ตอนที่ 1588 นางพญาซูหย่า (3)
“อะไร? ไม่กล้าส่งเสียงแล้วเหรอ? เมื่อกี้ยังผยองพองขนอยู่เลยนี่ รังแกคนอ่อนแอแต่กลัวคนแข็งแกร่งรึไง? นี่เหรอขยะที่พวกโง่เง่าจากสาขาพลังวิญญาณสั่งสอนมา?” มือขาวหยกของซูหย่าฟาดไปที่หน้าของสวี่มู่อย่างต่อเนื่องมากกว่า 10 ครั้ง สวี่มู่ถูกตบจนกลายเป็นหัวหมูไปแล้ว
ซูหย่าที่ตบจนพอแล้วก็เตะสวี่มู่ที่ไม่มีแรงต่อต้านกระเด็นออกไปกองอยู่ที่พื้น คราวนี้เขาไม่มีแม้แต่แรงจะร้องครางด้วยซ้ำ
ทุกคนต่างตกใจกลัว พวกเขาไม่เคยเจอครูที่ลงมือโหดขนาดนี้เลย
นางไม่ได้แค่ตบสวี่มู่จนจำหน้าไม่ได้เท่านั้น แต่นางยังด่าครูทุกคนในสาขาพลังวิญญาณอีกด้วย
ต้องมีความกล้ามากขนาดไหนกัน?
ในบรรดาทุกคนที่นั่น คนที่กลัวมากที่สุดก็คือหลินเฮ่าอวี่ที่ซ่อนตัวอยู่ในเงามืด ตั้งแต่วินาทีที่ซูหย่าปรากฏตัว หลินเฮ่าอวี่ก็แข็งทื่ออยู่กับที่ ดวงตาเบิกกว้างด้วยความหวาดกลัวขณะมองสวี่มู่ถูกซูหย่าตบอย่างโหดร้าย รู้สึกเย็นวาบไปทั่วร่างอย่างไม่อาจหยุดได้
ผู้หญิงคนนี้มีภูมิหลังยังไงกันแน่? ทำไมนางปกป้องจวินอู๋ขนาดนี้?
ตีหลินเฮ่าอวี่ให้ตาย เขาก็ไม่มีวันจะคิดว่าในสถานที่ธรรมดาๆอย่างหอจันทร์แรมจะมีผู้หญิงที่น่ากลัวขนาดนี้ซ่อนอยู่
สิ่งที่เลวร้ายยิ่งขึ้นไปอีกก็คือ ผู้หญิงคนนี้หนุนหลังจวินอู๋!
เมื่อตกอยู่ภายใต้ความโกรธเกรี้ยวของนางพญาซูหย่า พวกผู้เยาว์จอมสอดรู้ทุกคนก็ตัวสั่นราวกับนกกระทา ตอนนี้พวกเขารู้สึกโชคดีอย่างมากที่ตอนที่พวกเขาได้ยินสวี่มู่ด่าจวินอู๋อย่างฮึกเหิมเมื่อครู่ พวกเขาไม่ได้เข้าไปร่วมวงด้วย ไม่งั้นชะตากรรมของพวกเขาตอนนี้คงไม่ดีไปกว่าสวี่มู่
นี่คือผู้หญิงที่กล้าด่าครูสาขาพลังวิญญาณเชียวนะ ตีพวกเขาก็คงไม่ต่างกับตีลูกเจี๊ยบ
ซูหย่ามองสวี่มู่ที่นอนหมดสติอยู่บนพื้นด้วยความพอใจ นางปัดฝุ่นออกจากมือแล้วหันไปมองจวินอู๋เสีย
“เข้าใจรึยัง?”
“อะไรหรือ?” จวินอู๋เสียงงเล็กน้อย
ซูหย่ายกเหล้าขึ้นมาดื่มหนึ่งอึก แล้วเช็ดเหล้าที่เปื้อนมุมปากออก ชี้นิ้วไปทางสวี่มู่โดยไม่หันหน้ากลับไป
“ถ้าวันหน้าเจอพวกปากเสียแบบนี้ เอามันให้ตาย ฆ่ามันตายแล้วเดี๋ยวแม่รับผิดชอบให้เอง”
จวินอู๋เสียมองซูหย่าอย่างพูดไม่ออกบอกไม่ถูก อาจารย์ของนางคนนี้หยิ่งผยองจริงๆ แต่……นางชอบมาก
“เข้าใจแจ่มแจ้งแล้ว” จวินอู๋เสียพยักหน้าอย่างจริงจัง แม้ว่านางสามารถจัดการเรื่องพวกนี้เองได้ แต่การได้เห็นซูหย่าออกโรงปกป้องนาง ทำให้จวินอู๋เสียได้รับประสบการณ์ใหม่ ว่าอะไรคือความสัมพันธ์ระหว่างศิษย์อาจารย์ที่แท้จริง
ในอดีตนางมีปฏิสัมพันธ์กับเยี่ยนปู้กุยน้อยเกินไป จึงไม่สามารถรับรู้ถึงความสัมพันธ์ระหว่างศิษย์อาจารย์ได้ ส่วนจักรพรรดิผู้ก่อตั้งแคว้นเหยียนนั้น เขาตายไปแล้ว จวินอู๋เสียจึงไม่เคยพบเขา
แต่ตอนนี้จวินอู๋เสียได้รู้จากซูหย่าแล้วว่า อาจารย์ปกป้องศิษย์ของตนกันอย่างนี้นี่เอง
หลังจากจวินอู๋เสียเข้ามาที่หอจันทร์แรม ไม่ใช่ว่านางจะไม่เห็นรูปแบบวิธีการของซูหย่าในการทำสิ่งต่างๆ แม้ว่าจะผิดทำนองคลองธรรม แต่ก็ไม่ทำตัวสะดุดตา ไม่เคยไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องภายนอกใดๆ จวินอู๋เสียไม่รู้ว่าทำไมซูหย่าถึงเลือกซ่อนความเจิดจรัสของตัวเอง แต่จวินอู๋เสียเห็นว่าซูหย่าได้ทิ้งท่าทางเฉื่อยชาและเฉยเมยตามปกติของตัวเองเพื่อนาง ยอมออกมาแสดงตัวต่อหน้าทุกคนเพื่อปกป้องนาง น้ำใจครั้งนี้จวินอู๋เสียจะไม่ลืมไปชั่วชีวิต
ซูหย่าพยักหน้าอย่างพอใจ จากนั้นก็หันกลับไปกวาดสายตามองฝูงชนที่เงียบกริบเหมือนจั๊กจั่นยามหน้าหนาว
“พวกเจ้าฟังข้าให้ดี จวินอู๋คือศิษย์ของข้า ซูหย่า วันหน้าถ้ามีใครกล้าหาเรื่องเขาอีก แม่จะกระทืบให้กระดูกหักทีละท่อนเลย!”
คำพูดของซูหย่าทำให้ทุกคนตัวสั่นระริก