EG บทที่ 860 อยากรู้อยากเห็นจนเดือดร้อน
ก่อนที่จงชิ่งเซียนจะตอบกลับ มีคนข้างๆ เขาถามขึ้นมาว่า “ประธานครับ ราคานี้สูงเกินไป ขนาดยังไม่รวมราคาค่าสูตร ต้นทุนการผลิตของบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปแต่ละซองคือ 2 หยวน แบบนี้เราควรตั้งราคาขายปลีกไว้ที่เท่าไร? อย่างน้อย 5 หยวนหรอครับ? ปัจจุบันราคาขายปลีกของบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปในจีนอยู่ระหว่าง 0.60 ถึง 2 หยวน ถ้าต้นทุนของเราสูงกว่าราคาขายปลีกของแบรนด์อื่นแบบนี้ แล้วเราจะทำกำไรได้ยังไง?”
จงชิ่งเซียนเงียบ เขาเคยคิดเกี่ยวกับการกำหนดราคาบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปมาก่อนและรู้สึกว่าถ้าเลอฮ่าฮาขายบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ราคาจะต้องแพงกว่าคังซื่อฟู่!
นอกจากนี้ บะหมี่ในซองบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปและผงปรุงรสนี้มีขนาดใหญ่กว่าเดิม สิ่งพวกนี้สามารถลดลงได้และทำให้สามารถลดต้นทุนได้ต่ำกว่า 2 หยวน
เลอฮ่าฮามีเครือข่ายการจัดจำหน่ายอยู่แล้ว แถมผู้จัดจำหน่ายเครื่องดื่มพวกนี้ยังสามารถช่วยพวกเขาขายบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปได้ด้วยและยังมีซุปเปอร์มาร์เก็ตตไท่หัวอีก ทั้งหมดนี้เป็นข้อได้เปรียบของเลอฮ่าฮา
ปัญหาตอนนี้คือราคาของสูตรนี้ เขาควรเสนอราคาเท่าไหร่ดี และชาวญี่ปุ่นสองคนนั้นมีความสัมพันธ์อะไรกับเฝิงหยู่หรือเปล่า?
เฝิงหยู่ไม่พูดอะไรสักคำและค่อยๆ จิบชา เขาทำเหมือนกับว่าเขามาที่นี่เพื่อแนะนำทั้งสองฝ่ายให้รู้จักกันเท่านั้น แต่จงชิ่งเซียนไม่คิดเช่นนั้น
เฝิงหยู่พาชาวญี่ปุ่นสองคนนี้มาหาเขาด้วยตัวเอง ซึ่งแสดงให้เห็นถึงทัศนคติของเขา แม้ว่าผู้มีอำนาจตัดสินใจขั้นสุดท้ายของเลอฮ่าฮาจะเป็นจงชิ่งเซียนก็ตาม แต่เฝิงหยู่ก็เป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ ทรัพย์สินของเฝิงหยู่มีมากกว่าเขาหลายเท่า และคงไม่ฉลาดนักถ้าจะทำให้เฝิงหยู่ไม่พอใจ
“ผู้จัดการเฝิงครับ คุณคิดว่าสูตรบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปนี้คุ้มค่าแก่การลงทุนมากแค่ไหนครับ?” จงชิ่งเซียนถาม
“คุณก็แค่เสนอราคาที่คุณคิดว่าเหมาะสม ผมมีหน้าที่แนะนำพวกเขาให้คุณรู้จักเท่านั้น ผมจะไม่ยุ่งกับการตัดสินใจของคุณครับ ผมไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับบริษัทเฉียนเฉียน ราเมน เลยครับ” เฝิงหยู่หัวเราะและส่ายหน้า
จงชิ่งเซียนรู้สึกโล่งอก ในเมื่อเฝิงหยู่บอกว่าเขาไม่ได้เกี่ยวข้องกับเฉียนเฉียน ราเมน ดังนั้นเขาจึงเจรจาต่อรองได้ง่ายขึ้น
จงชิ่งเซียนลุกขึ้นยืนและเดินไปด้านข้างเพื่อหารือกับผู้บริหารระดับสูงที่เหลือ ผ่านไป 5 นาทีเขาก็เดินกลับมา
“คุณ มูกาวะ จิโระครับ เลอฮ่าฮายินดีที่จะซื้อสองสูตรนี้ เราจะเสนอราคา 4 ล้านสำหรับสูตรบะหมี่ของคุณและ 2 ล้านสำหรับเครื่องปรุงแต่ละรส รวมทั้งหมด 8 ล้านหยวนครับ”
“คุณจงครับ เราจำเป็นต้องแจ้งให้คุณทราบว่าเรายินดีที่จะขายสูตรพวกนี้ แต่เราต้องการสิทธิ์ในการใช้งานด้วย เราจะไม่ขายสูตรพวกนี้ให้คนอื่นหรือบริษัทอื่น สินค้าของเราจะไม่ถูกส่งออกไปยังประเทศจีน” คาเมดะ มาซาโอะ อธิบาย
“ตกลงครับ” จงชิ่งเซียนไม่ได้คิดจะขายบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปในต่างประเทศอยู่แล้ว และแม้ว่าเขาจะตัดสินใจที่จะทำเช่นนั้นในอนาคต แต่บริษัทบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปขนาดเล็กแห่งนี้ก็ไม่มีอะไรสู้กับเลอฮ่าฮาได้เลย
“ราคานี้ต่ำกว่าที่เราคาดไว้ แต่คุณมูกาวะ จิโระ ยินดีตอบตกลง” คาเมดะ มาซาโอะพูดกับจงชิ่งเซียน หลังจากที่เขาคุยกับ มูกาวะ จิโระ
จงชิ่งเซียนประหลาดใจอีกครั้ง เขาคิดว่าชาวญี่ปุ่นจะต่อรองราคากับเขาและราคาที่เขาคิดไว้ในใจก็สูงกว่ามาก แค่เทคโนโลยีผลิตบะหมี่ก็มีมูลค่าอย่างน้อย 8 ล้านหยวนแล้ว
จงชิ่งเซียนมองไปที่เฝิงหยู่ และเฝิงหยู่ก็ยิ้มให้
หลังจากทั้งสองฝ่ายสรุปข้อตกลงได้แล้ว คาเมดะ มาซาโอะและมูกาวะ จิโระก็กลับไปที่โรงแรมเพื่อเตรียมเอกสาร จงชิ่งเซียนสั่งให้ลูกน้องเตรียมเอกสารสัญญา หลังจากทุกคนกลับไป จงชิ่งเซียนก็มองหน้าเฝิงหยู่ “ผู้จัดการเฝิงสนิทกับคนญี่ปุ่นสองคนนั้นหรอครับ?”
“ผมเคยติดต่อกับคาเมดะ มาซาโอะหลายครั้ง แต่ผมเพิ่งรู้จักกับคุณมูกาวะ จิโระ บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปของพวกเขารสชาติดีทีเดียวโดยเฉพาะเส้นบะหมี่ นั่นคือเหตุผลที่ผมแนะนำให้พวกเขารู้จักกับเลอฮ่าฮา”
“แต่ผมรู้สึกว่าเราได้เปรียบในการเจรจาครั้งนี้นะครับ” จงชิ่งเซียนตอบ
เฝิงหยู่ “……” คุณกำลังคิดอะไรอยู่? ได้เปรียบกว่าก็ดีแล้วไม่ใช่หรอ?
“ไม่มีใครในญี่ปุ่นสนใจสูตรบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปของพวกเขา ทำให้ไม่สามารถขายในราคาที่สูงได้ แต่ในประเทศจีน สูตรของพวกเขามีค่ามาก เฉียนเฉียน ราเมน เป็นบริษัทขนาดเล็กและพวกเขาก็ต้องการเงินเพื่อแก้ปัญหาทางการเงินในบริษัท คุณคิดว่าคุณได้ข้อตกลงที่ดี พวกเขาก็คิดว่าบริษัทตัวเองจะได้ไม่ต้องขาดทุนด้วยเหมือนกัน”
จากคำอธิบายของคาเมดะ มาซาโอะ ขนาดบริษัทของเฉียนเฉียน ราเมน เทียบเท่ากับโรงงานขนาดเล็กระดับเขตเท่านั้น ข้อตกลงมูลค่า 8 ล้านหยวนและการลงทุนของคาเมดะ ก็เพียงพอที่จะช่วยฟื้นฟูโรงงานขนาดเล็กแห่งนี้ได้
หลังจากนี้ เลอฮ่าฮาสามารถคิดค้นรสชาติของตัวเองที่เลียนแบบแบรนด์อื่นหรือซื้อสูตรจากบริษัทบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปอื่นต่อไปได้
จงชิ่งเซียนพยักหน้า เฉียนเฉียน ราเมน เป็นเพียงบริษัทขนาดเล็ก เขานึกว่าเป็นบริษัทใหญ่ของญี่ปุ่น แต่รสชาติบะหมี่ของพวกเขาดีมากและน่าจะเป็นที่นิยมในตลาดจีน
“ผู้จัดการเฝิงครับ บริษัทของคาเมดะทำธุรกิจเกี่ยวกับอะไรหรอครับ?” จงชิ่งเซียนถามอย่างสงสัย เขาอยากรู้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับบริษัท ซิกส์เซ้นส์ ซึ่งเป็นผู้นำตลาดในวงการธุรกิจนั้น
“เอิ่ม… บริษัท ซิกส์เซ้นส์…ส่วนใหญ่ทำธุรกิจเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ยางและซิลิโคนและเครื่องแต่งกาย” เฝิงหยู่ถูจมูกของเขาและตอบกลับ
“ผลิตภัณฑ์ยางหรอ?”
“เอาล่ะครับ อย่าไปพูดถึงเขาเลย ช่วงนี้เลอฮ่าฮาเป็นไงบ้างครับ? มีปัญหาอะไรหรือเปล่า?” เฝิงหยู่รีบเปลี่ยนเรื่องอย่างไว เพราะเขาไม่อยากบอกจงชิ่งเซียนว่าบริษัทซิกส์เซ้นส์ขายตุ๊กตายาง และเขาจะถามเฝิงหยู่ต่อว่าไปรู้จักเขาได้ยังไง จงชิ่งเซียนอาจสงสัยว่าเขาเคยซื้อตุ๊กตายางจากคาเมดะมาก่อน
“ไม่มีปัญหาอะไรเลยครับ สินค้าของเราได้รับความนิยมอย่างมากและเราควรรักษาส่วนแบ่งการตลาดและผลกำไรของเราเอาไว้”
“เราจะต้องใช้เงินอีกเยอะกับโรงงานใหม่ การโฆษณาและการเปิดตัวสินค้าใหม่ เรายังต้องพัฒนาสินค้าใหม่ด้วย น่าจะทำให้สภาพคล่องทางการเงินของบริษัทตึงพอสมควร”
“ใช่ครับ การเงินของเราติดขัดนึดนึง แต่ก็ไม่ใช่ปัญหาใหญ่ นอกจากนี้ เรายังขอเงินกู้ได้ และปีหน้ายอดขายในต่างประเทศของเราจะเพิ่มขึ้นและผลกำไรในต่างประเทศจะช่วยแก้ปัญหานี้ได้!” จงชิ่งเซียนตอบอย่างมั่นใจ แม้ว่าตอนนี้เลอฮ่าฮา จะมีเงินสดไม่มากนัก แต่ผลกำไรจากการขายในประเทศก็เพียงพอที่จะชดเชยต้นทุนการดำเนินงาน
จงชิ่งเซียนให้ความสำคัญกับช่องทางการจำหน่ายสินค้าเป็นอย่างมาก มีการจัดตั้งช่องทางการจัดจำหน่ายในท้องถิ่นและได้เริ่มจัดตั้งช่องทางการจัดจำหน่ายในต่างประเทศ ขั้นตอนต่อไปคือการขยายอิทธิพลไปยังเขต เมือง และหมู่บ้านต่างๆ
บริษัทเครื่องดื่มใช้วิธีการขายผ่านชนบทที่อยู่ล้อมรอบเมืองใช่มั้ย? งั้นผมจะขยายโดยเริ่มจากเมืองออกไปด้านนอกและโปรโมทสินค้าของเราในหมู่บ้าน มาดูกันว่าผู้บริโภคชอบใครมากกว่ากัน!
เฝิงหยู่คุยกับจงชิ่งเซียนสักพักก่อนจะกลับไป เขาไม่ได้กลับมาที่ประเทศจีนนานแล้ว และเขายังต้องไปเยี่ยม บริษัทอื่นอีกหลายแห่ง
คาเมดะ มาซาโอะ และ มูกาวะ จิโระ กลับมาและเซ็นสัญญากับจงชิ่งเซียน เมื่อเลอฮ่าฮาตรวจสอบสูตรแล้ว พวกเขาจะโอนเงินให้
หลังจากเซ็นสัญญาแล้ว จงชิ่งเซียนถามหลังจากที่พวกเขาจับมือกัน “คุณคาเมดะครับ บริษัทคุณขายอะไรหรอครับ?”
คาเมดะ มาซาโอะ มองหน้าจงชิ่งเซียน “ผู้จัดการเฝิงไม่ได้บอกคุณหรอครับ? คุณจะเจอสินค้าของเราที่วางอยู่ตรงข้างแคชเชียร์เก็บเงินในซูเปอร์มาร์เก็ตส่วนใหญ่เลย”
หลังจากที่ คาเมดะ มาซาโอะ กลับไป จงชิ่งเซียนก็เรียกเลขาให้เข้ามา “มีสินค้าอะไรบ้างที่วางอยู่ตรงแคชเชียร์เก็บเงินในซุปเปอร์มาร์เก็ตที่เป็นแบรนด์ซิกส์เซ้นส์บ้าง?”
เลขาของจงชิ่งเซียนมองหน้าเจ้านายของเขาแปลกๆ “เจ้านายอยากได้หรอครับ? ผมเพิ่งซื้อมาเมื่อวานนี้ ตอนนี้ยังอยู่ในกระเป๋าผมเลย เดี๋ยวผมไปหยิบมาให้เอามั้ยครับ?”
“เอามาๆ!” จงชิ่งเซียนโกรธมาก พูดด้วยสีหน้าแบบนี้หมายความว่ายังไง? คุณคิดว่าผมจะไม่จ่ายเงินให้คุณหรอ?
เมื่อจงชิ่งเซียนเห็นเลขาของเขายื่นกล่องถุงยางอนามัยมาให้เขา สีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไปทันที บริษัท ซิกส์เซ้นส์ ขายถุงยางอนามัยหรอเนี่ย?!
จงชิ่งเซียนรู้สึกอับอายเมื่อเลขามองหน้าเขา…