ตอนที่ 765 พายมาแล้ว (2)
……….
ภาพยนตร์เรื่องม่านรัตติกาลนี้ได้รับเสียงชื่นชมจากในวงการอย่างล้นหลาม!
สามารถแข่งกับชีวิตมหัศจรรย์ ทรูแมนโชว์ได้อย่างแน่นอน!
ถึงขั้นที่อาจส่งผลให้เซี่ยนอวี๋ผิดหวังในการคว้ารางวัลดรากอนอวอร์ดอีกครั้ง!
เนื่องจากชีวิตมหัศจรรย์ ทรูแมนโชว์มีองค์ประกอบของภาพยนตร์ดราม่าสูงมาก
ส่วนม่านรัตติกาลแม้จะไม่มีความดราม่าที่รุนแรงนัก ทว่าบรรยากาศของศิลปะกลับเข้มข้นมากกว่า!
จากรสนิยมและมาตรฐานของคณะกรรมการคัดเลือกรางวัลดรากอนอวอร์ดตลอดหลายปีที่ผ่านมา ภาพยนตร์ประเภทเดียวกับม่านรัตติกาลดูเหมือนว่าจะถูกจริตคณะกรรมการกลุ่มนี้มากกว่า!
และในฐานะผู้ผลิตภาพยนตร์เป็นอาชีพเสริม แน่นอนว่าหลินเยวียนรู้จักภาพยนตร์เรื่องม่านรัตติกาล
เขาติดตามตลาดภาพยนตร์อยู่บ้าง
เมื่อไหร่ที่มีผลงานเรื่องฮิตออกมา เขาเองก็สนอกสนใจ ถึงขั้นที่ไปดูที่โรงภาพยนตร์กับครอบครัว
รวมไปถึงเรื่องม่านรัตติกาลซึ่งชื่อเสียงทะลุปรอท
ต้องยอมรับว่าภาพยนตร์เรื่องม่านรัตติกาลเป็นภาพยนตร์เชิงศิลปะที่ยอดเยี่ยมจริงๆ การเปรียบเปรยที่หลากหลายและสามารถตีความความหมายอันลึกซึ้งได้จากมุมมองที่แตกต่างกัน
มีนัยและควรค่าแก่การขบคิด
หากต้องเผชิญหน้ากับชีวิตมหัศจรรย์ ทรูแมนโชว์ ย่อมส่งผลกระทบระดับลอบโจมตีต่อหลินเยวียน และอาจทำให้เขาต้องพลาดรางวัลใหญ่ไปในที่สุด
ต้องเข้าใจว่า
บนโลก เรื่องชีวิตมหัศจรรย์ ทรูแมนโชว์ไม่นับว่าโดดเด่นด้านรางวัล เนื่องจากในปีที่ภาพยนตร์เรื่องนี้เข้าฉาย เกิดเหตุการณ์ปะทะเดือดระหว่างเทพเซียนพอดี
ใครที่สนใจสามารถเข้าไปค้นหาดูได้ว่าในปีนั้นมีผลงานระดับเทพกี่เรื่องที่เข้าฉาย
ไม่ว่าจะด้วยเวลาหรือโชคชะตา
สตาร์ไลท์ก็มีศิลปินระดับแนวหน้าเป็นจำนวนมาก
เหล่าโจวหัวเราะอย่างมีเลศนัย “เพียงแต่ไม่มีใครคาดคิดว่านายจะเตรียมไพ่ไว้สองใบ ชีวิตมหัศจรรย์ ทรูแมนโชว์ช่วงต้นปีคือหนึ่งในนั้น”
ใช่แล้ว
หลินเยวียนเตรียมไพ่ไว้สองใบ!
ชีวิตอัศจรรย์ของพายเรื่องนี้คือภาพยนตร์เชิงศิลปะเช่นเดียวกัน!
ภาพยนตร์เชิงศิลปะซึ่งทำให้ผู้กำกับชาวเอเชียอย่างอัง ลีคว้ารางวัลออสการ์สาขาผู้กำกับภาพยนตร์ยอดเยี่ยมไปครอง!
หากจะแข่งเรื่องการอุปมา?
จะมีภาพยนตร์สักกี่เรื่องที่ใช้มีการอุปมาไปมากกว่านี้
หากจะแข่งเรื่อง
ชีวิตอัศจรรย์ของพายซึ่งปล่อยให้ผู้คนนับหมื่นนับแสนคนตีความออกมาหลากหลายรูปแบบจนนับไม่ถ้วน จนถึงขั้นที่เกิดการโต้เถียงกันเป็นวงกว้างเช่นนี้จะมาเล่นๆ ได้หรือ?
นี่คือภาพยนตร์ซึ่งถูกสร้างขึ้นมาเพื่อคว้ารางวัลอย่างแท้จริง!
รางวัลสำคัญในดรากอนอวอร์ดจะต้องเป็นของหลินเยวียนอย่างแน่นอน!
ยิ่งไปกว่านั้น ต่อให้ส่งไปแค่ชีวิตมหัศจรรย์ ทรูแมนโชว์ ใครจะคว้าชัยนั้นไม่แน่นอน รสนิยมเป็นเรื่องที่ยากจะคาดเดา
มือซ้ายเป็นทรูแมน มือขวาเป็นพาย
ประกันสองเท่า
หลังจากพูดคุยกับเหล่าโจวเกี่ยวกับสถานการณ์ของภาพยนตร์เรื่องนี้แล้ว หลิ นเยวียนจึงล็อกอินเข้าบัญชีทางการของตนเองบนบล็อกในทันที
ดังที่เหล่าโจวกล่าวไว้
บนบล็อกมีการโปรโมตเกี่ยวกับชีวิตอัศจรรย์ของพาย เพียงแต่อิทธิพลของภาพยนตร์เรื่องนี้ยังไม่แผ่ขยายเป็นวงกว้าง
“รีโพสต์”
‘ภาพยนตร์เรื่องใหม่กำลังจะเข้าฉาย โปรดรอติดตาม’
ไม่จำเป็นต้องพูดให้มากความ ในการโปรโมตก็แนะนำภาพยนตร์ไว้บ้างแล้ว
[ชีวิตอัศจรรย์ของพาย ภาพยนตร์เรื่องใหม่ซึ่งเซี่ยนอวี๋รับหน้าที่เขียนบท กำลังจะเข้าฉาย]
[รู้หรือไม่ ว่าเขาใช้ชีวิตร่วมกับเสือบนมหาสมุทรอันกว้างใหญ่ถึง 299 วัน!]
[ความท้าทายของการเอาชีวิตรอดในท้องทะเล: เรื่องราวระหว่างเด็กชายพายและเสือที่ต้องถูกพูดถึง!]
[ผลงานที่ใช้เงินลงทุนสูงสุดในบรรดาที่เซี่ยนอวี๋เขียนบทได้ถือกำเนิดขึ้นแล้ว: ผลงานแฟนตาซีชิ้นเอกที่จะสั่นสะเทือนหัวใจของทุกคน!]
[…]
ความท้าทายของการเอาชีวิตรอดในท้องทะเล!
นี่คือประเด็นหลักที่ชัดเจนของภาพยนตร์เรื่องนี้
อันที่จริงในภาพยนตร์เรื่องนี้ยังมีประเด็นหลักที่ลึกซึ้งกว่านั้น ทว่าการโปรโมตไม่สามารถพูดออกมาได้ตามตรง
จะให้บอกว่าภาพยนตร์เรื่องนี้มีการเปรียบเปรยมากน้อยแค่ไหนคงไม่ได้…
เรื่องแบบนี้จำเป็นต้องให้ผู้ชมค้นพบด้วยตนเองจึงจะมีความหมาย ไม่เช่นนั้นอาจสูญเสียความตื่นเต้นและประหลาดใจไป
อย่างไรก็ตาม เมื่อเซี่ยนอวี๋เริ่มโปรโมต ในที่สุดภาพยนตร์เรื่องนี้ก็ถึงดูดความสนใจของสาธารณชนได้เป็นวงกว้าง!
พื้นที่แสดงความคิดเห็นคึกคักขึ้นมา
‘เอาชีวิตรอดในท้องทะเล? ไม่สนใจ อะไรนะ? หนังของเซี่ยนอวี๋ อื้ม เอาชีวิตรอดในท้องทะเล ฟังดูน่าสนใจมาก’
‘ฮ่าๆๆๆ คอมเมนต์บนคือสมจริงมาก!’
‘ดูเหมือนว่าพ่อเพลงอวี๋จะยอมแพ้กับดรากอนอวอร์ดแล้ว หนังใหม่ไม่ใช่หนังเชิงศิลปะ!’
‘ก่อนหน้านี้เรื่องชีวิตมหัศจรรย์ ทรูแมนโชว์ก็เป็นหนังศิลปะประเภทหนึ่งไม่ใช่เหรอ ฉันรู้สึกว่าหนังเรื่องนั้นน่าจะทำให้พ่อเพลงอวี๋คว้ารางวัลดรากอนอวอร์ดนะ’
‘ไม่ง่ายอย่างที่คุณคิดหรอก’
‘ทำไมล่ะครับ หนังเรื่องนั้นก็ดีไม่ใช่หรือ?’
‘หนังเรื่องนั้นดีก็จริง เดิมทีจะต้องคว้าแชมป์ดรากอนอวอร์ดได้อย่างแน่นอน ทว่าในปีนี้เรื่องม่านรัตติกาลกระแสแรงมาก ฉันว่าหนังเรื่องนั้นมีโอกาสมากที่สุดในดรากอนอวอร์ด’
‘ต้องบอกว่า ม่านรัตติกาลสุดยอดจริงๆ ’
‘ทำไมต้องดรากอนอวอร์ด ความยอดเยี่ยมของหนังของพ่อเพลงอวี๋ไม่จำเป็นต้องพิสูจน์ด้วยรางวัล’
‘ไม่ว่ายังไง ชีวิตมหัศจรรย์ ทรูแมนโชว์ก็สุดยอดที่สุดในใจผม’
‘ฉันจินตนาการพล็อตเรื่องหนังเรื่องใหม่ของพ่อเพลงอวี๋ได้เลย เด็กชายพายกับเสือต่อสู้กับปลาฉลาม สุดท้ายแล้วได้กินเลือดกินเนื้อปลาฉลาม!’
‘ฟังดูเหมือนเป็นหนังเชิงพาณิชย์ที่ขายสเปเชียลเอฟเฟ็กต์’
‘เด็กชายพาย? ตัวเอกเป็นผู้ชาย? ไม่มีคนสวยใส่บิกินี? พ่อเพลงอวี๋ทำไมไม่เปิดไพ่แบบคนอื่นเขาบ้าง! หนังแบบนี้ต้องให้ฉลามยักษ์ไล่ตามพระเอกแล้วก็ผู้หญิงหลายคนที่ใส่บิกินี ระหว่างดำเนินเรื่องมีอะไรให้ดูเพลินๆ ตาบ้าง’
‘…’
ผู้ชมมองว่านี่คือภาพยนตร์เชิงพาณิชย์จำพวกต่อสู้กับปลาฉลาม ถึงอย่างไรภาพยนตร์ประเภทนี้ก็พบเห็นได้ทั่วไปในตลาด
ก็ภาพยนตร์เชิงพาณิชน์นี่นา
โดยทั่วไปภาพยนตร์ประเภทนี้มักประกอบด้วยตัวเอกที่กล้าหาญและมีไหวพริบ กอปรกับเพื่อนร่วมทีมกระจอกงอกง่อยอีกหนึ่งถึงสองคน รวมไปถึงสาวสวยในชุดบิกินีซึ่งทำหน้าที่เป็นไม้ประดับอีกสามสี่คน
เพื่อนร่วมทีมรับหน้าที่เป็นตัวถ่วงให้กับตัวเอก และเน้นย้ำความยอดเยี่ยมกระเทียมดองของตัวเอก
สาวสวยในชุดบิกินีรับหน้าที่กรีดร้องและตกใจกลัวปลาฉลาม หลังจากนั้นเสื้อผ้าของพวกเธอจะขาดวิ่นเป็นอาหารตาให้แก่ผู้ชม และสุดท้ายจะได้รับความช่วยเหลือจากตัวเอกจนก่อเกิดเป็นความรักท่ามกลางความวินาศสันตะโร
อาจมีบางคนต้องตายระหว่างเรื่อง เพื่อเพิ่มบรรยากาศแห่งความสิ้นหวัง
ไม่ว่าอย่างไรภาพยนตร์เชิงพาณิชย์ล้วนถ่ายทำกันเช่นนี้
แต่ความแตกต่างในภาพยนตร์เรื่องนี้ของหลินเยวียนอยู่ที่ ภาพยนตร์เรื่องนี้คล้ายกับว่าจะไม่มีสาวสวยในชุดบิกินีและขายาวๆ ของพวกเธอ ในท้องทะเลมีเพียงตัวเอกและเสือตัวหนึ่ง ไม่รู้ว่าเสือตัวนี้เป็นเสือตัวผู้หรือเป็นเสือตัวเมีย ถ้าเป็นเสือตัวผู้คงจะต้องส่งเข้าสวนสัตว์
นี่คือเซตติงของศึกระหว่างราชาแห่งแผ่นดินและจักรพรรดิแห่งท้องทะเลงั้นหรือ?
ตัวเอกรับหน้าที่ควบคุมเสือ?
สมองของทุกคนกำลังหลงทาง
โครงเรื่องที่พวกเขาจินตนาการไว้นั้นต่างจากเนื้อหาในภาพยนตร์อย่างสิ้นเชิง
อย่างไรก็ตาม สตาร์ไลท์ไม่ได้อธิบาย
ให้ทุกคนคิดว่าเป็นเช่นนี้ไม่ใช่ปัญหาอะไรหรอก ไม่ว่าอย่างไรเรื่องแบบนี้ก็ฟังดูแปลกใหม่
นี่คือลูกเล่น
หากคุณบอกว่าแท้จริงแล้วนี่คือภาพยนตร์วรรณกรรม คาดว่าความคาดหวังของผู้ชมน่าจะลดลง
ไม่ว่าจะมองจากมุมไหน แรงดึงดูดซึ่งภาพยนตร์เชิงพาณิชย์มีต่อผู้ชมนั้นเหนือกว่าภาพยนตร์เชิงศิลปะมาก
ผู้ชมจะค้นพบเรื่องนี้เมื่อเดินเข้าไปในโรงภาพยนตร์เท่านั้น
ภาพยนตร์เรื่องนี้ แท้จริงแล้วเกินกว่าจินตนาการของทุกคนไปมาก!
เป็นเรื่องราวที่ยิ่งน่าสะพรึงกลัวเมื่อยิ่งขบคิด!
………………………………………….