บทที่ 309 – ก็เหมือนๆกับฉันนั่นแหละ (1)
“เอาล่ะถ้าอย่างงั้น”
ยูอิลฮานได้กาวแขนออกมา เพลิงได้ลุกขึ้นมาตามท่าทางของเขาก่อนที่จะปกคลุมคนอื่นๆรอบตัวเขารวมไปถึงป้อมปราการทั้งสองด้วย นี่คือการสร้างพื้นที่ที่ไม่อาจจะมีใครผ่านเข้ามาได้
พวกมอนสเตอร์ได้กัดฟันพยายามจะเข้ามาโจมตีเขา แต่ว่าไม่มีตัวไหนเลยที่จะผ่านบาเรียของยูอิลฮานนี้ได้ พวกที่เข้ามาโจมตีได้ถูกเหล่าสายพันธ์มังกรหรือมังกรฆ่าไปในทันทีที่พวกมันทำแบบนั้น
กลุ่มของยูอิลฮานได้มองดูมอนสเตอร์ที่กำลังพุ่งเข้ามากระแทกอย่างต่อเนื่องด้วยความรู้สึกที่เหมือนกับดูหนังสามมิติ หลังจากปรบมือออกมาเลียร่าก็ได้ตะโกนขึ้น
“โอ้ การต่อสู้ที่นี่ดูจะรุนแรงขึ้นนะ!”
“นี่มีป็อบคอร์นด้วยน้า~”
ในจังหวะนี้นายูนาก็ได้หยิบเอาป็อบคอร์นออกมา ดูเหมือนว่านี่จะเป็นแผนเอาใจเลียร่าของเธอเพื่อที่จะชดใช้ในความผิดที่ถูกเจอในระหว่างกำลังรุกยูอิลฮาน และนี่ก็ดูจะได้ผลมากเพราะเลียร่าได้รับมาอย่างพอใจ
“เธอมีความสามารถดีนี่!”
“ความสามารถบ้าอะไรล่ะนั่น!!”
ยูอิลฮานได้ตะโกนออกมา แต่ว่าสถานการณ์ก็ได้เปลื่ยนไปเป็นบรรยากาศสำหรับผู้ชมไปแล้ว ไม่ใช่แค่สองคนนี้เท่านั้น แต่คนอื่นๆก็ยังนั่งลงบนพื้นมองดูการต่อสู้ครั้งนี้ พวกเธอคิดที่จะมาดูตั้งแต่แรกแล้ว!
จรากการอยู่กับยูอิลฮานมานาทำให้พวกเธอรู้ดีว่าเวลาไหนควรสู้เวลาไหนไม่ควร เพราะงั้นยูอิลฮานคิดว่านี่มันค่อนข้างจะขมขื่นสำหรับเขา
“มันไม่ใช่เรื่องสั้นๆจริงไหมนะ? ไม่เป็นไรค่อยๆเล่านะ พวกเราทุกคนกำลังฟังอยู่”
[การกลายมาเป็นเทพองค์ที่ห้ามันไม่น่าจะใช่เรื่องธรรมดาแน่ๆ ที่รักฉันอยากจะได้ยินรายละเอียดแล้ว]
“ชู่ววว พวกเธอนี่มัน…”
ยูอิลฮานได้ถอนหายใจออกมา แต่ว่าเขาก็ทำอะไรไม่ได้ เลียร่าน่าจะบอกทุกๆคนถึงเรื่องที่ราฟาเอลได้เข้าร่วมการต่อสู้แล้วด้วย ยูอิลฮานได้เล่าเรื่องต่อจากนั้นและเผยถึงสิ่งที่เขาที่เขาทำเพื่อที่จะสร้างองค์กรสิ่งมีชีวิตชั้นสูง
ทั้งเรื่องที่ทุกๆกองกำลังได้เข้ามามีส่วนร่วมในการโจมตีกองทัพจรัสแสงแทน และยังมีความจริงที่น่าทึ่งที่ว่ามิคาเอลกับราฟาเอลได้ร่วมมือกันทำให้การซ่อนตัวของยูอิลฮานหายไป หรือพูดให้ถูกก็คือตัวปลอมที่เผงตัวออกมาแทน ยังมีเรื่องที่ยูอิลฮานได้ใช้โอกาสนี้โจมตีราฟาเอลเอาบันทึกที่จำเป็นทั้งหมดมาด้วย!
เรื่องที่ว่าเขาได้รับคลาสผู้นำมาแทนคลาสคู่หูทูตสวรรค์ และวิธีที่เขาได้เกิดใหม่ขึ้นมาเป็นหัวหน้ากองกำลัง เรื่องที่เขาได้ฆ่าเคสเช่นกับราฟาเอลและแกร่งขึ้นไปอีก อีกเรื่องเขาได้ไปเจอกับหัวหน้ากองกำลังปีศาจวิบัติที่เอลโลคาทร่า และได้กลับมาที่ดาเรย์จนเกิดมหาภัยพิบัติขั้นที่ 6 ขึ้น
“ฟู่ ไม่เห็นจะมีอะไรมากขนาดนั้นจริงไหมล่ะ?”
คังฮาจินได้ตอบกลับคำพูดที่ดูไร้สาระของยูอิลฮานทันที
“หากนั่นมันไม่มีอะไรมาก แล้วถ้าเกิดว่ามีอะไรมากจะเป็นยังไงกัน?”
“ทั้งๆที่ฉันยังไม่เคยเจอพวกระดับหัวหน้าเลยเนี้ยนะ…”
แม้ว่าเขาจะพูดทั้งหมดนี่ในพริบตาเดียว แต่นายูนาก็รู้สึกผิดหวังในจุดแปลกๆหนึ่ง ยูอิลฮานได้พยายามจะไม่สนใจตัวเธอ แต่แม้กระทั่งเลียร่าก็ยังลูบหัวเขาทั้งน้ำตา
“อิลฮานที่น่าสงสาร… ไม่เป็นไรนะ ฉันจะอยู่กับนายไปตลอดเอง”
“หา?”
[หืมม ที่มันเป็นแบบนี้เพราะที่รักได้ทำทุกๆอย่างงอย่างสมบูรณ์แบบ! ที่รักไม่ได้ผิด!]
“หา โอ้ว?”
“นะ นั่นมันเกิดขึ้นกันได้ ผู้นำสินะ หากว่าฉันไม่ได้ไปใช้เวลาในเบร์ย่าถึงสิบปีฉันก็คงจะไม่ได้รับมันเหมือนกันนั่นแหละ”
“เอ่???”
ปฏิกิริยาของทุกคนดูจะแปลกๆไปนะ นี่เขาได้กลายเป็นสิ่งมีชีวิตชั้นสูงเลยนะ ทำไมทุกคนถึงทำกับเขาแบบนี้กันล่ะ! อืม ยูอิลฮานก็ยังคิดว่าการได้รับคลาสผู้นำนั้นดูจะไม่ใช่เรื่องดีสินะ แต่ถึงแบบนั้น!
ถ้าเป็นแบบนี้ความหวังเดียวก็คือแม่ของเขา… แต่ว่าเมื่อเขาได้หันไปมองคิมเยซอล เธอก็ได้ยิ้มแหย่ๆออกมา พอคิดดูแล้วเธอได้ร่วมปาร์ตี้กันกับจิตวิญญาณในโลกนั่นเพื่อจัดการล่ามอนสเตอร์ตั้งแต่เลเวลหนึ่ง! เธอก็น่าจะมีคลาสย่อยนี่นานแล้วสินะ!
“ดราก้อนเนส เพราะแบบนั้นก็เลยเป็นเหตุผลทำให้มังกรมารวมตัวกันมากขนาดนี้สินะ?”
คิวเยซอลดูเหมือนจะอยากเปลื่ยนเรื่องทำให้เธอถาขึ้นมาหลังจากมองไปที่สายพันธ์มังกรทั้งหมดที่กำลังอยู่ในการต่อสู้ ยูอิลฮานได้หยักหน้าให้กับเธอ
“นี่มันเกิดขึ้นเพราะว่าโลกใบนี้เป็นโลกแรกที่เกิดมหาภัยพิบัติขี้นมาจากประสานมานาของผมเข้าไปในดาเรย์… แต่ก็ใช่ครับ แม่จะคิดแบบนั้นก็ได้”
ต่อให้ยูอิลฮานจะมาที่ดาเรย์เป็นที่สุดท้ายแต่ว่าเรื่องทำนองนี้ก็จะเกิดขึ้นเช่นกัน เพียงก็แต่ว่าขนาดการเกิดของมันอาจจะลดขนาดเล็กลงมา แต่ที่มันมีขนาดใหญ่มากขนาดนี้ก็เพราะเขาได้มาที่ดาเรย์ในเวลาที่พอเหมาะพอดี
[ไม่ใช่แค่มังกร แต่พวกสายพันธ์มังกรอื่นก็เช่นเดียวกัน… ที่รักน่าทึ่งมาก น่าทึ่งจริงๆ ในตอนที่รักได้รับพลังมังกรมาฉันก็คิดไว้อยู่แล้วว่ามันอาจจะเป็นแบบนี้ แต่ว่าฉันไม่เคยคิดเลยว่าจะมีกองกำลังที่ปกครองเหล่ามังกรอยู่จริงๆ]
สายพันธ์มังกร นี่คือเผ่าพันธ์ที่เกิดมาพร้อมศักยภาพสูงสุดตั้งแต่เกิด แน่นอนว่าสูงไม่เท่างกับมังกร แต่สายพันธ์มังกรนั้นเกิดมาพร้อมพลังชีวิตที่สูงสุดและพลังเวทย์ ยังไงก็ตามยูอิลฮานได้มีพลังในการจัดการควบคุมสายพันธ์มังกรเหล่านี้และยังสามารถจะทำให้พวกมันพัฒนาขึ้นไปได้อีก เพราะงั้นยังจำเป็นต้องพูดอะไรอีกถึงกองกำลังนี้อีกงั้นหรอ?
แต่มีอยู่เรื่องหนึ่งที่กวนใจเฮเรียน่าอยู่ นั่นมันก็คือชื่อของกองกำลังนี้ที่รวมมังกรเอาไว้แต่มันไม่เห็นเกี่ยวกับสายพันธ์มังกรเลยนี่ ทำไมถึงต้องเป็นคำว่า ‘มังกร’ ด้วยล่ะ?
นี่เป็นความต้องการของบันทึกนภางั้นหรอ? มันไม่มีทางที่จะเป็นแบบนั้นแน่ บันทึกนภาจะต้องเลือกชื่อที่เหมาะสมกับยูอิลฮานหลังจากวิเคราะห์ตัวเขาดีแล้วเท่านั้น
“เฮเรียน่า ฉันคิดว่าเธอกำลังเข้าใจผิดอยู่นะ”
ยูอิลฮานหัวเราะออกมาหลังจากได้ยินพูดของเฮเรียน่า ไม่ใช่ว่าเขาจะไม่เข้าใจในเรื่องที่เธอคิดอยู่ แต่ว่าพูดถึงข้อสรุปแล้วนี่มันไม่ใช่เรื่องที่จะต้องมาห่วงเลย
“ดราก้อนเนสน่ะมันไม่ใช่แค่บ้านของมังกรนะ”
นัยน์ตาของยูอิลฮานได้ส่องประกายออกมา ม่านตัวสีทองแนวตั้งของเขาได้ปรากฏออกมาเหมือนกับทับทิมจนทำให้เฮเรียน่าต้องเสน่ห์ เธอไม่อาจจะใช้ชีวิตในฐานะราชินีซัคคิวบัสได้อีกแล้ว แต่ว่าเธอก้ยังถามออกมาอย่างนุ่มนวล
[ถ้างั้น…?]
“ดราก้อนเนสคือสถานที่ที่มังกรมารวมตัวกัน ใช้ชีวิตและในท้ายที่สุดก็คือที่ที่พวกเขาจะต้องกลับมา แล้วก็นอกจากนี้นะ…”
เขาได้ชูมือขึ้นมา เลียร่าที่รู้สึกได้ว่าถึงตาของเธอแล้วได้ลุกยืนเดินเข้ามาหาเขา คนอื่นๆก็ดูจะรู้สึกได้ถึงออร่าลึกลับเช่นกัน พวกเธอได้หันมาจ้องยูอิลฮาน เฮเรียน่าและเลียร่าทันที
ในตอนนี้เองถังขนาดยักษ์สีแดงไปโผล่ขึ้นมา นี่คือถังใบเดียวกับอันที่ทำให้หมายเลขหนึ่งกลายเป็นมังกรที่แท้จริง อ่างแห่งปาฏิหาริย์ ในท้ายที่สุดแล้วก็ดูเหมือนเฮเรียน่าจะรู้ตัวแล้วทำให้เธออุทานออกมา
[แบบนี้สินะดราก้อนเนส…]
“ใช่แล้ว นี่แหละดราก้อนเนส”
เลียร่าได้หลับตาของเธอลง พวกเขาไม่ตำเป็นต้องพูดคุยกันแล้วและเธอก็ยินดีที่มันไม่น่าอึดอัดเลย ยูอิลฮานได้หัวเราะออกมาและสะบัดมือลง อ่างแห่งปาฏิหาริย์ได้ปกคลุมตัวเลียร่าได้จดหมดและเปลื่ยนรูปร่างกลายมาเป็นเหมือนกับไข่ ทุกๆคนที่อยู่ตรงนี้ก็พอจะรู้แล้ว
“สถานที่ที่ให้กำเนิดมังกร”
[พระเจ้า…]
เฮเรียน่าไม่อาจจะปกปิดความตกตะลึงไว้ได้อีกแล้ว
[นี่มันเป็นไปได้ยังไงกัน ในที่สุดฉันก็เข้าใจแล้วว่าที่รักได้กลายไปเป็นตวตนที่เหนือกว่าสวรรค์ได้ยังไง กองกำลังที่สามารถจะเปลื่ยนแปลงของบุคคลได้ในขอบเขตที่มากขนาดนี้… จนถึงก่อนหน้านี้มีแค่กองทัพสวรรค์ที่ทำได้]
นี่ก็คือเรื่องจริง กองทัพปีศาจวิบัติทำได้ก็แค่ยกระดับของสิ่งมีชีวิตที่มีแนวโน้มทางด้านการทำลายและเก็บคุณลักษณ์เดิมของพวกมันเอาไว้
สวนอาทิตย์อัสงเป็นกองกำลังที่เคารพให้เอกลักษณ์ของแต่ล่ะคน พวกเขาจะสนับสนุนกับเอกลักษณ์เดิมของแต่ล่ะคนเท่านั้น
กองทัพจรัสแสงจะทำให้เกิดการเปลื่ยนแปลงบางอย่างขึ้น แต่ว่านั่นมันก็แค่การทำให้คนที่เป็นทูตสวรรค์อยู่แล้วเสื่อมโทรมลงเท่านั้นเอง
การเปลื่ยนร่างใหม่ของสิ่งมีชีวิตตามความหมายจริงๆในก่อนหน้านี้มีเพียงแค่กองทัพสวรรค์ที่ทำได้
แต่ว่าในตอนนี้ ที่แห่งนี้ ได้เกิดการทั้งเปลื่ยนร่างที่สมบูรณ์แบบและการวิวัฒนาการทำ
“เลียร่า อดทนอีกนิดนะ”
เลียร่าที่อยู่ภายในไข่ไม่ได้ตอบอะไรกับมา ยังไงก็ตามยูอิลฮานสามารถจะเข้าใจการเปลื่ยนร่างของเลียร่าที่อยู่ข้างในได้ต่อให้เขาหลับตาก็ตาม
ในตอนนี้มีเพียงเรื่องเดียวเท่านั้นที่เขาต้องทำอีก เมื่อเขาชี้นิ้วชี้ออกมาหยดเลือดของเขาก็ได้ไหลซึมลงไปภายในไข่สีแดง ในตอนนี้เองไข่ก็ได้สั่นออกมาพร้อมเสียงดังลั่น
[อ่า น่าอิจฉา ฉันชักอิจฉาแล้วสิ]
“รออีกเดี๋ยวนะ เดี๋ยวก็ถึงตาเธอแล้ว”
ไข่ได้สั่นอยู่อีกสองสามครั้งก่อนที่จะแตกออกมาเหมือนกับตอนของหมายเลยหนึ่ง ใช่แล้วกระบวนการนี้ดูคล้ายกับที่เกิดขึ้นกับหมายเลขหนึ่งมา
สำหรับหมายเลขหนึ่งแล้ว จริงๆคือยูอิลฮานได้ใช้เขาเพื่อทดลองความสามารถในฐานะหัวหน้าดราก้อนเนส แม้ว่ายูอิลฮานจะรู้ว่ามันปลอดภัยยังไงแต่จนกว่าเขาจะได้เห็นด้วยตาตัวเองเขาก็ไม่มีวันโล่งใจ
และคราวนี้ในตอนของเลียร่าก็ต่างไปจากหมายเลขหนึ่งเล็กน้อยเช่นกัน หมายเลขหนึ่งคือสิ่งมีชีวิตชั้นต่ำสายพันธ์มังกรแปลงร่างไปเป็นมังกร ส่วนเลียร่าเธอคือคนที่สูญเสียตำแหน่งทูตสวรรค์ชั้นสูงคลาส 6 ตกลงมาสู่คลาส 4 และในตอนนี้เธอกำลังได้ระดับพลังเดิมที่เสียไปของเธอกลับมา หากพูดแล้วนี่มันก็ต่างกันราวฟ้ากับเหว
[ระ รอเดี๋ยวนะที่รัก ฟื้นฟูพลังดั้งเดิมของเธอกลับมา? ระดับพลังที่ครั้งหนึ่งเธอได้เสียไป?]
“ที่เลียร่าใช้งานบันทึกที่เธอเก็นสะสมเอาไว้ไม่ได้นั่นมันก็เพราะว่าเธอได้สูญเสียคุณสมบัติในฐานะทูตสวรรค์ไป แต่ว่าเธอก็ยังคงมีคำสำเร็จและบันทึกที่เธอได้รับมันมาจากตัวเองอยู่จริงไหมล่ะ?”
[แต่ถึงจะเป็นแบบนั้น…]
“นี่มันก็เหมือนกันกับการที่ทูตสวรรค์กลายไปเป็นเทวดาตกสวรรค์ แล้วก็การที่เทวดาตกสวรรค์กลายไปเป็นเหล่านักล่าของกองทัพปีศาจวิบัติ แล้วก็การที่นักล่ากลายไปเป็นผู้เฝ้าประตูในสวนอาทิตย์อัสดงนั่นแหละ มันไม่เห็นมีอะไรที่ต้องตกใจเลยนี่”
ในอดีตสวนอาทิตย์อัสดงก็เคยพยายามจะทำให้เอิลต้าเกิดใหม่มาเป็นผู้เฝ้าประตู เนื่องจากว่าเอิลต้ามีบันทึกที่ถึงระดับพลังสิ่งมีชีวิตชั้นสูงอยู่แล้ว พวกสวนอาทิตย์อัสดงก็เลยต้องทำแค่สับเปลื่ยนบันทึกของเอิลต้าในฐานะของทูตสวรรค์ให้มาเป็นผู้เฝ้าประตูเท่านั้นเอง
วิธีนี่มันก็คล้ายๆกันกับวิธีที่เปลื่ยนทูตสวรรค์ให้กลายมาเป็นเทวดาตกสวรรค์ และมันก็เป็นเวทย์ที่ทุกๆกองกำลังแทบจะใช้กันหมดแล้วด้วย ยังไงก็ตาม…
[นั่นมันคือการสับเปลื่ยน! การใช้เวทย์นั่นเวลาก็มีส่วนสำคัญนะที่รักก็น่าจะรู้นี่! แต่ว่าเลียร่าสูญเสียพลังในระดับนั้นของเธอมานาเกินไป แล้วที่รักจะจัดการกับช่องว่างช่วงนั้นได้ยังไงกัน…!?]
“ต่อหน้าฉัน ช่องว่างเวลาแบบนั้นมันก็ไร้ค่า”
คำพูดนี้ของเขาได้ทำให้เฮเรียน่าต้องพูดไม่ออก ในเวลาซักพักหนึ่งเลียร่าก็ได้ ‘ฝัก’ ออกมา รอยแตกของไข่ได้ขยายกว้างยิ่งขึ้นและมีแสงสีแดงเผยออกมาจากรอยแยกนั่น หลังจากที่เฮเรียน่าสัมผัสได้ถึงพลังสั่นสะเทือนที่ทรงพลังเธอก็ตัวสั่นขึ้นมา
[เธออยู่ในคลาส 6 จริงๆด้วย…!]
“อีกเดี๋ยวก็ถึงตาเธอแล้วนะเฮเรียน่า”
“ฟู่”
ยูอิลฮานได้หัวเราะออกมาเมื่อได้เห็นสีหน้าที่เฮเรียน่ากำลังมองเลียร่าที่ออกมาพร้อมปีกมังกรสีแดงคู่หนึ่ง เลียร่าเธอได้เดินออกมาจากไข่ที่แตกออกจากกันแล้ว
“นี่มันถึงเวลาที่เธอจะได้กลับไปเป็นคลาส 7 ที่ ‘สมบูรณ์’ แล้วใช่ไหมล่ะ?”