การได้ยินโดยบังเอิญถือเป็นการไม่ได้ตั้งใจ
หลังจากเขาเดินกลับมาแล้วเจิ้งเหว่ยจวินก็มีใบหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้มถึงแม้ว่าเขาจะไม่มีความสุขแต่เขาก็ไม่สามารถแสดงมันออกมาได้
“เชียนเชิงดูแล้วเห็นว่ามีตรงไหนต้องปรับอีกไหมครับ?” เขาถาม
“ไม่มีครับ มันดีอยู่แล้ว” หวังเย้าพูด
“ถ้าอย่างนั้นก็ดีครับ” เจิ้งเหว่ยจวินพูด
เมื่อไม่กี่วันก่อน เขาได้แอบเชิญอาจารย์ดูฮวงจุ้ยจากทางใต้เพื่อให้มาดูสถานที่ตรงนี้เขาก็เป็นเหมือนนักธุรกิจหลายๆคนที่เชื่อในเรื่องโชคลางและผลที่ได้ก็คืออาจารย์ดูฮวงจุ้ยเอ่ย ปากชมที่ตรงนี้ว่ามันเหมาะสําหรับทําธุรกิจและใช้อยู่อาศัย แล้วยังสามารถเรียกเงินทองให้ไหลมาเทมาด้วยเขายังพูดว่า ตรงจุดนั้นไม่เหมาะที่จะปล่อยให้ว่างเอาไว้มันจะดีกว่าถ้าหากนํา หินฮวงจุ้ยมาวางเอาไว้คําพูดของเขายังบังเอิญไปตรงกับคําพูดของหวังเย้าความสงสัยแต่เดิมของเขาจึงได้หายไปแล้วถูกแทนที่ด้วยความแปลกใจและเชื่อมั่นหินหลิงปีก่อนใหญ่จึงถูกนํามาวางไว้ตรงจุดนั้นในเวลาอันสั้น
หลังจากดูการติดตั้งเครื่องจักรและเดินดูรอบๆอีกครั้งแล้ว หวังเย้าก็กลับไปที่หมู่บ้าน
เจิ้งเหว่ยจวินก็มีสีหน้าที่แย่ลง
“เป็นอะไรไปครับ?” ชายคนหนึ่งถาม
“พี่ชายของฉันกําลังมา” เจิ้งเหว่ยจวินพูด
ชายที่อยู่ข้างเจิ้งเหว่ยจวินตกใจ ความสัมพันธ์ระหว่างเจิ้งเหว่ยจวินกับพี่น้องนั้นมีความขัดแย้งกันอยู่แต่เขาก็ไม่อยู่ในจุดที่สามารถให้คําแนะนําอะไรได้
หลังจากกลับมาถึงหมู่บ้านแล้ว หวังเย้าก็พบว่ามีคนสามคนมารออยู่ที่หน้าคลินิกในหมู่พวกเขา มีผู้หญิงมีป่วยด้วยอาการขาดหยินอยู่ด้วยเธอได้รับยาไปแล้วสองโดสตอนนี้ สีหน้าของเธอดูปกติไม่ต่างจากคนสุขภาพดีทั่วไป
“พวกคุณมารอนานรึยังครับ?” หวังเย้าถาม
“ไม่ครับ เราเพิ่งมาได้ไม่นาน” ชายที่อายุอ่อนกว่าพูด
“เข้ามานั่งข้างในกันก่อนสิครับ” หวังเย้าเชิญทั้งสามเข้าไปในคลินิกเขาเริ่มตรวจดูอาการของฝ่ายหญิงก่อนตอนนี้เธอไม่ได้มีปัญหาใหญ่อะไรแล้ว
“ผมจะจ่ายยาให้อีกหนึ่งโดสนะครับ คุณต้องเอากลับไปกินที่บ้านด้วย” หวังเย้าพูด“หลังจากกินยาหมด คุณก็จะดีขึ้น”
“อ่อ ดีดี” ทั้งสามต่างยินดีที่ได้ยินแบบนั้น ในที่สุดพวกเขาก็กลับบ้านได้สักทีถึงยังไงที่นี่ก็ไม่ใช่บ้านเกิดของพวกเขา หรือสะดวกในการใช้ชีวิตสําหรับพวกเขา
หวังเย้าจ่ายยาให้พวกเขาอีกหนึ่งโดส อาการของเธอในตอนนี้ไม่จําเป็นต้องกินยาที่มีสมุนไพรวิเศษเป็นส่วนผสมอีกต่อไปและสามารถกินยาที่ใช้สมุนไพรทั่วไปแทนได้
พวกเขาต่างประหลาดใจ เมื่อพบว่าราคาของตัวยาต่ากว่าก่อนหน้านี้มาก “ทําไมราคาถึงต่าง ไปจากคราวก่อนล่ะครับ?”
“ตอนนี้อาการของเธอดีขึ้นแล้ว เลยไม่จําเป็นต้องกินยาที่ใช้สมุนไพรราคาสูงอีกน่ะครับ” หวังเย้าตอบ
“โอ้ ขอบคุณนะครับ”
การได้ประหยัดเงินและใช้จ่ายน้อยลงถือเป็นเรื่องดีเสมอ
กริ้งกริ้ง! เสียงแจ้งเตือนที่ไม่ได้ยินมาเนิ่นนาน มันหมายความได้ว่าระบบได้ทําการอัพเกรดแล้ว
เขาเพิ่มคะแนนทักษะลงไปในช่องทักษะการรักษา ซึ่งเน้นไปทางวิธีการฝังเข็ม
ถึงแม้ขั้นตอนการส่งมอบความรู้จะไม่รุนแรง แต่ก็เต็มไปด้วยความรู้มากมาย
การฝังเข็มเป็นทักษะการรักษาที่มีความลึกซึ้ง ตั้งแต่สมัยโบราณจนถึงปัจจุบัน ตั้งแต่มันเริ่ม ถูกพัฒนาจนถึงจุดสูงสุดและค่อยๆถดถอยลง มีความรู้มากมายที่สูญหายไปกับกาลเวลา สําหรับ การแพทย์แผนตะวันตก การฝังเข็มถูกมองว่าไม่สลักสําคัญอะไร การแพทย์แผนจีนถือว่าเป็นสิ่ง ล้าสมัย คุณค่าของมันเทียบกับการรักษาของประเทศเพื่อนบ้านไม่ได้ การรักษาจํานวนมากเริ่ม พึ่งพาเทคโนโลยีที่ถูกพัฒนาขึ้นมาในภายหลัง การรักษาแบบอื่นๆจึงถูกทิ้งร้างไป
หวังเย้าหลับตาและคิดอยู่ครู่หนึ่ง แล้วจึงค่อยๆลืมตา
เฮ้อ ดูเหมือนจะยังอีกยาวไกล!
ยิ่งเข้าใจลึกซึ้งเรื่องแพทย์ปรุงยามากเท่าไหร่ เขาก็ยิ่งรู้สึกได้ถึงความมหัศจรรย์ของมัน
ในเหลียนชาน มีหลายคนนั่งอยู่ในร้านน้ําชา การดื่มชาถือเป็นแค่ข้ออ้างเท่านั้นพวกเขาส่วน ใหญ่มาที่นี่ก็เพื่อเล่นไพ่นกกระจอกเป็นงานอดิเรกต่างหาก
ชายสองคนที่ดูอายุพอๆกันนั่งอยู่ในห้องส่วนตัว ความต่างระหว่างพวกเขาก็คือคนหนึ่งดูสง่างามกว่าเล็กน้อยในขณะที่อีกคนดูแข็งแรงก่ย่า
“มีเรื่องอะไร?” เจิ้งเหว่ยจวินถาม
“ฉันผ่านมาทางจังหวัดฉี แล้วคิดถึงนายขึ้นมา ก็เลยแวะมาหานายยังไงล่ะ”ชายท่าทางสง่าพูดด้วยรอยยิ้ม
“จริงเหรอ? นายเคยคิดถึงฉันตั้งแต่เมื่อไหร่กัน” เจิ้งเหว่ยจวินจิบชา
“พวกเราเป็นพี่น้องกัน ยังไงเลือดก็ต้องขันกว่าน้ํา” เจิ้งเหว่ยกงพูด เขารู้สึกทําอะไรไม่ได้เล็กน้อยเกี่ยวกับเรื่องน้องชายของเขาการเติบโตขึ้นมาของพวกเขามีหลายสิ่งที่เขาต้องทําและทํา ไม่ได้
สําหรับพวกเขาที่เกิดมาเพื่อสิทธิอันชอบธรรมและความร่ํารวยนั้นกลับต้องสูญเสียเรื่องความสัมพันธ์ในครอบครัวไป
“ฉันได้ยินมาว่า โรงงานใหม่ของนายกําลังจะเริ่มทําการผลิตแล้ว” เจิ้งเหว่ยกลพูด
“นายต้องการอะไร?” เจิ้งเหว่ยจวินถาม
“ทําไมนายถึงได้ทําตัวต่อต้านแบบนี้ล่ะ?” เจิ้งเหว่ยกงถาม
“ฉันก็แค่ถาม” เจิ้งเหว่ยจวินพูด “การผลิตจะเริ่มเดือนหน้า”
“มันเป็นยาแบบไหนเหรอ?” เจิ้งเหว่ยกงถาม
“เป็นประเภทยาบ้ารุงกําลัง” เจิ้งเหว่ยจวินพูด
“ยาบํารุงกําลัง?” เจิ้งเหว่ยกงขมวดคิ้ว
“ช่วงแรก ยาประเภทนี้ก็ไม่ค่อยเป็นที่นิยมในตลาด แล้วยาจากแบรนที่เพิ่งสร้างขึ้นมาใหม่คงไม่ต้องพูดถึง” เขาพูด
เรื่องที่เขาพูดเป็นความจริง ในปัจจุบัน มีบริษัทยาอยู่นับไม่ถ้วนทําให้ในการผลิตตัวยาบางตัวมีการร่วมมือกันระหว่างบริษัท การสร้างกําไรจากตลาดนี้จําเป็นต้องคํานึงถึงเรื่องของเส้นสายและสายสัมพันธ์ด้วยแต่แน่นอนว่ามีข้อยกเว้นอยู่ หากว่ายาตัวนั้นเป็นสินค้าที่หาได้ยากอย่างแท้จริงเช่น ยาที่ได้รับสิทธิ์ผูกขาดจากต่างประเทศ
“นายไม่ต้องกังวลเรื่องนี้หรอก” เจิ้งเหว่ยจวินพูด
“ถ้าต้องการความช่วยเหลือก็บอกฉันได้นะ” เจิ้งเหว่ยกงพูด
“ไม่จําเป็น” เจิ้งเหว่ยจวินพูด
การพบกันระหว่างสองพี่น้องพูดได้ว่ามีแต่เรื่องไม่น่าพิสมัย
“เป็นยังไงบ้างครับ?” คนของเขาถาม
“ไม่ดี” เจิ้งเหว่ยกงตอบ “เขายังต่อต้านฉันอยู่มาก!”
“อย่าจริงจังเกินไปเลยครับ” เขาพูด
“ไม่ได้หรอก ถึงยังไงเราก็เป็นพี่น้องกัน” เจิ้งเหว่ยกงพูด “ไปเถอะอ้อเขาจะปล่อยตัวยาเดือนหน้าคอยจับตามองด้วยล่ะ แล้วให้ตัวแทนบริษัทยาของเราช่วยโฆษณาด้วย”
“ได้ครับ
ชายที่นั่งอยู่ในรถจ้องมองตัวเมืองขนาดเล็กที่อยู่ด้านนอก
“รอเดี๋ยว รู้รึเปล่าว่าหมอที่รักษาเหว่ยจวินอยู่ที่ไหน?” เจิ้งเหว่ยกงถาม
“ผมพอได้ยินเรื่องเขามาบ้างครับ” เขาพูด
“เราลองแวะไปหาเขากันดีกว่า” เจิ้งเหว่ยกงพูด
“ได้ครับ”
ท้องฟ้าเริ่มมืดลง ตอนกลางวัน ลมเย็นของฤดูใบไม้ผลิเย็นเยียบ
หวังเฝ้ามองท้องฟ้าอยู่เงียบๆ มันมีสีเหลืองเล็กน้อย
หม มีคนกําลังมา เขาคิด
เขาได้ยินเสียงรถขับเข้ามา จากนั้นก็ตามมาด้วยเสียงฝีเท้าและเสียงเคาะประตู
“เชิญเข้ามาครับ”
ทั้งสองเดินเข้ามาด้านใน คนหนึ่งอยู่ในวัยสามสิบ เขาสวมแว่นตาและดูสง่างามส่วนอีกคนเป็นชายวัยสี่สิบเขามีรูปร่างผอมและดูกระฉับกระเฉง
“สวัสดีครับ คุณคงจะเป็นหมอหวัง” พี่ชายของเจิ้งเหว่ยกงพูด
“ใช่ครับ มีอะไรให้ผมช่วยเหรอครับ?” หวังเย้าตอบกลับไปด้วยรอยยิ้ม
“ผมเป็นพี่ชายของเจิ้งเหว่ยจวิน เจิ้งเหว่ยกง ครับ ผมมาที่นี่เพื่อแสดงความขอบคุณขอบคุณที่รักษาน้องชายของผมนะครับ”
“อ่อ ยินดีครับ” หวังเย้าหัวเราะ เขาค่อนข้างแปลกใจกับการมาของอีกฝ่าย
เขาคิด ใช่คนที่โทรมาหาเจิ้งเหว่ยจวินรึเปล่า?
“นี่เป็นของขวัญเพื่อแสดงความขอบคุณครับ”เจิ้งเหว่ยกงพูด “ผมหวังว่าคุณจะรับเอาไว้”มันเป็นกล่องของขวัญที่สวยงามและของที่อยู่ด้านในจะต้องมีค่าอย่างแน่นอน
“ขอบคุณครับ แต่คุณไม่จําเป็นต้องทําแบบนี้เลย” หวังเย้าพูดด้วยรอยยิ้ม
เขาเชิญทั้งสองเข้ามาในห้อง หลังจากพูดคุยกันเล็กน้อยแล้วเจิ้งเหว่ยกงก็กลับไปพร้อมกับทิ้งของขวัญเอาไว้ที่นี่
หวังเย้าเปิดดู มันเป็นชุดชงชาที่ทําจากเซรามิก เพียงแวบแรกเขาก็รู้ว่าเป็นของดีมันเป็นสินค้าที่ถูกผลิตขึ้นในจึงเต๋อเจิ้น(นครเซรามิก)
บังเอิญจริงๆ ฉันกําลังอยากได้ชุดชงชาเอาไว้ที่นี่พอดี เขาคิด
เมื่อฟ้ามืด หวังเย้าก็ล็อกประตูและเตรียมตัวกลับไปทานอาหารเย็นที่บ้านระหว่างทางเขาพบกับจงหลิวชวนและเลี้ยจื้อจายที่กําลังวิ่งขึ้นเขากันอยู่