[เผ่าพันธุ์] ก็อบลิน
[เลเวล] 5
[คลาส] ลอร์ด , หัวหน้ากลุ่ม
[ทักษะ] <<Ruler of the Horde>> <<ปฏิปักษ์>> <<คำรามอย่างรุนแรง>> <<ความชำนาญการใช้ดาบ B – >> <<ความละโมบที่ไม่สิ้นสุด>> <<การจ้องมองจากปีศาจ>> <<จิตวิญญาณของราชัน>> <<ผู้ควบคุมแห่งปัญญา>> <<ดวงตามรกตของงู>> <<การเต้นรำแห่งความตาย>> <<ดวงตาของงูสีชาด>> <<การจัดการเวทมนตร์>> <<นักรบคลั่ง>> <<Third Impact>> <<สัญชาตญาณ>> <<ผู้ควบคุมแห่งปัญญา II>>
[การคุ้มครองจากพระเจ้า] เทพธิดาแห่งนรก อัลทีเซีย
[แอตทริบิวต์] ความมืด, ความตาย
[สัตว์เลี้ยง] โคโบลชั้นสูง (เลเวล 1) กัสต้า (เลเวล 1) ซินเธีย (เลเวล 1)
[สถานะผิดปกติ] <<เสน่ห์ของนักบุญ>>
◇◆◇
[ก็อบลิน] กิก้า
ก็อบลินที่อาศัยอยู่ผู้นำคนก่อนพ่ายแพ้ให้กับออร์ค แต่ปัจจุบันเขาเป็นก็อบลินที่แข็งแกร่งที่สุดในบรรดาผู้ใต้บังคับบัญชาของผม เขาเป็นผู้ใช้หอก
[ก็อบลิน] กิกูว
อดีตผู้นำหมู่บ้าน เขาถูกกดดันเพื่อสละตำแหน่งให้กับผม เขาใช้ดาบยาวและค่อนข้างฉลาดถ้าเทียบกับก็อบลินแรร์ทั่วไป
[ก็อบลิน] กิกิ
เป็นที่รู้จักในฐานะผู้ฝึกสัตว์ เขาเลื่อนคลาสในหลังจากการล่ากวางเอเรล เป็นความสามารถที่ค่อนข้างหายากและเขาชอบที่จะใช้ขวาน
[ก็อบลิน] กิโก
ก็อบลินที่มีบาดแผลมากมายทั่วร่าง อาหารส่วนใหญ่มักถูกขโมยโดยเกรย์วูฟ ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจที่จะติดตามผม เขาเป็นคนที่มีประสบการณ์มากที่สุดในหมู่พวกก็อบลินแรร์
[ก็อบลิน] กิซาร์
ดรูอิด (ก็อบลินแรร์) ผู้ใช้เวทย์ลม ที่เพิ่งเข้ากลุ่มมา
[ก็อบลิน] กิจิ
ก็อบลินแรร์ที่เลื่อนคลาส (ตอนที่ 37) จากการออกล่ากับกลุ่มของกิก้า
◇◆◇
หลังจากเดินออกจากหมู่บ้าน ผมก็เข้าไปในป่าได้ระยะหนึ่ง
“ต่อไปจะไม่เป็นไร”
ผมได้เผชิญหน้ากับก็อบลินแรร์ที่เทพเจ้าผู้บ้าคลั่งหลงใหล
“อา ราชา…”
เมื่อผมสบตากับเขา มีความสับสนไปมาระหว่างอารมณ์เชิงลบต่าง ๆ ซึ่งวนเวียนอยู่กับความเป็นปฏิปักษ์
“ข้าไม่รู้เกี่ยวกับเทพเจ้าองค์นั้น แต่ข้าต้องสงบสติอารมณ์ของเจ้าก่อน!”
“กรรูวววอาาา รูอาารู!”
เสียงคำรามหลุดออกมาจากปากของก็อบลินตัวนั้น
บาดแผลล่าสุดของเขาเปิดออก ทำให้เลือดไหลท่วมและร่างกายของเขาก็ชักกระตุก
เรเชียกล่าวว่าเทพเจ้าผู้บ้าคลั่งถือกำเนิดในช่วงสงคราม เดิมทีเขาเป็นเทพเจ้าผู้มีเมตตา แต่หลังจากที่เพื่อนของเขาตายไปในสนามรบ ความโกรธแค้นทำให้เขาพังทลายและกลายเป็นเทพเจ้าผู้บ้าคลั่ง
“อ – อ๊ากกก หัวหน้า … ท – ทำไมกัน?”
จิตใจของก็อบลินยังคงถูกกัดกร่อนโดยเทพเจ้าผู้บ้าคลั่ง แต่ดูเหมือนว่าเขาจะต้องการพูดอะไรกับผม
“ลอร์ด กิ กิ กิก้าาา อ๊ากกก!”
กิก้า …?
ความเกลียดชังที่มากเกินไปสำหรับก็อบลินตัวนี้ มันพิสูจน์ให้เห็นจากก็อบลินที่กำลังเหวี่ยงหมัดเข้ามา
“อ้าาาาาา!”
กำปั้นที่ขับเคลื่อนด้วยอารมณ์ฉีกกระชากอากาศ
แต่ผมจะทิ้งคำพูดของเขาไว้ไม่ได้
“เกิดอะไรขึ้นกับกิก้า!?”
ผมหลบหมัดนั้น
“ทำไมเขาถึงต้องทำขนาดนี้เพื่อท่าน!?”
กำปั้นที่ชกลงมาบดขยี้พื้นดิน
“อ้าาาาาาาาาา!”
ขณะที่กำปั้นของเขายังคงกระแทกพื้น ก็อบลินก็กางเขี้ยวออกขณะที่เขาพยายามกัดที่คอผม
เกิดอะไรขึ้นกับกิก้า!?
ครู่หนึ่งหลังจากความว่างเปล่า ผมก็จำได้ว่ามีเสียงร้องเรียกขณะที่ผมต่อสู้กับราชาออร์ค
นั่นคือเสียงของกิก้า?
ความเป็นไปได้ที่เลวร้ายที่สุดปรากฏขึ้นในใจ
จากนั้นผมก็คิดสับสนกับตัวเอง กำปั้นของก็อบลินอันบ้าคลั่งปะทะเข้ามาที่ใบหน้าของผม
ผมรู้ว่าเขากำลังยืมพลังของเทพเจ้าผู้บ้าคลั่ง แต่ใครจะคิดว่าเขาจะแข็งแกร่งขนาดนี้
พลังที่สามารถข้ามผ่านความแตกต่างคลาส 2 ระดับ ทำให้ผมสงสัยในความเป็นไปได้
แต่!
“กี๋ กี๋ กี๋กี๋!”
อดทนกับหมัดของก็อบลินตัวนั้น ผมได้ยินเสียงกัดฟัน …เขากำลังขาดสติ
“เกิดอะไรขึ้นกับกิก้า!?”
ผมค่อย ๆ ดันหมัดของก็อบลินตัวนั้นกลับไป
“อ๊าาาาาา!”
ในขณะที่หมัดของก็อบลินถูกผลักไปข้างหลัง มันก็เหวี่ยงหัวของตัวเองอย่างดุเดือดและพยายามที่จะชนเข้ากับผม
ผมทำได้แค่ตำหนิความตื้นเขินของตัวเอง
หากก็อบลินตัวนี้เป็นศัตรูจริง มันคงไม่เป็นปัญหาสำหรับผม แต่ตอนนี้ผมไม่ต้องการฆ่า การต่อสู้จึงเป็นไปอย่างยากลำบาก
ความแข็งแกร่งและความคล่องตัวที่ได้รับพลังจากพระเจ้า ก็อบลินผู้บ้าคลั่งที่ปรารถนาจะทำลายศัตรูตรงหน้าและสิ่งต่าง ๆ แย่ลงผมไม่สามารถโฟกัสกับมันได้เพราะเรื่องของกิก้า
———-ไม่ดีแน่!
เพราะผมไม่มีสมาธิผมจึงมีช่องว่าง ทำให้แขนถูกจับไว้และเขาจึงโจมตีผมได้
การโจมตีครั้งนี้หนักกว่าที่คาดไว้มาก แต่ผมปล่อยมันไป
“ชิ”
“อ๊าาาาาาา!”
ต้องสงบสติก็อบลินตัวนี้ก่อน
ก็อบลินที่เหมือนสัตว์อสูรกำลังจ้องมองมาที่ผม
“ขอโทษ …ยกโทษให้กับข้าด้วย”
ผมรู้ว่าก็อบลินตัวนี้กำลังรวบรวมพลังจากแขนและขาของเขา ผมจึงใช้ประโยชน์จากการช่องว่างเปิดใช้งาน <<คำรามอย่างรุนแรง>>
“กูรูวววอาาา!”
ถึงมันไม่มีผลกับเขาที่เปิดใช้งาน <> แต่ผมรู้ว่า
สุนัขคลั่งตัวนี้จะไม่นิ่งเฉยหลังจากได้ยินเสียงคำรามที่รุนแรง …มันเป็นไปตามที่คาดไว้
“กี๋ กี๋กูรูวอาา!”
เสียงคำรามที่สร้างความกดดันแม้กระทั่งจิตวิญญาณ เขาจึงร้องขณะพุ่งเข้ามาหาผม
ผมหลบหลีกด้วยการเคลื่อนไหวน้อยที่สุดไปด้านข้าง จากนั้นผมก็ฟาดไปที่หลังคอของก็อบลินด้วยความตั้งใจที่จะสงบเขาลง
ผมรู้ว่าความเสียหายจะลดลง 40% จากทักษะ <> แต่ถ้าผมกะพลังผิดพลาดแม้แต่นิดเดียว มันอาจจะฆ่าก็อบลินตัวนี้แทน
แต่โชคดีที่การโจมตีของผมทำให้ก็อบลินตัวนี้สลบลงได้สำเร็จ
ผมจึงแบกร่างของก็อบลินกลับไปที่หมู่บ้าน
สถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุดได้ฉายผ่านความคิดของผม
กิก้า! เจ้าต้องปลอดภัย!
◆◇◇
หลังจากสงคราม ผมยังไม่ได้เข้าไปในบ้านของเรเชียเพื่อดูผู้บาดเจ็บ แต่ตอนนี้ผมเดินเข้าไปพร้อมกับก็อบลินในอ้อมแขน
สิ่งที่เห็นทำให้ผมพูดไม่ออก
“กิก้า …”
เมื่อเขาได้ยินเสียงพึมพำ กิก้าก็ลืมตาขึ้น …แขนขวาของเขาขาดออกจากร่างกาย ขาของเขาหายออกไปจากเข่าซ้ายซึ่งสวมผ้าพันแผลเปื้อนเลือดสีน้ำเงิน
“ราชา …โชคดีที่ท่านยังปลอดภัย”
“ใช่ …ข้าไม่เป็นไร! ข้าไม่เป็นไร!”
ในขณะที่ผมวางก็อบลินในอ้อมแขน ผมก็รีบวิ่งไปที่ด้านข้างของกิก้า ก็อบลินตัวอื่น ๆ ก็ตื่นขึ้นมาเช่นกัน พวกเขากำลังมองมา แต่ผมไม่สามารถพูดอะไรกลับไปได้
“งั้น…ก็ดีแล้ว”
กิก้าหลับตาลงอย่างโล่งใจ
“…ใช่ …จากนี้ไปข้ามีงานมากมายให้เจ้าทำ! ที่นี่ไม่ใช่ที่ตายของเจ้า”
กิก้ายิ้ม แต่แก้มของเขามีเพียงข้างเดียว
“ราชา …ท่านเข้มงวดจังนะ”
“…แน่นอน ศัตรูที่เราจะเผชิญนับจากนี้มีแต่จะแข็งแกร่งและจำนวนที่มากขึ้น ถ้าตอนนั้นเจ้าไม่อยู่แล้ว ใครจะอยู่ข้างข้าล่ะ”
“ข้ามีความสุขเมื่อได้ฟังคำเหล่านั้น”
ผมพยักหน้าอย่างเงียบ ๆ
“ราชาได้โปรด…”
“มันคืออะไร? “
“แสดงความยินดีกับคนเหล่านี้ด้วย”
อีกด้านหนึ่งของสายตาเขาคือก็อบลินที่มองมาที่เรา
“ได้แน่นอน”
ด้วยขาที่สั่นเทา ผมยืนขึ้นเพื่อเดินไปหาก็อบลินแต่ละตัว
บางคนต้องสูญเสียขา บางคนสูญเสียแขนไป บางคนมีบาดแผลที่สาหัสจนน่าประหลาดใจว่าพวกเขายังมีชีวิตอยู่ได้อย่างไร ผมเดินไปหาก็อบลินเหล่านั้นทุกตัว เมื่อผมสบตาพวกก็อบลินและตบไหล่พวกเขา ผมขอบคุณสำหรับการต่อสู้ที่ยากลำบาก
จากนั้นผมก็กลับไปหากิก้าอีกครั้ง
“กิก้า” ผมสั่งเขา “เจ้าต้องทำ”
“แต่ร่างกายของข้า…”
‘ไม่สามารถต่อสู้ได้อีกต่อไป’ นี่คือสิ่งที่เขากำลังจะพูด
“ข้าจะคิดหาวิธี ดังนั้น …จงยืนหยัดอีกครั้งและสู้ร่วมกับข้า!”
“ราชา…”
◇◆◇
“… แขนขาพวกนั้น มันหมดหวังแล้วใช่มั้ย?” ผมถามเรเชีย เมื่อเดินออกไป
เธอคงพยายามอย่างหนักขณะเอนหลังพิงกำแพงและมองขึ้นไปบนท้องฟ้า
“ใช่ …ฉันไม่สามารถฟื้นฟูแขนขาที่สูญเสียไปได้”
“ข้าเข้าใจ”
เมื่อได้ยินอย่างนั้นผมก็จากไป
ไฟที่ลุกโชนอยู่ในอกของผมไม่สามารถดับลงได้
ผมก็เลยวิ่งวิ่งและวิ่งตลอดทางจากหมู่บ้านไปยังทะเลสาบ
เมื่อไปถึงที่นั่น ผมก็คำราม
“กูรูวววอาาาา!!”
อยากจะกรีดมันออกมา!
เขาสู้ไม่ได้! พวกเขาไม่สามารถต่อสู้ได้อีกต่อไป! นักรบที่มีชีวิตอยู่เพื่อต่อสู้แต่ตอนนี้พวกเขาไม่สามารถต่อสู้ได้!
ผมอยากจะตะโกน! ผมอยากที่จะร้องคำรามเพื่อส่งความเจ็บปวดออกมา!
เรเชียไม่สามารถฟื้นฟูแขนขาได้ แม้ว่าเธอจะใช้พลังทั้งหมดของตัวเอง มันเป็นไปไม่ได้!
แน่นอน ผมคิดว่ามันต้องเกิดขึ้นสักวัน
และผมก็ควรจะเตรียมพร้อมสำหรับมันเช่นกัน
แต่ …บางครั้งผมก็หันหน้าหนี
ผมมึนเมากับการต่อสู้ที่ดุเดือด ผมดีใจในการเอาชนะคู่ต่อสู้ที่คู่ควรโดยไม่คิดถึงผลลัพธ์
หากผมคิดเพียงเล็กน้อย ผมคงจะเข้าใจ …
ความหมายของการเสียสละ…
และน้ำหนักของมัน…
ผม …ผม…
ผมไม่เข้าใจ! ผมไม่เข้าใจเลย!
น้ำหนักของชีวิตก็อบลินทั้ง 20 ตัวที่จากไป!
ดังนั้นผมต้องไม่ลืม ผมต้องไม่ยอมให้ตัวเองลืมความเจ็บปวดนี้!
ผมจะไม่วิ่งหนี! ผมจะเผชิญหน้าความเจ็บปวดนี้!
“กูรูวววอาาาาาาา!”
ใจกลางทะเลสาบอันเงียบสงบ มีสัตว์ร้ายตัวหนึ่งกำลังร้องคำราม
◆◇◇◆◆◇◇◆
หมายเหตุผู้แต่ง:
เขาอาจไม่ได้เป็นตัวเอก แต่ผมจะไม่ปล่อยให้เขาตาย
◆◇◇◆◆◇◇◆
อ่านนิยายล่วงหน้าได้ที่เพจ Koel – Translate นิยายแปล
https://www.facebook.com/pg/Koel – Translate – %E0%B8%99%E0%B8%B4%E0%B8%A2%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B9%81%E0%B8%9B%E0%B8%A5 – 111530443746222/posts/