ตอนที่ 713 ขุนพลชำนาญยุทธ์
ถูกต้องแล้ว!
นี่คือราชาโจรสลัด!
นี่คือนินจาจอมคาถา!
ว่ากันว่าอาการหนักต้องใช้ยาแรง!
ผลงานทั้งสองเรื่องนี้ คือยาแรงในยาแรง!
สมุดมรณะ นินจาจอมคาถา และราชาโจรสลัดอันเลื่องชื่อ สามเรื่องเอกที่ใครๆ ก็ต้องอ่าน[1]ในตำนาน…
หากเวลาเอื้ออำนวยและมีเรี่ยวแรงเพียงพอ หลินหยวนก็คงไม่รังเกียจที่จะปล่อยผลงานการ์ตูนยอดนิยมอย่าง ‘เทพมรณะ’ ออกมาทั้งหมดในคราวเดียว!
เพราะว่า…
เขาโมโหแล้ว!
ทว่าเวลาและเรี่ยวแรงไม่เอื้ออำนวย
เขาจึงใช้ผลงานสองชิ้นนี้ รวมกับยอดนักสืบฉู่อวี๋ระเบิดวงการการ์ตูนบนโลกนี้ไปเลยแล้วกัน นี่เป็นขีดจำกัดของหลินเยวียนแล้ว!
แต่ในครั้งนี้สามารถกล่าวได้ว่าไร้เทียมทานในอุตสาหกรรมการ์ตูน!
นักเรียนประถมแห่งความตาย บวกกับราชาโจรสลัดและนินจาจอมคาถา จะไม่คู่ควรกับคำว่าไร้เทียมทานเชียวหรือ?
ถ้ายังไม่พอ หลังจากนี้ยังมีอีก!
ขนมปังก็มีได้ นมวัวก็มีได้[2]!
ไม่ขี้เกียจแล้ว!
ไม่ขี้เกียจแล้วจริงๆ !
คนอ่านต้องการท่าไหนผมมีให้หมด!
“พลั่ก”
ทันใดนั้นหลินเยวียนก็ได้ยินเสียงหนึ่ง
เขาหันหน้าไป และเห็นว่าหลัวเวยเข่าอ่อนยวบลงทันที…
คุกเข่าซะแล้ว
“อาจารย์ โปรดรับการคำนับจากฉันด้วย!”
หลังจากนั้นผู้ช่วยหลายคนต่างคุกเข่าลงในท่าทางเดียวกัน
ใต้เข่าลูกผู้ชายมีทองคำ
บนคุกเข่าคำนับฟ้าดินประมุข ล่างคุกเข่าคำรับพ่อแม่ครูอาจารย์!
คุกเข่าคำนับอาจารย์!
ไม่ขายหน้า!
พี่หลัวเวย
พวกเราเคารพเธอในฐานะลูกผู้ชาย!
หลินเยวียน “พวกคุณ…”
ทุกคน “อาจารย์ พวกเราอยากเรียน…”
หลินเยวียน “เรียนบาสเกตบอล?”
ทุกคน “อ๋า?”
ในเวลานั้นเอง
จินมู่กลับมาแล้ว
ทันทีที่เปิดประตูออก และเห็นเหตุการณ์ตรงหน้า เขาเกาศีรษะ ปิดประตูลง และเปิดออกอีกครั้ง
หืม?
เปิดประตูผิดวิธีหรือเปล่านะ?
“ทำอะไรกันครับ”
สมองของจินมู่ชะงักค้างไปเล็กน้อย
เขาไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นที่สตูดิโอขณะที่เขาออกไปข้างนอก ฉากที่เห็นนี้ค่อนข้างแปลกพิลึก
คนพวกนี้เสียสติไปแล้วจริงๆ ?
“ลุกขึ้นมาวาดการ์ตูนครับ”
หลินเยวียนเอ่ยปากอย่างจนใจ
ไม่สามารถรับการคำนับนี้โดยเปล่าประโยชน์ได้
หลังจากนี้มาเขียนการ์ตูนหนึ่งคนต่อหนึ่งเรื่องกันเถอะ
ผู้คนต่างลุกขึ้น หัวเราะเหอะๆ อย่างแปลกประหลาด ซึ่งทำให้จินมู่รู้สึกขนลุกเล็กน้อย
“นี่คือยาวิเศษที่พวกคุณให้ผมซื้อ…”
เขาหยิบเครื่องดื่มชูกำลังออกมา อีกทั้งยังมีกาแฟบางยี่ห้อซึ่งว่ากันว่าให้ผลลัพธ์ระดับเทพ
“ชงมาเลย!”
หลัวเวยตะโกนเสียงดัง “พี่น้อง หยิบอาวุธขึ้นมา!”
จินมู่ “???”
พวกคุณจะไปลอบสังหารปู้ลั่วกลางดึกหรือไง
ไม่ต้องทำถึงขนาดนั้น!
เขาตกตะลึงกับบรรยากาศอันพิศวง ถอยออกจากห้องไปด้วยความงุนงง และรีบไปชงเครื่องดื่มชูกำลังในทันที
งานเริ่มแล้ว
ทุกคนต่างกำลังลงมือ!
ลงมืออย่างแทบถวายชีวิต!
แต่ถึงกระนั้น ไม่ว่าอย่างไรมนุษย์ก็มีเลือดเนื้อของปุถุชนทั่วไป
คนเหล่านี้วาดภาพอย่างต่อเนื่องจนถึงกลางดึง และชักเริ่มทนไม่ไหว
รอยคล้ำใต้ตาปรากฏขึ้นบนใบหน้าของผู้ช่วยทีละคน
ต่อให้พวกเขายังทนไหว แต่มือซึ่งใช้ในการวาดภาพ กลับควบคุมไม่ได้อีกต่อไป
“ไม่ไหวก็ไปนอนเถอะ”
จินมู่นอนดึกไปพร้อมกับทุกคน
แม้เขาจะไม่เข้าใจสถานการณ์ ก็ยังรู้ว่านี่คือการเปิดการ์ตูนสามเรื่องพร้อมกัน
ทุกคนไม่เพียงต้องวาดการ์ตูนสองเรื่อง
นักเรียนประถมแห่งความตายซึ่งยังคงเผยแพร่อยู่นั้นจำเป็นต้องอัปเดตเช่นเดียวกัน
ถึงแม้ในใจจะไม่คิดว่าเรื่องนี้เป็นไปได้ ทว่าในเวลานี้เขาได้ถูกความบ้าคลั่งของหลินเยวียน หลัวเวย รวมไปถึงผู้ช่วยกลุ่มนี้ครอบงำเสียแล้ว
เขาเพียงแค่เสียใจที่ตนเองวาดรูปไม่เป็น
ถ้าเขาวาดรูปเป็นละก็ เขาจะเข้าร่วมกับทุกคนอย่างแน่นอน
สรุปแล้ว เขายังไม่อาจลืมเหตุผลที่แท้จริงที่หลินเยวียนแตกหักกับปู้ลั่วได้…
ก็แค่ถูกตำหนิไม่ใช่หรือ?
ความคับข้องใจแค่นี้ผมรับไหวนะ
นี่คือความคิดของจินมู่ เขาแบกรับความคับข้องใจไหว แต่แบกรับการปกป้องและเข้าข้างนี้ไม่ไหว
ดังนั้น แม้จะรู้ว่าไร้ประโยชน์ จินมู่ก็อยากเข้าร่วมกับพวกเขา!
กลางคืนออกจะหนาวอยู่บ้าง
แต่หัวใจของเขากลับอบอุ่นขึ้นมา
หลัวเวยหาว ก่อนจะดื่มกาแฟอึกใหญ่ “ฉันไม่เป็นไร อาจินไปนอนเถอะค่ะ ไม่ต้องนอนดึกพร้อมพวกเราหรอก แล้วก็พวกคุณ ถ้าใครอยู่ดึกไม่ไหวก็ไปงีบสักพักเถอะ คนนอนดึกอย่างฉันยังไงก็ได้”
ผู้ช่วยคนหนึ่งชื่อจ้าวเฉิงหมิงยังไม่ยอมจำนน เขารับผิดชอบเด็กประถมแห่งความตาย
มีเพียงสวรรค์ที่รู้ว่าเขาอยากรับผิดชอบเรื่องนินจาจอมคาถาหรือราชาโจรสลัดมากเพียงใด!
รอให้มีคนทนไม่ไหว เขาอาจเข้าไปรับช่วงต่อ!
“อาจารย์ไปนอนเถอะครับ คุณมีภาระงานมากที่สุด ใช้พลังงานมากที่สุดด้วย”
ผู้ช่วยอีกคนหนึ่งเอ่ยขึ้น มองไปยังหลินเยวียนซึ่งกำลังก้มหน้าก้มตาทำงาน
คำเรียกเปลี่ยนไปแล้ว
เมื่อก่อนทุกคนจะเรียกอิ่งจือว่าอาจารย์อิ่งจือ ครั้งนี้กลับเรียกเต็มปากเต็มคำว่า ‘อาจารย์’
[คนเจ้าเล่ห์]
คนอื่นๆ ก็มีไหวพริบเช่นกัน
“อาจารย์ไปพักก่อนครับ!”
“ใช่แล้วครับ! ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของเรา!”
“สตอรี่บอร์ดของคุณกับโครงเรื่องของคุณอธิบายไว้ชัดเจนแล้ว!”
“พวกเราอายุยังน้อย ยังไหวอยู่ครับ!”
หลินเยวียนมองทุกคนด้วยสีหน้าครุ่นคิด
ในแง่ของอายุ ผู้ช่วยทุกคนรวมถึงหลัวเวยล้วนอายุมากกว่าหลินเยวียน
บ้างก็อายุมากกว่าไม่กี่ปี
บ้างก็อายุมากกว่าสิบกว่าปี
เนื่องจากก่อนหน้านี้ตอนประกาศรับสมัคร จินมู่บอกว่าอายุมากประสบการณ์สูง
อื้ม
[ว่าด้วยเรื่องที่ลูกศิษย์ของผมคิดว่าตัวเองอายุน้อยกว่าอาจารย์]
อันที่จริงหลินเยวียนเหนื่อยนิดหน่อย
แต่เหนื่อยก็ไม่สามารถพักผ่อนได้
เวลาหนึ่งสัปดาห์น้อยเกินไปจริงๆ !
คำคุยโวของเขา ต่อให้แลกมาด้วยน้ำตาก็ต้องทำให้สำเร็จ!
อันที่จริง
หลินเยวียนรู้สึกเสียใจขึ้นมาบ้าง
ไม่ควรเร่งรีบ
ขณะที่โพสต์ข้อความในเวลานั้น เขาหน้ามืดตามัวไปจริงๆ
เมื่อเห็นสภาพของทุกคนซึ่งอดตาหลับขับตานอน หลินเยวียนจึงตระหนักได้ว่าเรื่องนี้ยากเย็นจริงๆ
เพราะทุกคนทนไม่ไหวอีกต่อไป
ด้วยความเร็วระดับนี้ เขายังไม่สามารถบรรลุเป้าหมายได้ภายในหนึ่งสัปดาห์!
ต้องเข้าใจว่า สมรรถภาพทางร่างกายของหลินเยวียนได้รับการปรับปรุงจาก จึงสูงกว่าคนทั่วไปจริงๆ
แม้แต่เขายังเหนื่อย ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าคนอื่นๆ จะมีสภาพเป็นอย่างไรไม่ต้องบอกก็รู้
กุญแจสำคัญที่แท้จริง ยังคงอยู่ที่เขา!
ยิ่งไปกว่านั้น ตนยังมียาชูกำลังจากระบบอีกชุดหนึ่ง…
เดี๋ยวนะ!
ยาชูกำลัง?
ลืมเรื่องนี้ไปได้ยังไง?
หลินเยวียนรู้สึกว่าตนซื่อบื้อไปชั่วขณะ!
เขาซื้อยาชูกำลังจากระบบและลุยงานต่อไปไม่ได้หรือ?
ก่อนหน้านี้หลินเยวียนได้ตรวจสอบแล้วว่าของอย่างชาชูกำลังไม่มีผลข้างเคียง สามารถใช่ได้มากตามที่ต้องการ!
หากถามว่าจะมีผลข้างเคียงอย่างไร เป็นไปได้ว่าเมื่อหยุดใช้ยานี้แล้วจะเกิดอาการง่วงนอน
ครั้งหนึ่งหลินเยวียนใช้ยาเพิ่มพลัง และไม่หลับไม่นอนตลอดทั้งคืน
หนึ่งคืนผ่านไป ผลของยาหมดลง เมื่อผลลัพธ์หมดไป ความเหนื่อยล้าก็เริ่มย่างกรายเข้ามา
เขาชดเชยการนอนหลับซึ่งสูญเสียไปในรวดเดียว
นอกจากนั้น ของแบบนี้ไม่เป็นอันตรายต่อร่างกาย
“อย่างมากก็แค่นอนหลับลึกไปสักสองสามวันหลังจากเจ็ดวัน”
เมื่อหลินเยวียนเกิดความคิดเช่นนี้ เขาจึงซื้อยาชูกำลังจากระบบในทันที
แพงก็จริง แต่ทันทีที่การ์ตูนเผยแพร่ออกไป เขาจะถอนทุนคืนได้ และจะสามารถทำกำไรได้อีกมหาศาล
“หืม?”
หลังจากซื้อยาชูกำลังจากระบบแล้ว หลินเยวียนพลันฉุกคิดได้ และเกิดความคิดหนึ่งขึ้นฉับพลัน
“ระบบๆ ยานี่มีผลกับคนอื่นด้วยไหม?”
“ใช้กับคนอื่นได้นะ…แต่ต้องเพิ่มเงิน!”
คำตอบของระบบทำให้หลินเยวียนตกอยู่ระหว่างความพอใจและไม่พอใจ
“เอาเถอะ!”
หลินเยวียนมองไปยังทุกคน “หลังจากนี้เจ็ดวันพวกคุณมีธุระสำคัญต้องทำไหม?”
ทุกคนสีหน้าสับสน
ทำไมจู่ๆ พูดถึงเรื่องนี้ขึ้นมา
“ไม่มีครับ”
“ผมก็ไม่มี”
“คิดว่าไม่มี”
“ถ้าอาจารย์ให้วันหยุดพวกเรา คงจะดีมากแน่ๆ ”
“ผมต้องเติมเกมนี่นับรวมไหมครับ?”
“ฉันว่าจะกินของอร่อยๆ สักมื้อ!”
นั่นก็แปลว่าไม่มีธุระ!
หลินเยวียนพยักหน้า “งั้นถ้ามีเรื่องอะไร ให้คนที่บ้านติดต่อมาที่สตูดิโอโดยตรงได้เลยครับ อาจินจะช่วยจัดการให้พวกคุณ”
ขณะที่พูด หลินเยวียนก็ซื้อยาชูกำลังจากระบบ จนกระทั่งปริมาณแทบเพียงพอ
“นอกจากนั้น”
เขามองไปยังผู้คนที่เหนื่อยล้า เอ่ยเสริมประโยคหนึ่ง “ต่อไปเงินเดือนทุกคนจะเพิ่มสิบเท่า อาจินจดไว้ด้วยครับ”
ทุกคนต่างตาลุกวาว!
ในอนาคตเงินเดือนจะเพิ่มสิบเท่า?
จินมู่ตะลึงไปชั่วขณะ ทว่ายังคงพยักหน้า “ไม่มีปัญหาครับ”
เห็นได้ชัดว่านี่ก็ดึกมากแล้ว
ในสตูดิโอกลับมีเสียงร้องดังลั่นขึ้นมาทันที!
“มีพลังกลับมาแล้ว!”
“จู่ๆ ก็รู้สึกพลังเต็มเปี่ยมขึ้นมาทันที!”
“พยุงผมขึ้นมาหน่อย ผมยังวาดไหว!”
“ไม่เหนื่อยเลยสักนิด ยังวาดได้อีกสามวันสามคืน ไม่สิ เจ็ดวันเจ็ดคืนไปเลย!”
“อาจารย์พูดแบบนี้แล้วผมมีพลังขึ้นมาเลย!”
“…”
。เมื่อเห็นว่าทุกคนกระตือรือร้นขึ้นมาฉับพลันประหนึ่งฉีดเลือดไก่ ครั้งนี้ถึงคราวของหลินเยวียนที่ตกตะลึงบ้าง
พูดไปพวกคุณอาจไม่เชื่อ
เขายังไม่ได้ใช้ยาชูกำลังกับทุกคนเลยนะ!
“ดึกดื่นป่านนี้เบาหน่อย ผมไม่ไหวแล้ว ไม่ไหวแล้วจริงๆ ขอไปนอนที่ห้องโถงก่อนนะครับ พวกคุณก็อย่าหักโหม!”
จินมู่เดินหาวออกจากประตูไป พลางคิดว่า
เงินเดือนของทุกคนสูงขึ้นสิบเท่า
ฉันก็ควรจะเป็นหนึ่งในทุกคนสินะ?
อื้ม!
เป็นแบบนั้นแน่ๆ !
ทันใดนั้น จินมู่ก็ไม่ง่วงอีกต่อไป
เอาเถอะ
ง่วงใช้ได้เลย
ต้องนอนแล้ว
การบำเพ็ญเซียน[3]ไม่ใช่หน้าที่ของปุถุชน
จินมู่เดินไปนอนบนโซฟาอย่างสะลึมสะลือ ผล็อยหลับทันทีที่หลับตา
และในที่สุดหลินเยวียนก็ใช้ยาชูกำลังกับทุกคน เอ่ยขอโทษในใจอย่างต่อเนื่อง
ขอโทษนะ ขอโทษนะ ขอโทษนะ…
[เห็นแก่ตัว]
ยาชูกำลังออกฤทธิ์อย่างรวดเร็ว
หลัวเวยไม่ต้องดื่มกาแฟด้วยซ้ำไป เธอเอ่ยขึ้นพร้อมกับขอบตาดำคล้ำ “บำเพ็ญเซียนจงเจริญ”
ทุกคนตะโกนขึ้นพร้อมกัน “บำเพ็ญเซียนจงเจริญ”
ไม่มีใครรู้สึกผิดปกติ
เงินเดือนสิบเท่า!
เป็นเรื่องปกติไม่ใช่หรือที่จะกะปรี้กะเปร่าภายใต้แรงกระตุ้นเช่นนี้?
ปกติมาก!
ทุกคนกลับมาทำงานอีกครั้ง!
หลินเยวียนก็ใช้ยาชูกำลังเช่นกัน ชั่วขณะนั้นรู้สึกสดชื่นขึ้นมาทันที และนำทุกคนทำงานจนกระทั่งฟ้าสาง!
เครื่องดื่มชูกำลังจำพวกกาแฟและกระทิงดำ ถูกวางทิ้งร้างไว้นานแล้ว
ยาวิเศษที่แท้จริงมาจากระบบนี่เอง!
[ทุกคนลุยงานเต็มสูบ]
จินมู่ไม่รู้ว่าตนเองนอนไปนานแค่ไหน
เมื่อเขาลืมตาตื่น และมองดูโทรศัพท์มือถือ ถึงพบว่าขณะนี้เป็นเวลาสิบโมงเช้าแล้ว!
ด้านนอกแสงแดดสาดส่อง!
เจ้าบ้าพวกนั้นน่าจะหลับปุ๋ยแล้วล่ะมั้ง?
ไม่รู้ว่าเมื่อคืนพวกเขาลุยงานถึงกี่โมง
ในใจรู้สึกเป็นห่วงขึ้นมา
จินมู่ย่องเข้าไปในห้องวาดภาพ
หืม?
วินาทีที่เดินผ่านประตูไป จินมู่ปิดประตูลงอีกครั้ง
ถอยหลังกลับมาหนึ่งก้าว สูดลมหายใจเข้าลึก จินมู่เปิดประตูอีกครั้ง
“อาจิน อรุณสวัสดิ์ครับ”
หลินเยวียนยิ้มพลางเอ่ยทักทาง ก่อนจะลงมือวาดการ์ตูนต่อไป
ด้านข้างหลินเยวียน
บรรดาผู้ช่วยต่างกินอาหารเช้า พลางพูดคุยกันอย่างกระตือรือร้นเกี่ยวกับพล็อตเรื่อง
ดูเหมือนว่าการ์ตูนสักเรื่องหนึ่งจะแตะถึงจุดสูงสุดแล้ว
ใบหน้าของจินมู่เต็มไปด้วยความสับสน “พวกคุณตื่นกันตอนกี่โมง”
เงินทรงพลังขนาดนี้เชียวหรือ??
ทุกคนมองไปยังจินมู่ด้วยสีหน้าสีหน้าเห็นอกเห็นใจ
ตื่น?
พวกเราไม่ได้นอนสักหน่อย
หลัวเวยเอ่ยอย่างยิ้มแย้ม “คุณอายุมากแล้ว ต่างจากวัยรุ่นอย่างพวกเรา พวกเราเล่นเกมจนดึกบ่อยแล้ว”
จินมู่ “?”
ฉันแก่แล้วจริงหรือ?
“จะว่าไปก็แปลก ผมรู้สึกเหมือนไม่ง่วงเลยสักนิดจริงๆ ทั้งที่เมื่อคืนตอนตีสามก็ทนไม่ไหวแล้ว ปรากฏว่าทันทีที่อาจารย์บอกว่าจะเพิ่มเงินเดือน ผมก็ไม่ง่วงอีกเลย”
ผู้ช่วยซึ่งชื่อจ้าวเฉิงหมิงเอ่ยปาก
ผู้ช่วยคนอื่นๆ ต่างพยักหน้า “อาจเป็นเพราะเงินสามารถขับเคลื่อนโลกใบนี้ได้!”
“คืนนี้ค่อยนอน”
ผู้ช่วยซึ่งอยู่ด้านข้างพูดเสียงดัง “คุณทนไม่ไหวก็อย่าฝืน ผมคิดว่าตัวเองมีพรสวรรค์ล้ำเลิศด้านการนอนดึก รู้สึกว่ากลางวันวันนี้ทำงานได้โดยที่ไม่กดดันเลยสักนิด!”
“ข้าคือบุรุษที่ทรงพลังที่สุดในค่ำคืนนี้!”
ผู้ช่วยคนอื่นๆ ต่างไม่มีใครยอมใคร
ทุกคนล้วนรู้สึกราวกับตนเองบรรลุพรสวรรค์ด้านการนอนดึก ทุกคนล้วนคิดตนเองมีพรสวรรค์เป็นเลิศ และทุกคนล้วนคนว่าคนอื่นๆ กำลังฝืนเพื่อรักษาหน้า
“ไม่ต้องพูดเยอะ วาดต่อ ฉันเองก็ยังไม่อยากนอน”
หลังจากหลัวเวยกินซาลาเปาหกลูกจนหมดเกลี้ยง เธอตะโกนลั่น
“ข้านี่สิถึงจะเป็นสตรีที่ทรงพลังที่สุดในค่ำคืนนี้!”
ให้ตายเถอะ!
วัยรุ่นพวกนี้!
เป็นขุนพลชำนาญยุทธ์โดยแท้!
จินมู่ส่ายหน้า คนเราเมื่อถึงวัยหนึ่ง จำต้องยอมจำนนต่อความโรยรา
[1] สามเรื่องเอกที่ใครๆ ก็ต้องอ่าน หมายถึงราชาโจรสลัด(วันพีซ) นินจาจอมคาถา(นารุโตะ) และเทพมรณะ(บลีช)
[2] ขนมปังก็มีได้ นมวัวก็มีได้ มาจากบทพูด ‘ขนมปังก็มีได้ นมวัวก็มีได้ ทุกอย่างจะดีขึ้น’ สื่อว่าทุกสิ่งเกิดขึ้นหากมีความพยายาม มาจากภาพยนตร์เรื่อง ‘เลนินในปี 1918 (Lenin in 1918)’ ซึ่งเป็นภาพยนตร์ชีวประวัติของวลาดีมีร์ เลนิน ช่วงสงครามกลางเมืองรัสเซียในปี 1918
[3] บำเพ็ญเซียน เป็นคำแสลงอินเทอร์เน็ต หมายถึงการนอนดึก หรือโต้รุ่ง