อันที่จริงเพลงลูกโป่งสารภาพรักเป็นผลงานของโจวเจี๋ยหลุน คุณภาพเพลงไม่ได้อยู่ในกลุ่มที่โดดเด่นที่สุด
แต่ต้องบอกว่าในแง่ของระดับความโด่งดัง เพลงนี้ไม่เลวทีเดียว
พูดง่ายๆ คือ เพลงนี้คือเพลงรักที่ไพเราะเพลงหนึ่ง
กอปรกับที่เพลงนี้เป็นเพลงซึ่งหวังอวี่ขอให้แฟนสาว บรรยากาศอันแสนหวานจึงท่วมท้นไปทั้งคอนเสิร์ต
“คุ้มราคาบัตรมาก!”
“ได้ฟังเพลงใหม่ของเซี่ยนอวี๋ล่วงหน้าสองเพลง!”
“ยังได้เห็นการถือกำเนิดของเพลงภาษาฉู่เพลงแรกของเซี่ยนอวี๋ด้วย!”
“เพลงเกินจริงเวอร์ชันภาษาฉี นับว่าเป็นกึ่งเพลงใหม่ ตอนร้องสดปังมาก!”
“เมื่อกี้ที่ลูกบอลลอยขึ้นไป ฉันรู้สึกว่าโลกทั้งใบสวยงามมาก ถึงในอากาศจะเหม็นกลิ่นความรัก แต่ฉันก็จะปล่อยกลิ่นหอมของคนโสดกลบซะเลย!”
“คอใกล้จะแหบแล้ว”
“กรี๊ดรัวๆ จนรู้สึกขาดอากาศหายใจ”
“เพลงใหม่เพลงนี้เพราะมาก!”
“…”
แฟนเพลงพูดคุยกันด้วยความตื่นเต้น
การฟังเพลงใหม่ล่วงหน้าในคอนเสิร์ตของเซี่ยนอวี๋เป็นเรื่องที่น่าดีใจเหลือเกิน
และเรื่องที่น่าดีใจยิ่งกว่านั้นคือ
คอนเสิร์ตยังคงดำเนินต่อไป!
“เอ่ยเรียกพุทธองค์ ไม่หันมองฝั่ง…”
“ใครหนอกรีดผีผาบรรเลงลมบูรพาร้าวราน คืนวันจารึกบนผนังฉันเห็นมาเนิ่นนาน…”
“ต๋าลาเปิงปาปันเต๋อเป้ยตี๋ปัวตัวปี่หลู่เวิง…”
“ได้แต่ทอดมองเขาสูงสุดตา กลับมองไม่เห็นเส้นทางข้างหน้า…”
“ครั้งหนึ่งฉันเคยข้ามห้วงสมุทรข้ามขุนเขา…”
“ผืนน้ำเย้ยเยาะ เกลียวคลื่นสาดสองฝั่ง…”
เซี่ยนอวี๋ร้องเพลงคลาสสิกของเขาหลายเพลง แต่ละเพลงสามารถจุดชนวนความสนุกอัฒจันทร์ได้อย่างง่ายดาย และปลุกความทรงจำมากมายในช่วงเวลาที่เพลงเหล่านี้ถูกปล่อยออกมา บรรยากาศทั้งคอนเสิร์ตระเบิดขึ้นมาทันที!
ผู้ชมมากมายเจ็บมือ!
ผู้ชมมากมายตะโกนจนเสียงแหบแห้ง!
ความตื่นเต้นและความบ้าคลั่งเข้าปกคลุมฝูงชนในคอนเสิร์ต ทันใดนั้นมีแฟนเพลงซึ่งช่างใส่ใจรายละเอียดมองไปยังเวที “คอนเสิร์ตครั้งนี้ใจกว้าง ใช้เวลานานมาก เซี่ยนอวี๋ร้องไปกี่เพลงแล้ว?”
“สิบกว่าเพลงแล้ว”
“ยี่สิบสองเพลงแล้ว!”
“ใช่ ยี่สิบสองเพลงแล้ว!”
“ฉันนับอยู่นะ ตอนแรกคิดว่าคอนเสิร์ตของพ่อเพลงอวี๋จะจบที่ประมาณยี่สิบเพลงเหมือนนักร้องคนอื่น แต่ตอนนี้เห็นทีเพลงที่พ่อเพลงอวี๋เตรียมมาน่าจะไม่ได้มีแค่ยี่สิบเพลง!”
“ปวดใจมาก!”
“เขาไม่ได้พักเลย!”
“ระหว่างนี้เขาพักไปกี่นาทีกัน”
“ร่างกายเขารับไหวไหมนะ ถึงเสียงจะฟังดูไม่เหนื่อยเท่าไหร่ แต่ไม่ว่าจะเป็นนักร้องมืออาชีพขนาดไหน ร้องติดต่อกันหลายเพลงขนาดนี้ต้องมีเหนื่อยกันบ้าง พวกเราอยู่แค่ด้านล่างเวทียังเหนื่อยแทบแย่เลย”
“…”
ผู้ชมร้อนรน!
ความกังวลกำลังแผ่ขยายออกไป!
หลินเยวียนปรับลมหายใจของตนบนเวที การร้องเพลงที่ยาวนานเช่นนี้ทำให้ร่างกายของเขาเหนื่อยล้าเล็กน้อย แต่นั่นก็ไม่ได้ส่งผลกระทบถึงการแสดงของเขา ขณะที่เขากำลังเตรียมตัวสำหรับเพลงต่อไป จู่ๆ ด้านล่างเวทีก็มีคนตะโกนขึ้นมา
“พักก่อนก็ได้!”
แรกเริ่มมีผู้ชมไม่มากที่ตะโกน หลังจากนั้นผู้ชมจึงร่วมประสมโรงมากขึ้นเรื่อยๆ แฟนคลับบางคนซึ่งมีอารมณ์อ่อนไหวรู้สึกปวดใจจนร้องไห้ออกมา ผู้คนส่งเสียงดังขึ้นทุกที
“อาจารย์เซี่ยนอวี๋ไม่ต้องร้องแล้ว!”
“พ่อเพลงอวี๋ดูแลสุขภาพด้วย!”
“พวกเรารอ คุณพักได้!”
หยางจงหมิงซึ่งอยู่แถวหน้าขมวดคิ้วเล็กน้อย “ร่างกายของเซี่ยนอวี๋น่าจะใกล้ถึงขีดจำกัดแล้ว ทำไมถงซูเหวินยังไม่ให้เขาลงไปพักอีก ให้แขกรับเชิญขึ้นมาสักสิบนาทีไม่ได้หรือไง?”
“นั่นสิ!”
เจิ้งจิงก็รำคาญใจเช่นกัน
ต่อให้กังวลว่าบรรยากาศของคอนเสิร์ตจะถูกขัดจังหวะ ต่อให้กังวลว่าแขกรับเชิญจะรับเวทีต่อจากเซี่ยนอวี๋ไม่ได้ ก็ไม่สามารถเพิกเฉยต่อร่างกายของเสี่ยวอวี๋ได้ มีที่ไหนกันนักร้องร้องเพลงติดต่อกันมานานขนาดนี้ยังไม่ได้พัก คอนเสิร์ตยังอลังการไม่พออีกหรืออย่างไร?
“รุ่นน้อง…”
ซุนเย่าหั่วสีหน้าเคร่งขรึม
ในแววตาของนักร้องในราชวงศ์ปลาคนอื่นๆ ก็มีความประหม่าและกังวลใจแฝงอยู่เช่นกัน ทุกคนต่างก็เป็นนักร้อง จึงเข้าใจดีว่าการร้องเพลงอย่างต่อเนื่องเป็นเวลานานเช่นนี้ทำให้ร่างกายของนักร้องแบกรับภาระมากเช่นไร
แต่ถึงอย่างนั้น
ขณะที่ทุกคนคิดว่ารายการจะเข้าสู่ช่วงพักชั่วคราว
จู่ๆ หลินเยวียนก็หยิบกีตาร์ขึ้นมา และเริ่มบรรเลงทำนองอย่างมีความสุข
จากนั้นมือของเขาจึงเร่งเร็วขึ้นเรื่อยๆ !
เมื่อถึงจังหวะลมหายใจแรก เขายืนอยู่หน้าไมโครโฟนแล้ว เสียงของเขาดังแหลมทะลุเมฆขึ้นมา
“ไม่เหนื่อยเลยสักนิด!”
“ฉันร้องเพลงมาสามวันสามคืน!”
“อารมณ์ตอนนี้ต่อให้ดื่มโซดาก็เมามายได้!”
บูม!
เสียงดังสนั่นกึกก้องไปทั้งอัฒจันทร์!
ทั้นสนามต่างตกตะลึง!
เจิ้งจิงอึ้ง
หยางจงหมิงอึ้ง
นักร้องในราชวงศ์ก็ปลาอึ้ง
นี่เป็นครั้งแรกที่พวกเขาเห็นเซี่ยนอวี๋ร้องเพลงอย่างมีความสุขเช่นนี้!
ชั่วขณะนี้ต่อให้คิดจะหยุดเซี่ยนอวี๋ คงไม่มีใครทำได้ลงคอ
และหลังจากที่สีหน้าของทุกคนนิ่งค้างกันถ้วนหน้า ทันใดนั้นทั่วทั้งสนามรังนกก็เกิดเสียงดังกัมปทานจนน่าสะพรึงกลัว!
เพลงใหม่!
เพลงใหม่อีกแล้วโว้ย!
แถมยังเป็นเพลงใหม่ที่ยอดเยี่ยมจนเวทีไฟลุกอีกต่างหาก!
บางทีอาจเป็นเพราะอิทธิพลจากอารมณ์ของเซี่ยนอวี๋ ความร้อนแรงของคอนเสิร์ตจึงทวีคูณขึ้นอีกขั้น!
หยุดพัก?
ของพรรค์นั้นมีที่ไหนกัน!
เมื่อร้องเพลงมาจนถึงระดับนี้ นักร้องคนอื่นๆ ไม่มีทางทนไหว ทว่าร่างกายของหลินเยวียนได้รับการปรับปรุงจากระบบแล้ว!
และระดับในขณะนี้ยังไม่เพียงพอให้เขาต้องหยุดพัก
ใช่แล้ว
นี่คือสิ่งที่เขากับถงซูเหวินตกลงกันไว้ล่วงหน้า
ถงซูเหวินพยายามโน้มน้าวหลินเยวียนแล้ว แต่หลินเยวียนอยากทำคอนเสิร์ตให้สมบูรณ์แบบที่สุด เขาปรารถนาผลลัพธ์สูงสุด!
“ไม่เหนื่อยเลยสักนิด!”
“ฉันร้องเพลงมาสามวันสามคืน!”
“ตอนนี้หัวใจของฉันเบาหวิวจนเหมือนกำลังโบยบิน!”
เมื่อเทียบกับเปียโนแล้ว ฝีมือการเล่นกีตาร์ของหลินเยวียนไม่นับว่าโดนเด่น ทว่าบรรยากาศของคอนเสิร์ตกลับช่วยกลบเกลื่อนข้อบกพร่องทั้งหมด!
ยี่สิบกว่าเพลงติดต่อกัน!
เขาร้องจนอารมณ์จุดติดเต็มที่!
ไม่เพียงหลินเยวียนที่จุดติดเต็มที่!
มือเบสก็เช่นเดียวกัน!
สะใจสุดๆ !
มือกลองยิ่งโยกตัวไปมาอย่างบ้าคลั่ง!
ราวกับว่าเขาจะกระโดดขึ้นมาในชั่ววินาทีถัดไป!
“มาเข้าร่วมกับฉัน!”
“กลางวันผันเป็นราตรี!”
“เปรมปรีดิ์ไม่มีขาดทุน!”
“ใครก็ห้ามปฏิเสธ!”
เสียงสูงระเบิดเต็มที่ยิ่งกว่าเดิมเสียอีก!
หลินเยวียนเหงื่อเปียกชุ่ม ทว่าภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ หลินเยวียนกลับร้องเพลงด้วยเสียงที่สูงที่สุดในค่ำคืนนี้!
เขาปรับคีย์ขึ้นเพื่อให้ตรงกับเวอร์ชันดั้งเดิม!!
มีเพียงไม่กี่คนบนโลกที่สามารถร้องคีย์สูงเช่นนี้ได้!!!
“กลางดึกยามสามของสามวันสามคืน!”
“เต้นรำไม่ต้องหยุดพัก!”
“กลางดึกยามสามของสามวันสามคืน!”
“ลอยล่องท่องเสียงดนตรี!”
“กลางดึกยามสามของสามวันสามคืน!”
“ให้ร่างกายเหลือเพียงเหงื่อกาฬ!!!”
ผู้ชมต่างบ้าคลั่ง!
พวกเขาแทบกรีดร้องออกมาโดยไม่รู้ตัว!
ก็ดูสิ!
คนคนนี้ซึ่งเปล่งประกายบนเวที เขาช่างมีความสุขเหลือเกิน!
อย่างน้อยในครั้งนี้!
ก็ทำให้เขาได้ร้องเพลงอย่างมีความสุข!
เขาทำให้พวกเราได้ฟังอย่างมีความสุข!
“อย่าได้ดื่มเสียจนเมามาย
ฉันยังต้องสนุกอีกสามวันสามคืน
ในสายตาของฉันโลกก็คือการ์ตูนเรื่องหนึ่ง!”
ครืน!
เครื่องบินไอพ่นหลายลำติดเครื่อง!
ควันขาวพ่นออกมาสูงหลายเมตร!
ท่ามกลางควันคลุ้ง
นักดนตรีทุกคนต่างสนุกสนานไปพร้อมกับเซี่ยนอวี๋!
ไม่มีใครสนใจตำแหน่งอีกต่อไป
ไม่มีใครขบคิดลำดับอีกต่อไป
นี่คือเรื่องของบรรยากาศ!
บรรยากาศอันเดือดพล่านของคอนเสิร์ต!
“นิดเดียวก็ไม่เหนื่อย!”
“นิดเดียวก็ไม่เหนื่อย!!”
เนื้อเพลงหลายประโยคสุดท้าย หลินเยวียนร้องด้วยโน้ตที่สูงขึ้นเรื่อยๆ !
อารมณ์ในคอนเสิร์ตพลุ่งพล่านขึ้นเรื่อยๆ !
โดยเฉพาะเสียงสูงในช่วงสุดท้ายซึ่งสูงกว่าเสียงหวีด และเข้าใกล้ขีดจำกัดของเสียงสูงของหลินเยวียนแล้ว
“นิดเดียวก็ไม่เหนื่อย!!!”
ทะเลแห่งแสงไฟกลายเป็นคลื่นลูกใหญ่ จนหลังคาของสนามรังนกแทบถล่มลงมา!
ผู้ชมกรี๊ดเสียงดังจนสมองชา!
และในแถวหน้า
ผู้ชมนับไม่ถ้วนแทบลมจับ!
หยางจงหมิงสีหน้าไร้อารมณ์
ไม่รู้ว่าเขาลุกขึ้นยืนตั้งแต่เมื่อไหร่ และหันไปมองเจ้าหน้าที่ด้านข้างซึ่งด่ำดิ่งลงสู่ความเมามันเช่นเดียวกัน
“บอกถงซูเหวิน ให้เซี่ยนอวี๋พักก่อน”
เจ้าหน้าที่คล้ายกับอยากพูดอะไร จู่ๆ สีหน้าของหยางจงหมิงพลันขึงขังขึ้นมา
“มีปัญหาอะไรไหม?”
เจ้าหน้าที่ตื่นตระหนกทันใด พยักหน้าด้วยรอยยิ้มขมขื่นก่อนจะรีบวิ่งไปยังหลังเวที
“ครับๆๆ !”
เมื่อได้ฟังคำพูดที่ถ่ายทอดผ่านเจ้าหน้าที่ ถงซูเหวินจึงข่มความตื่นเต้นและเมามันในใจ
“ผมจะให้เซี่ยนอวี๋พักเดี๋ยวนี้แหละ!”
ถงซูเหวินไม่คิดเช่นกันว่าเซี่ยนอวี๋จะร้องเพลงได้ดีเช่นนี้!
เสียงสูงบวกกับเสียงกรีดร้องอย่างบ้าคลั่งของผู้ชม จนรู้สึกราวกับกระจกจะแตก!
————————
ปล. ใครสนใจสามารถเข้าไปฟังเพลง ‘สามวันสามคืน (《三天三夜》)’ เวอร์ชันซึ่งจางเหว่ยขับร้องกับนักร้องอีกคนหนึ่งในการแข่งขันได้