EG บทที่ 692 เหมาซื้อในราคาต่ำสุด
เฝิงหยู่ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการชดเชยนี้และบริษัทญี่ปุ่นไม่ต้องการให้บริษัทซุปเปอร์มาร์เก็ตไท่หัว ต้องมาขอโทษพวกเขาอีกต่อไป บริษัทญี่ปุ่นทั้งหมดในประเทศจีนพยายามทำตัวให้ไม่เป็นจุดสนใจให้ได้มากที่สุด
ใกล้จะถึงวันขึ้นปีใหม่แล้ว และซุปเปอร์มาร์เก็ตไท่หัวเริ่มขายบัตรช้อปปิ้งอีกรอบ ซึ่งขายดีอย่างมาก แต่เฝิงหยู่ไม่ได้อยู่ที่ปักกิ่ง เขากลับบินไปฮ่องกงแทน
“หลานเฝิง หลังจากที่เกิดเหตุการณ์โจมตีรอบนี้ ราคาหุ้นของพวกเขาอยู่ในจุดต่ำสุดแล้วหรือยัง? ราคาจะเด้งกลับขึ้นมาเร็วๆ นี้หรือเปล่า?” ฟู่หยงฉีถาม
เฝิงหยู่ส่ายหน้า “ยังไม่ถึงเวลาครับ บริษัทพวกนั้นยอมจ่ายค่าชดเชยและตกลงที่จะถูกปรับเท่านั้น ผมได้ยินมาว่ายังมีข่าวที่น่าตกใจที่ยังไม่ได้ประกาศออกมาอีก หลังจากที่มีการประกาศข่าวแล้ว ราคาหุ้นของพวกเขาจะลดลงอีก”
ฟู่หยงฉีขมวดคิ้ว ยังมีข่าวที่น่าตกใจมากกว่านี้อีกหรอ? ฟังดูน่าสนใจ เฝิงหยู่สนิทกับเจ้าหน้าที่ระดับสูงของจีนและน่าจะได้รับข้อมูลภายในมา
“โซนี่-โคลัมเบียพิคเจอร์สจะเปิดตัวภาพยนตร์ฮิตในคริสต์มาสนี้ ผมบอกให้ลูกน้องไปช่วยกระจายข่าวลือว่าหนังเรื่องนี้แย่มาก ผู้ชมภาพยนตร์จะหลีกเลี่ยงไม่ชมภาพยนตร์เรื่องนี้และยอดขายตั๋วจะไม่สูงมากนัก ภาพยนตร์เรื่องนี้จะถูกฉายในโรงภาพยนตร์ที่น้อยลงและยอดขายสินค้าที่เกี่ยวข้องกับภาพยนตร์นี้จะลดลงด้วย แม้แต่ VCD ของภาพยนตร์เรื่องนี้ก็จะไม่มีวางขาย ราคาหุ้นของโซนี่ในสหรัฐอเมริกาจะลดลงอีก” ฟู่หยงฉียิ้มเหมือนสุนัขจิ้งจอกเจ้าเล่ห์ เขาไม่จำเป็นต้องจ่ายเงินเยอะในการกดราคาหุ้นของบริษัทให้ต่ำลง บางครั้งแค่ข่าวลือก็เพียงพอแล้ว
“งั้นเราจะยึดตามแผนของเรา ฉันจะเข้าซื้อหุ้นของบริษัทเคมีพวกนั้นเป็นหลัก ส่วนเธอก็ไปซื้อหุ้นอิเล็กทรอนิกส์พวกนั้น ฉันเชื่อว่าในเดือนมกราคม บริษัทพวกนั้นจะใช้มาตรการบางอย่างเพื่อรักษาหุ้นของ บริษัทตัวเองเอาไว้ และราคาหุ้นจะเพิ่มขึ้นอย่างช้าๆ เราก็จะสามารถทำผลกำไรได้สูง!”
ในเวลาไม่ถึงหนึ่งสัปดาห์ ราคาหุ้นของบริษัทพวกนั้นลดลงเกือบ 50% ตอนนี้ก็ยังคงลดลงอยู่ แต่การลดลงไม่ได้รวดเร็วเท่าสัปดาห์ที่แล้ว แต่หลังจากมีการประกาศจ่ายค่าชดเชยและบริษัทพวกนั้นยอมขายโรงงานในประเทศจีน หุ้นของพวกเขาจะลดลงอีกครั้ง
หุ้นของบริษัทข้ามชาติขนาดใหญ่พวกนี้ทั้งหมดจะดีดตัวขึ้นอีกครั้งอย่างแน่นอนหลังจากที่ราคาหุ้นตกลง ราคาหุ้นจะเด้งตัวขึ้นสูงมาก นอกจากนี้ ยังเป็นช่วงปลายปีด้วย และหลังจากมีการเปิดเผยรายงานทางการเงิน บริษัทพวกนี้จะมีโอกาสประกาศแผนการในอนาคตและการคาดการณ์ผลกำไรของพวกเขา
ผู้ถือหุ้นรายใหญ่จะประกาศว่าพวกเขาจะเพิ่มสัดส่วนการลงทุนในบริษัทเพื่อเพิ่มความมั่นใจให้แก่นักลงทุน หุ้นของพวกเขาจะฟื้นตัวอย่างแน่นอน ตอนนี้เฝิงหยู่และฟู่หยงฉีแค่ต้องคาดการณ์ว่าเมื่อไหร่ราคาหุ้นจะดิ่งลงจุดต่ำสุด!
……
บัฟเฟตต์กำลังนั่งอยู่ในห้องทำงานของเขาและมองไปที่จอคอมพิวเตอร์ เหตุการณ์มหากาพย์เรื่องบริษัท ญี่ปุ่นนี้เป็นโอกาสที่ดีเยี่ยมสำหรับเขา
วอร์เรน บัฟเฟตต์มีการลงทุนมากมายและเขาลงทุนมากที่สุดในตลาดการเงินโดยเฉพาะหุ้น เขาลงทุนในวอชิงตันโพสต์ โคคาโคล่า เจเนอรัล ไดนามิกส์ ฯลฯ และทำกำไรได้สูงจากบริษัทพวกนี้
แม้ว่าบัฟเฟตต์จะเป็นเจ้าของโรงงานอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับการผลิตสิ่งทอ แต่กำไรจากโรงงานนี้เป็นเพียงแค่ส่วนเล็กน้อยจากรายได้ทั้งหมดของเขา เงินส่วนใหญ่มาจากหุ้นของเขา
สูตรการลงทุนของเขานั้นง่ายมาก เขามองหาหุ้นราคา “ถูก” เพื่อซื้อแล้วรอให้ราคาหุ้นปรับตัวสูงขึ้น แต่เขาไม่ได้อธิบายว่าคำว่า “ถูก” ที่เขาพูดถึงนั้นหมายถึงอะไร
เงินปันผลและผลตอบแทนจากการขายหุ้นของเขาทำให้เขาได้กำไรสูง
โดยพื้นฐานแล้ว เมื่อใดก็ตามที่บัฟเฟตต์เข้าซื้อหุ้นจำนวนมากของบริษัทแห่งหนึ่ง ราคาหุ้นของบริษัทนั้นก็จะพุ่งสูงขึ้น กลยุทธ์การลงทุนของเขาคือการลงทุนระยะยาว เขาไม่รีบร้อนที่จะขายแม้ว่าราคาหุ้นจะลดลงหลังจากที่เขาซื้อมาแล้ว เนื่องจากเขาเชื่อว่าหุ้นจะกลับมาเด้งตัวสูงขึ้นในอีกไม่ช้าและเขาจะได้รับผลตอบแทนสูง
ตั้งแต่เขาเริ่มก่อตั้งบริษัทมา มูลค่าของบริษัทเขาเพิ่มขึ้นเกือบ 400 เท่า! ไม่มีใครเทียบได้ในเรื่องของการคาดการณ์ล่วงหน้าของบัฟเฟตต์
มีปรากฏการณ์แปลกๆ ผู้คนเริ่มติดตามการลงทุนของบัฟเฟตต์และสิ่งนี้ทำให้ราคาหุ้นของบริษัทนั้นๆ เพิ่มขึ้นในระยะเวลาอันสั้น
วอร์เรน บัฟเฟตต์ได้กลายเป็นตัวบ่งชี้ของตลาดหุ้น!
ตอนนี้ วอร์เรน บัฟเฟตต์ได้เล็งเห็นถึงบริษัทญี่ปุ่นพวกนั้น บริษัทที่ถูกเตะออกจากประเทศจีน
บัฟเฟตต์รู้ว่าผลผลิตของโรงงานหลายแห่งในประเทศจีนนั้นไม่สูงมากและไม่ได้เป็นสัดส่วนที่สำคัญของการผลิตทั้งหมดของบริษัท เมื่อบริษัทพวกนั้นถอดถอนเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหารออกจากโรงงานในประเทศจีน พวกเขาจะต้องหาวิธีอื่นในการเพิ่มผลกำไรให้กับบริษัทของพวกเขาแน่นอน และราคาหุ้นของบริษัทจะเพิ่มขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้อีกครั้ง
แม้ว่าแบรนด์ของบริษัทจะได้รับผลกระทบในระยะสั้น แต่ในระยะยาวบัฟเฟตต์เชื่อว่าบริษัทพวกนั้นจะสามารถฟื้นตัวได้ บริษัทพวกนี้มีพื้นฐานทางเทคโนโลยีที่แข็งแกร่งและไม่มีปัญหาเรื่องกระแสเงินสด นอกจากนี้ รัฐบาลญี่ปุ่นจะคิดหาวิธีช่วยเหลือบริษัทพวกนั้น ท้ายที่สุดรัฐบาลญี่ปุ่นก็ไม่มีทางยอมให้บริษัทพวกนี้ล้มเหลวได้
นอกจากนี้ วอร์เรน บัฟเฟตต์ ยังได้ทำการวิจัยเกี่ยวกับบริษัทพวกนี้ด้วย บางบริษัทประกอบกิจการได้ค่อนข้างดีและมีผลตอบแทนสูงในปีนี้ มันไม่ใช่เรื่องปกติที่ราคาหุ้นของพวกเขาตกลงฮวบฮาบแบบนี้อย่างกะทันหัน เมื่อบริษัทพวกนี้ประกาศผลกำไรประจำปีของพวกเขา นักลงทุนจะกลับมามีความมั่นใจใน บริษัทพวกนี้อีกครั้งและราคาหุ้นจะเด้งกลับมา
วอร์เรน บัฟเฟตต์กำลังพิจารณาว่าควรซื้อหุ้นของบริษัทไหนดี มีตัวเลือกมากเกินไป เขาต้องการมองหา บริษัทที่มั่นคงและได้ผลตอบแทนดี
มีอีกหนึ่งปัจจัยที่สำคัญคือ หากนักลงทุนรายใหญ่อีกคนลงทุนในบริษัทเดียวกัน ราคาหุ้นก็จะเพิ่มสูงเร็วขึ้น
……
“เราได้ตกลงกันจำนวนเงินค่าตอบแทนแล้ว แม้ว่ามันจะยังไม่ได้ประกาศออกไป แต่ก็มีการประเมินคร่าวๆ ว่าน่าจะเป็นจำนวนที่เยอะอยู่!” ผู้ช่วยของฟู่หยงฉีกล่าว
“สิ่งสำคัญที่สุดคือบริษัทพวกนั้นถอนตัวออกจากตลาดจีนและโรงงานในจีนถูกขายให้กับบริษัทญี่ปุ่นรายอื่นๆ ราคาขายไม่เป็นที่เปิดเผย แต่ดูจากสีหน้าของพวกเขาก็รู้แล้วว่าราคาไม่น่าจะสูงมากนัก ญี่ปุ่นทำตัวตีเนียนได้ดีในครั้งนี้ พวกเขาแสดงความจริงใจและไม่ได้รับความสูญเสียหนักอะไร บริษัทญี่ปุ่นยังคงทำเงินได้ในประเทศจีน” เฮอจ้าวจีประทับใจกับวิธีการที่ญี่ปุ่นใช้ในการจัดการกับสถานการณ์นี้ รัฐบาลญี่ปุ่นไม่ได้รับความเสียหายใดๆ ผู้ที่ต้องเจอกับความสูญเสียคือบริษัทพวกนั้น
“เมื่อข่าวนี้เผยแพร่ออกไป หุ้นของบริษัทพวกนั้นจะกลับมาลดลงอีกครั้ง”
“ถูกต้อง แต่มันจะดีมากถ้าราคาหุ้นลดลง ช่างเป็นสถานการณ์ที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออกจริงๆ ใจหนึ่งผมก็อยากให้ราคาหุ้นของพวกเขาเด้งคืนกลับมาโดยเร็วที่สุดเพื่อให้เราได้กำไร แต่อีกใจหนึ่งผมก็หวังว่าบริษัท พวกนั้นจะล้มละลาย” มีคนหนึ่งพูดขึ้นมาและหัวเราะ
ฮ่าฮ่าฮ่า……พนักงานที่เหลือหัวเราะขณะที่จ้องมองที่หน้าจอคอมพิวเตอร์ มีการติดตามดูตลาดหุ้นอย่างใกล้ชิด
เฝิงหยู่และฟู่หยงฉีก็จ้องมองจอคอมพิวเตอร์เช่นกัน และจู่ๆ ทั้งคู่ก็ยืนขึ้นพร้อมกันด โบรกเกอร์หุ้นไม่กี่คนก็ยืนขึ้น และทุกคนก็พูดพร้อมกันว่า “ราคาเกือบจะต่ำสุดแล้ว เตรียมเหมาซื้อได้เลย!”