ตอนที่ 1406 เจรจา (1)
“ครั้งสุดท้ายที่ฝ่าบาทออกจากวัง ท่านไปที่แคว้นฉีและมอบของสำคัญมากให้แก่หลินอ๋องแห่งแคว้นฉี เป็นเพราะของสิ่งนี้แหละเพคะที่ทำให้แคว้นเหยียนเราและอีกสองแคว้นแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น แต่ดูเหมือนฝ่าบาทจะลืมเรื่องนี้ไปหมดแล้ว” ฉูหลิงเย่พูด ทันใดนั้นนางก็ปล่อยพลังวิญญาณออกมา นางมีพรสวรรค์ไม่เลวเลย แต่เมื่อเทียบกับปีศาจอย่างจวินอู๋เสีย ก็ยังไม่คู่ควรที่จะเอ่ยถึง ในตอนที่นางปล่อยพลังวิญญาณออกมา พลังวิญญาณรอบตัวนางก็พลันเปลี่ยนเป็นสีม่วง!
พลังวิญญาณสีม่วงนั้นไม่ได้รุนแรงและบริสุทธิ์เท่าพลังวิญญาณของพวกจวินอู๋เสีย และคงอยู่ได้ไม่กี่วินาทีก่อนจะหายไป
แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่านั่นคือพลังวิญญาณสีม่วง!
“เพิ่มระดับพลังวิญญาณชั่วคราวงั้นหรือ?” จวินอู๋เสียขมวดคิ้ว เข้าใจทันทีว่าฉูหลิงเย่กำลังพูดถึงอะไร
ตอนที่นางออกจากแคว้นฉี เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับเหตุการณ์ต่างๆที่อาจจะเกิดขึ้น นางจึงมอบวิธีการเพิ่มระดับพลังวิญญาณชั่วคราวให้กับจวินเสี่ยน และขอให้เขาส่งต่อทักษะนี้ให้กับคนในแคว้นพันธมิตรทั้ง 3 แคว้น เพื่อให้พวกเขามีพลังที่แข็งแกร่งพอที่จะปกป้องตัวเองได้
มันเป็นการกระทำที่รอบคอบมากของจวินอู๋เสีย ที่ทำให้กองทัพของทั้ง 3 แคว้นมีอาวุธที่ดีที่สุดในการต่อต้านคนพิษ
สำหรับพลังวิญญาณสีแดง เวลาที่จะคงพลังวิญญาณสีม่วงเอาไว้ได้นั้นจะสั้นมากๆ แต่ในช่วงเวลาแห่งความเป็นความตาย พลังที่ระเบิดออกมาแค่นาทีเดียวก็สามารถพลิกสถานการณ์ได้!
“หลินอ๋องมอบทักษะนี้ให้กับหม่อมฉันและท่านราชครูของแคว้นเฉียว และกระตุ้นให้พวกเราสอนทักษะนี้ให้กับประชาชนด้วย แม้ว่าพวกเราจะมีเวลาเรียนรู้ค่อนข้างสั้น แต่ก็เห็นแล้วว่ามันได้ผล” ฉูหลิงเย่ยิ้ม ตอนแรกที่นางเห็นทักษะนี้ นางแทบไม่เชื่อเลยว่าจะมีทักษะที่น่าอัศจรรย์แบบนี้อยู่ในโลกด้วย
แทบทุกคนในกองทัพแคว้นเหยียนได้เรียนทักษะนี้ แม้ว่าพลังวิญญาณของพวกเขาจะไม่ได้แข็งแกร่งอะไรนัก แต่อย่างน้อยพวกเขาก็ยังสามารถระเบิดพลังวิญญาณได้ในทันที
และเมื่อผู้ใช้พลังวิญญาณสีม่วงนับล้านคนรวมตัวกัน ต่อให้พวกเขารักษาระดับพลังวิญญาณไว้ได้แค่ 30 วินาที มันก็เพียงพอที่จะทำให้แผ่นดินแตกเป็นเสี่ยงๆแล้ว!
แคว้นฉีและแคว้นเฉียวได้รับสืบทอดแคว้นจิ้วมา ทำให้ความแข็งแกร่งของกองทัพพวกเขาเพิ่มขึ้นอย่างมาก เมื่อรวมกับกองทัพแคว้นเหยียน ก็อาจกล่าวได้ว่า พวกเขาคือกองกำลังพันธมิตรที่น่าเกรงขาม เป็นเพราะกองทัพของทั้งสามแคว้นมีพลังแข็งแกร่งเช่นนี้ จึงสามารถยกทัพไปเป็นกำลังเสริมให้กับแคว้นอื่นๆได้ ไม่อย่างนั้น ด้วยความโหดของพวกคนพิษ แค่จะปกป้องตัวเองยังยากเลย
จวินอู๋เสียพยักหน้า นางรู้ดีว่าผลของทักษะนั้นรุนแรงแค่ไหน ทักษะที่นางไขออกมาได้จากคำพูดสุดท้ายที่ “อาจารย์” ของนางทิ้งอาไว้
ไม่ใช่แค่กองทัพของสามแคว้นเท่านั้น แม้แต่ประชาชนทั่วไปที่ไม่เคยเข้าร่วมกองทัพก็ได้เรียนทักษะนี้ ทักษะนี้ได้แพร่หลายไปทั่วทั้งสามประเทศ เด็กที่เพิ่งเริ่มฝึกพลังวิญญาณก็ได้รับการสอนทักษะนี้แล้ว
อาจกล่าวได้ว่า ต่อให้ทั้งสามแคว้นไม่มีกองทัพคอยดูแลพรมแดนของตัวเอง แค่ประชาชนของพวกเขาก็เพียงพอที่จะเอาชนะกองทัพคนพิษได้
พวกคนพิษแข็งแกร่งมากเมื่อเทียบกับคนทั่วไป แต่เมื่อมีทักษะเพิ่มระดับขั้นพลังวิญญาณชั่วคราว ถึงแม้จะแค่แปบเดียวก็ตาม ก็เพียงพอที่จะทำลายพวกคนพิษได้แล้ว!
ขณะที่พวกเขากำลังคุยกัน มหาอำมาตย์เหวินหยูและเล่นเฉินก็เดินเข้ามาอย่างเร่งรีบ ชายทั้งสองก้าวเข้าไปในท้องพระโรง และมองจวินอู๋เสียที่นั่งอยู่บนบัลลังก์ด้วยความประหลาดใจ พวกเขาคุกเข่าลงทำความเคารพทันที
ในขณะเดียวกัน สายตาสงบนิ่งของเหวินหยูก็ตื่นตะลึงเล็กน้อยเมื่อเห็นจวินอู๋เสีย คนอื่นๆอาจไม่ได้สังเกต แต่เขารู้สึกได้อย่างชัดเจนว่าพลังของจวินอู๋เสียในตอนนี้ได้ขึ้นถึงขั้นพลังวิญญาณสีม่วงแล้ว!
ในช่วงเวลาสั้นๆแค่หนึ่งปี นางได้พัฒนาจากพลังวิญญาณขั้นสีฟ้าไปเป็นพลังวิญญาณขั้นสีม่วงจริงๆ!