ตอนที่ 1461 โผล่หัวออกมา (3)
เย่เจี๋ยที่เงียบสนิทอยู่ด้านข้าง เมื่อได้ยินคำพูดของจวินอู๋เหยาก็เริ่มจางหายไปแทบจะทันที แล้วเปลี่ยนร่างเป็นเย่กู่ที่ถูหมัดด้วยความคาดหวัง เตรียมพร้อมออกอาละวาด
“นายท่านเจว๋วางใจได้ ถ้าพวกมันกล้าโผล่หัวออกมา ข้ารับประกันได้ว่าจะไม่มีใครรอดออกจากเมืองชิงเฟิงได้แม้แต่คนเดียว” เย่กู่มีสีหน้าตื่นเต้นกระหายเลือด ในฐานะผู้บัญชาการสูงสุดของกองทัพราตรี เขาอยู่เฝ้าพิทักษ์สุสานนานเกินไปแล้ว จึงโหยหาการสู้รบที่นองเลือดและตื่นเต้น
จวินอู๋เหยายิ้มและไม่พูดอะไรอีก
ด้านนอกหอพัก จวินอู๋เสียและชายชุดดำกำลังเผชิญหน้ากัน ลั่วซีที่ตอนแรกหยิ่งผยองมาก พอได้เห็นพลังวิญญาณสีม่วงที่ส่องสว่างอยู่บนร่างของจวินอู๋เสีย ก็หุบปากเงียบทันที แม้จะมีชายชุดดำหนุนหลังอยู่ แต่เขาก็ไม่กล้าไปยั่วยุผู้ใช้พลังวิญญาณขั้นสีม่วงตรงๆ!
“เจ้ามาจากวิหารไหน?” ชายชุดดำจ้องมองจวินอู๋เสีย เขาไม่เชื่อว่าจะมีใครในอาณาจักรล่างที่สามารถทะลวงเข้าสู่พลังขั้นสีม่วงได้ตั้งแต่อายุยังน้อย แม้ว่าพลังวิญญาณสีม่วงจะสามารถรักษาความเยาว์วัยไว้ได้ แต่ก็ไม่ได้เยาว์วัยถึงขนาดนี้ แม้แต่ในอาณาจักรกลาง คนที่สามารถทะลวงเข้าสู่ขั้นสีม่วงตั้งแต่อายุน้อยแบบนี้ก็ถือว่าเป็นอัจฉริยะที่หาได้ยากมาก
“วิหารไหน?” จวินอู๋เสียเหยียดยิ้มเย็นชา “ข้าไม่ได้มาจากวิหารไหนทั้งนั้น ในโลกนี้ไม่ได้มีเพียงคนจากสิบสองวิหารที่สามารถทำอะไรตามใจชอบได้ ดินแดนที่เท้าของเจ้าเหยียบอยู่นั้นเป็นของอาณาจักรล่าง ไม่ใช่สถานที่ที่คนจากอาณาจักรกลางอย่างพวกเจ้าจะมายุ่งวุ่นวายได้!”
“พูดจาโอหัง! คิดว่าเป็นผู้ใช้พลังวิญญาณขั้นสีม่วงแล้วยิ่งใหญ่นักรึไง? เดี๋ยวข้าจะสั่งสอนเจ้าให้รู้ถึงความแตกต่างระหว่างพลังขั้นสีม่วงกับพลังขั้นสีม่วงเอง!” พอสิ้นเสียงของชายชุดดำ เขาก็กลายเป็นแสงสีม่วงพุ่งตรงเข้าหาจวินอู๋เสียอย่างรวดเร็ว!
ร่างของจวินอู๋เสียก็กลายเป็นแสงสีม่วงในเวลาเดียวกัน
แสงจากพลังวิญญาณสีม่วงทั้งสองเป็นเหมือนกับสายฟ้าสองสายเข้าปะทะกันพาดผ่านกันไปมากลางอากาศภายใต้ท้องฟ้าโปร่ง!
แรงกดดันที่แผ่ออกมาจากผู้ใช้พลังวิญญาณสีม่วงทั้งสองที่ต่อสู้กันอยู่ ทำให้ผู้ลี้ภัยที่ยืนอยู่ด้านข้างรู้สึกหายใจไม่ค่อยออก
ดวงตาหลายคู่ที่ซ่อนอยู่ในเงามืดเฝ้ามองการต่อสู้ครั้งใหญ่อย่างตั้งใจ และให้ความสนใจกับทุกอย่างที่เกิดขึ้นตรงหน้า
“เด็กคนนั้นมาจากไหน? จากวิธีที่เขาพูด ฟังเหมือนเขาไม่ได้มาจากสิบสองวิหาร หรือข้าควรจะพูดว่าฟังเหมือนเขาไม่ได้มาจากอาณาจักรกลางด้วยซ้ำ และเขาก็ยังเด็กมาก เป็นไปได้หรือว่าอาณาจักรล่างก็สร้างอัจฉริยะปีศาจอย่างนี้ได้ด้วย?” ชายคนหนึ่งขมวดคิ้วมองจวินอู๋เสียที่กำลังต่อสู้กับชายชุดดำ
“ถ้าเป็นอย่างนั้นจริง การแบ่งเขตอำนาจในอาณาจักรล่างจะเปลี่ยนไปอย่างแน่นอน ข้าเคยเจอชายชุดดำคนนั้นมาก่อน เขาเป็นหนึ่งในผู้อาวุโสจากวิหารปีศาจเพลิง แม้ว่าพลังของเขาจะไม่ได้อยู่ในกลุ่มที่เก่งที่สุด เขาก็ยังไม่ใช่คนที่พวกเราจะเอาชนะได้ แต่เด็กคนนั้นต่อสู้กับเขาได้อย่างไม่เสียเปรียบเลย แค่เรื่องนั้นอย่างเดียวก็ทำให้ข้าประหลาดใจมากแล้ว” ชายอีกคนพูดพลางลูบคาง
คนที่สามารถต่อสู้ได้เทียบเท่ากับผู้อาวุโสคนหนึ่งของสิบสองวิหารนั้นพบเห็นได้ไม่บ่อยนัก และคนที่ซ่อนตัวอยู่ในเมืองชิงเฟิงกลุ่มนี้ไม่ได้ทำการเคลื่อนไหวใดๆ เพราะพวกเขาพบว่าวิหารปีศาจเพลิงได้ส่งผู้อาวุโสคนหนึ่งของพวกเขามาดูแลสถานที่นี้
พวกเขามีกันอยู่แค่ไม่กี่คน ไม่สามารถเอาชนะผู้อาวุโสได้
ความคิดเดียวกันดูเหมือนจะผุดขึ้นภายในจิตใจของทุกคนที่มาจากอาณาจักรกลางซึ่งซ่อนตัวอยู่ในเงามืด พวกเขาเฝ้ามองทุกอย่างที่เกิดขึ้นอย่างเงียบๆ โดยไม่รู้ว่าสิ่งที่พวกเขาเห็นนั้นเป็นจุดเริ่มต้นของการผงาดขึ้นมาของอาณาจักรล่าง!
ชายชุดดำและจวินอู๋เสียต่อสู้กันแค่ไม่กี่นาทีเท่านั้น แต่ซัดกันไปแล้วไม่ต่ำกว่าร้อยกระบวนท่า เขาคิดว่ากับคู่ต่อสู้อายุน้อยเช่นนี้ แม้ว่าจะทะลวงถึงขั้นพลังวิญญาณสีม่วงแล้ว แต่พลังก็คงยังไม่มั่นคง แต่หลังจากปะทะกันแล้ว ภัยคุกคามที่จวินอู๋เสียนำมาสู่เขานั้นเกินกว่าความคาดหมายของเขา!