ตอนที่ 1556 เล่นด้วยก็ได้ (2)
จวินอู๋เสียนั่งอยู่ที่โต๊ะพลางขมวดคิ้วมองประตูที่ปิดสนิทนั้น แม้ว่านางจะไม่เห็น แต่จะต้องมีคนกำลังทำเรื่องชั่วร้ายอยู่นอกประตูอีกแน่
พวกเด็กใหม่ของสำนักธาราเมฆไม่พอใจนาง นางเข้าใจได้ เพราะได้เดาผลลัพธ์เช่นนี้เอาไว้ตั้งแต่ต้นแล้ว ก่อนที่จะเกิดเรื่องทั้งหมดนี้ จวินอู๋เสียได้เตรียมตัวไว้ระดับหนึ่ง นางวางแผนเปิดเผยคุณค่าของตัวเองต่อหน้าผู้อาวุโสของสิบสองวิหาร นั่นทำให้นางกลายเป็นคนที่ไม่สามารถแตะต้องได้และยังต้องพยายามทุกวิถีทางเพื่อเอาชนะใจนางอีกด้วย ซึ่งตอนแรกแผนของนางก็ประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี
ตอนแรกๆผู้เยาว์พวกนี้ก็ปฏิบัติตามคำสั่งของวิหารต่างๆที่มอบให้ ไม่มีใครกล้าหาเรื่องจวินอู๋เสียอย่างโจ่งแจ้ง ส่วนคำพูดโต้เถียงขัดแย้งกันนั้น จวินอู๋เสียไม่สนใจ
แต่สิ่งต่างๆก็เริ่มเปลี่ยนไปจากการกระทำแปลกๆของวิหารมารโลหิต
ถ้าสถานการณ์ยังเป็นเหมือนตอนเริ่มต้น จะไม่มีใครกล้าฝ่าฝืนคำสั่งของวิหารตัวเองมาหาเรื่องจวินอู๋เสียแน่ แต่ “การปกป้อง” ของวิหารมารโลหิตได้กระตุ้นและปลุกปั่นอารมณ์ของพวกวัยรุ่นเลือดร้อนให้รุนแรงขึ้น
เนื่องจากพวกวัยรุ่นมีแนวโน้มที่ใช้อารมณ์มากกว่าเหตุผล ถูกกระตุ้นเข้าแบบนี้ พวกเขาจะยังจำคำสั่งที่เคยได้รับมาได้ยังไง การที่พวกเขาไม่เข้ามาต่อสู้กับจวินอู๋เสียตรงๆก็นับว่าเป็นความมีเหตุผลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดที่พวกเขาทำได้แล้ว
แต่ถึงจะเป็นเช่นนั้น ชีวิตของจวินอู๋เสียก็ถูกรบกวนมากแล้ว
เหตุผลทั้งหมดนี้ จวินอู๋เสียเข้าใจดีอยู่แล้ว
มันก็แค่อุบายเลวๆของวิหารมารโลหิต คิดจะทำให้นางโดดเดี่ยวอย่างสมบูรณ์ พอนางถูกล้อมรอบด้วยศัตรู พวกเขาก็จะแสดงตัวเป็นผู้ช่วยให้รอดเพื่อจะได้เอาชนะใจนาง
ต้องพูดเลยว่า ถึงแม้อุบายนี้จะชั่วร้าย แต่อย่างน้อยพวกเขาก็ใช้สมองคิดแล้ว
เพียงแต่……
จวินอู๋เสียหรี่ตาเล็กน้อย
คิดจะใช้นาง ก็ต้องเตรียมตัวที่จะถูกนางใช้กลับด้วย
ความเย็นเยียบทอประกายในดวงตาของจวินอู๋เสีย นางลุกขึ้นยืนและเดินออกไปทางประตู พวกผู้เยาว์ที่รวมตัวกันตามทางเดินเพื่อชมการแสดง ไม่ได้แสดงความสำนึกผิดแม้แต่น้อยเมื่อเห็นจวินอู๋เสียออกมา รอยยิ้มร้ายกาจยังคงอยู่บนใบหน้าของพวกเขา
จวินอู๋เสียมีสีหน้าเย็นชาขณะเดินไปยืนที่หน้าห้องของกู่ซินเยียน และเคาะประตูเสียงดังต่อหน้าทุกคนที่นั่น
ทันทีที่กู่ซินเยียนเปิดประตูออกมา นางก็เห็นจวินอู๋เสียยืนหน้านิ่งอยู่ที่หน้าประตูห้องของนาง การที่จวินอู๋เสียปรากฏตัวที่หน้าห้องของนางทำให้ดวงตาของกู่ซินเยียนฉายแววประหลาดใจขึ้นมา
เป็นที่ทราบกันดีว่าในช่วงสองสามเดือนที่ผ่านมา นางพยายามอย่างหนักเพื่อสานสัมพันธ์กับจวินอู๋เสีย ไม่ลังเลที่จะไปหาเขาบ่อยๆ แต่สุดท้ายก็ไม่ได้แม้แต่รอยยิ้มจากจวินอู๋เสีย ไม่ต้องพูดถึงว่าเขาจะมาหานางเลย จวินอู๋เสียไม่เคยเป็นฝ่ายมาหานางก่อนเลยสักครั้ง
แต่วันนี้ จวินอู๋เสียมาเคาะประตูห้องของนางด้วยตัวเองจริงๆ!
นั่นทำให้กู่ซินเยียนค่อนข้างประหลาดใจทีเดียว
“จวินอู๋? มาหาข้ามีอะไรงั้นหรือ?” แม้ว่าจะประหลาดใจกับการกระทำของจวินอู๋เสีย แต่ใบหน้าของกู่ซินเยียนยังคงมีรอยยิ้มสดใส
ไม่ว่าจวินอู๋จะมาหานางด้วยเรื่องอะไร อย่างน้อยจวินอู๋ก็เป็นฝ่ายเริ่มก่อน!
“มีเวลาไหม?” จวินอู๋เสียเอ่ยปากอย่างใจเย็น
กู่ซินเยียนพยักหน้าทันที
“ไปกับข้าหน่อย” จวินอู๋เสียยื่นคำเชิญให้กู่ซินเยียน
กู่ซินเยียนมีสีหน้าแปลกใจทันที จวินอู๋เสียเชิญนางออกไปด้วยกัน? นี่……ทำให้กู่ซินเยียนตกใจจริงๆ
แต่กู่ซินเยียนยังไม่ทันได้ตอบสนอง จวินอู๋เสียก็หันหลังเดินออกไปแล้ว
กู่ซินเยียนรีบตามไปชนิดที่ไม่ยอมให้ชักช้าเลยแม้แต่น้อย
บรรดาผู้เยาว์ที่ยืนอยู่ตรงทางเดินมองจวินอู๋เสียกับกู่ซินเยียนเดินตามหลังกันมาติดๆด้วยความประหลาดใจ แววตาของพวกเขาเต็มไปด้วยความเหลือเชื่อ