี”

การให้รางวัลแก่ผู้ประสบความสำเร็จอย่างเหมาะสม ถ้ากล่าวว่าจนถึงตอนนี้ หากเทียบกับผลลัพธ์แล้ว ไม่มีใครเทียบกับเขาได้ ยิ่งถ้าเขาสามารถแสดงความแข็งแกร่งในฐานะผู้ติดตามของผมต่อจากนี้ไป ผมจะให้รางวัลที่ดีมากขึ้นแก่เขา

“ส่วนตอนนี้ อลูฮาลิฮาลจากเผ่าพาราดัว”

กิโกถือดาบโค้งของเขา ในขณะที่กิกูวมาพร้อมกับขวาน ยืนอยู่ล้อมรอบก็อบลินเผ่าพาราดัวที่ถูกจับ

“ข้าจะมอบชีวิตใหม่ให้ ในการแลกเปลี่ยน พวกเจ้าจงกลายมาเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาของข้าซะ”

ขณะที่อลูฮาลิฮาลนั่งอยู่กับพื้น เขามีการแสดงออกราวกับว่าเขาจะยอมรับทุกอย่าง

“อืม ดีมาก” หลังจากคิดเล็กน้อยผมก็พยักหน้า

“ไปช่วยคนที่บาดเจ็บ” กิลมิพูดกับก็อบลินเผ่ากันระคนหนึ่ง

เมื่อได้ยินเช่นนั้น อลูฮาลิฮาลและผู้ช่วยก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก

ก็อบลินเผ่ากันระใช้น้ำสมุนไพรบางชนิดทากับบาดแผล พวกเขามอบสิ่งนั้นให้แก่ก็อบลินเผ่าพาราดัว หลังจากถูมันลงบนบาดแผล พวกเขาก็ใช้ใบไม้ปิดมัน

ผมที่พึ่งพาความสามารถในการรักษาของเรเชียมาโดยตลอด แน่นอนว่าการได้เห็นก็อบลินใช้ยารักษาทำให้ผมตกใจ ผมไม่ได้จะปล่อยสิ่งนี้ไปง่าย ๆ แต่ตอนนี้ผมทำเพียงแค่มองไปที่มันเท่านั้น

หากผลของยาเหล่านั้นดูดี มูลค่าของชนเผ่ากันระก็จะเพิ่มขึ้น

“ขอบคุณมาก …ตอนนี้ฆ่าข้าซะ”

อลูฮาลิฮาลซึ่งนั่งไขว่ห้างอยู่บนพื้นจ้องมองมาที่ผมอย่างดุดัน แม้มันจะดูค่อนข้างหยาบคาย แต่ในการตอบสนองมุมปากของผมก็บิดยิ้ม

“แค่ฆ่าธรรมดา มันน่าเบื่อไม่ใช่เหรอ? ”

เมื่อผมพูดอย่างนั้น คนที่ต้องตกใจไม่ใช่อลูฮาลิฮาล แต่กลับเป็นผู้ช่วยของเขาที่อยู่ข้างหลัง ดวงตาของพวกเขามองไปมาระหว่างผมและอลูฮาลิฮาล

“ข้าไม่รังเกียจ” ราวกับตอบสนองต่อการยั่วยุ มุมปากของอลูฮาลิฮาลก็ยิ้มขึ้นเช่นกัน “ข้า! อลูฮาลิฮาลจากชนเผ่าพาราดัวไม่ใช่คนขี้ขลาด ข้าจะแสดงให้เห็นว่า ข้าสามารถอดทนต่อความตายทุกรูปแบบที่เจ้าต้องการ”

เขาไม่ทำให้ผมผิดหวังจริง ๆ

ในทางกลับกันก็อบลินที่อยู่เบื้องหลังอลูฮาลิฮาลก็ส่งเสียงดังขึ้น ก็อบลินเผ่ากันระที่อยู่ด้านหลังผมก็เช่นกัน ในฐานะหัวหน้าเผ่าที่เก่าแก่มากที่สุด ความตั้งใจของเขานั้นเพียงพอที่จะทำให้ศัตรูชื่นชม

“แล้วข้าจะสู้กับเผ่าเกิร์ดการ์ได้ยังไง?”

“…เจ้าบ้าไปแล้วเหรอ? ”

อลูฮาลิฮาลตอบคำถามของผมกลับด้วยคำถาม ผมสังเกตอลูฮาลิฮาลอย่างระมัดระวัง ดูเหมือนเขาจะสับสนว่านี่เป็นส่วนหนึ่งในแผนการ แต่ผมไม่ได้ตั้งใจจะบอกเขาไปอย่างนั้น

“ไม่มีอะไรที่ข้าสามารถทำได้ ถ้าเจ้าไม่ยินยอม เจ้าสามารถนั่งดูว่าใครกันแน่ที่เป็นผู้ชนะในการต่อสู้” ผมพูดออกไปดัง ๆ โดยไม่สนใจก็อบลินเผ่าพาราดัวที่ฟังอยู่

“ไปปล่อยพวกก็อบลินเผ่าพาราดัว!” ผมสั่ง

ก็อบลินเผ่าพาราดัวและเผ่ากันระต่างสับสน มันเป็นเรื่องธรรมชาติ เพราะศัตรูที่พวกเขาต่อสู้ด้วยเมื่อไม่นานมานี้ จู่ ๆ ก็ได้รับการปล่อยตัว

“เจ้าจะไว้ชีวิตพวกเราจริง ๆ เหรอ?” อลูฮาลิฮาลถาม

“ข้าไม่มีความตั้งใจที่จะสู้กับเจ้าจนถึงจุดจบอันน่าขมขื่น ตอนนี้เป้าหมายของข้าคือการปกป้องเผ่ากันระ เช่นเดียวกับเจ้าและคนของเจ้าเอง”

จากนั้นขณะที่ก็อบลินเผ่าพาราดัวและเผ่ากันระตกตะลึง ผมก็พูดออกมาดัง ๆ

“เป้าหมายของข้าคือการกลายเป็นราชา ราชาที่จะนำพาพวกเจ้าไปสร้างอาณาจักร”

“เป็นไปไม่ได้…”

“เจ้าคิดอย่างนั้นจริง ๆ เหรอ? เจ้าคิดว่าข้าเป็นคนโง่ที่ไม่รู้จักที่อยู่ของตัวเอง?”

ผมจำเป็นต้องเกลี้ยกล่อมว่าผมเป็นราชาเพียงคนเดียว

ผมมองลงไปที่อลูฮาลิฮาล และเขาก็กำลังมองกลับมาที่ผม

“…แล้วเจ้าจะทำอะไรต่อไป?”

“ข้าจะปกครองทุกสิ่ง มนุษย์ มังกร สัตว์อสูรและเอลฟ์! ข้าจะยึดครองแผ่นดินทั้งหมดจนกว่าโลกจะถึงจุดจบ! ท่องไปในมหาสมุทรและแม้กระทั่งสวรรค์! ข้าจะพิชิตแม้กระทั่งโลกใต้พิภพที่พวกยักษ์หลับใหล!”

“อย่างนั้นคือ…”

“ข้าทำได้! มารวมตัวกันภายใต้ข้า ชนเผ่าพาราดัวที่ภาคภูมิใจ!”

ผมจะสลักชื่อของตัวเองไว้บนโลกใบนี้ เพื่อความทะเยอทะยานนั้นทุกสิ่งจะถูกเสียสละ ผมจะเดินบนเส้นทางแห่งการพิชิตและปกครอง – นั่นคือเหตุผลว่าทำไมผมถึงมาโลกใบนี้

เมื่ออลูฮาลิฮาลได้ยินคำพูดของผม เขาก็มองลงไปที่พื้นและก้มหน้า

“ข้าแก่แล้ว” เขาถอนหายใจลึก ๆ ด้วยคำพูดเหล่านั้นทำให้ก็อบลินเผ่าพาราดัวฟื้นสติจากคำพูดของผม

“ถ้าข้าเด็กกว่านี้…แม้เพียง 10 ปี ข้าก็ตามเจ้าไปในเส้นทางแห่งการปกครอง”

มันไม่ได้ผลเหรอ? แต่ก็ไม่เป็นไร แม้มันจะใช้เวลามากขึ้น แต่มันไม่ได้หมายความว่าผมไม่มีวิธีการอื่น

ในขณะที่ทุกคนจดจ่อ อลูฮาลิฮาลก็พูดต่อ

“ราชาแห่งตะวันออก ข้าจะถอดตำแหน่งและปล่อยคนของข้าให้อยู่ในความดูแลของเจ้า”

หลังจากเขาก้มหัวลง เขาก็หันไปหาชนเผ่าของเขา

“ชนเผ่าพาราดัวที่ข้าภูมิใจ พี่น้องของข้า ในวันนี้…ข้าจะก้าวลงจากตำแหน่งหัวหน้าของพวกเจ้า”

ชนเผ่าพาราดัวส่งเสียงดังเมื่อพวกเขาได้ยิน

“ผู้สืบทอดของข้าคือ ฮัล นับจากวันนี้เป็นต้นไป เจ้าจะกลายเป็นเสาหลักของเผ่าพาราดัว หากพวกเจ้ามีอะไรไม่พอใจ พวกเจ้าสามารถโต้แย้งข้าได้”

แรงกดดันที่เขาแบกรับมาถึงตอนนี้ เขาเป็นเหมือนชายชราที่เหนื่อยล้ากับคำพูดของตัวเอง

…ก็อบลินเผ่าพาราดัวทุกคนตั้งใจฟังโดยไม่ส่งเสียงอะไรออกมา

หลังจากเวลาผ่านไป อลูฮาลิฮาลก็มองไปยังพี่น้องที่เขาต่อสู้ด้วยกันอีกครั้ง

“พวกเจ้าไม่รังเกียจใช่ไหม?”

อลูฮาลิฮาลมองไปรอบ ๆ อีกครั้งเพื่อตรวจสอบ หลังจากนั้นเขาก็หันมาหาผมและพูดว่า

“ราชาแห่งตะวันออก ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ชนเผ่าพาราดัวจะยกหอกในนามของท่าน!!!”

เมื่ออลูฮาลิฮาลโค้งคำนับ ผมจึงพยักหน้ารับอย่างเงียบ ๆ

ตอนนี้ …ผมจึงได้มาอีกหนึ่งในชิ้นส่วนที่ผมต้องการ

◆◇◇◆◆◇◇◆

อ่านนิยายล่วงหน้าได้ในกลุ่ม ที่เพจ Koel-Translate นิยายแปล (ตอนนี้แปลถึงตอน 400 กว่าแล้วนะครับ)

https://www.facebook.com/pg/Koel-Translate-%E0%B8%99%E0%B8%B4%E0%B8%A2%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B9%81%E0%B8%9B%E0%B8%A5-111530443746222/posts/

Options

not work with dark mode
Reset