Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน 683 ใครจะไปทนไหว

ตอนที่ 683 ใครจะไปทนไหว

ตอนที่ 683 ใครจะไปทนไหว

ใช้แม้แต่กระจกกันกระสุน?

แถมยังเป็นรถที่มีความปลอยภัยระดับกองทัพ?

นี่เป็นเมืองใหญ่ในยุคปัจจุบันจริงๆ หรือนี่?

จู่ๆ ใครจะมาหยิบอาวุธโจมตีฉันได้?

สามัญชนคนธรรมดาจะก่ออาชญากรรมแบบนี้ได้หรือ?

หลินเยวียนนึกอยากบ่น แต่เห็นแก่ที่รถคันนี้ดีจริงๆ สุดท้ายแล้วหลินเยวียนก็ยอมรับอย่างมีความสุข ถึงขั้นที่อยากทำใบขับขี่ด้วยซ้ำไป

หลินเยวียนไม่มีใบขับขี่

เมื่อก่อนซุนเย่าหัวรับหน้าที่เป็นสารถีให้กับหลินเยวียน ภายหลังเป็นกู้ตง

“รถคันนี้ดีกว่ารถของประธานกรรมการ”

เหล่าโจวซึ่งอยู่ด้านข้างเอ่ยปากอย่างบูดบึ้ง

ข่าวว่าประธานกรรมการมอบรถคันใหม่ให้กับหลินเยวียน ได้แพร่สะพัดออกไปทั่วทั้งบริษัท พนักงานออกมาดูมากขึ้นเรื่อยๆ

“ผมเข้าไปนั่งได้ไหม”

เหล่าโจวยืนอยู่ด้านข้างด้วยความอิจฉา “รถคันนี้ล้ำกว่ารถของประธานกรรมการอีก!”

“แน่นอนครับ”

หลินเยวียนพยักหน้า

เหล่าโจวเข้าไปในข้างในอย่างปลื้มปริ่ม หย่อนก้นลงบนเบาะเต็มแรง “สุดยอดจริงๆ รถคันนี้ผ่านการดัดแปลงมาก่อน!”

“ประธานกรรมการ รถของฉันใช่ไหมนี่?”

ไม่รู้ว่าเจิ้งจิงโผล่มาจากไหน มองไปยังหลี่ซ่งหวาด้วยแววตาขุ่นเคือง

“รถของคุณก็ไม่ได้แย่…”

หยางจงหมิงมาแล้ว

หยางจงหมิงเอ่ย “ผมไม่สนใจรถ แต่ใบชาของคุณ ครั้งก่อนผมอยากได้ คุณให้ผมมาแค่สองเหลี่ยง[1] แต่สุดท้ายเซี่ยนอวี๋ให้ผมมาอีกหนึ่งจิน[2]”

หลี่ซ่งหวาเหงื่อตก “เซี่ยนอวี๋เป็นสถานการณ์พิเศษ…”

“เอามาอีกสองจิน ผมเลือกเอง”

หยางจงหมิงจ้องมองหลี่ซ่งหวา สายตาชำเลืองมองรถหรูสีดำบ้างเป็นครั้งคราว

“ไม่มีปัญหา!”

หลี่ซ่งหวากัดฟันกรอด

“ฉันไม่รู้เรื่องใบชา แต่ฉันได้ยินมาว่าในห้องทำงานของประธานกรรมการ มีภาพวาดจริงของอาจารย์หนานเฟิง ประธานกรรมการเองก็รู้จักฉันดี ฉันเป็นคนเฉยๆ สนใจก็แค่การประพันธ์เพลงกับการวาดภาพ”

“เดี๋ยวจะส่งไปให้คุณ!”

หลี่ซ่งหวาใจสลาย เพื่อเอาใจพ่อเพลงทั้งสองของบริษัท จึงทำได้เพียงกัดฟันตอบไป

“ประธานกรรมการ…”

เหล่าโจวได้โอกาสปล้นเช่นกัน

“ไปไกลๆ เลย!”

ประธานกรรมการหลี่ซ่งหวาข่มอย่างเต็มที่!

เหล่าโจวผงะถอยในทันที

บริษัทให้สิทธิพิเศษกับผู้มีความสามารถ แต่กับผู้บริหารกลับมีเพียงการปอกลอก

พนักงานในบริษัทต่างมุงดูสถานการณ์ด้วยสีหน้าขมขื่น

นี่คือวัฒนธรรมองค์กรของสตาร์ไลท์?

“เหล่าหวัง”

หลี่ซ่งหวาเหลือบมองผู้บริหารระดับสูงคนหนึ่งซึ่งอยู่ด้านข้าง

เหล่าหวังเข้าใจทันใด หันไปถลึงตาใส่บรรดาพนักงาน “แยกย้ายไปได้แล้ว ไม่ต้องทำงานทำการกันแล้ว!”

ฝูงชนแยกย้ายกันไป

เจิ้งจิงขึ้นไปนั่งในรถ และตั้งใจขึ้นไปนั่งบนที่นั่งข้างคนขับ เธอมองไปยังคอนโซลหน้ารถและแสงไฟโดยรอบ พลางกล่าวอย่างสะท้อนใจ

“มิน่าล่ะพวกผู้ชายถึงชอบรถ สวยจริงๆ !”

เหล่าโจวคล้ายกับว่าจะศึกษาเรื่องรถมาดีทีเดียว เขาเคาะเล็กน้อยพร้อมกับเอ่ยว่า “กระจกนี้สุดยอดจริงๆ ต้องแตะถึงระดับที่กันกระสุนได้เลยละมั้ง ตัวรถก็น่าจะมีคุณภาพระดับเดียวกับที่กองทัพใช้”

“กองทัพใช้?”

เจิ้งจิงตกตะลึงไปชั่วขณะ ก่อนจะโพล่งขึ้นมาว่า “เสี่ยวอวี๋ ช่วงนี้คุณน่าจะให้เพื่อนสนิทคุณยืมรถไปขับสักหน่อยนะ”

หลินเยวียนงุนงง “เพื่อนสนิท?”

“เจ้าแก่ฉู่ขวง!”

เจิ้งจิงเอ่ยปาก ทันใดนั้นก็กัดฟันกรอดขึ้นมา “อย่าให้ฉันเจอหมอนี่เชียวนะ ฉันจะทุบหัวเขาให้แบะ!”

“คุณก็เป็นแฟนคลับโฮล์มส์?”

เหล่าโจวเริ่มมีพลังขึ้นมา “เจ้าแก่ฉู่ขวงอำมหิตมาก ไปประท้วงที่หน้าคลังหนังสือซิลเวอร์บลูกันไหม?”

“หมายความว่ายังไง”

จู่ๆ หยางจงหมิงก็เอ่ยขึ้น

เหล่าโจวเบ้ปาก “เหล่าหยางคงไม่ได้อ่านนิยายสินะ ฉู่ขวงเขียนนิยายชื่อว่ายอดนักสืบโฮล์มส์ เขาเขียนให้ตัวเอกตาย นี่นับเป็นครั้ง…”

“ครั้งที่สาม”

หยางจงหมิงพูดขึ้นมา

เหล่าโจวและเจิ้งจิงประหลาดใจ “คุณรู้?”

ฟังดูก็รู้ ว่าหยางจงหมิงก็เป็นผู้อ่านของฉู่ขวงเช่นเดียวกัน!

หยางจงหมิงสูดลมหายใจเข้าลึก “สลักลึกในใจ”

เหล่าโจวหัวเราะลั่น “เหล่าหยางคุณก็อ่านนิยายหรือนี่?”

เจิ้งจิงยิ้ม “อิทธิพลของโฮล์มส์ไปไกลมากจริงๆ เจ้างั่งฉู่ขวงชั่วร้ายมาก ฉันพูดแบบนี้คุณคงไม่โกรธใช่ไม่เสี่ยวอวี๋ ถ้าถามฉันนะ เพื่อนคนนั้นของคุณไปไกลกว่าคุณมาก…”

สีหน้าของหลินเยวียนสับสน

……

ทุกคนสำรวจรถไปพลางถกเถียงกันเรื่องฉู่ขวง

ทันใดนั้นมีพนักงานในบริษัทวิ่งเข้ามา “อาจารย์ฉู่ขวง วันนี้มีคนส่งพัสดุมาให้คุณเยอะแยะเลยครับ!”

“พัสดุ?”

หลินเยวียนไม่ทันได้ตอบสนอง

พนักงานคนนั้นมองเขาด้วยสายตาแปลกประหลาด “ดูจากหน้าพัสดุแล้วเหมือนว่าจะส่งมาจากคนอ่านของฉู่ขวง มีข้อความแนบมาว่าให้คุณส่งต่อให้อาจารย์ฉู่ขวง!”

หลินเยวียน “…”

ทันใดนั้นเขาก็เข้าใจถึงเจตนาอันลึกซึ้งของประธานกรรมการที่ส่งรถมาให้เรา

……

หลินเยวียนกลับมายังสตูดิโอด้วยความงุนงง

ระหว่างทางกลับในครั้งนี้ หนังตากระตุกมาตลอดทาง

ทันทีที่เดินเข้ามา

จินมู่ตะโกนดังลั่น “จบเห่แล้วครั้ง หลังจากผู้อ่านฉินโจวปิดล้อมหน้าทางเข้าคลังหนังสือซิลเวอร์บลู ทวีปอื่นๆ ก็เริ่มประท้วงเหมือนกัน!”

หลินเยวียนรีบตรงไปยังสตูดิโอ

……

จินมู่ไม่ได้พูดเกินจริง

แต่ละทวีปต่างกำลังเดินขบวนประท้วง!

ฉีโจว

“เจ้าแก่ฉู่ขวงชั่วร้าย!”

“เจ้าแก่ฉู่ขวงแก้ตอนจบ!”

“พวกเราไม่ยอมรับการตายของโฮล์มส์!”

“โฮล์มส์ต้องฟื้นคืนชีพ!”

……

ฉู่โจว

“เจ้าแก่ฉู่ขวงออกมาขอโทษ!”

“คว่ำบาตรนิยายทุกเรื่องของฉู่ขวงอย่างเด็ดขาด!”

“สนับสนุนฉินโจว ต่อสู้กับฉู่ขวง!”

“ให้เจ้าแก่ฉู่ขวงได้สัมผัสถึงความเจ็บปวดของพวกเรา!”

……

เยี่ยนโจว

“เจ้าแก่ฉู่ขวงน้อมรับความตายซะดีๆ !”

“จ่ายเงินซื้อที่อยู่เจ้าแก่ฉู่ขวง!”

“คลังหนังสือซิลเวอร์บลูส่งตัวฉู่ขวงออกมาซะเจ้าแก่ฉู่ขวง!”

“ฉันจะคืนหนังสือ!”

……

หานโจว

“พวกเราขอประท้วง!”

“แจ้งจับฉู่ขวงข้อหาฆาตกรรม!”

“ไม่ยอมรับตอนจบของของโฮล์มส์!”

“ไม่แก้ตอนจบ ประท้วงไม่จบ!”

“ผู้อ่านฉินฉีฉู่เยี่ยนหานร่วมมือกันคว่ำบาตร!”

……

ผู้อ่านต่างบ้าคลั่ง!

ไม่เพียงเดินขบวนประท้วงบนถนน!

ถึงขั้นมีผู้อ่านบางคนถึงกับเดินขบวนไปยังสำนักงานใหญ่ของสมาคมวรรณศิลป์!

คนที่ผ่านไปมามากมายไม่ได้อ่านยอดนักสืบโฮล์มส์ต่างตกใจกับการประท้วงในครั้งนี้!

ผู้คนในแต่ละทวีปต่างอัดอั้นและขุ่นเคือง!

คนที่ไม่รู้ต่างคิดว่าฉู่ขวงไปกระทำเรื่องอุกฉกรรจ์!

คนที่รู้กลับงุนงง

ก็แค่นิยายเรื่องหนึ่ง พวกคุณต้องคลั่งขนาดนี้เชียวหรือ?

หา?

คุณคิดว่าฉู่ขวงคนนี้เพิ่งทำเป็นครั้งแรก?

ก่อนหน้านี้เขาก็เคยเขียนให้ตัวละครโปรดของทุกคนตาย

ถุย!

สมน้ำหน้า!

คิดว่าคนอ่านอย่างพวกเราไม่มีอารมณ์ความรู้สึกหรือไง?

……

บนบลูสตาร์มาการลุกฮือของผู้อ่านเกิดขึ้นสามครั้ง

ครั้งแรกเป็นเพราะฉู่ขวง ครั้งที่สองเป็นเพราะฉู่ขวง ครั้งที่สามก็เป็นเพราะฉู่ขวง

ท่ามกลางการลุกฮืออันดุเดือดของผู้อ่าน แนวโน้มในการประท้วงในแต่ละทวีปสั่นสะเทือนไปทั่วทั้งฉินฉีฉู่เยี่ยน!

ข่าวนับไม่ถ้วนล้นทะลักเต็มหน้าจอ!

โทรศัพท์ของจินมู่สายไหม้ไปแล้ว!

รับสายครั้งแล้วครั้งเล่า ตั้งแต่แบตเตอรีโทรศัพท์เต็มไปจนเครื่องดับอัตโนมัติ…

จากนั้นโทรศัพท์มือถือของหลินเยวียนก็ถูกผู้บริหารระดับสูงของบลูสตาร์ผลัดกันถล่ม!

แม้แต่สมาคมวรรณศิลป์ยังโทรมาสอบถาม!

……

ในอุตสาหกรรมนิยาย

ความตกตะลึงของทุกคนยิ่งทวีคูณ!

ไม่เพียงปิดกั้นทางเข้าออกคลังหนังสือซิลเวอร์บลู!

แม้แต่สำนักงานใหญ่สมาคมวรรณศิลป์ก็หนีไม่พ้น!

ผู้อ่านจากทั้งห้าทวีปเดินขบวนประท้วง!

กระแสการประท้วงเช่นนี้ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน!

การลุกฮือขึ้นในครั้งนี้จะได้รับการบันทึกลงในประวัติศาสตร์!

ครั้งนี้เจ้าแก่ฉู่ขวงเล่นใหญ่จริงๆ !

‘เดือดมาก!’

‘โรคหัวใจจะกำเริบ!’

‘ถ้าฉันเป็นฉู่ขวง คงกินไม่อิ่มนอนไม่หลับด้วยซ้ำ!’

‘ยังกินได้อีก? แค่เขายังหายใจได้ทั่วท้อง ผมก็ชื่นชมหัวใจเขาแล้ว!’

‘ไม่รู้ว่าทำไม แต่ฉันอิจฉาเขานิดหน่อย’

‘นิยายเรื่องนี้สร้างอิทธิพลได้ระดับนี้ ชีวิตนี้ก็ไม่เสียใจแล้ว!’

‘เป็นนักเขียนทำได้ขนาดนี้ก็สุดยอดมากแล้ว!’

……

เมื่อรับรู้ถึงกระแสการเคลื่อนไหวในผ่านอินเทอร์เน็ตและโทรทัศน์ จินมู่จะร้องไห้อยู่รอมร่อ “หัวหน้า ผมทนไม่ไหวจริงๆ แล้วนะครับ!”

“อือฮึ”

หลินเยวียนตอบอย่างงุนงง

สิ่งที่ประสบพบเจอในวันนี้แปลกประหลาดมาก จนสมองของเขามึนงงไปหมด

นี่มันอะไรกันเนี่ย?

ก็แค่แก้ตอนจบไม่ใช่หรือไง

ฉันแก้ก็พอแล้วใช่ไหม?

หลินเยวียนยอมแล้ว

แบบนี้ใครจะไปทนไหว?

หลินเยวียนเปิดปู้ลั่ว ในที่สุดหลินเยวียนก็โพสต์ข้อความ อารมณ์นับไม่ถ้วนอัดรวมกันเป็นคำเพียงคำเดียว

‘แก้!’

[1] เหลี่ยง หรือตำลึง เป็นหน่วยวัดน้ำหนักซึ่งเทียบเท่ากับ 50 กรัม

[2] จิน หรือชั่ง เป็นหน่วยวัดน้ำหนักซึ่งเทียบเท่ากับ 500 กรัม

Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน

Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน

Score 10
Status: Completed
“ดนตรี ภาพยนตร์ จิตรกรรม เขียนพู่กัน แกะสลัก วรรณกรรม นายทำได้หมดเลย?”

Options

not work with dark mode
Reset