ตอนที่ 1586 นางพญาซูหย่า (1)
ทันใดนั้น ก็ปรากฏร่างของหญิงสาวผู้งดงามเย้ายวนคนหนึ่งยืนอยู่ตรงหน้าจวินอู๋เสีย
ขายาวๆของซูหย่าเหยียบลงบนพื้นอย่างหยิ่งยโส ใบหน้าเชิดขึ้นเล็กน้อยด้วยความหยิ่งชนิดที่ไม่มีใครกล้าลบหลู่ ขวดน้ำเต้าที่ใส่เหล้าห้อยอยู่ที่เอว
“ไอ้หน้าไหนมันไม่มีตา บังอาจแตะต้องศิษย์ของข้า!” เสียงไม่พอใจของผู้หญิงดังขึ้น ดวงตาทรงเสน่ห์ของซูหย่าหรี่ลงครึ่งหนึ่ง และกวาดมองกลุ่มผู้เยาว์ที่ยืนตะลึงอยู่นอกหอจันทร์แรม
ใบหน้างดงามชวนตะลึงและออร่าที่ทรงพลังมหาศาลของนางทำให้พวกผู้เยาว์ที่อยากดูอะไรสนุกๆพากันจ้องมองอย่างตะลึงงัน
สวี่มู่นอนกองอยู่บนพื้น เจ็บปวดไปทั่วร่างราวกับจะระเบิด หลังจากเขาทะลวงเข้าสู่ขั้นพลังวิญญาณสีม่วงได้ เขาก็ไม่ได้รู้สึกเจ็บมากขนาดนี้มานานแล้ว แต่แค่การโจมตีเพียงครั้งเดียวก็ทำให้เขารู้สึกเหมือนตายไปซะยังจะดีกว่า
จวินอู๋เสียมองซูหย่าที่ยืนขวางเป็นโล่อยู่ตรงหน้าอย่างมึนงง คิดไม่ถึงว่าซูหย่าจะปรากฏตัวในเวลานี้
ซูหย่ายืนอย่างสง่างามราวกับนางพญาตรงหน้าทุกคน การปรากฏตัวที่ทรงพลังของนางทำให้ทุกคนที่นั่นไม่กล้าแม้แต่จะหายใจเสียงดัง
ผู้หญิงคนนี้เป็นใคร?
คำถามเดียวกันผุดขึ้นในใจของทุกคนที่นั่น แต่สิ่งที่ทำให้พวกเขาตกใจยิ่งกว่านั้นก็คือคำพูดของซูหย่า
ศิษย์ของนาง……
สายตาของทุกคนหันไปที่ร่างของจวินอู๋เสียโดยไม่ได้ตั้งใจ คำพูดของซูหย่า เป็นไปได้จริงๆหรือว่า จวินอู๋คือศิษย์ของนาง?
พวกเขารู้ดีว่าสวี่มู่แข็งแกร่งขนาดไหน แต่พอซูหย่าปรากฏตัวออกมา อาศัยแค่ฝ่ามือเดียวก็ซัดสวี่มู่ลงไปกองกับพื้นลุกไม่ขึ้นได้แล้ว พลังของนางจะน่ากลัวขนาดไหนกัน?
ที่โดนซัดหมอบอยู่นั่นคือผู้ใช้พลังวิญญาณขั้นสีม่วงนะ!
พลังขนาดนั้นยังไม่มีปัญญาทำอะไรซูหย่าได้เลย
ความกลัวเข้าครอบงำหัวใจของทุกคนทันที
“เจ้า……เจ้าเป็นใคร……” สวี่มู่พยายามลุกขึ้นจากพื้น แต่ความเจ็บปวดรุนแรงกระจายไปทั่วร่าง เขาจึงทำได้แค่นอนกองอยู่บนพื้นและเงยหน้าขึ้นมองซูหย่าผู้สง่างามด้วยความเจ็บปวดทรมาน
ซูหย่ามองสวี่มู่ด้วยสายตาเย็นชา “ข้าคืออาจารย์ของจวินอู๋”
“อะไรนะ……” ดวงตาของสวี่มู่เบิกกว้าง
อาจารย์?
อาจารย์ของจวินอู๋?
ผู้เยาว์บางคนที่มุงดูอยู่นึกออกแล้วว่าซูหย่าคือใคร พวกเขาจำได้ว่ามีคนเฝ้าหอจันทร์แรมอยู่คนหนึ่ง ลือกันว่าเป็นผู้หญิงที่งดงามน่าหลงใหลอย่างที่สุด แต่พวกเขาคิดไม่ถึงเลยว่านางจะมีพลังที่สามารถเอาชนะผู้ใช้พลังวิญญาณขั้นสีม่วงได้ในทันทีแบบนี้!
เมื่อเห็นสภาพของสวี่มู่ พวกเขาก็นึกภาพออกเลยว่าการโจมตีเพียงครั้งเดียวของซูหย่านั้นร้ายกาจน่ากลัวเพียงใด
สำนักธาราเมฆบ้าไปแล้วหรือ?
ให้คนที่มีพลังแข็งแกร่งขนาดนี้มาเฝ้าหอเก็บเหล้าเนี่ยนะ?
“เป็นไปไม่ได้……จวินอู๋จะมีอาจารย์ได้ยังไง……” สวี่มู่ไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่ได้ยิน เขารู้ว่าซูหย่าเป็นใคร แต่หอจันทร์แรมเป็นแค่หอเก็บเหล้าของสำนักธาราเมฆ เป็นไปไม่ได้ที่สำนักธาราเมฆจะให้คนที่แข็งแกร่งเช่นนี้มาอยู่ในที่ต่ำต้อยแบบนี้
แม้ว่าซูหย่าจะลงมือเพียงครั้งเดียว แต่ครั้งเดียวนั้นก็มากเกินพอที่จะทำให้ทุกคนเข้าใจว่าพลังของซูหย่าไม่ใช่สิ่งที่คนธรรมดาจะฝันไปเทียบเคียงได้ ความสามารถระดับนี้ ไม่ต้องพูดถึงเหล่าผู้เยาว์ที่กำลังฝึกฝนอยู่เลย แม้แต่ครูในสำนักธาราเมฆก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของนาง
ซูหย่ามองสวี่มู่อย่างเหยียดหยาม จากนั้นก็หันไปมองจวินอู๋เสียที่ยังคงมึนงงอยู่ “เจ้าเห็นคำพูดของข้าเป็นลมพัดผ่าน เข้าหูซ้ายทะลุหูขวางั้นรึ!”
จวินอู๋เสียได้สติกลับมา นางรีบตอบว่า “ไม่ใช่”
“ไม่ใช่?” ซูหย่าเลิกคิ้วเล็กน้อย “ตอนข้ารับเจ้าเป็นศิษย์ ข้าบอกเจ้าว่ายังไง? ถ้ามีใครรังแกเจ้า หากเจ้าสามารถจัดการมันได้ เจ้าก็จัดการเองไป แต่หากเป็นคนที่เจ้าไม่สามารถจัดการได้ ข้าจะเป็นคนจัดการให้เจ้าเอง ตอนนี้ไอ้หมอนี่มาฉีกหน้าเจ้าถึงที่ แล้วเจ้ามัวยืนบื้ออะไรอยู่? ร้องโวยวายไม่เป็นเรอะ?”