EG บทที่ 672 บริษัทของคุณต้องการเงินเพิ่มหรือเปล่า?
ซ่งจิงเซียนกำลังตัดสินใจเลือกผู้รับเหมาที่ดีที่สุด โฆษณาถูกถ่ายทำเสร็จเรียบร้อยและอยู่ในกระบวนการตัดต่อเพื่อเตรียมออกอากาศ สูตรของชานมก็ได้รับการพัฒนาและมีโอกาสให้หลายๆคนได้ลองชิมรสชาติของมันดู ซึ่งผลลัพธ์ของมันก็ไปในทิศทางบวก
แม้แต่เฝิงหยู่ก็ยังเอ่ยปากชมว่าชานมมีรสชาติที่ดีและมันจะต้องขายดีอย่างแน่นอน
ด้วยคอนเนคชั่นที่มีทำให้ซ่งจิงเซียนได้รับการอนุมัติจากรัฐบาลและอนุญาตให้ผลิตและวางจำหน่ายผลิตภัณฑ์นี้ได้ทันที แต่ปัญหาหลักคือการเลือกผู้รับเหมายังไม่ได้ข้อสรุปที่แน่ชัด
ซ่งจิงเซียนได้ติดต่อไปยังโรงงานบางแห่งแล้ว ซึ่งโรงงานเหล่านี้มีความสามารถที่จะดำเนินการตามสิ่งที่เขาต้องการได้และเขาจะตัดสินใจเลือกโรงงานผู้รับเหมาที่เขาคิดว่าดีที่สุดในอีก2-3วันนี้ หลังจากนั้นการผลิตจะเริ่มต้นขึ้น
เฝิงหยู่เองก็ได้รับปากที่จะให้ไท้หัวซุปเปอร์มาร์เก็ตเป็นตัวแทนนำร่องเพื่อจำหน่ายผลิตภัณฑ์ชานมของลีฮาฮา หลังจากโฆษณาชิ้นนี้ได้ออกฉายผ่านช่อง CCTVในปีหน้า มันก็จะถูกนำไปฉายในช่องโทรทัศน์ในต่างประเทศเช่นกัน แผนการต่อไปที่พวกเขาวางไว้ก็คือการส่งออกผลิตภัณฑ์ชานมไปยังต่างประเทศทันที
ในขณะนี้มีตัวแทนจากโรงงานผลิตอาหารและขนมสำหรับเด็กในมณฑลกวางตุ้งมาขอพบซ่งจิงเซียนถึงบริษัท โรงงานแห่งนี้ต้องการเป็นผู้รับเหมาของลีฮาฮาในการผลิตเม็ดไข่มุกและวุ้นมะพร้าว
“คุณซ่งครับ..ถึงบริษัทของเราจะไม่ใหญ่โตมากนักแต่เราก็สามารถผลิตสินค้าตามที่ลีฮาฮาต้องการได้ครับ..กำไรที่เราต้องการก็ไม่ได้สูงมากนัก”
หลี่ต้าจุนกล่าวอย่างกังวลใจ
“ผู้จัดการหลี่ครับถึงแม้คุณจะพูดเช่นนี้แต่ธุรกิจก็คือธุรกิจนะครับ..เราต้องใช้เงินลงทุนเป็นจำนวนมากในการเริ่มต้นและเราไม่กล้าเสี่ยงกับสิ่งที่อาจล้มเหลวได้นะครับ โรงงานของคุณก็เพิ่งจะตั้งได้ไม่นานและโรงงานก็ไม่ได้ใหญ่โตอะไร คนงานของคุณเองก็ไม่ได้มีมากนัก เราจะเชื่อใจคุณได้อย่างไรล่ะครับ?”
ซ่งจิงเซียนถามกลับทันที
หากใครต่อใครสามารถเดินมาหาเขาพร้อมกับกล่าวอ้างว่าตนสามารถผลิตสิ่งที่เขาต้องการได้ แล้วถ้าเขาบ้าจี้เชื่อตามสิ่งที่กลุ่มคนเหล่านี้พูด บริษัทของเขาคงล้มละลายไปนานแล้ว! การทำธุรกิจไม่ใช่ว่าใครจะมาพูดลอยๆอย่างไรก็ได้และเขายังต้องรับผิดชอบต่อผู้ถือหุ้นและพนักงานของลีฮาฮาอีกด้วย
“เราได้กู้เงินจากธนาคารไปแล้วครับ เรากำลังดำเนินการขยายโรงงานของเราพร้อมทั้งลงทุนซื้อเครื่องจักรชิ้นใหม่และรับคนงานเพิ่มขึ้นซึ่งตอนนี้อยู่ในระหว่างการฝึกอบรมครับ เราสามารถดำเนินการผลิตตามออเดอร์ของคุณได้อย่างแน่นอน คุณสามารถกำหนดเงินค่าชดเชยเพิ่มขึ้นได้นะครับ หากเราไม่สามารถผลิตสินค้าได้ทันตามเวลาที่คุณกำหนด ทางเราก็ยินดีที่จ่ายเงินค่าชดเชยในจำนวนที่สูงขึ้นในกรณีที่เราทำผิดสัญญาครับ”
“เรียกค่าชดเชยสูงขึ้น? ผมไม่คิดว่านี่คือความคิดที่ดีนะครับ แม้ว่าจำนวนเงินชดเชยจะเพิ่มสูงขึ้น คุณก็ยังต้องจ่ายค่าชดเชยให้กับเราอยู่ดีแต่อย่าลืมนะครับว่าโรงงานของคุณมีมูลค่าประมาณ 2 ล้านหยวนเท่านั้น หากมีข้อผิดพลาดเกิดขึ้นธนาคารก็จะอายัดบัญชีของคุณและเรียกเก็บเงินจากการกู้ยืมของคุณก่อน นั่นหมายความว่าเราจะไม่ได้รับค่าชดเชยแม้แต่น้อย หากคุณชะลอการผลิตของเราไป เราอาจต้องสูญเสียเงินเป็นจำนวนหลายสิบล้าน ถ้ามันเกิดขึ้นจริง! คุณจะชดเชยให้พวกเราได้หรือเปล่า?! ”
อารมณ์ของซ่งจิงเซียนเริ่มปะทุขึ้นเรื่อยๆ
“คุณซ่งครับ..เราอาจจะขายเยลลี่แต่วุ้นมะพร้าวของเรามีคุณภาพจริงๆนะครับ มันจะไม่มีปัญหาอย่างแน่นอน ผมรับประกันในคุณภาพของสินค้าเรา!”
“พอ! มันก็แค่วุ้นเท่านั้น! มีโรงงานหลายร้อยแห่งในจีนที่สามารถผลิตวุ้นได้ ส่วนใหญ่ก็เป็นบริษัทที่ใหญ่กว่าคุณทั้งนั้น! ทำไมเราต้องมาทำสัญญากับคุณด้วย! อีกอย่างถ้าเรายอมรับข้อเสนอของคุณจริง แล้วเยลลี่ของคุณล่ะ? จะมีคนงานไปผลิตเยลลี่ให้คุณหรือเปล่า? ไลน์การผลิตของคุณมีเพียงพออย่างนั้นหรือ? คุณสามารถผลิตสินค้าให้เราได้เต็มเวลาหรือไม่? ตอนนี้ผมยุ่งมากไม่มีเวลามาคุยเรื่องนี้กับคุณหรอกนะ! เสี่ยวหวางเชิญเขาออกไปที!”
ซ่งจิงเซียนลุกขึ้นและเดินออกจากห้องประชุมทันที เฝิงหยู่กำลังรอพบเขาอยู่ เขาไม่มีเวลามาเสวนากับโรงงานเล็กๆแบบนี้หรอกนะ!
“คุณซ่งครับ! กวางตุ้งสตรองกรุ๊ปของเรามีความจริงใจและอยากทำงานร่วมกับคุณจริงๆนะครับ! โปรดเชื่อใจพวกเราด้วย!”
หลี่ต้าจุนตะโกนเสียงดัง
เฝิงหยู่ที่นั่งคอยอยู่ในห้องประชุมข้างๆจึงเปิดประตูออกมาเมื่อได้ยินเสียงดังจากด้านนอก
“คุณซ่ง! เกิดอะไรขึ้นหรือครับ?”
“ก็แค่บริษัทเล็กๆที่อยากมาเป็นผู้รับเหมาของเรานะครับ”
ซ่งจิงเซียนอธิบายอย่างหงุดหงิด
“หืม? บริษัทเล็กขนาดนั้นเลยหรือครับ?”
“ไม่ใช่แค่เล็กอย่างเดียวนะครับ! ถึงแม้โรงงานของเขาจะเป็นโรงงานผลิตอาหารแต่มันก็เป็นเพียงโรงงานผลิตเยลลี่ให้กับเด็กๆเท่านั้น พวกเขาไม่ตรงตามข้อกำหนดของเราเลยครับ ”
หลี่ต้าจุนเห็นว่าบุคคลที่เข้ามาใหม่สามารถพูดคุยกับซ่งจิงเซียนได้อย่างเป็นกันเองเขาจึงตะโกนไปหาบุคคลผู้นี้ทันที
“ท่านครับ!..กวางตุ้งสตรองกรุ๊ปของเรามีศักยภาพจริงๆนะครับ โปรดพิจารณาพวกเราด้วย!”
“เสี่ยวหวาง! เรียกรปภ.มาลากตัวเขาออกไปที!”
ซ่งจิงเซียนโกรธจัด เขาเป็นคนแบบไหนกันนะ?
“เดี๋ยวก่อน!”
เฝิงหยู่หยุดเสี่ยวหวางเอาไว้
“บริษัทของคุณชื่ออะไรนะครับ?”
“กวางตุ้งสตรองกรุ๊ปครับ! เราเป็นโรงงานผลิตเยลลี่ เราเพิ่งเริ่มตั้งโรงงานเมื่อปีที่แล้วแต่เราก็สามารถเติบโตได้อย่างรวดเร็ว ใช้เวลาน้อยกว่า 2 ปี มูลค่าของบริษัทเราเพิ่มขึ้นหลายเท่าเลยครับ!”
หลี่ต้าจุนอธิบายอย่างรวดเร็ว
“นั่นเป็นเพราะบริษัทของคุณมันเล็กไงถึงเติบโตได้เร็ว! แม้ว่ามูลค่าของบริษัทคุณจะเพิ่มขึ้นจริงแต่มันก็มีมูลค่าประมาณ 2 ล้านหยวนเท่านั้น!”
ซ่งจิงเซียนเอ่ยเพิ่มอย่างหัวเสีย
คุณต้องการหลอกผู้จัดการเฝิงด้วยถ้อยคำเหล่านี้งั้นหรือ? จะเป็นอย่างไรถ้าผู้จัดการเฝิงหลงเชื่อคำของคุณ? แล้วถ้าบริษัทของคุณไม่สามารถดำเนินการผลิตและส่งมอบสินค้าให้เราได้ทันเวลา? ใครกันจะเป็นผู้รับผิดชอบ?
เฝิงหยู่ได้ยินสิ่งที่หลี่ต้าจุนพูดก็เริ่มขมวดคิ้วมุ่นทันที เขาขอให้ซ่งจิงเซียนตั้งชื่อชานมว่า ‘U.Loveit’และทันใดนั้นกวางตุ้งสตรองกรุ๊ปก็มาเยือนถึงถิ่นทันที มันเป็นเรื่องบังเอิญอย่างนั้นหรือ? แล้วทำไมกวางตุ้งสตรองกรุ๊ปผู้มีชื่อเสียงโด่งดังถึงมีสภาพเช่นนี้?
“เสี่ยวหวางเตรียมชาให้ผมที ผมอยากคุยกับเขาสักหน่อย”
เมื่อเฝิงหยู่เอ่ยเช่นนั้นซ่งจิงเซียนก็ไม่สามารถขัดเขาได้ เขาตามคนทั้งคู่เข้าไปในห้องประชุมด้วย เขาไม่ต้องการให้หลี่ต้าจุนหลอกเฝิงหยู่และปล่อยให้ลีฮาฮาประสบกับภาวะขาดทุนเป็นอันขาด
เฝิงหยู่ไม่ค่อยเข้ามายุ่งในการบริหารของลีฮาฮามากนัก เขาคอยให้คำแนะนำอยู่ห่างๆเท่านั้นแล้วทำไมวันนี้เขาถึงอยากพูดคุยกับกวางตุ้งสตรองกรุ๊ปขึ้นมาล่ะ?
เป็นไปได้หรือเปล่าที่ผู้จัดการเฝิงต้องการให้ลีฮาฮาผลิตเยลลี่ขายด้วย? แต่เยลลี่ไม่ว่าใครก็สามารถผลิตได้ แม้ว่าเยลลี่จะขายภายใต้แบรนด์ของลีฮาฮาก็ใช่ว่ายอดขายจะดีตาม มันอาจกลายเป็นผลิตภัณฑ์ที่ล้มเหลวได้ ตั้งแต่ลีฮาฮาก่อตั้งมายังไม่เคยมีผลิตภัณฑ์ไหนล้มเหลวมาก่อนและผลิตภัณฑ์แรกที่มันจะล้มเหลวต้องไม่ใช่เยลลี่เด็ดขาด!
“คุณชื่ออะไรหรือครับ? ผมเป็นหนึ่งในผู้ถือหุ้นของลีฮาฮาแต่อำนาจของผมไม่ได้สูงเท่าคุณซ่งหรอกนะครับ..แต่ผมก็พอจะให้คำแนะนำในบริษัทนี้ได้บ้าง บอกผมได้มั้ยครับว่าทำไมคุณถึงมั่นใจในการเป็นผู้รับเหมาของลีฮาฮาขนาดนั้น?”
“ผม..หลี่ต้าจุนครับ! ผมเคยทำงานในบริษัทผลิตอาหารในไต้หวันมาก่อนซึ่งโรงงานนั้นมีการผลิตเม็ดไข่มุกจากมันสำประหลังด้วยครับ อีกทั้งโรงงานของเราในตอนนี้มีความเข้มงวดในด้านความปลอดภัยด้านอาหารและสุขอนามัยของโรงงาน พวกคุณไม่จำเป็นต้องกังวลในด้านการผลิตของโรงงานเรานะครับ เราจะไม่สร้างปัญหาใดๆให้กับลีฮาฮาและคนงานของเราก็ตั้งใจทำงานอย่างหนักเพื่อผลิตสินค้าให้ได้ตามออเดอร์”
เฝิงหยู่ส่ายศีรษะ
“ปริมาณการสั่งซื้อของเราค่อนข้างสูงและบริษัทของคุณจะไม่สามารถผลิตได้ทันตามกำหนด แล้วคุณเคยผลิตวุ้นมะพร้าวมาก่อนหรือเปล่า? แล้วพวกผลิตภัณฑ์อาหารกระป๋องล่ะเคยทำมาก่อนมั้ย?”
“เราจะนำเสนอวุ้นในรูปแบบที่หลากหลายขึ้น มีการใส่ผลไม้เข้าไปในวุ้นด้วยครับ ทางเราได้ทำการพัฒนาสูตรวุ้นมะพร้าวมาก่อนเช่นกัน เรามั่นใจว่าเราจะสามารถผลิตสินค้าได้ทันตามออเดอร์ คุณซ่งครับ? คุณไม่สามารถใช้ผู้รับเหมาเพียงรายเดียวในการผลิตสินค้าให้คุณได้นะครับ หากเกิดปัญหาอะไรขึ้นผลิตภัณฑ์ของคุณจะได้รับผลกระทบทันที ทางเราต้องการเป็นเพียงหนึ่งในผู้รับเหมาของคุณเท่านั้น เราไม่จำเป็นต้องทำตามออเดอร์ทั้งหมดของคุณเลยนะครับ”
หลี่ต้าจุนอธิบาย
เฝิงหยู่ขมวคิ้วอีกครั้งสิ่งที่หลี่ต้าจุนกล่าวเป็นเรื่องจริง หากเก็บไข่ทั้งหมดไว้ในตะกร้าใบเดียวและตะกร้าใบนั้นเกิดร่วงลงพื้นขึ้นมา แน่นอนว่าไข่ทั้งหมดจะแตกทันที!
“ผู้จัดการซ่งครับ..มีโรงงานอื่นอยู่ในใจคุณบ้างหรือเปล่า? ได้เซ็นสัญญากับบริษัทไหนไปบ้างหรือยัง?”
“ไชน่าโคโคนัทปาล์มกรุ๊ปจะช่วยผลิตวุ้นมะพร้าวให้เราครับ ส่วนตงหนานซันฟาจะเป็นคนผลิตเม็ดไข่มุกให้กับเรา แต่ทั้ง 2 บริษัทยังไม่ได้เซ็นสัญญากับเรา มันอยู่ในขั้นตอนการพิจารณาเท่านั้นครับ ”
“แล้วทำไมไม่ให้กวางตุ้งสตรองกรุ๊ปช่วยพวกเขาล่ะครับ? ผมว่าโรงงานของพวกเขาดูเหมาะกับออเดอร์นี้ดีนะ”
เฝิงหยู่เอ่ยแนะนำ
“ตกลงครับ! เราจะสั่งออเดอร์นี้กับพวกเขาแต่มันไม่ใช่ปริมาณที่มากนะครับเพราะถึงอย่างไรโรงงานนี้ก็ไม่น่าจะผลิตสินค้าให้เราได้มากขนาดนั้น และถ้าเกิดปัญหาอะไรขึ้นเราจะยกเลิกสัญญากับพวกเขาทันที”
เฝิงหยู่หันกลับมามองหลี่ต้าจุนทันที
“ปัญหาของคุณได้รับการคลี่คลายแล้วล่ะครับ”
“ขอบคุณครับ..ขอบคุณมากจริงๆ”
รอยยิ้มกว้างปรากฏบนใบหน้าของเฝิงหยู่
“อ้อ!? โรงงานของคุณกำลังโตขึ้นเรื่อยๆใช่มั้ยครับ? แล้วคุณต้องการเงินเพิ่มหรือเปล่า?”