EG บทที่ 684 ไฟลุกโชนถึงต้นตอ 1
ในประเทศจีนแนวโน้มเริ่มเปลี่ยนไป ทุกคนกำลังด่าทอโซนี่ โตชิบา และอีกสองบริษัท ในขณะเดียวกัน ฟู่กวางเจิ้งและหลี่เจ๋อไคก็กลับไปฮ่องกง
หลี่เจ๋อไคกำลังคุยกับพ่อของเขาโดยหวังว่าจะให้พ่อช่วยกดดันบริษัทพวกนั้นอีกทาง
ปัจจุบันการขนส่งสินค้าหลักคือทางทะเล และซุปเปอร์แมนหลี่ก็คือจ้าวแห่งท่าเรือทางทะเล นี่เป็นเหตุผลที่ซุปเปอร์แมนหลี่คือหนึ่งในบุคคลที่ร่ำรวยที่สุดในโลก ในแง่ของอิทธิพล เขามีอิทธิพลมากกว่าพวกนักธุรกิจที่มีอำนาจที่ดำรงตำแหน่งสูงเหนือกว่าเขาเสียอีก
นี่เป็นเพราะว่าซุปเปอร์แมนหลี่สามารถเลือกที่จะเล่นไม้แข็งได้ เขาสามารถเลือกที่จะไม่รับเงินของคุณได้ แต่ค่าขนส่งของคุณจะเพิ่มขึ้นหลายเท่าตัว นี่คือเหตุผลที่หลายบริษัทไม่ค่อยอยากทำให้ซุปเปอร์แมนหลี่ไม่พอใจ
การลงทุนที่สำคัญที่สุดของซุปเปอร์แมนหลี่คือท่าเรือ รองลงมาคืออสังหาริมทรัพย์ พลังงาน เทคโนโลยี และอื่นๆ แม้ว่าการจัดการท่าเรือทางทะเลอาจดูเหมือนว่าจะได้ผลกำไรไม่มากเท่าอสังหาริมทรัพย์ แต่ท่าเรือทางทะเลก็เป็นสินทรัพย์ขนาดใหญ่ที่สุดของซุปเปอร์แมนหลี่ เขาสามารถใช้ประโยชน์จากท่าเรือนี้เพื่อให้มีอิทธิพลต่อการเมืองของประเทศอื่นๆ ได้
ซุปเปอร์แมนหลี่สงบนิ่งเหมือนเช่นเคย เขาหยิบถ้วยน้ำชาของขึ้นมาจิบก่อนที่จะถามหลี่เจ๋อจูว่า “แกมีความคิดเห็นยังไง?”
หลี่เจ๋อจูมองพ่อและน้องชายของเขาและถามอย่างจริงจัง “ผมคิดว่าเราควรเตือนบริษัทพวกนั้น บริษัทญี่ปุ่นพวกนั้นรู้ว่าครอบครัวของเรามีหุ้นอยู่ในบริษัทซุปเปอร์มาร์เก็ตไท่หัว และน้องชายยังคงเป็นประธานอยู่ พวกเขาทำแบบนี้ถือว่าไม่ให้เกียรติเรา”
“ถ้าญี่ปุ่นต้องการส่งออกสินค้าไปยังฝั่งตะวันตกหรือส่วนอื่นๆ ของเอเชีย วิธีการขนส่งที่สะดวกและประหยัดที่สุดคือการขนส่งทางทะเล บริษัทญี่ปุ่นพวกนั้นต้องการที่จะมีปากมีเสียงในท่าเรือบ้าง ถ้าไม่ใช่เป็นเพราะพวกนั้น เราก็ไม่จำเป็นต้องจ่ายเงินมากขนาดนี้เมื่อเราเข้าซื้อกิจการท่าเรือพวกนั้น ตอนนี้ถึงเวลาที่จะต้องสั่งสอนบทเรียนให้พวกเขาบ้างแล้วล่ะ เราต้องทำให้พวกนั้นรู้ถึงผลลัพธ์ที่จะตามมาจากการที่มาทำให้ตระกูลหลี่ของเราไม่พอใจ!”
“อีกอย่างผมรู้สึกว่ารัฐบาลจีนอาจนิ่งเฉยและไม่ทำอะไรเลยเกี่ยวกับเหตุการณ์นี้ ครอบครัวของเรามีหุ้นอยู่ในซุปเปอร์มาร์เก็ตไท่หัว และรัฐบาลจีนก็คอยจับตามองบริษัทเราเป็นพิเศษ การเตือนบริษัทพวกนั้นก็น่าจะสอดคล้องกับเจตนารมณ์ของรัฐบาลจีน เราจะสามารถสร้างความประทับใจให้แก่รัฐบาลจีนเพิ่มมากขึ้นได้ แบบนี้ก็ถือว่าเป็นประโยชน์เช่นกัน”
ซุปเปอร์แมนหลี่พยักหน้า “รัฐบาลจีนไม่ใช่พวกที่ชอบยืนอยู่ข้างสนามโดยไม่เข้าข้างฝ่ายใดเลย พวกเขาจะสนับสนุนเราอย่างแน่นอน! อย่าลืมว่ายังมีคนนั้นอยู่ ประเทศจีนกำลังมีอำนาจเพิ่มมากขึ้น ซึ่งประเทศอื่นๆ ก็รับรู้เรื่องนี้เป็นอย่างดี ไม่ว่าประเทศจีนจะเผชิญหน้ากับประเทศไหนก็ตาม รัฐบาลจีนก็สามารถดำเนินการอย่างแข็งข้อได้หมด เหตุการณ์นี้เริ่มต้นจากข้อพิพาททางธุรกิจไปสู่ระดับสากล คนๆ นั้นไม่มีทางยอมแพ้ญี่ปุ่นหรอก!”
หลี่เจ๋อไคตาเป็นประกาย “พ่อเห็นด้วยกับเรื่องนี้หรอครับ?”
“ใช่ แล้วทำไมฉันต้องไม่เห็นด้วยล่ะ? ฉันก็ถือหุ้นในซุปเปอร์มาร์เก็ตไท่หัวเหมือนกัน การกำหนดตัวอย่างให้คนอื่นดูถือเป็นกลยุทธ์อย่างหนึ่งมาตั้งแต่สมัยโบราณ เราต้องการให้ผู้อื่นปฏิบัติตามกฎของเราและไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานที่กำหนดโดยผู้อื่น ตอนนี้บริษัทบางส่วนพวกนั้นกำลังให้โอกาสเราได้แสดงอิทธิพลของเรา เจ๋อจูโทรศัพท์ไปตอนนี้เลย โทรไปแจ้งท่าเรือทั้งหมดของเราให้จำกัดเรือของบริษัทบางส่วนพวกนั้นออกจากท่าเรือ ไม่อนุญาตให้บริษัทพวกนั้นขนถ่ายสินค้าที่ท่าเรือของเรา ถ้าบริษัทพวกนั้นขอเหตุผล ก็แค่บอกพวกเขาไปว่าเราไม่มีเหตุผลอะไรทั้งนั้น!”
ซุปเปอร์แมนหลี่อาจดูเหมือนเป็นคนใจดี แต่เมื่อถึงเวลาแบบนี้เขาก็น่ากลัวเหมือนกัน
“โอ้ เฝิงหยู่ขอให้ตระกูลฟู่กดราคาหุ้นของบริษัทพวกนั้นด้วย แล้วจากนั้นค่อยใช้โอกาสนี้สร้างผลกำไร เราควรร่วมมือกับพวกเขาด้วยมั้ยครับ?” หลี่เจ๋อไคถาม
“เราไม่จำเป็นต้องเข้าไปแทรกแซงเรื่องราคาหุ้น เราไม่เหมือนกับฟู่หยงฉี บริษัทของเขากำลังติดต่อธุรกิจกับตลาดการเงินและมีประสบการณ์มากมาย ความเสี่ยงในการทำเช่นนี้สูงมาก และเราอาจจะเดือดร้อนได้ง่ายๆ ถ้าเป็นไปได้เราจะอยู่ห่างๆ จากเรื่องนี้ดีกว่า เราจะเข้าไปมีส่วนร่วมก็ต่อเมื่อพวกเขาขอความช่วยเหลือจากเรา”
………..
“คุณลุงครับ เฝิงหยู่บอกว่าเขาโทรหาคุณลุงแล้ว เขาอยากกดราคาหุ้นของบริษัทพวกนั้นแล้วใช้โอกาสนี้เข้าซื้อหุ้นของพวกเขาเพื่อทำกำไร เขาให้ผมมาบอกคุณลุงว่าตอนนี้เป็นเวลาที่เหมาะสมที่จะทำเช่นนั้นแล้วครับ”
“ลุงรู้แล้วล่ะ คราวนี้ลุงจะจัดการเรื่องนี้เอง กวางเจิ้ง เรามีโอกาสชนะมากน้อยแค่ไหนในสถานการณ์นี้?” ฟู่หยงฉีถาม
“ผมว่าเรามีโอกาสชนะมากกว่า 95% ครับ”
“โอ้? ทำไมถึงคิดแบบนั้นล่ะ? บริษัทพวกนั้นมีมูลค่าหลายพันล้าน พวกนั้นล้วนเป็นบริษัทข้ามชาติ พวกเขากำลังรวบรวมจุดแข็งและได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลญี่ปุ่น เธอแน่ใจแล้วหรือว่าจะชนะได้?” ฟู่หยงฉีถามเขากลับ
“เราก็ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลจีนเหมือนกัน เฝิงหยู่ได้รับความช่วยเหลือจากหัวหน้าระดับสูงแล้ว นอกจากนี้รัฐบาลจีนจะได้รับประโยชน์จากการสนับสนุนพวกเราด้วย แม้ว่าดูเหมือนว่าเศรษฐกิจของญี่ปุ่นจะแข็งแกร่งกว่าจีน แต่ทุกคนก็รู้ถึงศักยภาพของตลาดจีน หลายประเทศต้องการที่จะค้าขายกับจีนและด้วยเหตุนี้รัฐบาลจีนจึงมีความมั่นใจที่จะเผชิญหน้ากับญี่ปุ่นมากขึ้น เฝิงหยู่ยังบอกด้วยว่าจะมีบางสิ่งที่น่าสนใจเกิดขึ้นในญี่ปุ่น ผมคิดว่าเขายังมีไพ่ลับซ่อนอยู่อีกแน่ๆ”
“เธอยังไม่รู้เลยว่าแผนของเขาคืออะไรและเธอก็เชื่อแล้วหรอว่าเธอจะประสบความสำเร็จ?” ฟู่หยงฉีถาม
ฟู่กวางเจิ้งยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ “มีอีกเรื่องหนึ่งที่ยืนยันความมั่นใจของผมครับ นั่นก็คือคุณลุงตกลงที่จะช่วยเฝิงหยู่กดราคาหุ้นของบริษัทพวกนั้นยังไงล่ะครับ”
“ฮ่าๆๆๆ”
……………..
“ท่านประธานครับ นี่คือหนังสือพิมพ์ของวันนี้ครับ” ผู้ช่วยของโนริโอะ โอกะส่งหนังสือพิมพ์ให้เขา เขาหยุดอยู่พักหนึ่งและดูเหมือนว่ามีเรื่องบางอย่างที่อยากจะบอกท่านประธาน
“มีเรื่องอะไร?”
“ท่านประธานครับ ลองอ่านหนังสือพิมพ์ดูก่อนครับ” ผู้ช่วยพูด
หนังสือพิมพ์? วันนี้มีข่าวสำคัญอะไรหรอ? มีรายงานข่าวเกี่ยวกับการขายเครื่องเพลย์สเตชั่นของเรางั้นหรอ? นินเทนโดเปิดตัวเครื่องเกมใหม่ที่จะมาแข่งกับเราหรอ?
โนริโอะ โอกะอ่านหนังสือพิมพ์ เมื่อเขาเห็นพาดหัวข่าว สีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไปทันที!
โรงงานของโตชิบา โซนี่และบริษัทอื่นๆ ในประเทศจีนก่อให้เกิดมลพิษร้ายแรง สุขภาพและความปลอดภัยของคนงานไม่ได้รับการใส่ใจ และการบาดเจ็บที่เกี่ยวข้องกับการทำงานจำนวนมากถูกเพิกเฉย
รัฐบาลจีนเป็นกังวลเกี่ยวกับเหตุการณ์นี้และต้องการให้มีการสอบสวนบริษัทดังกล่าว บริษัทญี่ปุ่นที่เกี่ยวข้องทำให้ภาพพจน์ของญี่ปุ่นเสื่อมเสียและก่อให้เกิดความเสียหายร้ายแรงต่อชื่อเสียงของญี่ปุ่น เศรษฐกิจของญี่ปุ่นก็จะได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์นี้ด้วย……
แบบนี้หมายความว่ายังไง? โซนี่ไม่ได้มีโรงงานในจีนสักหน่อย! เอิ่ม…… หลังจากที่โซนี่และโตชิบ้าเป็นหุ้นส่วนกัน โรงงานของโตชิบ้าในประเทศจีนก็ให้ความช่วยเหลือโซนี่ในการผลิตสินค้าของพวกเขา
แต่มลพิษและการบาดเจ็บที่เกี่ยวข้องกับการทำงานซึ่งเกิดจากโรงงานของโตชิบ้ามันเกี่ยวข้องอะไรกับโซนี่ล่ะ? ทำไมต้องพูดถึงโซนี่ในข่าวนี้ด้วย?!
นอกจากนี้ เรื่องนี้เกิดขึ้นจนมาถึงขั้นเป็นข่าวใหญ่ขนาดนี้แล้ว ทำไมฉันถึงไม่รู้เรื่องอะไรเลย? ถึงขั้นมีรายงานข่าวในหนังสือพิมพ์ของญี่ปุ่นแล้วด้วย ซึ่งไม่ส่งผลดีต่อภาพลักษณ์ของแบรนด์โซนี่แน่นอน!