*เปลี่ยนเซียนเป็นผู้เชี่ยวชาญกับบางตัวเหมือนเดิมนะครับ สาเหตุก็ผู้เชี่ยวชาญมันเข้ากับคำว่าผู้ฝึกตนมากกว่าแต่ถ้าการบ่มเพาะระดับสูงๆจะเรียกเซียนนะครับ
Chapter 21 – เถาวัลย์ม่วง
เสียงจากน้ำไหลอาจจะสามารถได้ยินจากข้างหน้าและหมอกสีม่วงก็เต็มไปทั่วทิวทัศน์ ด้านหน้านั้นเป็นดินแดนที่กว้างใหญ่ไพศาล
บนหน้าผาที่อยู่ถัดไปจากภูเขาลำธาร กลุ่มเถาวัลย์ม่วงได้เติบโตขึ้น มีหมอกหนาทึบรอบๆเถาวัลย์และปล่อยแสงสีม่วงสดใสออกมา พวกมันดูเหมือนพืชท้องฟ้าที่ไม่ได้อยู่ในอาณาจักรของมนุษย์และกลับกันพวกมันมาจากสวรรค์ทั้งเก้า
เห็นได้ชัดว่านี่คือเถาวัลย์ม่วง
อย่างไรก็ตามมีเถาวัลย์ม่วงอันหนึ่งที่สะดุดตาเป็นพิเศษ
แสงที่มันปล่อยออกมาสดใสและสุกสกาวเป็นพิเศษ มันดูเหมือนแสงจันทร์สว่างไสวท่ามกลางหมู่ดาว
ถ้าใครมองดูมันใกล้ พวกเขาจะค้นพบว่าเถาวัลย์ม่วงนี้ได้เคลื่อนไหวและบิดอย่างต่อเนื่องราวกับว่ามันกำลังเต้น มันยังได้ปล่อยริ้วแสงสีม่วงออกมา ซึ่งดูเหมือนสายฟ้าที่ตัดผ่านท้องฟ้าเป็นทางยาง ราวกับว่าได้รับการคุ้มครองให้พ้นจากการโจมตีจากกลุ่มผู้ฝึกตน
นี่คือกลุ่มของผู้ฝึกตนที่โหดร้ายและป่าเถื่อน พวกเขามี 20 คนหรือมากกว่านั้นและพวกเขาก็ถืออาวุธต่างๆขณะที่พวกเขาฟันไปยังเถาวัลย์ม่วง
แคร้ง! แคร้ง!
แสงจากอาวุธส่งประกายและพวกมันเพิ่งจะโจมตีเถาวัลย์ม่วงไป เสียงการกระทบกันของเหล็กดังออกมา ชายคนหนึ่งถูกส่งลอยออกไปขณะที่คลื่นของพลังเคลื่อนที่ผ่านมือของเขา ส่งร่างกายของเขาไปยังบึ่งเน่าด้านหลังพวกเขา
“อ๊ากกก!”
ขณะที่ชายคนนั้นตกลงไปในบึง ร่างกายของเขาได้เปลี่ยนเป็นเสียงและร้องออกมา ซึ่งร่างกายของเขาได้เน่าเปื่อยอย่างช้าๆ
เมื่อแสงสีม่วงส่องประกายออกมา คนแล้วคนเล่าที่ถูกส่งลอยไปในบึงซึ่งทำให้เน่าบูดอย่างช้าๆ
ในไม่ช้า หลายคนได้ถูกกลืนกินโดยบึง เมื่อพวกเขาตกลงไปในนั้น มันจะไม่มีความหวังสำหรับพวกเขาเลย
บึงแห่งนี้ได้ตั้งอยู่ด้านหน้าของหน้าผาและดูเหมือนจะแผ่ขยายออกไปเรื่อยๆ ฟองฟอดปะทุเรื่อยๆที่หน้าผิวของมัน ซึ่งคายแก๊สพิษออกมา ทุกคนที่เป็นผู้ฝึกตนขอบเขตหลอมรวมร่างกายจะตายหลังจากสูดแก๊สพิษไป
“ให้ตายสิ ทำไมมีพิษร้ายแรงเช่นนี้ในบึง?” ชายคนหนึ่งสบถ
ในเวลาเดียวกัน ผู้ฝึกตนระดับ 9 ขั้นหลอมรวมร่างกายบางคนหนีออกมาและไม่กล้าที่จะโจมตีเถาวัลย์ม่วง
เถาวัลย์ม่วงนี้ดูอ่อนแออย่างเห็นได้ชัดแต่มันก็มีพลังของผู้ฝึกตนขอบเขตต้นกำเนิด มันได้ทนทานอย่างเหลือเชื่อและแม้กระทั่งกระบี่ก็ไม่สามารถตัดมันได้ มีเพียงผู้เชี่ยวชาญขอบเขตต้นกำเนิดเท่านั้นที่จะสามารถทำร้ายมันได้
“แมลงและสัตว์ที่มีพิษจำนวนมากได้รวบตัวกันที่นี่ตลอดหลายปีที่ผ่านมา แล้วพิษกับสารพิษของพวกมันก็ได้ผสมลงกับบึง ทำให้มันเป็นบริเวณแห่งความตาย โชคดีที่มีผู้เชี่ยวชาญอยู่ลึกลงไปในภูเขาเมฆาม่วง ผู้ที่ตามล่าสัตว์และอสูรที่มีพิษ มิฉะนั้นเราจะไม่ได้แม้กระทั่งมีโอกาสเข้าสู่สถานที่แห่งนี้ ทุกคนมุ่งเน้นไปที่การฆ่าเถาวัลย์และซ่อมแซมจิตวิญญาณของมัน” ชายที่รับผิดชอบกล่าวด้วยความจริงจัง
ผู้ฝึกตนขอบเขตหลอมรวมร่างกายทุกคนปัจจุบันได้แต่ถอยกลับไปและเหลือเพียงแค่ 5 ผู้เชี่ยวชาญขอบเขตต้นกำเนิดเท่านั้นที่กล้าโจมตี
“หัวหน้า เถาวัลย์ม่วงนี้แข็งแกร่งเกินไป มันยากมากที่จะฆ่ามัน!” ผู้ชายข้างๆเขาร้องตะโกน
แคร้ง! แคร้ง!
ขณะที่เขาพูดเถาวัลย์ม่วงก็ยังคงโจมตีต่อไปและกิ่งก้านของมันได้ฟาดออกไปยังพวกผู้ชายอย่างต่อเนื่อง
การโจมตีของเถาวัลย์ม่วงนี้เหมือนกับแส้ที่มีพลังและความคม พวกมันเดินทางเหมือนกับลูกธนูและถูกบรรจุไปด้วยพลังที่ระเบิดออกมาอย่างมากล้น – แม้กระทั่งผู้เชี่ยวชาญขอบเขตต้นกำเนิดก็พบว่าเป็นเรื่องยากที่จะต่อสู้กับการโจมตีเช่นนี้ มีเพียงหัวหน้าเท่านั้นที่อยู่ในขอบเขตต้นกำเนิดขั้นปลาย ที่สามารถจัดการการโจมตีของมันได้
“ไปและเก็บน้ำที่เป็นพิษมาบางส่วนเพื่อขว้างมันใส่เถาวัลย์ม่วง ข้าไม่เชื่อว่ามันจะไม่ผุพัง” หัวหน้ากล่าวด้วยเสียงต่ำ
“พิษ?” เมื่อได้ยินเช่นนี้ ดวงตาของคนอื่นในขอบเขตต้นกำเนิดก็สว่างขึ้น
“ถูกต้อง ความร้ายแรงที่น่าเหลือเชื่อของพิษและสรรพคุณสึกกร่อนที่มี เถาวัลย์ม่วงจะป้องกันจากมันได้อย่างไรกัน?”
ราวกับว่ามันเข้าใจคำพูดของผู้ชายพวกนี้ เถาวัลย์ม่วงได้ส่งเสียงหึ่งๆ และดูเหมือนจะกระวนกระวายมากขึ้นอีก
มันดูเหมือนว่าเถาวัลย์ม่วงจะไม่สามารถต้านทานพิษได้
ลักษณะของความสุขปรากฎบนใบหน้าของพวกผู้ชายขณะที่หนึ่งในพวกเขาได้ไปเก็บพิษมา
ผู้ฝึกตนขอบเขตต้นกำเนิดได้เอาชามกลมที่ทำจากเหล็กกล้าละเอียดออกมา หลังจากสูดลมหายใจของเขา เข้าก็มาถึงบึงพิษและตักเอาพิษบางส่วนขึ้นมา
Sssss!!
พิษนั้นเป็นสีดำปี๋และมันก็เข้าไปในชาม เหล็กกล้าละเอียดเริ่มถูกกัดกร่อน มันทำให้เห็นชัดว่าพิษนี้น่ากลัวอย่างไร – พืชจะสามารถสู้กับมันได้อย่างไร? ไม่ว่าเถาวัลย์ม่วงจะมีพลังมากแค่ไหนก็ตาม มันก็จะยังได้บาดเจ็บโดยพิษ
หลังจากเก็บพิษมา ชายคนนั้นได้รีบวิ่งกลับไปและเทมันลงบนเถาวัลย์ม่วง
ตราบเท่าที่พวกเขาทำลายลำต้นใต้ดินของมัน เถาวัลย์ม่วงจะสูญเสียแห่งของแก่นแท้แห่งชีวิตไป และจะไม่สามารถสู้ได้อีกต่อไป
“หยุด! เจ้าจะทำร้ายวิญญาณของเถาวัลย์ม่วง” ในขณะนี้ ได้มีเสียงวิตกกังวลเปล่งออกมา
“นั่นใคร?” ผู้ฝึกตนของกลุ่มนักผจญภัยมองไปที่ต้นเสียง
พวกเขาได้เห็นเด็กหนุ่มปีนลงไปตามหน้าผาของเถาวัลย์และเดินเข้ามากใกล้พวกเขาอย่างเร่งรีบ
เป็นเรื่องธรรมดา เด็กหนุ่มคนนี้คือเซี่ยวหยุน
พื้นที่นี้ถูกปิดกั้นด้วยบึงที่เป็นพิษและแก๊สพิษที่เต็มไปในอากาศ เขาสามารถลงมาได้จากข้างบนเท่านั้น
โชคดี ที่สัตว์อสูรทั้งได้รับความกลัว มิฉะนั้น การลงไปเช่นนี้จะทำให้เกิดผลคือเขาถูกโจมตีและบาดเจ็บ
“เจ้าอยู่ในขอบเขตหลอมรวมร่างกายเท่านั้น และเจ้ายังต้องการแทรกแทรงในเรื่องของกลุ่มนักผจญภัยนาคาสีเงินของพวกเราหรือ?”
“เอ๋ เขามีกระบี่ที่ดีทีเดียวที่เอวของเขา มันอาจจะทำมาจากการกลั่นเหล็กดำ”
“ฆ่าเขา! ด้วยกระบี่นั้น เราจะสามารถตัดผ่านลำต้นใต้ดินของเถาวัลย์สีม่วงได้อย่างง่ายดาย!”
ผู้ฝึกตนขอบเขตหลอมร่างกายผู้ซึ่งหวาดกลัวเถาวัลย์ม่วง มองไปยังเซี่ยวหยุนราวกับว่าเป็นเหยื่อของพวกเขา
ฆ่า!!!
เมื่อเสียงร้องดังออกมา พวกผู้ชายได้ดีดไปยังเซี่ยวหยุน – มีทั้งหมด 17 คน
“กลุ่มนักผจญภัยนาคาเงินกลุ่มนี้เต็มไปด้วยฆาตกรการที่ฆ่าคนบริสุทธิ์” ไม่ว่าอารมณ์เซี่ยวหยุนจะดีแค่ไหน เขาก็รู้สึกโกรธเกรี้ยวอย่างช่วยไม่ได้ เขาส่งพลังวิญญาณออกมาขณะที่เขาได้ดึงดาบและโจมตีไปยังพวกเขา
“เขาก็แค่เด็กสารเลว!” ผู้เชี่ยวชาญขอบเขตต้นกำเนิดไม่สนในต่อการแสดงตัวของเซี่ยวหยุนโดยสมบูรณ์
ผู้ชายที่เก็บพิษไม่ได้หยุดวิ่ง เขาสดพิษไปยังเถาวัลย์ม่วงเพราะชามเหล็กกล้าละเอียดได้ใกล้ที่จะผุพังโดยสมบูรณ์แล้ว ถ้าเขาไม่ได้สาดมันออกไปในตอนนี้ เขาจะพลาดโอกาสอันล้ำค่านี้
วูซซ!
พิษบินไปทางเถาวัลย์ม่วงโดยมีเป้าหมายเป็นลำต้นใต้ดินของมัน
บุซซ!
เถาวัลย์สีดำได้ส่งเสียงหึ่งๆออกมาราวกับว่าได้หวาดกลัวพิษนั้นอย่างลึกล้ำ กิ่งก้านของมันยังหมุนวนไปรอบๆเรื่อยๆ พยายามที่จะหยุดมัน เมื่อเห็นเช่นนี้ ผู้ฝึกตนขอบเขตต้นกำเนิดก็หัวเราะอย่างน่ากลัวขณะที่เขามองอย่างเย็นชาไปที่เถาวัลย์ม่วง
หวด!
อย่างไรก็ตามขณะที่พวกผู้ชายที่หัวเราะอย่างชั่วร้าย หยดของพิษได้ส่งกลับไปหาพวกเขาเหมือนกับอุกกาบาต
“นี่คือ?”
“บ้าเอ้ย เถาวัลย์ม่วงได้ส่งพิษบางส่วนกลับมา”
“รีบหลบเร็วเข้า” ขณะที่เขาตรวจพบแก๊สพิษในอากาศ ม่านตาของผู้ฝึกตนขอบเขตต้นกำเนิดก็หดลง
อย่างไรก็ตามมันช่างน่าเสียที่พิษนั้นเร็วเกินไป ก่อนที่พวกเขาจะสามารถหลบได้ พิษก็ได้ไปถึงตัวพวกเขาแล้ว
หนึ่งในพวกนั้นตอนนี้ได้มีแผลเหวอะหวะที่เป็นรูเปื้อนเลือดบนแขนของเขา
บางส่วนของพิษก็ยังค้างอยู่ในร่างกายของพวกเขาและแพร่กระจายผ่านทางเลือดไปยังกล้ามเนื้อของพวกเขา
พวกผู้ชายคนอื่นโชคไม่ดีที่หลบมันไม่ทันทุกอัน มีเพียงหัวหน้าขอบเขตต้นกำเนิดขั้นปลายเท่านั้นที่สามารถหนีภัยพิบัติครั้งนี้ได้
“อ๊ากกก!!”
เสียงร้องที่น่าสมเพชเวทนาดังออกมาขณะที่ผู้ฝึกตนที่โดนโจมตีโดยพิษเริ่มสั่นสะท้านและเปลี่ยนเป็นสีดำ
ในช่วงสองลมหายใจ สี่ผู้ฝึกตนขอบเขตต้นเกิดได้ตกลงไปบนพื้น และแทบไม่มีชีวิตชีวาแล้ว
สำหรับชายผู้ที่สาดพิษ เขาได้กลายเป็นบ่อน้ำสีดำ
“เราคาดเดาผิด!” หัวใจของหัวหน้ากลุ่มนักผจญภัยได้ตกลงไปตาตุ่มขณะมองดูพี่น้องของเขาตกอยู่ในอันตรายร้ายแรง
อย่างไรก็ตามเมื่อเขาได้มองไป เข้าก็ได้เพียงถอนหายใจ
ถึงแม้ว่าเถาวัลย์ม่วงจะปิดกั้นพิษไว้ได้เกือบทั้งหมด แต่กิ่งก้านของมันก็ถูกกัดกร่อนอย่างมากลแะบางส่วนของพวกมันเริ่มสลายไปแล้ว
ลำต้นใต้ดินของเถาวัลย์ม่วงก็ยังได้รับความทรมานจากพิษไปด้วยและฟองฟอดสีดำเริ่มปรากฏบนพื้นผิวของมัน ลำต้นใต้ดินใกล้จะถูกทำลายอย่างสมบูรณ์แล้ว
“ตราบที่เราได้วิญญาณของเถาวัลย์ม่วงนี้ได้ ดังนั้นถ้าเราเสียพี่น้องไปสองสามคน?” ดวงตาของหัวหน้ากลุ่มนักผจญภัยนาคาสีเงินได้กระพริบขณะที่เขาสับลงไปยังเถาวัลย์ม่วงด้วยดาบของเขา ตอนนี้ความทรมานจากพิษของเถาวัลย์ม่วงได้เติบโตมากขึ้นจนมันอ่อนแอ มันจะไม่สามารถใส่ใจกับเขาได้
“อ๊าก”
ขณะที่เขาไปจัดการเถาวัลย์ม่วง เสียงอันน่าสมเพชดังออกมาใกล้ๆ
เซี่ยวหยุนใช้พลังวิญญาณที่ล้นหลามของเขาเพื่อทำลายจิตใจและเมื่อรวมกับทักษะกระบี่ที่รวดเร็วอย่างน่าเหลือเชื่อของเขา เขาได้ทำการฆ่าพวกเขาในความวุ่นวายและโกลาหล
ชิ!
แสงกระบี่วูบวาบที่มาพร้อมกับรัศมีแสงสีแดงเข้มขณะที่เซี่ยวหยุนฆ่าผู้เชี่ยวชาญระดับ 9 ขั้นหลอมร่างกายในฉับพลัน
“ทักษะกระบี่ที่เร็วอะไรเช่นนี้!”
“จิตใจและวิญญาณของข้าดูเหมือนจะถูกยับยั้งโดยบางสิ่งที่น่ากลัว!” ผู้ฝึกตนที่เหลือที่อยู่ในระดับ 8 ขั้นหลอมร่างกายได้ตกตะลึงขณะที่พวกเขาร้องออกมาด้วยความตกใจ มันราวกับว่าพวกเขาได้พบกับผู้เชี่ยวชาญขอบเขตต้นกำเนิดและพวกเขารู้สึกกลัวอย่างไม่น่าเชื่อ
“เวร คนพวกนั้นใช้พิษเพื่อทำร้ายเถาวัลย์ม่วง ใครจะไปรู้ได้ว่าพิษนั้นจะมีความเสียหายกับวิญญาณของมันหรือไม่?” ขณะที่เซี่ยวหยุนปล่อยพลังวิญญาณของเขาไปยังศัตรู เขาได้สังเกตเห็นว่ากลิ่นอายของเถาวัลย์ม่วงกลายเป็นอ่อนแอลง ทำให้คิ้วของเขาเกิดรอยย่น
ในขณะนี้ ดาบของหัวหน้ากลุ่มนักผจญภัยนาคาสีเงินได้สับลงไปยังหนึ่งในกิ่งก้านของเถาวัลย์ม่วงด้วยพลังที่ไม่สามารถหยุดได้ ลำต้นใต้ดินของมันถูกกัดกร่อนอยู่แล้วยังถูกตัดออกอีก ทำให้กลิ่นอายของมันลดลงทันที มีลูกกลมแสงสีม่วงจางๆ ตามเถาวัลย์ – นั่นเห็นได้ชัดว่าเป็นดวงวิญญาณของเถาวัลย์ม่วง
“ข้าไม่สามารถปล่อยพวกมันเอาวิญญาณของเถาวัลย์ม่วงไปได้” ดวงตาของเซี่ยวหยุนกระพริบขณะที่พลังวิญญาณของเขาคำรามออกมาจากจิตใจของเขา หยุดทุกคนที่อยู่ข้างหน้าของเขาในการกระทำของพวกมัน เขาได้เปิดเส้นทางที่เต็มไปด้วยกระบี่ของเขาขณะที่เขาเร่งไปยังเถาวัลย์ม่วง
“ฮ่าฮ่า หลังจากได้วิญญาณนี้ ข้าจะสามารถได้รับจิตวิญญาณการต่อสู้ประเภทสนับสนุนได้ ซึ่งจะทำให้พลังต่อสู้ของข้าพุ่งสูงขึ้น” หัวหน้ากลุ่มนักผจญภัยนาคาเงินหัวเราะอย่างป่าเถื่อนขณะที่เขาคว้าไปยังเถาวัลย์ม่วง
เถาวัลย์ม่วงก็สั่นสะท้านในทันทีขณะที่หมอกสีม่วงกวาดออกมาจากลำต้นใต้ดินที่เสียหาย
“บ้าเอ้ย มันเป็นพิษ!” ใบหน้าของผู้ฝึกตนขอบเขตต้นกำเนิดลดลง ก่อนที่เขาจะสามารถถอยออกไปได้ในเวลานี้ หมอกพิษสีม่วงได้ห่อหุ้มเขาแล้ว ครู่ต่อมาเขาได้ตกลงไปยังพื้นขณะที่กลิ่นอายของเถาวัลย์ม่วงเริ่มอ่อนแอลง
หมอกสีม่วงนี้คือแก่นแท้ชีวิตหลังจากใช้เป็นจำนวนมากในวันนี้ มันได้อ่อนแออย่างไม่น่าเชื่อ