เดิมทีคิดว่าเป็นการวอร์มอัปเวทีของเจียงขุย จู่ๆ การปรากฏตัวขึ้นอย่างกะทันหันของเซี่ยนอวี๋สร้างความตกใจเป็นอย่างมากให้กับผู้ชม
การออกแบบการเปิดตัวนี้งดงามมาก!
และเซอร์ไพรส์ที่ใหญ่กว่านั้นคือเสียงนางไซเรนของเซี่ยนอวี๋
เช่นเดียวกับเสียงแผ่วเบาของธรรมชาติ!
ฉากตื่นเต้นบินไปดังคาด ฉากเปิดคอนเสิร์ตกลายเป็นฉากที่โด่งดังในทันที!
“สมบูรณ์แบบ!”
หลังเวทีในห้องควบคุม
ถงซูเหวินหัวหน้าผู้กำกับตบหน้าขาดังฉาด!
เดิมทีเพลงนี้ เซี่ยนอวี๋วางแผนจะเปิดตัวพร้อมกับเจียงขุย
การปรากฏตัวกะทันหันระหว่างเพลงนั้นเป็นความคิดของถงซูเหวิน เขาคิดว่าเช่นนี้จะตื่นเต้นกว่าถ้าทำเช่นนี้
ความจริงพิสูจน์แล้วว่าถงซูเหวินทำได้!
และเงื่อนไขของผลลัพธ์นี้คือเสียงของเซี่ยนอวี๋ขณะขึ้นเวทีต้องน่าทึ่ง และสัมผัสถึงโสตประสาทของผู้คนได้มากพอ!
เซี่ยนอวี๋เองก็ทำได้เช่นกัน!
เมื่อเพลงปลายักษ์จบลง ทั้งสนามก็เดือดขึ้นมาทันที!
เจียงขุยโค้งคำนับ ก่อนจะลงจากเวทีไป ในแววตาเป็นประกายสุกสกาว…
นี่เป็นครั้งแรกที่เธอได้ร้องเพลงบนเวทีต่อหน้าผู้ชมนับแสนคน!
นี่คือโอกาสที่อาจารย์เซี่ยนอวี๋มอบให้กับเธอ!
หลินเยวียนไม่ได้ลงจากเวที
เขาหยิบไมโครโฟนขึ้นมา เอ่ยอย่างยิ้มแย้ม “ขอขอบคุณทุกท่านที่มาชมคอนเสิร์ตของผมในวันนี้ครับ ผมเห็นคนคุ้นเคยหลายคน…”
“แพนกล้องไปที่คนดัง!”
ถงซูเหวินซึ่งอยู่บนเวทีพูดขึ้นมาทันที นี่คือประสาทสัมผัสพื้นฐานของผู้กำกับคอนเสิร์ต
พรึบๆๆ !
เมื่อเซี่ยนอวี๋เอ่ยขึ้น กล้องจึงตัดไปยังตำแหน่งผู้ชมในทันที ใบหน้าอันคุ้นเคยปรากฏขึ้นต่อหน้าผู้ชม!
ซย่าฝาน จ้าวอิ๋งเก้อ เว่ยห่าวอวิ้น เฉินจื้ออวี่ ซุนเย่าหั่ว…
รวมกับเจียงขุยซึ่งขึ้นเวทีวอร์มอัปเวทีพร้อมกับเซี่ยนอวี๋ สมาชิกราชวงศ์ปลามากันครบทีม!
แม้แต่เฟ่ยหยางและหงส์ขาวซูอวี๋ก็มาเช่นกัน!
หลายคนในวงการภาพยนตร์ก็มาเช่นกัน
ตัวอย่างเช่นเพื่อนสนิทของหลินเยวียน เจี่ยนอี้จากเรื่องสไปเดอร์แมน
หรือนักแสดงตลกซึ่งเพิ่งแสดงเรื่องชีวิตมหัศจรรย์ ทรูแมนโชว์จบลงอย่างเฮ่อเซิ่ง
หรือนักแสดงหน้าใหม่กระแสแรงซึ่งรับบทบาทเป็นซุนหงอคงในเรื่องการเดินทางสู่ประจิมทิศอย่างเหรินเหยียน
หรือราชาภาพยนตร์ผู้รับบทนักแสดงนำชายจากเรื่องปากง สุนัขยอดกตัญญูอย่างจางซิ่วหมิง
ถึงขั้นที่มีคนดังบางคนที่หลินเยวียนไม่รู้จักด้วยซ้ำ
คนกลุ่มนี้คล้ายกับว่าเป็นแฟนคลับของเซี่ยนอวี๋ และในมือของพวกเขามีแท่งไฟอยู่ด้วย!
นอกจากนั้น
ยังมีคนดังจากวงการประพันธ์เพลงอีกหลายคน ซึ่งทั้งหมดล้วนมีความสัมพันธ์ที่ดีกับหลินเยวียน หรือบางคนก็เคยมีปฏิสัมพันธ์กับหลินเยวียน
อิ่นตง เยี่ยจือชิว เจิ้งจิง รวมไปถึงหยางจงหมิง!
กล้องยังอุตส่าห์ซูมไปยังหยางจงหมิง หยางจงหมิงให้ความร่วมมือโดยการยักคิ้วให้กับกล้อง
ทั้งสนามกรีดร้อง!
ในคอนเสิร์ตมีหนึ่งแสนคน ไม่มีใครรู้ว่าผู้ที่นั่งอยู่ในแถวหน้ามีใครบ้าง จนกระทั่งกล้องจับไปยังพวกเขา
“หยางจงหมิงมาแล้ว!”
“นักแสดงหนังนักแสดงซีรีส์คนดนตรีมากันมากมายทีเดียว นี่เรียกว่าคอนเสิร์ตได้หรือ นี่มันงานรวมตัวดาราชัดๆ !”
“ฉันเห็นราชาเพลงเฟ่ยด้วย!”
“ราชาภาพยนตร์ ราชาราชินีเพลง พ่อเพลง เมื่อกี้เหมือนว่าจะมีเงาของราชินีภาพยนตร์ด้วย ทัพคนดังก็เลิศเกิน…”
“ความปังของพ่อเพลงอวี๋อะเนอะ!”
“มีแฟนคลับของพ่อเพลงอวี๋ที่เป็นคนดังมากแค่ไหนกันนะ!”
“เห็นตอนนี้พ่อเพลงอวี๋คงจะเป็นไอดอลของคนดังหลายคน!”
“ไม่มีอิ่งจือเหรอ หรือว่าผมยังไม่เห็น?”
“เจ้าแก่ฉู่ขวงไปไหน รีบปรากฏตัวเร็ว!”
“ที่แท้ก็มีขาใหญ่มาคอนเสิร์ตของเซี่ยนอวี๋มากขนาดนี้!”
“…”
งานรวมคนดัง!
ต่อให้หาไม่พบอิ่งจือและฉู่ขวงที่ทุกคนโหยหา ทว่าการได้เห็นคนดังระดับแนวหน้ามากมายก็มากพอให้ทุกคนตื่นเต้นและปลาบปลื้ม!
ท่ามกลางเสียงกรีดร้องด้วยความตื่นเต้นและปลาบปลื้ม
ทันใดนั้นมือของหลินเยวียนก็ไปหยุดบนริมฝีปาก
ในชั่วพริบตา
ผู้ชมทุกคนเงียบสงบ
ความคึกคักและอึกทึกครึกโครมราวกับไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
“งดงาม!”
ถงซูเหวินในห้องควบคุมตบหน้าขาดังฉาด!
นี่คือวิธีที่ซูเปอร์สตาร์ใช้ควบคุมเวที ทว่าคนทั่วไปไม่มีทางกล้าลอง เพราะโอกาสในการทำพลาดนั้นมีสูงเกินไป
ลองจินตนาการดู
ผู้ชมบนเวทีกำลังคึกคัก จู่ๆ ผู้แสดงก็ทำท่าปิดปาก ผลปรากฏว่าทุกคนยังคนคุยกันต่อไปราวกับว่าไม่เห็นอะไร…
กระอักกระอ่วนไหม?
น่ากลัวว่าสุดท้ายแล้วแม้แต่ผู้ชมเองก็รู้สึกกระอักกระอ่วนตามไปด้วย
มีเพียงซูเปอร์สตาร์ที่ชื่อเสียงแตะถึงระดับหนึ่งเท่านั้น จึงจะทำให้ผู้ชมให้ความร่วมมือเช่นนี้ได้!
และเมื่อทั้งสนามเงียบลง
เสียงดนตรีก็ดังขึ้นอย่างฉับพลัน
“ตึง–ตึง–ตึง!”
เสียงสามเสียงติดต่อกัน ดนตรีสังเคราะห์และกีตาร์ไฟฟ้ามารวมกัน ทำให้ทั้งสนามซึ่งเงียบสงัดร้อนระอุขึ้นมาอีกครั้ง!
“เพลงเกินจริง!”
หลินเยวียนเขียนเพลงมามากมาย และได้รับการกล่าวถึงสูงมาก
แต่ถ้าเอ่ยถึงเพลงฮิตที่สุดของเขาละก็ เพลงเกินจริงจะต้องอยู่ในรายชื่ออย่างแน่นอน!
ดังนั้นทันทีที่เสียงเพียงดังขึ้น ผู้ชมจึงเฮลั่นด้วยความตื่นเต้น!
ราวกับว่าทุกคนกลับไปยังเวทีราชาหน้ากากนักร้อง และเห็นความบ้าคลั่งของเซี่ยนอวี๋อีกครั้ง
“ท้องนภายามราตรี…”
หลินเยวียนหยิบไม่โครโฟนขึ้นมา เริ่มต้นร้องเพลง
ปรากฏว่าขณะที่เขาเริ่มต้น ผู้ชมโดยรอบมีเสียงที่เหมือนกันดังมา
“ท้องนภายามราตรี เห็นมีเพียงดวงดาวพราวโดดเด่น…”
หลินเยวียนผุดยิ้ม
เขาหยุดร้องเพลง
ยื่นไมโครโฟนไปยังผู้ชม
นี่คือคำแนะนำของผู้กำกับถงซูเหวิน
ระหว่างคอนเสิร์ต ถ้าเป็นเพลงที่ทุกคนคุ้นเคยมาก ให้ผู้ชมได้มีโอกาสร้องบ้าง
ผู้ชมให้ความร่วมมือจริงๆ
แฟนคลับของเซี่ยนอวี๋
“ท่ามกลางฝูงชน เธอยกย่องเพียงคนที่มีประเด็นคนที่โด่งดัง…”
แรกเริ่มอาจมีเพียงไม่กี่พันคนร้อง แต่เมื่อการขับร้องดำเนินต่อไป ผู้ชมที่เข้าร่วมจึงมากขึ้นเรื่อยๆ
“สองตาคอยสอดส่อง ปากถกเถียงเรื่องคนอื่นเขา เพิ่มรสชาติให้วงสนทนาทุกครั้งไป…”
ไคลแม็กซ์กำลังจะมา!
ส่วนนี้จำเป็นต้องร้องเอง!
หลินเยวียนลองดึงไมโครโฟนกลับ
แต่ยังไม่ทันได้ดึงกลับไป ผู้ชมเกือบหนึ่งแสนคนก็ร้องเพลงขึ้นมาพร้อมกัน มิหนำซ้ำยังจงใจร้องเสียงดังมาก
“ต้องอวดอ้างเกินจริงกันด้วยหรือ จะถูกผิดจริงเท็จไม่ยึดถือ…”
เมื่อเห็นผู้ชมร้องเพลงจนสุดเสียง หลินเยวียนจึงนิ่งอึ้งไปชั่วขณะ
ยังไม่หยุดหรือ?
สรุปว่าพวกคุณเป็นนักร้องหรือผมเป็นนักร้องกันนะ?
สีหน้าของเขาสับสนเล็กน้อย ราวกับเป็นขาใหญ่ถูกแย่งไมโครโฟนไปขณะร้องคาราโอเกะ
เมื่อเห็นว่าทุกคนดื่มด่ำกันเช่นนี้ หลินเยวียนจะเก็บไมโครโฟนกลับไปคงไม่ดี ทำได้เพียงฟังทุกคนร้องเพลงต่อไป…
หนึ่งในสิ่งที่ไม่น่ารักที่สุดในการร้องคาราโอเกะ คือการแย่งไมโครโฟนหรือปิดเพลงขณะที่คนอื่นกำลังร้องเพลง
หลินเยวียนรู้สึกกระดากใจเกินกว่าจะทำเรื่องแบบนั้น
“ฮ่าๆๆๆๆ !”
เมื่อสังเกตเห็นสีหน้าที่สับสนของหลินเยวียน เจิ้งจิงซึ่งอยู่ด้านล่างเวทีจึงหัวเราะจนตัวโยน
“เสี่ยวอวี๋น่ารักจริงๆ !”
เหล่าคนดังด้านข้างก็อดรู้สึกขบขันไม่ได้เช่นกัน
“ฉันขำจะตายอยู่แล้ว!”
“หนึ่งแสนคนร้องเพลงให้เซี่ยนอวี๋ฟัง!”
“ตอนนี้ถ้าเขาคิดจะร้องเพลงเองก็คงไม่ได้แล้ว!”
“ผู้ชมแค่อยากร้องเอง ไม่ได้อยากฟังเขาร้อง!”
“พอคอนเสิร์ตจบ ฉากนี้ต้องกลายเป็นพาดหัวข่าวแน่ๆ !”
ทั้งที่การควบคุมเวทีประสบความสำเร็จมาก ปรากฏว่าเท่ได้แค่สามวินาที!”
“…”
ผู้ชมก็เริ่มหัวเราะเช่นกัน
โจวเมิ่งคลี่ยิ้ม “พวกเราไม่ได้จ่ายเงินมาดูคอนเสิร์ต พวกเราจ่ายเงินมาร้องเพลงให้เซี่ยนอวี๋ฟัง…อุปสรรคทางความคิดมากมายคอยขวางกั้น ดีเลวฉันแบกรับมันไว้เอง…”
เอาละ
ร้องอีกแล้ว
คนหนึ่งแสนคนร่วมร้องกันจริงๆ !
ทุกคนสนุกสนานขณะร้องเพลง!
ในห้องควบคุม
ถงซูเหวินร้องไห้ไม่ได้หัวเราะไม่ออก
ผมให้คุณนำผู้ชมร้องเพลง ไม่ใช้ให้คุณมาเป็นแฟนคลับผู้ชมหนึ่งแสนคน!
“นี่นับว่าเป็นอุบัติเหตุในการแสดงไหม?”
รองผู้กำกับกลั้นหัวเราะ กระแอมครั้งหนึ่ง
“ต่อให้เป็นอุบัติเหตุในการแสดง ก็เป็นอุบัติเหตุที่น่าตื่นเต้นที่สุด รีบซูมสีหน้าของเซี่ยนอวี๋เร็ว ฉากดังฉากที่สองของเรามาแล้ว!”
ถงซูเหวินสั่งการด้วยความตื่นเต้น
ทันใดนั้นสีหน้าของเซี่ยนอวี๋ปรากฏบนหน้าจอ
ชั่วขณะนั้น!
ผู้ชมทั้งหมดพากันหัวเราะ!
สีหน้าเศร้าสร้อยระคนสับสน เรียกเสียงหัวเราะจากผู้ชมได้ในทันที!
ผู้ชมแทบระเบิดเสียงหัวเราะขณะร้องเพลงตาม!
เสียงในสนามระคนกับเสียงหัวเราะจนกลายเป็นหนึ่ง จนกระทั่งร้องจนจบทั้งเพลง!
เพลงเกินจริงทั้งเพลง ตั้งแต่ต้นจนจบ หลินเยวียนร้องไปเพลงประโยคเดียว เอาเถอะ ประโยคครึ่งประโยคยังร้องไม่จบ
ในช่วงท้ายของเพลง
หลินเยวียนยืนอยู่บนเวที ยื่นไมโครโฟนไปทางผู้ชม รู้สึกสับสนไปชั่วขณะหนึ่ง
ฉันเป็นใคร
ฉันอยู่ที่ไหน
ฉันทำอะไร
ใครเป็นคนเปิดคอนเสิร์ต
————————
ปล. ต้นฉบับของการที่แฟนคลับร้องเพลงให้นักร้องฟังนั้นมีมากมาย เช่นขณะที่อู่ไป่ร้องเพลง ‘พงไพรแห่งนอร์เวย์’ ปรากฏว่าแฟนคลับร้องอย่างออกรสออกชาติยิ่งกว่านักร้อง อู่ไป่ฟังทุกคนร้องเพลงแล้วก็อึ้งไป