566 หนาวไหม? เจ็บไหม?
หลังเสร็จธุระที่ร้านขายต้นกล้า หวังเย้าก็กลับมาที่บ้าน
ท้องฟ้าดูมืดครึ้ม ฝนโปรยลงมาตั้งแต่เช้าของวัน ไม่มีใครมารักษาที่คลินิกของหวังเย้าในวันฝนตกแบบนี้
หวังเย้ากลับบ้านเร็วกว่าทุกที หลังจากทานอาหารเสร็จ เขาก็กลับขึ้นไปบนเนินเขาหนานชาน
รถคันหนึ่งขับตรงเข้าสู่ตัวเมืองเหลียนชานอย่างเร่งรีบ
“ลุงลู่ ขอบคุณมากนะครับ” ชายหนุ่มที่นั่งอยู่ในรถพูด
“ไม่ต้องขอบใจลุงหรอก เธอก็รู้ดีว่าลุงเป็นห่วงแม่ของเธอมากแค่ไหน” ศาสตราจารย์ลู่พูด
เขารู้สึกเหนื่อยล้าอย่างมาก เพราะเขาต้องขับรถหลายพันไมล์ภายในวันเดียว
“หมอหวังจะช่วยแม่ของผมได้ไหมครับ?” ชายหนุ่มถาม
“มันก็ยังดีกว่าปล่อยให้เธอนอนรอความตายอยู่ที่โรงพยาบาล” ศาสตราจารย์ลู่พูด “แล้วใครจะรับประกันได้ว่า หมอพวกนั้นจะสามารถช่วยชีวิตเธอได้กัน?”
“ที่คุณลุงพูดมาก็ถูก” ชายหนุ่มพูด
บรรยากาศภายในรถดูหดหู่เล็กน้อย
แค่ก! แค่ก! มีเสียงไอของผู้หญิงดังขึ้นในรถ
“แม่!” ชายหนุ่มร้องเรียกด้วยความเป็นห่วง
“แม่ไม่เป็นไร” เธอพูด
ที่เบาะด้านหลังของรถ มีผู้หญิงคนหนึ่งขดตัวอยู่ เธอสวมเสื้อผ้าหนาหลายชั้น และดูเหมือนว่าเธอจะอ่อนไหวต่อความเย็น ใบหน้าของเธอซีดเซียว แก้มของเธอตอบและดวงตาลึกโพรง ร่างกายของเธอผ่ายผอมดูคล้ายกับมัมมี่ สภาพของเธอสามารถทำให้คนที่เห็นรู้สึกหวาดกลัวได้
“ทนอีกหน่อยนะครับ เราใกล้จะถึงแล้วล่ะ” ชายหนุ่มพูด
ฝนตกลงมาตั้งแต่ที่พวกเขาขับเข้าสู่ตัวจังหวัดฉี ภายในรถเปิดเครื่องให้ความร้อนเอาไว้ แต่เธอก็ยังรู้สึกหนาวอยู่ดี
“อย่าขับเร็ว ข้างนอกฝนตก ถนนมันลื่น” เธอพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนแรง
“ผมรู้ครับ” ชายหนุ่มพูด
ความมืดเข้าปกคลุมอย่างรวดเร็ว หวังเย้ากลับขึ้นไปบนเนินเขาหนานชานหลังจากที่ทานอาหารเสร็จแล้ว บนถนนไม่มีคนอยู่แม้แต่คนเดียว
หลังเดินพ้นเขตหมู่บ้านไป หวังเย้าก็เก็บร่ม เขาใช้พลังฉีปิดกั้นฝนและลมให้ออกห่างจากตัวเขาไปประมาณ 1 เมตร
ฝนคงจะตกทั้งคืน
มันเป็นค่ำคืนที่เงียบสนิท และเป็นเวลาที่เหมาะสำหรับการนอน, ดูหนัง, หรืออ่านหนังสือพร้อมกับชาซักถ้วย
ภายในอพาร์ทเมนต์แห่งหนึ่งในตัวเมืองเหลียนชาน ชายหนุ่มคนหนึ่งกำลังเล่นคอมพิวเตอร์อยู่ เขากำลังครุ่นคิดและลังเลใจ แต่แล้วเขาก็ไม่สามารถยับยั้งความอยากได้ เขาพิมพ์ชื่อเว็บไซต์ที่เขาเปิดดูนับร้อยครั้งลงไป แล้วหน้าเว็บไซต์อีโรติกก็ปรากฏขึ้นมาบนหน้าจอ
เขาคลิกเปิดดูคลิปๆหนึ่ง แล้วเขาก็ถูกภาพและเสียงในวิดีโอทำให้รู้สึกตื่นเต้น เขารู้สึกตื่นตัวขึ้นมาแล้ว
“โอ๊ย!” อยู่ๆเขาก็กรีดร้องออกมา และล้มลงไปที่พื้นพร้อมกับมือที่กุมหน้าท้องเอาไว้
เกิดบ้าอะไรขึ้นเนี่ย?
ร่างกายของเขาถูกคลิปวิดีโอกระตุ้นให้รู้สึกตื่นตัว แต่แล้วเขาก็รู้สึกเหมือนมีเข็มทิ่มลงมา และจากนั้น เขาก็รู้สึกเจ็บแปลบที่หน้าท้องและน้องชายของเขาในทันที
เขาไม่สามารถดูวิดีโอต่อไปได้ เขาจึงกดปิดคอมพิวเตอร์และเดินไปนอนบนเตียง
“โอ๊ย!” ความเจ็บยังคงไม่หายไป เขาเริ่มรู้สึกกังวลขึ้นมา
เกิดอะไรขึ้น? หรือจะเป็นเพราะฉันช่วยตัวเองเยอะเกินไป ร่างกายของฉันก็เลยเริ่มมีปัญหาขึ้นมาแล้ว? เดี๋ยวนะ!
อยู่ๆเขาก็นึกขึ้นได้ว่า ตอนที่เขาไปคลินิกเมื่อวันก่อน หวังเย้าได้ใช้นิ้วมือกดไปที่หน้าท้องของเขาอยู่หลายครั้ง และจุดที่เขารู้สึกเจ็บ ก็เป็นบริเวณที่หวังเย้ากดจุดให้เขาด้วย ทั้งที่ในเวลานั้น เขาไม่ได้รู้สึกถึงความผิดปกติเลยสักนิด
พรุ่งนี้ ฉันคงต้องไปหาหมอดู ถ้าเขาไม่ได้ทำ ฉันก็คงจะต้องกลายเป็นคนไร้ค่าแน่ๆ
รถคันหนึ่งขับเข้ามาในหมู่บ้านในตอนที่หวังเย้ายังไม่ลงมาจากเนินเขาหนานชาน ดังนั้น คลินิกจึงปิดอยู่
“เขายังไม่มาเลย คงต้องรอสักพักนะ” ศาสตราจารย์ลู่พูด
“ครับ” ชายหนุ่มที่นั่งอยู่ในรถพูด
ในตอนที่พวกเขากำลังรอหวังเย้าอยู่นั้น ก็มีรถอีกคันหนึ่งขับเข้ามา ชายหนุ่มที่ดูซีดเซียวลงมาจากรถและเดินตรงไปที่คลินิก
เขายังไม่มา!
เขาเดินกลับไปกลับมาที่หน้าคลินิกสองสามรอบ แล้วจากนั้น เขาก็กลับขึ้นไปนั่งบนรถ
หวังเย้าทำอาหารเช้าทานเองบนเนินเขาหนานเช่น หลังจากทานอาหารเสร็จ เขาก็เอาอาหารให้ซานเซียน
“อะไร? นายไม่ชอบเหรอ?” หวังเย้าถาม
โฮ่ง!โฮ่ง!โฮ่ง! ซานเซียนเห่าตอบ
“ฉันเอาของทะเลมาให้นายเลยนะ ไม่เหรอ? แล้วอยากกินอะไรล่ะ? นายอยากกินปลานึ่งเหรอ? นายเป็นหมานะ ไม่ใช่แมว เฮ้อ รู้สึกว่านายจะเรื่องมากเรื่องของกินกว่าแต่ก่อนนะ” หวังเย้าลูบศีรษะของซานเซียนและยิ้มออกมา “ก็ได้ๆ ไว้ฉันจะทำปลานึ่งซีอิ๋วกลับมาให้นายกินวันนี้แล้วกัน พอใจรึยัง?”
ในตอนที่เขาเดินลงมาจากเนินเขาหนานชาน เขาก็เห็นรถสองคันจอดอยู่ที่ด้านนอกคลินิก
คนพวกนี้มาเช้ากันจริงๆ!
อรุณสวัสดิ์ หมอหวัง” ทันทีที่เห็นหวังเย้าเดินเข้ามา ศาสตราจารย์ลู่ก็รีบลงมาจากตัวรถ และเดินเข้าไปหาหวังเย้า
“อรุณสวัสดิ์ครับ ศาสตราจารย์ลู่ มารอนานรึยังครับ?” หวังเย้าถาม
“ก็ไม่นานเท่าไหร่ เราเพิ่งจะมาถึงได้สักพักเอง” ศาสตราจารย์ลู่พูด
“แล้วคนไข้มาด้วยรึเปล่าครับ?” หวังเย้าถาม
“อรุณสวัสดิ์ครับ หมอหวัง” ชายหนุ่มลงมาจากรถอีกคันหนึ่ง
“นายนี่เอง!” หวังเย้ายังจำชายหนุ่มคนนี้ ที่มารักษากับเขาเมื่อสองวันก่อนได้ดี ไตของเขาทำงานหนักเพราะเขาช่วยตัวเองบ่อยเกินไป
“หมอ คุณต้องช่วยผมนะ” ชายหนุ่มพูดด้วยน้ำเสียงเบาหวิวราวกับลมที่ไร้กำลัง
“เข้ามาข้างในก่อนสิครับ” หวังเย้าพูด
ศาสตราจารย์ลู่และลูกชายของเวินหว่าน ช่วยกันพยุงตัวเธอเข้าไปในคลินิก ชายหนุ่มที่ไตมีปัญหาก็พยายามจะเข้าไปช่วยเช่นกัน แต่เมื่อได้เห็นใบหน้าไร้สีเลือดของเวินหว่าน เขาก็ชะงักไปทันที
เขาเป็นคนดีทีเดียว หวังเย้าคิด
“อาการของเธออยู่ในขั้นวิกฤตมาก” หวังเย้าพูด
เขาไม่จำเป็นต้องจับดูชีพจรของเธอเลยด้วยซ้ำ ใบหน้าของเธอซีดเผือด และหายใจแผ่วเบา เธอเป็นเหมือนกันพระอาทิตย์ที่ใกล้ตกดินหรือน้ำมันที่ถูกเผาไหม้จนเกือบหมด
“เอายานี่ให้เธอกินก่อนนะครับ” หวังเย้าเอาเม็ดยาจิ่วเฉาให้เธอ “ถอดเสื้อคลุมของเธอออกด้วยครับ”
เขากดลงไปที่จุดฝังเข็มสำคัญๆบนร่างกายของเวินหว่าน และส่งพลังฉีเข้าไป
“หมอหวัง?” ศาสตราจารย์ลู่รอจนกระทั่งหวังเย้ารักษาเสร็จ เขาถึงได้พูดออกมา “อาหว่านเป็นยังไงบ้าง?”
“อาการของเธอหนักมากครับ เธอสามารถไปได้ทุกเวลา ผมเพียงช่วยเธอไว้ชั่วคราวเท่านั้น” หวังเย้าพูด “ถ้าดูจากอาการของเธอแล้ว เธออาจจะไม่มีวันตื่นขึ้นมาอีก และผมก็ได้บอกคุณเรื่องนี้ไว้ก่อนหน้านั้นแล้ว”
“มันเป็นความผิดของฉันเองค่ะ” เวินหว่านพูด
“ในเมื่อคุณมาอยู่ที่นี่แล้ว ผมก็จะพยายามช่วยคุณให้ถึงที่สุด พวกคุณควรจะลองหาที่พักที่ใกล้กับที่นี่ดูนะครับ” หวังเย้าพูด
“ในหมู่บ้านนี้มีบ้านให้เช่าบ้างไหม?” ศาสตราจารย์ลู่ถาม เขาเคยคิดเอาไว้ตั้งแต่ครั้งก่อนที่มากับเวินหว่านแล้วว่า เขาอยากจะเช่าบ้านในหมู่บ้านสักหลัง เพื่อที่เวินหว่านจะได้พักเพื่อรักษากับหวังเย้าในระยะยาว และการรักษาก่อนหน้านี้ก็ได้ผลดีมากด้วย
“ผมไม่แน่ใจเหมือนกันครับ” หวังเย้าพูด “คุณคงต้องลองไปถามผู้ใหญ่บ้านดู”
“ได้” ศาสตราจารย์ลู่พูด “ตอนนี้ จะให้เธออยู่ที่ไหนก่อนดีล่ะ?”
“ให้เธออยู่ที่คลินิกก่อนก็ได้ครับ” หวังเย้าพูด
ลูกชายของเวินหว่านอยู่ดูแลแม่ของเขาที่คลินิก ส่วนศาสตราจารย์ลู่ก็ออกไปสอบถามเรื่องเช่าที่พัก
“แล้วเกิดอะไรขึ้นกับนายเหรอ?” หวังเย้าหันไปถามชายหนุ่มอีกคน
“เอ่อ เมื่อคืน อยู่ๆผมก็รู้สึกเจ็บที่ท้องขึ้นมาน่ะ” ชายหนุ่มพูดด้วยท่าทีขัดเขินเล็กน้อย
“เมื่อคืน นายคงคิดจะทำมันอีกล่ะสิ?” หวังเย้าถาม
“อืม” ชายหนุ่มพูด
“ร่างกายของนายจะรู้สึกเจ็บทุกครั้งที่นายคิดเรื่องนั้น” หวังเย้าพูด
ในวันนั้น หวังเย้าได้ทำบางอย่างกับร่างกายของชายหนุ่ม เมื่อไหร่ก็ตามที่เลือดลมในบริเวณท้องน้อยและน้องชายของเขาพลุ่งพล่านขึ้นมา เขาก็จะรู้สึกเจ็บเมื่อนั้น
“ฉันสัญญา ผมจะไม่คิดเรื่องนั้นอีกแล้ว” ชายหนุ่มพูดขึ้นมาด้วยความกังวล นี่เป็นเรื่องที่ทำให้เขารู้สึกเป็นกังวลอย่างมาก
“หลังจากที่นายสามารถตัดนิสัยเสียนั้นไปได้ ฉันก็จะช่วยให้นายหายเอง ถ้านายรู้ว่าฉันหมายถึงอะไร เรื่องนี้จะไม่กระทบกับร่างกายของนายในอนาคตอย่างแน่นอน” หวังเย้าพูด
“โอ้ ผมเข้าใจแล้ว ขอบคุณครับ” ชายหนุ่มยังคงรู้สึกกังวลอยู่เล็กน้อย เขาไม่อยากจะ เขาไม่อยากจะรู้สึกหวาดกลัวกับสิ่งที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคตได้
“นายค่อนข้างอ่อนแอนะ” อยู่ๆหวังเย้าก็พูดขึ้นมาในตอนที่มองหน้าชายหนุ่ม
“ใช่ หมอพูดถูก” ชายหนุ่มพูด
เขาไม่ค่อยมีความมั่นใจในตนเอง แม้แต่ตอนที่พูดคุยกับคนอื่น เขาก็ยังไม่กล้าสบตาด้วยซ้ำ
“ฉันเดาว่า นายคงจะไม่ค่อยได้ออกกำลังกายเท่าไหร่” ชายหนุ่มมีส่วนสูงประมาณ 180 เซนติเมตร แต่กลับหนักแค่ 60 กิโลกรัมเท่านั้น เขาดูผอมราวกับไม้เสียบ
“ใช่แล้ว ผมไม่ชอบออกกำลังกายน่ะ” ชายหนุ่มพูด
“ลองพยายามวิ่งสักวันละ 15 กิโลกับวิดพื้น 50 ครั้งดูนะ ลองดูว่าหลังจากผ่านไปเดือนหนึ่งแล้วจะเป็นยังไง” หวังเย้าพูด
“ได้ครับ” ชายหนุ่มพูด
“นายต้องลงมือทำ อย่าพูดอย่างเดียว เธอต้องออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ” หวังเย้าแนะนำชายหนุ่ม เพราะเขาคิดว่า ลึกๆแล้วชายหนุ่มเป็นคนดีคนหนึ่ง
“ได้ครับ” ชายหนุ่มพูด
“เอาล่ะ นายกลับไปได้แล้ว หลังจากนี้หนึ่งเดือนให้กลับมาอีกรอบนะ” หวังเย้าพูด
“ได้ครับ ขอบคุณมาก” ชายหนุ่มเดินออกไปจากคลินิก
เหลือเพียงเวินหว่านและลูกชายของเธอในคลินิก เธอยังคงตัวสั่นเทาราวกับใบไม้ที่ลอยปลิวไปกับสายลม
ศาสตราจารย์ลู่ไปหาผู้ใหญ่บ้านที่ออฟฟิส