ตอนที่ 1587 นางพญาซูหย่า (2)
จวินอู๋เสียอ้าปาก อยากจะพูดอะไรบางอย่าง แต่สุดท้ายนางก็ไม่รู้จะพูดอะไร
ความจริง จวินอู๋เสียตั้งใจจะโต้กลับด้วยตัวเอง ไม่ได้คิดจะรบกวนซูหย่าเลย
ซูหย่ามองศิษย์ที่ “แสนซื่อ” ของนาง แล้วทนทำหน้าโกรธต่อไปไม่ไหว พลางคิดกับตัวเองว่า ‘เด็กคนนี้จะซื่อเกินไปไหม?’
ตอนที่สวี่มู่ตะโกนอยู่นอกประตู ซูหย่าก็ตื่นแล้ว นางรู้ด้วยว่าศิษย์ตัวน้อยของนางรีบพุ่งออกไปอย่างรวดเร็ว นางอยากดูว่าจวินอู๋จะจัดการกับสถานการณ์วันนี้ยังไง และผลก็คือ นางเห็นจากด้านในว่าจวินอู๋ยืนนิ่งอยู่กับที่ มือของสวี่มู่เกือบจะถึงตัวอยู่แล้ว เขาก็ยังไม่ตอบสนองเลย
ซูหย่าจึงโมโหขึ้นมา!
แต่ซูหย่าก็รู้ว่าความแข็งแกร่งของศิษย์นางไม่ใช่พลังวิญญาณหรือภูติประจำตัว และวิชาเสริมวิญญาณก็เป็นวิชาที่ใช้สนับสนุนในการต่อสู้ ที่นางโมโหก็เพราะสถานการณ์คับขันขนาดนี้ จวินอู๋ก็ยังไม่เรียกนาง
นั่นแสดงว่าเด็กคนนี้ไม่ไว้ใจนางที่เป็นอาจารย์ของเขางั้นหรือ!?
ซูหย่าทำใจไม่ได้ที่จะเอาความโกรธไปลงกับศิษย์ตัวน้อยของนาง นางจึงเอาความโกรธนั้นไปลงที่สวี่มู่
แม้ว่าจะโชคร้าย แต่สวี่มู่ก็สมควรโดนแล้ว ไม่ต้องพูดถึงเลยว่าเขาเป็นเด็กหนุ่มที่เพิ่งทะลวงเข้าสู่ขั้นพลังวิญญาณสีม่วง ต่อให้ครูของสวี่มู่มาเอง ต่อหน้าซูหย่า เขาก็ได้แต่ถูกทุบตีจนย่ำแย่เท่านั้น
นั่นคือพลังวิญญาณสีเงินที่เทียบได้กับประมุขของสิบสองวิหาร!
สำหรับศิษย์ “แสนซื่อ” ของนาง แม้ว่าซูหย่าจะโกรธ แต่นางก็เอ็นดูมากด้วย ยากนักที่นางจะยอมรับศิษย์ ดังนั้นนางจึงปกป้องเขาอย่างดุเดือด นี่มีคนมาลงมือถึงหน้าประตู นางจะระงับความโกรธได้ยังไง?
ขณะที่ทุกคนยังคงตกตะลึงกับการปรากฏตัวของซูหย่า ร่างซูหย่าก็กลายเป็นริ้วแสงสีเงินไปปรากฏตัวตรงหน้าสวี่มู่ในชั่วพริบตา สวี่มู่ยังไม่ทันได้ตอบสนอง นางก็ยกร่างสวี่มู่ที่ตายไปแล้วครึ่งหนึ่งขึ้นมาจากพื้น
“เจ้าจะหาเรื่องศิษย์ข้าหรือ?” ซูหย่าเชิดหน้ามองสวี่มู่ที่มีคราบเลือดอยู่ที่มุมปาก
สวี่มู่สั่นไปทั่วร่างอย่างควบคุมไม่ได้เมื่อเจอกับรังสีกดดันที่แข็งแกร่งของซูหย่า เขาอยากทำปากแข็งแต่ก็ไม่กล้า ตอนนี้ในใจเขามีแต่ความเสียใจ
ไหนใครว่าจวินอู๋เป็นขยะที่ถูกสำนักธาราเมฆทอดทิ้ง?
แล้วผู้หญิงที่แข็งแกร่งกว่าครูของสาขาพลังวิญญาณคนนี้คืออะไร?
“ไม่……ไม่ใช่……” สวี่มู่เสียงสั่น พยายามพูดออกมาทั้งที่ฟันกระทบกันกึกๆ แต่ก่อนที่เขาจะพูดจบ ซูหย่าก็ตบหน้าเขาแล้ว!
เหมือนจะตบเล่นๆไปงั้น แต่ทำเอาใบหน้าของสวี่มู่บวมแดงเป็นรอยห้านิ้วเลยทีเดียว มันดูน่ากลัวราวกับว่าผิวบนใบหน้าของเขาจะระเบิดออกมาได้ทุกเมื่อ
“เจ้าพูดเบาเกินไป ข้าไม่ได้ยิน” ซูหย่าพูดอย่างเย็นชา
“ไม่ใช่……”
‘เพี๊ยะ!’
สวี่มู่เพิ่งพูดได้สองคำ ซูหย่าก็ฟาดหลังมือเข้าที่ใบหน้าอีกข้าง ใบหน้าทั้งซ้ายและขวาของเขาจึงบวมขึ้นทันทีเหมือนหมั่นโถวที่เพิ่งเอาออกจากเข่งนึ่ง
“เจ้าเห็นข้าหูหนวกตาบอดเหรอ? ที่เจ้าพูดเจ้าทำอยู่เมื่อกี้ คิดว่าข้าไม่รู้หรือไง?” ซูหย่าพูดอย่างหยาบกระด้าง
สวี่มู่อยากร้องไห้ เขาเสียใจอย่างที่สุดที่ตกลงทำตามคำขอของหลินเฮ่าอวี่ เขาเลยต้องมาตกอยู่ในกำมือของซูหย่าในตอนนี้
เห็นได้ชัดเลยว่าซูหย่าไม่สนใจที่จะฟังคำอธิบายของเขา แค่จะใช้เป็นเหตุผลทุบตีเขาเท่านั้น ไม่ว่าเขาจะพูดอะไร ซูหย่าก็จะมีข้ออ้างสั่งสอนเขาเป็นกระบุง
สิ่งที่ทำให้สวี่มู่สิ้นหวังมากขึ้นไปอีกก็คือ เขาพบว่าพลังวิญญาณของเขาถูกพลังที่เหนือกว่าของซูหย่ากดเอาไว้ ถึงเขาอยากจะดิ้นรนให้เป็นอิสระ แต่มันก็เป็นแค่ความฝันที่สิ้นหวังเท่านั้น
หลังจากทะลวงเข้าสู่ขั้นพลังวิญญาณสีม่วงแล้ว นี่เป็นครั้งแรกที่สวี่มู่รู้สึกสิ้นหวังขนาดนี้