Elixir Supplier 815 ยิงผม

ตอนที่ 815 ยิงผม

ซูจือฉิงที่ยืนอยู่ด้านข้างหัวเราะและถามว่า “ทําไมเหรอครับ?”

“นายดูเองสิ” มู่เฉิงโจวส่งกล้องส่องทางไกลให้กับซูจือฉิง เขาหันหน้าไปถามหวังเย้าว่า“หมอหวัง อยากลองยิงปืนกลดูไหม?”

“เอาสิครับ!” หวังเย้าหยิบปืนไรเฟิลออโต้ขึ้นมา เขาเหนี่ยวไก กระสุนถูกยิงออกไปและเข้าเป้าที่ตั้งอยู่ไกล 100 เมตร จนเกิดเสียงดังปัง

“นี่มันของจริง!” ซูจือจึงวางกล้องลงและขยี้ตา เขาหันไปมองหวังเย้าที่ยืนอยู่ข้างเขา “น้องเขยบอกฉันมาตามตรง นายไม่เคยใช้เจ้านี่จริงๆเหรอ?”

“ไม่เคยเลยครับ” หวังเย้าพูด

“นายรู้ผลยิงของนายรึเปล่า?” ซูจือฉิงถาม

“น่าจะประมาณเก้าหรือไม่ก็สิบ” หวังเย้าตอบ มันอาจฟังดูเป็นการอวดว่าเขาสามารถมองเห็นได้ไกลแต่ด้วยการมองเห็นที่พิเศษของเขา เขาจึงสามารถมองเห็นตัวเลขที่อยู่เหนือเป้าได้

ท่าทางการยืนถือปืนของเขามั่นคงมากคนอื่นไม่สามารถมองเห็นว่าปืนขยับหรือสันได้เลยปืนไรเฟิลออโต้มีแรงถีบในตอนที่ยิงอย่างต่อเนื่องมันจึงเป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่ปืนจะเคลื่อนหรือสั่นในขณะที่ยิงออกไปแม้แต่ทหารเจนสนามยิงเขาก็ทําได้เพียงยืนให้มั่นคงและลดการเคลื่อนไหวลงให้น้อยที่สุดเท่านั้นแต่เมื่อหวังเข้าจับปืนมันก็ราวกับว่าปืนยึดแน่นอยู่กับที่โดยไม่มีการเคลื่อนแม้แต่น้อย

“นายทําแบบนั้นได้ยังไง?” ซูจือฉิงประหลาดใจมาก

“ผมก็แค่ยิงออกไป” หวังเย้าพูดกลั้วหัวเราะ

“นายพูดเหมือนธรรมดา แต่มันมีพลังทําลายล้างเป็นหมื่นเท่า อย่างกับว่า ที่พวกเราฝึกกันมา หลายปีไปอย่างเสียเปล่า” ซูจือฉิงตบหัวตัวเอง “เรื่องแรก นายยิงได้แม่นยํามาก เรื่องที่สอง ปลายกระบอกปืนนิ่งมาก นายรู้รึเปล่าว่าสองอย่างนี้มันไม่ใช่เรื่องปกติ? ถ้านายเป็นทหารที่ได้รับ การฝึก มันคงเป็นเรื่องที่พอรับได้ แต่นายเป็นแค่หมอที่ไม่เคยฝึกทหารมาก่อนด้วยซ้ํา มันน่า สับสนเกินไปแล้ว”

“ผมตอบเรื่องนั้นได้ครับ” หวังเย้าที่เงียบไปพักหนึ่งก่อนจะพูดขึ้นมา“เรื่องแรกผมสามารถมองเห็นได้ชัดกว่าคนอื่นผมก็เลยยิงได้แม่นเรื่องที่สองผมมีข้อมือที่แข็งแรงผมก็เลยสามารถจับ ปืนได้มั่นคง”

“ฟังดูธรรมดาเกินไปแล้ว!” ซูจือจึงพูด

“ไม่ใช่ว่ามันง่ายๆแค่นี้เหรอครับ?” หวังเย้าถาม

“ช่างเถอะ มาเปลี่ยนเรื่องแล้วลองปืนแบบอื่นดีกว่า” ซูจือจึงพูด

“ครับ ผมจะลองปืนสไนเปอร์” หวังเย้าหยิบปืนยาวขึ้นมา

“เทคนิคการยิงสําหรับปืนชนิดนี้จําเป็นต้องมีทักษะในระดับสูง” ซูจือจึงพูด“มันต้องมีการคํานวณระยะทาง, ความเร็วลม, และความชื่น”

“มีข้อกําหนดหลายอย่างเลยนะครับ” หวังเย้าพูดในตอนที่สํารวจดูปืน

“แน่นอนส์ การยิงปืนเป็นเรื่องเชิงลึกโดยเฉพาะการยิงระยะไกล” ซูจือฉิงพูด “พูดได้ว่าคนที่ยิงสไนเปอร์ก็คือคนที่ยิงปืนแม่นแต่ไม่ได้หมายความว่าคนที่ยิงปืนแม่นทุกคนจะยิงสไนเปอร์ได้จะต้องเป็นคนที่มีพรสวรรค์จริงๆเท่านั้นถึงจะทําได้”

“ยิ่งฟังผมก็ยิ่งอยากลอง” หวังเย้าพูด

เป้าถูกตั้งเอาไว้ไกลนับร้อยเมตรมันดูเล็กมากเมื่อมองด้วยตาเปล่า ทั้งยังมีลมพัดอ่อนๆด้วยหวังเย้าไม่เคยเรียนเทคนิคการคํานวณความเร็วลม,ความชื้น,และระยะทางมาก่อนเขาเพียงเหนี่ยวไกโดยไม่คิดอะไรมากเท่านั้นเกิดเสียงดังปังของกระสุนที่เข้าเป้า

“นายเล็งอะไรไว้?” ซูจือจึงถาม

“หัว” หวังเข้าตอบ

“ฟ้ว โชคดีที่คราวนี้นายยิ่งไม่ถูก ถ้าไม่อย่างนั้น ฉันคงต้องสงสัยการฝึกตลอดหลายปีในกองทัพของตัวเองเป็นแน่”ซูจือจึงพูดในขณะที่วางกล้องลง

“มีปืนอะไรอีกบ้างครับ?” หวังเย้าถาม

“เรามีปืนสั้น, ปืนยิงลูกระเบิด, และปืนกล” ซูจือฉิงพูดแล้วชี้ไปที่ปืนชนิดต่างๆ “นายอยากลองอันไหนล่ะ?”

“ผมลองทั้งหมดเลยได้ไหมครับ?” หวังเย้าถาม

“ได้สิ ลองได้ทั้งหมดเลย” ซูจือฉิงพูด

ภายในสนามยิงปืน เกิดเสียงลั่นไกอย่างต่อเนื่อง

มู่เฉิงโจวมองดูเวลาและพูดว่า “เอาล่ะ มันใกล้เที่ยงแล้ว เราไปกินข้าวแล้วค่อยกลับมาอีกทีแล้วกัน”

อาหารภายในโรงอาหารของกองทัพมีมากมายหลายอย่าง คุณภาพของอาหารสําหรับกองกําลังพิเศษสูงกว่ากองกําลังทั่วไป เพราะการฝึกของพวกเขานั้นหนักกว่ามากพวกเขาคือระดับ หัวกะทิพวกเขาถูกเลือกออกมาจาก 1 ใน 100 หรือ 1 ใน 1,000 หรือ 10,000 พวกเขารับภารกิจที่อันตรายที่สุดดังนั้นพวกเขาจึงมีสิทธิได้รับการดูแลเช่นนี้

“เป็นยังไง?” ซูจองถาม

“อม มันอร่อยครับ” หวังเย้าตอบ

“อยากดื่มหน่อยไหม?” มู่เฉิงโจวถาม

“ไม่ครับ ขอบคุณ ผมไม่ค่อยชอบดื่มเท่าไหร่” หวังเย้ายิ้มตอบ

ในตอนที่พวกเขากําลังทานอาหารกันอยู่นั้นมีทหารนายหนึ่งเดินเข้ามาหามู่เฉิงโจวพูดอะไรบางอย่างแล้วเดินออกไปหลังจากนั้นสักพักเขาก็กลับมา

“มีภารกิจเหรอครับ?” ซูจือจิ้งถามเสียงเบา

“ไว้ค่อยคุยหลังกินข้าวเสร็จ” มู่เฉิงโจวพูด

หลังจากทานอาหารกันเสร็จ พวกเขาก็ไปที่ที่พักที่ทางกองทัพจัดเตรียมไว้สําหรับหวังเย้า

“ฉันเพิ่งได้รับรายงายว่า คนกลุ่มนั้นโผล่มาที่ชายแดนอีกแล้ว” มู่เฉิงโจวพูด “พวกเขาร้องขอความตายจากพวกเรา”

“ผมจะนําทีมครั้งนี้เอง” ซูจือจึงพูด

“ถ้าไม่ว่าอะไร ผมอยากขอไปดูด้วย” หวังเย่าพูด

“นายน่ะเหรอ?” ซูจือจึงตกตะลึง

“ทําไมครับ? มันมีกฎข้อบังคับเหรอ?” หวังเย้าถาม

“สนามรบไม่ใช่ที่ที่ใช้ศิลปะการต่อสู้” ซูจือจึงพูด “ทั้งปืนและมีดล้วนไม่มีตานายไม่ควรไป”

เขากังวลเกี่ยวกับหวังเย้า ในเมื่อพวกเขาต้องทําภารกิจ การที่เขามาด้วยจะเป็นอันตรายได้

“ผมอาจช่วยสกัดคนที่ใช่วิธีการโจมตีแบบพิเศษได้นะครับ” หวังเย้าพูด “พี่วางใจได้เลยว่าผมจะไม่ไปเป็นตัวถ่วง”

มู่เฉิงโจวลังเล พวกเขาไม่เคยทําแบบนี้มาก่อน

“เอาแบบนี้เป็นไง พี่เรียกนักสู้มาสักสองสามคน แล้วผมจะสู้กับพวกเขาให้ด”หวังเย้าพูด

ซูจือฉิงยังไม่เห็นด้วยอยู่ดี “ฉันรู้ความสามารถของนาย แต่…”

“ผมอยากไปดูจริงๆ” หวังเย้าพูด

“ก็ได้ เราจะทําตามที่คุณเสนอและเลือกนักสู้มาสู้กับคุณดู” มู่เฉิงโจวพูด

ถ้าว่าตามความจริงในใจของเขา เขาก็หวังว่าหวังเย้าจะสามารถไปกับทีมได้เพื่อที่เขาจะสามารถช่วยชีวิตทหารที่ได้รับบาดเจ็บจากการโจมตีแบบพิเศษแต่เขาก็ต้องนึกถึงความรู้สึกของซูจือจิ้งด้วย

“ได้ครับ” หวังเย้าพูด

ไม่นาน ทหารห้านายก็ถูกเลือกมา พวกเขามาจากหน่วยพิเศษระดับหัวกะทิพวกมีความเชี่ยวชาญทั้งปืน,การต่อสู้,การขับยานพาหนะ,และอื่นๆ

“สู้กับเขา?” หนึ่งในพวกเขาตกใจ “ทําไมครับ?”

ในหมู่พวกเขาคือเพิ่งหรูชวง ที่เกือบเสียชีวิตจากการได้รับบาดเจ็บและได้รับการรักษาจนหายโดยหวังเย้า“นี่มันหมอที่ช่วยชีวิตฉันเอาไว้นี่”

“จริงเหรอ?” ทหารอีกคนถาม

“ฉันจะโกหกนายไปทําไมล่ะ?” เพิ่งหวชวงพูด

“ถ้าอย่างนั้นเขาก็เป็นหมอสินะ” ทหารคนนั้นพบว่าสถานการณ์น่าสนใจเป็นอย่างมาก

หวังเฝ้ามองเหล่านักรบที่แข็งแกร่งและพูดว่า “ผมพอจะรู้กังฟูอยู่บ้างและต้องการสู้กับพวกคุณพวกคุณไม่จําเป็นต้องยั้งมือแล้วก็สามารถใช้อาวุธได้ด้วย”

“หัวหน้ากําลังล้อเล่นอยู่ใช่ไหม?” เมิ่งหวชวงกระซิบถามซูจือจึง

“ไม่ได้ล้อเล่น ซูจือฉิงพูด “ฉันจะบอกอะไรนายอย่าง เขาเป็นยอดฝีมือกังฟู ที่ฉันเคยบอกนายครั้งก่อนยังไงล่ะ”

“แต่กังฟูก็ไม่ได้มีไว้เพื่อการสังหาร”เพิ่งหวชวงพูด

“เอาล่ะ พร้อมแล้วใช่ไหม?” มู่เฉิงโจวถาม

“พร้อมครับ” หวังเย้าพูด

“เริ่มได้!” มู่เฉิงโจวถอยออกไปเหลือที่ว่างไว้ให้พวกเขา

ทั้งสู้ทั้งหมดมองหน้ากันแต่ไม่มีใครลงมือ ชายที่ยืนอยู่ตรงหน้าพวกเขาดูสง่างามเขาดูไม่เหมือนคนที่รู้กังฟูเลยสักนิด

เมื่อเห็นท่าที่ลังเลของพวกเขา หวังเย้าก็ยิ้มและพูดว่า “ถ้าอย่างนั้นผมจะลงมือก่อน”

“ได้ คุณเริ่มก่อนเลย” ทหารนายหนึ่งพูด

หวังเย้าก้าวเข้าไปและไปโผล่ที่หน้าพวกเขาในพริบตา เขาพลิกมือแล้วทหารทั้งห้านายก็ปลิวออกไปกองกันอยู่ที่พื้นทุกอย่างเกิดขึ้นในพริบตาเดียวเท่านั้น

“หา เกิดอะไรขึ้น?” ทหารทั้งห้าที่กองอยู่ที่พื้นต่างตกตะลึง

ซูจือจิ้งก็อึ้งไปเช่นกัน ดวงตาของมู่เฉิงโจวเบิกกว้าง พวกเขามองไม่ทันว่าหวังเข้าจัดการพวกเขาได้ยังไง

“ทําไมเขาถึงได้เร็วขนาดนั้น?” ทหารนายหนึ่งพูด

พวกเขาทั้งห้าเริ่มมีท่าทีจริงจังมากขึ้น พวกเขาลุกขึ้นยืนและเข้าไปลอมหวังเย้า

“หมอหวัง ระวังตัว!” เมิ่งหวชวงตะโกนออกไปก่อนที่จะโจมตี

แล้วเขาก็นอนกองอยู่ที่พื้นในเวลาไม่นาน ทหารทั้งห้าต่างอยู่ในสภาพกลืนไม่เข้าคายไม่ออก

“นี่ น้องเขยของนายเรียนวิชาอะไรกันแน่?” ในที่สุดมู่เฉิงโจวก็ถามคําถามที่เขาสงสัยมานานออกไป

เขาคิด เขาเป็นหมอฝีมือดีตั้งแต่อายุยังน้อย แล้วเขาไปรู้วิชากังฟูแบบนี้มาได้ยังไง?เขายังเด็กอยู่แท้ๆ! มันไม่ดูลี้ลับเกินไปหน่อยเหรอ?”

เพิ่งหรูชวงพูดขึ้นก่อนคนแรก “ผมยอมแพ้!”

หวังเข้าไม่ใช่คนที่อยู่ระดับเดียวกับพวกเขา พวกเขามองไม่เห็นแม้แต่การเคลื่อนไหวของเขาถ้าเขาต้องการฆ่าพวกเขาพวกเขาก็คงจะจบชีวิตลงในไม่กี่วินาที

“พวกคุณคิดว่ายังไงครับ?” หวังเย้าหันหน้าไปหาลู่เจิ้งโจวและซูจือฉิง

“อึม ผมคิดว่าเราน่าจะลองดูได้” มู่เฉิงโจวพูดขึ้นมาหลังจากที่เงียบไปนาน

ซจือจึงดึงหวังเข้ามาคุยอีกด้าน “น้องเขย คิดให้ดีดีนะ มันอันตรายมาก ถ้าเกิดเรื่องขึ้นมาฉันจะบอกที่บ้านของนายกับเสี่ยวซวียังไง?”

หวังเย้าคิดอยู่ครู่หนึ่งและเดินไปที่สนามยิงปืน “มาครับ”

“จะทําอะไร?” ซูจือฉิงถาม

“ยิ่งผม” หวังเย้าพูด

“อะไรนะ?” ซูจือจึงไม่อยากเชื่อในสิ่งที่เขาได้ยิน

Elixir Supplier

Elixir Supplier

Score 10
Status: Completed

ตอนที่ 1-742 คลิกเพื่ออ่าน


ในหมู่บ้านที่ห่างไกล มีบ้านอยู่บนเนินเขาเพียงไม่กี่หลัง กลับดึงดูดผู้คนจากที่ห่างไกลพร้อมรถหรูราคาแพงให้เดินทางมาที่นี้ เพราะในเมืองมีชายหนุ่มที่สามารถรักษาได้ทุกโรคด้วยความสามารถทางการแพทย์อันน่าเหลือเชื่อ

Options

not work with dark mode
Reset