ที่สถาบันวิชาธุรกิจ มหาวิทยาลัยฮ่องกง อาจารย์เหลียงสอนเสร็จแล้วและกำลังเดินออกจากห้องบรรยาย เขาผิดหวังกับศิษย์ในยุคนี้ ไม่มีใครจริงจังกับการเรียนเลยและไม่สามารถนำสิ่งที่เรียนรู้ไปประยุกต์ใช้ได้ เขายังคงคิดถึงนักเรียนแลกเปลี่ยนจากจีนคนนั้น นักเรียนคนนั้นเป็นนักเรียนคนโปรดของเขา
แต่ก็น่าเสียดาย อาจารย์เหลียงสอนมาหลายปีแล้วและได้พบกับนักเรียนแบบเฝิงหยู่คนเดียวเท่านั้น
หลังจากเดินออกจากห้องโถง อาจารย์เหลียงก็เห็นชายหนุ่มคนหนึ่งยืนอยู่ข้างนอก ชายหนุ่มคนนี้มีกล่องข้างเขาและถือหนังสือสองเล่มอยู่ในมือ หนังสือเกี่ยวข้องกับเรื่องที่เขาสอนก่อนหน้านี้
“ในเมื่อเธอมาที่นี่แล้ว ทำไมไม่เข้าไปร่วมเรียนด้วยล่ะ?” อาจารย์เหลียงหัวเราะและถาม
“ผมมาสายและอาจารย์ก็เริ่มสอนไปแล้ว ผมไม่อยากรบกวนชั้นเรียนและนักเรียนคนอื่นครับ” เฝิงหยู่หัวเราะและตอบกลับ
“ไปห้องทำงานของอาจารย์กันเถอะ อาจารย์ไม่มีสอนช่วงบ่าย เราไปนั่งคุยกันเถอะ” อาจารย์เหลียงตบไหล่เฝิงหยู่แล้วเดินไปที่ห้องทำงานของเขา
“อาจารย์เหลียงครับ ผมเอาซิการ์และกาแฟมาให้ครับ” เฝิงหยู่วางกล่องไว้บนโต๊ะของอาจารย์เหลียง
“ขอบใจมาก เธอยังจำสิ่งที่อาจารย์ชอบได้เสมอ” อาจารย์เหลียงรับของขวัญจากเฝิงหยู่ แม้ว่าเขาจะเป็นอาจารย์ แต่เขาก็มีเงินใช้ตลอด
“อาจารย์เหลียงครับ ผมได้อ่านบทวิจารณ์ของอาจารย์ที่เพิ่งตีพิมพ์เมื่อไม่นานนี้ มันน่าสนใจมากเลยครับ”
“ฮ่าฮ่าฮ่า…บทความนั้นเป็นที่ถกเถียงและนักวิชาการหลายคนก็โจมตีในสิ่งที่อาจารย์เขียน” อาจารย์เหลียงกล่าวด้วยท่าทางภาคภูมิใจ ดูเหมือนว่าเขาจะสนุกกับสิ่งที่คนอื่นพูดถึงบทความของเขา
“คนที่ทำร้ายอาจารย์จะต้องเสียใจภายหลัง” เฝิงหยู่พูด
บทความของอาจารย์เหลียงเกี่ยวกับข้อบกพร่องของเศรษฐกิจที่เน้นการส่งออกและได้กล่าวถึงความเสี่ยงของอัตราเงินเฟ้อที่เกิดจากข้อบกพร่องดังกล่าว
หลายคนไม่เห็นด้วยกับบทความของอาจารย์เหลียง ประการแรกก็คือเศรษฐกิจที่เน้นการส่งออกมีตัวอย่างที่ประสบความสำเร็จมากมายในประวัติศาสตร์ ขนาดตอนนี้เศรษฐกิจของหลายประเทศในเอเชียเติบโตอย่างรวดเร็วเนื่องจากการส่งออก ตัวอย่างเช่น ญี่ปุ่น เกาหลี มาเลเซีย อินโดนีเซีย ไทย ฯลฯ เศรษฐกิจของพวกเขาตอนนี้ดีกว่าเมื่อ 5 หรือ 10 ปีก่อนมาก
สำหรับการลดค่าเงิน นักวิชาการรู้สึกว่าเป็นไปไม่ได้ เกิดวิกฤตเศรษฐกิจและเงินดอลลาร์สหรัฐจะไม่พุ่งสูงขึ้นอย่างกะทันหัน สกุลเงินของประเทศพวกนั้นจะมีค่าลดลงอย่างกะทันหันได้อย่างไร? นอกจากนี้ประเทศที่เน้นการค้าจะมีเงินสำรองต่างประเทศที่เพียงพอ
แต่เฝิงหยู่เห็นด้วยกับความคิดเห็นของอาจารย์เหลียง เมื่อชาติที่แล้ว หลายคนคิดว่าสิ่งเหล่านี้จะไม่เกิดขึ้น แต่ก็เป็นเช่นนั้น ทุกประเทศไม่ได้เตรียมพร้อมและประสบความสูญเสียครั้งใหญ่
อาจารย์เหลียงเป็นหนึ่งในไม่กี่คนที่สามารถมองเห็นอันตรายเบื้องหลังเศรษฐกิจที่ ‘ประสบความสำเร็จ’ พวกนี้ได้
“วันนี้เธอมาหาอาจารย์เพราะคนกลุ่มนั้นกำลังจะเริ่มแล้วงั้นหรอ?” อาจารย์เหลียงหยุดยิ้มและถาม
เฝิงหยู่พยักหน้า “ใช่ครับ พวกเขากำลังจะเลือกประเทศที่อ่อนแอกว่าอย่างประเทศไทยเป็นจุดแรก ประเทศไทยมีหนี้สูง ใช้ระบบเศรษฐกิจที่เน้นการส่งออก และมีเงินสำรองต่างประเทศไม่เพียงพอ”
อาจารย์เหลียงมองหน้าเฝิงหยู่ด้วยความตกใจ “เธอรู้รายละเอียดมากมายขนาดนี้ได้ยังไง? ถึงขนาดรู้ด้วยซ้ำว่าพวกเขากำลังจะโจมตีที่ไหน?”
“เป็นเพราะนักธุรกิจชาวยิวพวกนั้นเชิญผมให้ไปเข้าร่วมด้วยน่ะสิครับ!”
“พวกนั้นเชิญเธอหรอ? ทำไมล่ะ?”
นักธุรกิจชาวยิวพวกนั้นแทบจะไม่ยอมให้คนนอกเข้าร่วมกับพวกเขา นอกจากนี้ เฝิงหยู่ยังเป็นชาวเอเชียและพวกเขากำลังโจมตีเอเชียในครั้งนี้!
เฝิงหยู่บอกอาจารย์เหลียงว่าคิริเลนโกเป็นคนแนะนำให้โซรอสรู้จักเขา และโซรอสน่าจะคิดว่าเฝิงหยู่เป็นคนโง่และควบคุมได้ง่าย
แผนการเริ่มต้นของโซรอสคือให้คิริเลนโกและ เฝิงหยู่ลงทุนกองทุนของพวกเขาในกองทุนควอนตั้ม ด้วยวิธีนี้เขาจะสามารถควบคุมเงินจำนวนมากได้ และโอกาสในการชนะก็สูงขึ้น
แต่หลังจากโซรอสได้พบกับเฝิงหยู่ เขาก็รู้ว่าเฝิงหยู่ไม่ใช่คนที่เขาสามารถควบคุมได้ นอกจากนี้ เฝิงหยู่ยังแสดงให้เขาเห็นว่าเขาฉลาดกว่าคิริเลนโกมาก นั่นเป็นเหตุผลที่ซรอสไม่มีทางเลือกนอกจากร่วมมือกับเฝิงหยู่แทนที่จะขอให้เขาลงทุน
“ฮ่าฮ่าฮ่า…นั่นหมายความว่าพวกเขาจะทำงานร่วมกับเธอแล้วพุ่งเป้าไปที่ฮ่องกงงั้นหรอ?” อาจารย์เหลียงหัวเราะและถาม
เฝิงหยู่ถูจมูกของเขา “ถ้าเป็นผม ผมจะทดสอบความแข็งแกร่งของฝ่ายตรงข้ามก่อนที่จะตัดสินใจเดินหน้าต่อไป ถ้าเป็นไปได้ ผมจะหลอกให้พวกเขาตายใจครั้งเดียว สุดท้ายแล้วการทำให้ฝ่ายตรงข้ามอ่อนแอลงก็เท่ากับการทำให้ตัวผมแข็งแกร่งขึ้น ถ้าผมไม่ได้พูดแบบนั้น พวกเขาอาจไม่ได้พุ่งเป้ามาที่ผม แต่ตอนนี้พวกเขาก็น่าจะพุ่งเป้ามาที่ผมเหมือนกัน”
“เธอเป็นคนซื่อสัตย์ เธอคิดว่าพวกเขาจะเริ่มเมื่อไหร่?” อาจารย์เหลียงชอบความซื่อสัตย์ของเฝิงหยู่
“พวกเขาจะทดสอบตลาดก่อนและการโจมตีที่แท้จริงจะเกิดขึ้นหลังจากที่ฮ่องกงคืนเกาะ” เฝิงหยู่ตอบอย่างมั่นใจ
“ทำไม?”
“เพราะอังกฤษต้องพ่ายแพ้ต่อโซรอสและลูกน้องของเขา และพวกเขาก็เตรียมพร้อม พวกเขามีประสบการณ์และมีมาตรการรับมือ นอกจากนี้ ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้อังกฤษได้เพิ่มทุนสำรองต่างประเทศ นั่นเป็นเหตุผลที่โซรอสจะรอจนกว่าฮ่องกงจะคืนเกาะให้แก่จีนก่อนที่พวกเขาจะทำการโจมตีในขั้นแรก แต่พวกเขาจะไม่พุ่งเป้าไปที่ฮ่องกงในตอนแรก พวกเขาจะโจมตีจีนและผมก่อนเพื่อดูปฏิกิริยาของเรา”
เฝิงหยู่กำหนดตัวเองให้อยู่ในตำแหน่งท้ายสุด และจู่ๆ อาจารย์เหลียงก็จำบางอย่างได้ “เธอมีเงินทุนเท่าไหร่?”
“เยอะครับ อาจารย์ได้สังเกตเห็นหรือเปล่าครับว่าครอบครัวที่ร่ำรวยของฮ่องกงเริ่มสะสมเงินดอลลาร์สหรัฐกันแล้ว?” เฝิงหยู่ตอบอย่างภาคภูมิใจ
“ครอบครัวไหนที่เธอชักชวนให้มาช่วยเธอหรอ?”
“ซูเปอร์แมนหลี่ ฟู่หยงฉี พวกเขายังติดต่อกับนักธุรกิจร่ำรวยและมีอิทธิพลรายอื่นด้วย เมื่อฮ่องกงถูกโจมตี ทุกคนจะลุกขึ้นสู้!”
“ลุกขึ้นสู้พวกนั้นหรอ?” อาจารย์เหลียงส่ายหัว “หลายคนเป็นศัตรูกัน แล้วจะร่วมมือกันได้ยังไงร? ในความเป็นจริง อาจารย์รู้สึกว่ายิ่งมีคนเข้าร่วมมากเท่าไหร่ ก็จะยิ่งล้มเหลวมากขึ้นเท่านั้น!”
เฝิงหยู่ยกนิ้วให้อาจารย์เหลียงในใจ เมื่อชาติที่แล้ว นักธุรกิจฮ่องกงสามารถชนะได้อย่างง่ายดาย แต่สุดท้ายพวกเขาก็แตกแยกและต่อสู้กับโซรอสกันเอง บางคนพยายามที่จะใช้ประโยชน์จากสถานการณ์นี้ หากผู้ว่าการฮ่องกงไม่ขอความช่วยเหลือจากจีนในเวลานั้น วิกฤตเศรษฐกิจของฮ่องกงอาจเลวร้ายมากกว่านี้
“แต่ครั้งนี้มันต่างออกไปครับ ผมมาที่นี่เพื่อเชิญอาจารย์ให้ไปเป็นผู้นำเรา อาจารย์จะเป็นคนจัดการเงินทุนของซูเปอร์แมนหลี่ ฟู่หยงฉี และคนอื่นๆ ที่เหลือ ด้วยวิธีนี้เราจะถือว่าลงเรือลำเดียวกันแล้วและสามารถตอบโต้พวกนั้นได้!”
“ให้อาจารย์เป็นผู้นำเนี่ยนะ? แล้วพวกเขาจะฟังอาจารย์มั้ยล่ะ?” อาจารย์เหลียงตกใจ เขามั่นใจว่าเขาเป็นหนึ่งในผู้เชี่ยวชาญด้านการเงินอันดับต้นๆ ของฮ่องกง แต่เขาไม่มั่นใจว่าซูเปอร์แมนหลี่ ฟู่หยงฉี และนักธุรกิจคนอื่นๆ จะยอมฟังคำสั่งของเขาและปล่อยให้เขาควบคุมเงินทุนของพวกเขาหรือเปล่า
“จะมีการโจมตีเกิดขึ้นเร็วๆ นี้ แต่ถ้ายังมีผมอยู่ การโจมตีจะไม่รุนแรงเกินไป พวกเขาจะสูญเสียเวลาอันมีค่าหากเราคอยถ่วงเวลา นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมเงินทุนที่เรามอบให้คุณดูแลจึงมีจำนวนไม่มากนักและเราไม่ได้หวังผลกำไรสูง แค่ไม่มีการสูญเสียก็ดีเกินพอแล้ว”
“เธอจะทำกำไรจากประเทศอื่นงั้นหรอ?”
“แน่นอนสิครับ ถึงยังไงพวกนั้นก็ไม่ใช่ประเทศของเรา และผมก็ไม่ใช่คนที่เป็นผู้นำในการโจมตี ผมเป็นแค่ผู้ติดตาม พูดตามตรงผมมีความสุขที่ได้เห็นประเทศพวกนั้นต้องทนทุกข์ทรมาน!”
อาจารย์เหลียงชี้ไปที่เฝิงหยู่สักพักและไม่รู้จะพูดอะไร นักเรียนคนนี้ยังคงเป็นความภาคภูมิใจของเขาและเขาก็ยังชอบความเป็นชาตินิยมที่ใจแคบของเฝิงหยู่อยู่ดี