ตอนที่ 1341 สมบัติของสุสานจักรพรรดิ (3)
ยิ่งเห็นมากเท่าไร จวินอู๋เสียก็ยิ่งอยากรู้อยากเห็นมากขึ้นว่าจักรพรรดิแห่งความมืดที่เสียชีวิตไปนั้นแข็งแกร่งมากเพียงใด ทุกอย่างที่สลักไว้บนภาพจิตรกรรมฝาผนังแสดงให้เห็นถึงความรุ่งโรจน์และความสำเร็จอันน่าทึ่งของจักรพรรดิแห่งความมืดที่ไม่มีใครในอาณาจักรกลางเทียบได้เลย ในบรรดาภาพบนฝาผนังทั้งหมด มีภาพหนึ่งที่สร้างความประทับใจให้กับจวินอู๋เสีย ชายสวมหน้ากากนั่งหลังตรงอยู่บนเก้าอี้สูง ตรงหน้าเขามีคน 25 คนคุกเข่าอยู่
เป็นการคุกเข่าเรียงตามลำดับชั้น
คน 4 คนคุกเข่าอยู่หน้าสุด โดยมีอีก 9 คนอยู่ข้างหลัง และแถวที่ 3 ก็คือ 12 คนเป็นแถวสุดท้าย
ถ้าจวินอู๋เสียเดาไม่ผิดล่ะก็ นั่นน่าจะเป็น 25 คนที่ยืนอยู่ปลายยอดปิรามิดในอาณาจักรกลาง
4 พรรค 9 อาราม และ 12 วิหาร
ก่อนที่จักรพรรดิแห่งความมืดจะปรากฏตัวขึ้น คนพวกนี้แต่ละคนมีอำนาจเหนือส่วนหนึ่งของอาณาจักรกลาง แต่เมื่อจักรพรรดิแห่งความมืดมาพร้อมกับราชอาณาจักรแห่งความมืด บรรดาผู้มีอำนาจเหล่านี้ก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องสละตำแหน่งจากจุดสูงสุดและยอมจำนนแทบเท้าของจักรพรรดิแห่งความมืด
นั่นคือความยิ่งใหญ่ของจักรพรรดิแห่งความมืด
ผู้ปกครองที่มีอำนาจเพียงคนเดียวได้รับการยอมรับจากคนทั้ง 25 คน เมื่ออยู่ต่อหน้าชายคนเดียวนั้น ทุกคนก็ทำได้แค่หมอบราบคาบแก้วต่อเขาโดยที่ไม่อาจโต้แย้งได้
จวินอู๋เสียเคยสู้กับคนจากสิบสองวิหารมาก่อน นางรู้ว่าความแข็งแกร่งของสิบสองวิหารนั้นไม่ใช่การพูดโอ้อวดเกินจริงเลย และคนที่นางเจอก็เป็นเพียงส่วนเล็กๆของสิบสองวิหารเท่านั้น ยกเว้นชายชุดเทาแล้ว ความแข็งแกร่งของคนอื่นๆก็น่าจะต่ำกว่าระดับกลางๆของสิบสองวิหาร แต่ถึงจะเป็นแบบนั้น ตอนที่ปะทะกัน พวกเขาก็ยังสู้ลำบากเลย
และระดับที่เหนือกว่าคนพวกนั้นผู้อาวุโสและประมุขของสิบสองวิหาร
พลังระดับนั้นไม่ใช่สิ่งที่จวินอู๋เสียและเพื่อนๆของนางจะเอาชนะได้ในเวลานี้
หนึ่งราชอาณาจักร สี่พรรค เก้าอาราม สิบสองวิหาร
สิบสองวิหารอยู่อันดับล่างสุดในบรรดากลุ่มอำนาจทั้งหมดนี้ แต่เนื่องจากพวกเขามีจำนวนมากที่สุด และปกติจะร่วมมือกันต่อต้านคนภายนอก จึงสามารถรักษาชื่อสิบสองวิหารเอาไว้ได้ ถ้าแค่วิหารเดียวลำพังล่ะก็ ไม่ต้องพูดถึงหนึ่งราชอาณาจักรเลย แค่กลุ่มอำนาจเดียวจากสี่พรรคหรือเก้าอารามก็สามารถบดขยี้พวกเขาให้ตายได้แล้ว!
จากปัจจัยเหล่านี้ เห็นได้ชัดว่าอำนาจของราชอาณาจักรแห่งความมืดนั้นน่ากลัวจริงๆตามที่เขาลือกัน
ไม่เช่นนั้น หลายปีที่ผ่านมา หลังจากที่จักรพรรดิแห่งความมืดตายไป ทำไมกลุ่มอำนาจต่างๆในอาณาจักรกลางถึงยังกลัวราชอาณาจักรแห่งความมืดอยู่ และไม่กล้าที่จะให้เรื่องเกี่ยวกับการตามหาสุสานจักรพรรดิแห่งความมืดเปิดเผยออกไป
พวกเขามีชิ้นส่วนของแผนที่ตั้งแต่แรกอยู่แล้ว แต่พวกเขาก็ไม่กล้าตามหาไปมากกว่านี้ แต่กลับแอบส่งมันลงไปที่อาณาจักรล่างเพื่อให้คนจากอาณาจักรล่างจัดการแทน ความกลัวที่มีต่อราชอาณาจักรแห่งความมืดของพวกเขาต้องฝังรากลึกจนไม่กล้าแม้แต่จะเก็บแผนที่ไว้ในครอบครอง
“คนที่กดขี่ข่มเหงผู้อ่อนแอจะต้องได้รับผลกรรมตามมาแน่” จวินอู๋เสียอดเยาะเย้ยไม่ได้ สิบสองวิหารโหดเหี้ยมไร้ความปราณีจนถึงขีดสุด แต่พวกเขาก็ยังต้องยอมสยบต่อราชอาณาจักรแห่งความมืด
โลกดำเนินไปด้วยกฎเดียวกันสำหรับทุกคน ถ้าไม่สามารถพัฒนาความแข็งแกร่งและปีนขึ้นไปยังตำแหน่งที่สูงกว่าได้ล่ะก็ พวกเขาก็จะถูกคนอื่นขย้ำตายในที่สุด
เรือที่แล่นทวนกระแสน้ำจะไม่เดินหน้าไปได้ แต่จะถอยหลังแทน
จวินอู๋เสียเดินไปตามทาง แล้วจู่ๆนางก็สังเกตเห็นแสงไฟเหนือหัวโอนเอนเล็กน้อย แสงไฟริบหรี่อยู่ช่วงหนึ่ง แล้วไฟที่ส่องทุกอย่างในทางเดินทั้งหมดก็สับสนวุ่นวายขึ้นมา
ประสาทสัมผัสของจวินอู๋เสียตื่นตัวขึ้นมาทันที ทุกๆเซลล์ในร่างกายของนางตึงเครียดขึ้นด้วยความวิตกกังวล
เมื่อคำนวณจากช่วงเวลาที่สุสานจักรพรรดิแห่งความมืดถูกสร้างขึ้นและถูกผนึกเอาไว้ทุกด้าน ก็ไม่น่าจะมีใครเฝ้าอยู่ในนี้ เมื่อไม่มีทั้งอาหารและน้ำ การจะอยู่อาศัยที่นี่เป็นเวลาหลายร้อยปีถึงเกือบพันปีนั้นแทบจะเป็นไปไม่ได้เลย แต่มีสิ่งหนึ่งได้สร้างความสงสัยขึ้นในใจของจวินอู๋เสีย และทำให้นางไม่กล้าที่จะมั่นใจในเรื่องนี้มากเกินไปนัก
มันคือสิ่งที่เกิดขึ้นกับเหวินหยู……
เหวินหยูบังเอิญเข้ามาในสุสานจักรพรรดิแห่งความมืดได้ แต่เขาไม่รู้ว่าตัวเองไปอยู่บนยอดผาสุดสวรรค์ได้ยังไง!