[เผ่าพันธุ์] ก็อบลิน
[เลเวล] 10
[คลาส] ลอร์ด , หัวหน้ากลุ่ม
[ทักษะ] <<Ruler of the Horde>> <<ปฏิปักษ์>> <<คำรามอย่างรุนแรง>> <<ความชำนาญการใช้ดาบ B – >> <<ความละโมบที่ไม่สิ้นสุด>> <<การจ้องมองจากปีศาจ>> <<จิตวิญญาณของราชัน>> <<ผู้ควบคุมแห่งปัญญา>> <<ดวงตามรกตของงู>> <<การเต้นรำแห่งความตาย>> <<ดวงตาของงูสีชาด>> <<การจัดการเวทมนตร์>> <<นักรบคลั่ง>> <<Third Impact>> <<สัญชาตญาณ>> <<ผู้ควบคุมแห่งปัญญา II>>
[การคุ้มครองจากพระเจ้า] เทพธิดาแห่งนรก อัลทีเซีย
[แอตทริบิวต์] ความมืด, ความตาย
[สัตว์ใต้บังคับบัญชา] โคโบลชั้นสูง (เลเวล 1) กัสต้า (เลเวล 20) ซินเธีย (เลเวล 20) บุย (เลเวล 36)
◇◆◇
[ก็อบลิน] กิก้า
ก็อบลินที่อาศัยอยู่ผู้นำคนก่อนพ่ายแพ้ให้กับออร์ค แต่ปัจจุบันเขาเป็นก็อบลินที่แข็งแกร่งที่สุดในบรรดาผู้ใต้บังคับบัญชาของผม เขาเป็นผู้ใช้หอก
[ก็อบลิน] กิกูว
อดีตผู้นำหมู่บ้าน เขาถูกกดดันเพื่อสละตำแหน่งให้กับผม เขาใช้ดาบยาวและค่อนข้างฉลาดถ้าเทียบกับก็อบลินแรร์ทั่วไป
[ก็อบลิน] กิกิ
เป็นที่รู้จักในฐานะผู้ฝึกสัตว์ เขาเลื่อนคลาสในหลังจากการล่ากวางเอเรล เป็นความสามารถที่ค่อนข้างหายากและเขาชอบที่จะใช้ขวาน
[ก็อบลิน] กิโก
ก็อบลินที่มีบาดแผลมากมายทั่วร่าง อาหารส่วนใหญ่มักถูกขโมยโดยเกรย์วูฟ ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจที่จะติดตามผม เขาเป็นคนที่มีประสบการณ์มากที่สุดในหมู่พวกก็อบลินแรร์
[ก็อบลิน] กิซาร์
ดรูอิด (ก็อบลินแรร์) ผู้ใช้เวทย์ลม ที่เพิ่งเข้ากลุ่มมา
[ก็อบลิน] กิจิ
ก็อบลินแรร์ที่เลื่อนคลาส (ตอนที่ 37) จากการออกล่ากับกลุ่มของกิก้า
[ก็อบลิน] กิโด
ดรูอิดผู้ใช้เวทย์ลม
[ก็อบลิน] กิจี
ก็อบลินแรร์จากกลุ่มของกิกูว เขามีทักษะ <<ดวงตาที่เปิดกว้าง>> ซึ่งทำให้เขาสามารถเห็นจุดอ่อนของคู่ต่อสู้
[ก็อบลิน] กิด้า
ก็ก็อบลินแรร์จากกลุ่มของกิก้า เขามีทักษะที่โดดเด่นอย่าง <<ความรู้เกี่ยวกับหอก>> และ <<ดื้อรั้นอย่างไม่มีเหตุผล>>
[ก็อบลิน] กิซู
ก็อบลินแรร์ผู้ถูกเทพเจ้าผู้บ้าคลั่ง (ซู โอรุ) คุ้มครอง มีทักษะ <<หมาบ้า>>
◇◆◇
หลังจากอาบเลือดของก็อบลินเผ่าเกิร์ดการ์แล้ว เราก็กลับไปที่ถ้ำของพวกเขา
“มีอะไรเปลี่ยนแปลงบ้างไหม?”
“ตอนนี้ยังไม่มีอะไรเป็นพิเศษขอรับ”
ผู้ได้รับพรจากเทพดาบกิโก อะมัทสึกิออกมาพบผม หลังจากพยักหน้าให้เขาแล้ว ผมก็ออกจากการรักษาความปลอดภัย เพื่อให้ก็อบลินตัวอื่นได้พักผ่อน
กิโกออกจากถ้ำพร้อมกับคนของเขา มีร่องรอยของความเหนื่อยล้าปรากฏให้เห็น แต่เขาก็ไม่ได้แสดงท่าทีที่ไม่พอใจต่อคำสั่งของผม
ผมไปที่ห้องหนึ่งของถ้ำและเรียกกิลมิให้เข้ามา “มันค่อนข้างกะทันหัน แต่เจ้ามีสมาชิกหลักที่สามารถกลับไปที่หมู่บ้านได้กี่คน?”
ผมต้องการกองกำลังที่ยังต่อสู้ได้ ผมต้องการรักษาความแข็งแกร่งของพวกเขาเพื่อปกป้องหมู่บ้านเผ่ากันระ
“มี ก็อบลินทั้งหมดประมาณ 30 ตัว”
30
ถ้าเป็นเช่นนั้น ปัญหาควรจะอยู่ที่ระยะห่างระหว่างหมู่บ้านเผ่ากันระและหมู่บ้านเผ่าเกิร์ดการ์ นอกจากนี้ยังมีความเร็วของไรเดอร์ด้วย
ผมควรปล่อยให้ก็อบลินที่เหนื่อยล้าได้พักผ่อน ถ้าเป็นไปได้ผมอยากให้เผ่ากันระปลอดภัย แต่ไรเดอร์ของเผ่าพาราดัวยังเป็นปัญหา
ตามที่ดรูอิดลมกิโดกล่าว พวกเขาถูกโจมตีภายในครึ่งวันหลังออกจากถ้ำ เราทราบดีว่าหมู่บ้านเผ่าพาราดัวควรอยู่ห่างออกไปทางทิศใต้ประมาณ 2 วัน ถ้าเป็นเช่นนั้น…
แม้ว่าทั้งหมดนี้จะเป็นการคาดเดา แต่ …
มีสองปัญหาที่เรากำลังเผชิญอยู่ในขณะนี้
ประเด็นแรกคือความเป็นไปได้ที่พวกเขาจะเดินทางมาที่หมู่บ้านนี้แล้ว
แต่ถ้าเป็นเช่นนั้น ทำไมพวกเขาถึงเลิกไล่ตามกิซาร์? เรายังปลุกระดมเผ่าเกิร์ดการ์ แต่พวกเขาทำเพียงการเฝ้าดูเงียบๆ
ไม่ว่าจะมองยังไง มันก็แปลก
ปัญหาอื่นคือเผ่าพาราดัวเคลื่อนไหวทันทีหลังจากได้รับรายงานหรือไม่
ถ้าเป็นเช่นนั้น ความเร็วของไรเดอร์ต้องเกินกว่าความคาดหมายของเรามาก แค่คิดว่าพวกเขาสามารถย่นระยะทางสองวันให้เหลือเพียงครึ่งวันได้ มันก็น่ากลัวแล้ว
ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไป ผลลัพธ์เดียวที่เป็นไปได้คือเราจะเป็นฝ่ายรับการโจมตีเมื่ออยู่ในป่า ที่นี่มีต้นไม้มากมายที่ไม่ได้รับการบำรุงเส้นทาง นี่ไม่ใช่สถานที่ที่สัตว์อสูรจะเคลื่อนที่ไปมาได้สะดวกสบาย แต่ตราบใดที่มีสัตว์ขี่ เผ่าพาราดัวก็จะสามารถตามเราได้ทัน
เมื่อเราเคลื่อนไหว พวกเขาจะสามารถเคลื่อนที่ไปพร้อมกับสัตว์อสูรด้วยความเร็วมากกว่าถึงสองเท่า กล่าวอีกนัยหนึ่งคือสงครามกองโจร พวกเขาสามารถหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้าโดยตรงได้และลดกำลังของเราลงอย่างช้า ๆ โดยใช้ความคล่องตัวที่เหนือกว่า
หากนั่นคือสิ่งที่พวกเขาตั้งเป้าหมายไว้ การต่อสู้ครั้งนี้คงจะยากขึ้น แน่นอนว่าผมพูดถึงความอ่อนแอของหมู่บ้านกันระ
ผมควรเตรียมตัวสำหรับสิ่งที่เลวร้ายที่สุด
คงต้องฝากความหวังไว้กับกิซาร์ที่บาดเจ็บ
เราปลุกปั่นการนองเลือด แต่พวกเขาที่ปล่อยเราไป แสดงว่าพวกเขาอาจไม่รู้การเคลื่อนไหวของกองกำลังเรา
“… กิลมิ เจ้าต้องตัดสินใจ”
กิลมิดูเหมือนจะจำอะไรบางอย่างได้ เมื่อผมพูดอย่างนั้นในขณะที่เขากัดฟันและพยักหน้า
“โปรดอย่ารังเกียจการเสียสละของเรา”
ดูเหมือนเขาจะรู้จุดยืนของเขา เพื่อที่จะได้รับความไว้วางใจจากพันธมิตรที่แข็งแกร่ง คุณต้องจ่ายราคาที่เหมาะสมด้วย
การได้เห็นเขาตัดสินใจอย่างเด็ดเดี่ยว ทำให้ผมไม่มีอะไรจะพูดอีกต่อไป
“ข้าต้องการหลอกล่อเผ่าพาราดัวและเผ่าเกิร์ดการ์”
“…ข้าจะทำงานนี้ให้สำเร็จแม้จะต้องตายก็ตาม”
เพื่อเอาชนะคู่ต่อสู้ที่มีความคล่องตัวเหนือกว่า ในขณะที่ปกป้องหมู่บ้านในเวลาเดียวกัน …ผมคิดวิธีอื่นไม่ออกแล้ว
◇◇◆
ก็อบลินหนุ่มที่เป็นมือขวาของอลูฮาลิฮาลถูกเลือกให้เป็นผู้ส่งสาร
“เจ้าจำข้อความได้หรือไม่?”
“ครับท่านพ่อ”
เป็นเรื่องปกติที่ก็อบลินที่อายุน้อยกว่าจะพูดถึงอลูฮาลิฮาลด้วยความรักว่าพ่อ แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็อดไม่ได้ที่จะกังวล เมื่อเห็นว่าฮัลเชื่อฟังเขาแค่ไหน
หากมีอะไรเลวร้ายเกิดขึ้น ฮัลจะต้องตายอย่างแน่นอน
แต่ถึงจะรู้อยู่เต็มอก เขาก็เชื่อว่าก็อบลินผิวเทาจะไม่ทำอะไรขี้ขลาดแบบนั้น
“ดี งั้นไปได้!”
เมื่อฮัลหยิบหอกของตัวเอง เขาก็จากไป
การบอกให้เผ่าเกิร์ดการ์ผู้กักขฬะไปส่งสาร นั่นไม่ต่างกับการบอกให้พวกเขาไปประกาศสงคราม ดังนั้นหากจะส่งผู้ส่งสารไป เขาต้องมาจากเผ่าพาราดัว
ไม่มีเหตุผลที่จะรู้สึกอับอาย เมื่อส่งคนที่คุณรักไปสู่อันตราย เพราะนี่คือสงคราม
ไรเดอร์ของเผ่าพาราดัวจะไม่หวาดกลัว แม้เผชิญหน้ากับความตาย
เป็นเพราะความภาคภูมิใจนั้นที่พวกเขาสามารถเอาชนะศัตรูได้
แต่ครั้งนี้มันแตกต่างออกไป เนื่องจากกลยุทธ์ที่พวกเขาจะใช้นั้นไม่เหมาะสมสำหรับไรเดอร์
“หนี้ก้อนนี้ใหญ่มากนะ รัสกา”
แม้ว่าเขาจะอายุมากแล้ว แต่ความตั้งใจของเขาก็ไม่เคยลดลงเลยสักครั้ง หากพวกเขาชนะ แต่ก็ยังไม่ได้รับราชาของตัวเอง แม้ว่าจะกลายเป็นเผ่าที่แข็งแกร่งที่สุดในสี่เผ่า อลูฮาลิฮาลก็จะไม่ยอมปล่อยให้มันผ่านไป
ในขณะที่เขามองดูฮัลที่หายไปในของป่า อลูฮาลิฮาลก็กัดฟันแน่น
◆◆◇
กิลมินำกองกำลังเผ่ากันระไปยังดินแดนของเผ่าพาราดัว พวกเขาวิ่งอย่างคล่องแคล่วและตรวจสอบให้แน่ใจถึงเคลื่อนไหวทั่วทั้งป่า
ก็อบลิน 15 ตัวที่ติดตามกิลมิไปถูกการแจ้งล่วงหน้าแล้ว พวกเขารู้ดีว่าภารกิจนี้อันตรายเพียงใด
แต่พวกเขาต้องทำ พวกเขาต้องเสี่ยงในสถานที่ที่อันตรายที่สุดนี้ เพื่อที่จะยืนอยู่ต่อหน้าหัวหน้าทางตะวันออก ดังนั้นตำแหน่งของนาร์ซาจะเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น
กฎของป่าเป็นจริงสำหรับทุกคน ก็อบลินก็ไม่มีข้อยกเว้น
แม้กิลมิจะไม่รู้ว่าหัวหน้าฝ่ายตะวันออกกำลังคิดอะไรอยู่ แต่อย่างน้อยหากกิลมิสามารถทำให้ราชาเข้าใจว่าเผ่ากันระคุ้มค่า อนาคตของพวกเขาก็จะมั่นคง
“…มีบางอย่างอยู่ข้างหน้า”
เสียงของสัตว์อสูรขนาดใหญ่กำลังผ่านต้นไม้ สร้างเสียงดังก้องไปถึงหูของกิลมิ
“รอคำสั่งของข้า รั้งสายธนูขึ้น” กิลมิสั่งโดยไม่ต้องพูดอีก ในเวลาเดียวกันพวกเขาก็แยกกันเพื่อซ่อนตัวอยู่หลังเงามืดทันที
แม้ว่าพวกเขาจะเป็นตัวล่อ แต่พวกเขาไม่สามารถแสดงตัวได้อย่างเปิดเผย พวกเขาต้องต่อสู้เต็มกำลัง
เสียงดังขึ้นเมื่อสายธนูถูกรั้งไปถึงขีดสุด สติของกิลมิกำลังจดจ่อ
สิ่งที่ปรากฏตรงหน้าคือไรเดอร์หนุ่มคนหนึ่ง บนหอกของเขามีผ้าสีขาวซึ่งหมายความว่าเขาเป็นผู้ส่งสาร ชื่อที่เคารพนับถือของกาดิเอต้านักธนูคนแรกคือฉายาที่บอกเป็นนัยว่า ผู้ถือครองนามนี้จะเป็นนักยิงธนูคนแรกที่ยิงไปโดนเป้าหมาย ดังนั้นเขาต้องตัดสินใจว่าเป้าหมายของกลุ่มคือใคร
เมื่อผู้ส่งสารมาถึง กิลมิก็ชักสายธนูไปจนสุด
“ข้ารู้ว่าพวกเจ้าอยู่ที่นี่ ก็อบลินเผ่ากันระและคนนอก! ข้าเป็นพลหอกที่ห้าของพาราดัว ฮัล! ข้ามาที่นี่ในฐานะผู้ส่งสาร!”
เมื่อสัตว์อสูรแผ่ขาทั้งสี่ของมัน ก็อบลินหนุ่มก็พูดเสียงดัง เขาเป็นภาพลักษณ์อันหยิ่งผยองของเผ่าพาราดัว
“แสดงตัว!”
“เตรียมคันธนูของเจ้าให้พร้อม”
กิลมิสั่งคนของเขาโดยใช้สัญลักษณ์มือ จากนั้นเขาก็เดินไปหาฮัล
“ข้าเป็นกาดิเอต้านักธนูคนแรกของเผ่ากันระ รา กิลมิ!”
การเปิดตัวของกิลมิก็ยิ่งใหญ่เช่นกัน เมื่อฮัลขยับสายตาที่มองไปจนทั่ว ในตอนนั้นเขาก็ถอนหายใจ
“เจ้าคือนักธนูคนแรกของกันระ! ข้าไม่มีข้อตำหนิแล้ว ข้ามาที่นี่เพื่อส่งข้อความจากหัวหน้าของเรา มาสเตอร์อลูฮาลิฮาล!”
กิลมิฟังอย่างเงียบๆ
เพื่อสรุปเนื้อหา ก็อบลินเผ่าพาราดัวกำลังขอสนธิสัญญาไม่รุกรานและต้องการให้ปล่อยตัวนักโทษเผ่าเกิร์ดการ์
“จงคิดอย่างรอบคอบ” ฮัลฟาดหอกลงบนพื้นและกอดอก
เขาเป็นก็อบลินที่กล้าหาญอย่างไม่ต้องสงสัย
แม้ธนูจำนวนนับไม่ถ้วนจะเล็งไป แต่เขาก็ยังสามารถรักษาท่าทีที่สงบนิ่งไว้ได้ เขาไม่ใช่ก็อบลินทั่วไป
กิลมิทุกข์ใจ
ทำไมเขาต้องสู้กับคนเช่นนี้?
ก็อบลินหนุ่มคนนี้ วันหนึ่งจะแบกรับเผ่าพาราดัวไว้บนบ่า ถ้าเป็นช่วงเวลาที่มาสเตอร์กิแลนยังอยู่ เขาจะไม่เป็นเพียงความหวังสำหรับเผ่าพาราดัว แต่เขาจะเป็นความหวังสำหรับชนเผ่าทั้งสี่เช่นกัน
แต่ถึงจะคิดอย่างนั้น กิลมิก็รู้แล้วว่าการตัดสินใจของเขาคืออะไร มันสายเกินไปสำหรับความสงบ แม้ว่าเขาจะยอมรับ แล้วเขาจะตอบหัวหน้าทิศตะวันออกอย่างไร?
เราได้แก้ไขความขัดแย้งของเราแล้วดังนั้นโปรดกลับบ้านของท่านไป ไม่มีทางที่เขาจะพูดแบบนั้นได้
หัวหน้าทางตะวันออกได้รับความสูญเสียจากสงครามครั้งนี้แล้ว
“ข้าเข้าใจเงื่อนไข แต่ข้า! รา กิลมิตัดสินใจแล้ว!”
ในขณะนั้นเขาดึงคันธนูจนถึงขีดสุดและปล่อยมันเข้าหาจุดเดียว
ลูกธนูที่ถูกปล่อยเหลือเพียงเสียงลมที่ถูกตัด บินตรงเข้าไปในรูจากหอกที่ฝังไว้ของฮัล มันเป็นความแม่นยำที่น่ากลัว
“ส่งต่อสิ่งนี้ให้กับลอร์ดอลูฮาลิฮาลและลอร์ดรัสกา เราจะไม่ถอย หากเจ้าวางแผนที่จะยอมจำนน ก็ให้รีบทำซะ มิฉะนั้นคู่ต่อสู้ของพวกเจ้าจะเป็นข้า รา กิลมิแห่งเผ่ากันระ!”
“ดีมาก”
ฮัลเหลือบมองลูกศรที่แทงทะลุหอกของเขา ขณะที่จับหอก เขาก็ถอดลูกธนูออกและหักมัน
“ข้าได้รับคำตอบของพวกเจ้าแล้ว!” ฮัลโบกหอกในมือ จากนั้นเขาก็สะพายมันไว้ข้างหลังและจากไป
เมื่อก็อบลินตัวนั้นหายเข้าไปในป่า กิลมิก็พึมพำเงียบ ๆ
“ท่านจะคิดว่าข้าใจอ่อนเกินไปรึเปล่าที่ไม่ยิงเขา …ลอร์ดกิซาร์…”
◆◇◇◆◆◇◇◆
อ่านนิยายล่วงหน้าได้ในกลุ่ม ที่เพจ Koel-Translate นิยายแปล (ตอนนี้แปลถึงตอนล่าสุดแล้วนะครับ)
https://www.facebook.com/pg/Koel-Translate-%E0%B8%99%E0%B8%B4%E0%B8%A2%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B9%81%E0%B8%9B%E0%B8%A5-111530443746222/posts/