“เป็นเขาคนเดียวหรือว่าบริษัทอยู่เบื้องหลังเขา?” ซุนหยุนเชิงถาม
“จากข้อมูลที่ได้ ดูเหมือนกับเกี่ยวข้องกับบริษัทยาครับ” อาหาวตอบ
ตระกูลซุนเป็นตระกูลที่ร่ำรวยที่สุดในเมืองเต๋ และมีอํานาจในหมู่กองกําลังใต้ดินมากที่สุดเมื่อไหร่ที่พวกเขาต้องการบางอย่างพวกเขาก็จะได้รู้ในเวลาอันสั้นแต่พวกเขากลับไม่เคยสนใจเรื่องนี้มาก่อน
ในตอนนี้ ซุนหยุนเชิงเริ่มเป็นกังวลว่าตระกูลซุนจะถูกดึงเข้าไปเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ด้วยและอาจถูกคนอื่นใช้เป็นเครื่องมือโจมตีพวกเขาได้ดูเหมือนจะเกิดวิกฤตขึ้นแล้ว
“แล้วอวัยวะภายในพวกนั้นมาได้ยังไง?” เขาถาม
“หลักๆแล้วมาจากโรงพยาบาล บางส่วนมาจากผู้บริสุทธิ์” อาหาวพูด
“ผู้บริสุทธิ์?” ซุนหยุนเชิงตกตะลึง
“ในเมืองเต่มีพวกขอทานอยู่ด้วย” อาหาวพูด “หลายวันก่อนเจอร่างที่ไม่สามารถระบุตัวตนได้แล้วอวัยวะภายในของเขาก็หายไป”
“แล้วทําไมถึงไม่มีรายงานเรื่องนี้เลยล่ะ?” ซุนหยุนเชิงตกใจ เรื่องนี้ถือเป็นเรื่องใหญ่มาก
“มันถูกดึงเรื่องไว้ครับ” อาหาวพูด
“ใครทํา?” ซุนหยุนเชิงถาม
“รองหลินครับ” อาหาวตอบ “พวกเราเพิ่งมีเรื่องกับตระกูลโฮว ผู้นําเลยสั่งให้ถึงเรื่องนี้เอาไว้เพราะกลัวว่าจะเกิดปัญหาขึ้นอีกครับ”
ซุนหยุนเชิงส่งเสียงห์ ก่อนจะพูดว่า “สืบมา ฉันอยากรู้ว่าใครอยู่เบื้องหลังเรื่องนี้เร็วที่สุด”
“รับทราบ” อาหาวตอบรับ “หมอหวังจะต้องมาเพราะเรื่องนี้แน่ครับ แต่เขาไปรู้เรื่องนี้มาได้ยังไง?”
ยามค่ํามาเยือน ด้านนอกเริ่มมืดลง เจี้ยจื้อจายกับหูเหมยกําลังทานอาหารด้วยกันในร้านอาหารตระวันตก
“หมอหวังไปไหนแล้ว?” เธอถาม
“ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน” เจี้ยจื้อจายตอบ
“บอสยังอยู่ที่บริษัทเปล่า?” เธอถาม
“ยังอยู่ เขาออกจากบริษัทดึกทุกวัน” เจี้ยจื้อจายพูด “เธอสังเกตเห็นไหม ว่าช่วงนี้เขาแปลกไป?”
“แปลกไป? ยังไง?” หูเหมยถาม
“คนพูดกันว่า ผู้หญิงนั้นละเอียดอ่อนที่สุด เธอไม่เห็นเหรอว่าการเดินของเขาแปลกๆน่ะ?” เจี้ยจื้อจายถาม
“เดินแปลกๆ?” หูเหมยขมวดคิ้ว “ฉันไม่ได้สังเกตเรื่องนี้เลย อาจเป็นเพราะฉันเจอเขาแค่อาทิตย์ละครั้งเท่านั้น”
“คราวหน้าก็ใส่ใจเรื่องพวกนี้ให้มากแล้วกัน” เจี่ยจื้อจายพูด
“ความสนใจของฉันอยู่ที่นายหมดแล้ว” เธอพูด
เป็นเรื่องยากที่คู่รักคู่นี้จะอ่อนโยนและแสดงความหวานระหว่างกัน
บอสของบริษัทซื่อห่ายเทรดดิ้งออกจากบริษัทเป็นคนสุดท้ายในตอนสามทุ่มรถของเขากลับไปยังบ้านที่ตั้งอยู่ในหมู่วิลล่าหลายหลังหลังจากที่เขาขับเข้าไปจอดในโรงจอดรถและกําลังจะออกจากรถนั้น อยู่ๆเขาก็ได้กลิ่นหอมบางอย่าง
“หอมมาก” แล้วเขาก็รู้สึกตัวและกลั้นหายใจเอาไว้ แต่มันก็สายไปแล้ว “แย่แล้ว!”
เขาพึมพําแล้วล้มลงไปนอนอยู่ที่พื้น
“ไม่ใช่ว่าเขาเป็นยอดฝีมือหรอกเหรอ? ทําไมถึงได้ร่วงง่ายแบบนี้ล่ะ?” หวังเย้าเดินออกมาจากมุมหนึ่ง เขาคิดว่ามันดูง่ายเกินไป
เขาหายใจเป็นปกติร่างกายของเขาเกร็งเล็กน้อยมันไม่เหมือนอาการของคนถูกพิษเลยสักนิด
หวังเย้าเดินเข้าไปหาเขาอย่างช้าๆ อยู่ๆบอสที่นอนกองกับพื้นก็เด้งตัวขึ้นมาและกระโจนเข้าหาราวกับเสือดาวที่กําลังตะครุบเหยื่อ
น่าสนใจ! หวังเย้ารู้สึกได้ถึงพลังที่แข็งแกร่งจากชายวัยสี่สิบคนนี้ เปรี้ยงชก!
เขาชกออกไป หมัดแยกอากาศออก
ชายที่เพิ่งเด้งตัวจากพื้นถูกชกและปลิวออกไปชนเข้ากับกําแพงด้านหลังเขาจนร้องครางออกมาตัวกําแพงเกิดรอยแตกร้าวเป็นวงกว้าง
แค่ก! แค่ก! ถุย! เขาถ่มเลือดออกมาจํานวนหนึ่ง
หม? หวังเย้าได้กลิ่นตัวยาบางอย่างจากชายคนนั้น เขาถาม “ยังใช้ยาอยู่เหรอ?”
แค่ก! แค่ก! ชายที่ร่วงไปกองกับพื้นยังคงไอไม่หยุด เขารู้สึกทั่วทั้งร่างไร้กาลังเขายังรู้สึกได้ว่าหายใจลําบากขึ้น
“แกเป็นใคร?” เขาถาม
“แขก?” หวังเย้าตอบเป็นค่าถาม “บอสจางใช่ไหม?”
“ฉันเอง” เขาพูด
“เพื่อนเก่าคนหนึ่งของคุณขอให้ผมมาทักทายคุณ แล้วฝากถามมาด้วยว่าคุณจะจ่ายหนี้เมื่อไหร่” หวังเย้าพูด “พวกคนใหญ่คนโตนี่ขี้ลืมกันจริงๆ”
หวังเย้าโบกมือครั้งหนึ่ง แล้วบอสจางก็หมดสติไปเขาตรวจสอบร่างกายของเขาอย่างละเอียด เขาคิดว่าชายคนนี้ดูแปลกๆ แต่เขาก็ไม่แน่ใจว่ามีตรงไหนที่แปลก “มันแปลกตรงไหนนะ?”
แทนที่จะเอาร่างของบอสไปด้วย เขากลับใช้วิธีการบางอย่างทําให้บอสอยู่ในอาการโคม่าแทนหลังจากนั้น เขาก็หยิบกุญแจออกมาจากตัวบอสและเดินเข้าไปในบ้านแล้วก็เกิดการระเบิดขึ้นอย่างรุนแรง จนทําให้บ้านทั้งหลังถล่มลงมา
ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นหลังจากที่หวังเย้าเดินเข้าไปในตัวบ้านไม่ถึงสองนาทีด้วยซ้ำการระเบิดในตอนกลางคืนเป็นเรื่องน่าตกใจและได้ยินอย่างชัดเจน
กระจกของบ้านที่ไม่ไกลล้วนเกิดรอยร้าว เพื่อนบ้านใกล้เรือนเคียงต่างพากันตกใจพวกเขาพากันออกมาจากบ้านและมองดูบ้านที่ยังคงลุกเป็นไฟ “เกิดอะไรขึ้น?”
ไม่นานรถดับเพลิงก็มาถึง ใช้เวลานานหลายชั่วโมงกว่าจะดับไฟลงได้พวกเขาพบร่างหนึ่งถูกเผาอยู่ภายในวิลล่าหลังนั้นพวกเขาสันนิษฐานเบื้องต้นเอาไว้ก่อนว่าเป็นร่างของเจ้าของวิลล่าส่วนสาเหตุของการระเบิดยังคงอยู่ในขั้นตอนสืบสวนอยู่
“อะไรนะ? วิลล่าของบอสระเบิดงั้นเหรอ?”
เย็นวันนั้น กรรมการบริหารเกือบทุกคนได้รับข่าวอย่างรวดเร็ว
“แล้วบอสล่ะ?”
“ตอนนี้ยังไม่มีข่าว แต่พบร่างอยู่ในวิลล่าที่คาดว่าจะเป็นเจ้าของวิลล่า”
“ตายแล้ว?”
“เป็นไปได้ยังไง? เขาก็เหมือนกับแมวตัวหนึ่งที่มีหลายชีวิตทั้งยังนิสัยเหมือนกับจิ้งจอกแบบนั้นเขาจะตายง่ายๆได้ยังไงกัน?”
ภายในตึกที่ตั้งอยู่บนชายฝั่งทะเลของเมืองเต๋ หูเหมยอยู่ในอ้อมกอดเจี้ยจื้อจายกระซิบ “ตาย จริงเหรอ?”
“ไม่มีทาง! เขาจะตายง่ายๆแบบนั้นได้ยังไงกัน?”เจี้ยจื้อจายมองดูข้อความสั้นๆบนหน้าจอมือถือแล้วทําการค้นหาข้อมูลจากในอินเตอร์เน็ต “มันบังเอิญเกินไป”
“หรือว่าจะเป็น…” คําพูดของหูเหมยหยุดเอาไว้ก่อนจะพูดจนจบ
“ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาปลอมแปลงการตายของตัวเองสักหน่อย” เจี่ยจื้อจายพูด “ฉันกังวลเรื่องอื่นมากกว่า”
หูเหมยไม่ได้พูด แต่ริมฝีปากของเธอขยับเป็นค่าว่า “เชียนเชิง”
“ใช่ จะเป็นการดีที่สุดถ้าพวกเขาไม่เอาเรื่องนี้มาลงที่พวกเราแล้วจัดการทําความสะอาดครั้งใหญ่เหมือนครั้งที่ก่อน”เจี่ยจื้อจายจุดบุหรี่
วันใหม่เริ่มส่องสว่าง ผู้คนส่วนใหญ่ในเมืองเต่ไม่ได้รู้เลยว่าเกิดเรื่องใหญ่ขึ้นในคืนก่อน
“ระเบิดเหรอ?” ชายคนหนึ่งถาม
“ครับ เมื่อคืน แล้วยังเจอศพหนึ่งด้วย” ชายอีกคนพูด “พวกเขาสันนิษฐานว่าเป็นบอสจาง”
“ฉันเข้าใจแล้ว ไปได้” เขาขมวดคิ้วแล้วมองออกไปนอกหน้าต่าง “จางจวินนายทําอะไรอยู่กันแน่?
ริมทะเล ลมทะเลค่อนข้างรุนแรงและเสียงดังชายหนุ่มคนหนึ่งกําลังฝึกการต่อสู้อยู่การเคลื่อนไหวของเขาดูผ่อนคลายหลังจากจับไปหนึ่งรอบ เขาก็เดินเลียบไปตามชายหาด
กริ้ง! เบอร์แปลกได้โทรเข้ามา
“ฮัลโหล” หวังเย้าพูด
“เชียนเชิงเป็นอะไรรึเปล่า?” เจี่ยจื้อจายถาม
“ผมไม่เป็นอะไร” หวังเข้าตอบ “มีอะไรเหรอครับ?”
“เมื่อคืน เกิดระเบิดที่วิลล่าของจางเหว่ยน่ะสิ” เจี้ยจื้อจายพูด “ฉันเลยกังวลนิดหน่อยน่ะ”
“อ้อ ทุกอย่างเรียบร้อยดีครับ” หวังเย้าพูดกลั้วหัวเราะ
ตอนที่วิลล่าเกิดระเบิดขึ้น เขาอยู่ที่วิลล่าพอดี แต่การตอบสนองของเขาเป็นไปอย่างรวดเร็วเขาใช้อากาศครอบตัวเอาไว้เป็นการป้องกันและฟังก่าแพงออกไป เมื่อเกิดการระเบิดขึ้นเขาก็รีบออกจากตัววิลล่าและหลบหล็กกล้องวงจรปิดที่อยู่ใกล้ๆไปได้ มันอาจฟังดูง่ายดายแต่ความอันตรายนั้นมากพอที่คนทั่วไปจะรับมือได้ถ้าเขาไม่ได้เป็นอย่างทุกวันนี้ร่างของเขาคงกลายเป็นตอตะโกเพราะเปลวเพลิงไปแล้ว
“บอสของคุณเป็นกระต่ายป่าจอมเจ้าเล่ห์ที่ขุดรูไว้สามที่” หวังเย้าพูด
หลังการระเบิด เขาค่อนข้างมั่นใจว่าชายที่ขับรถกลับบ้านเป็นเพียงตัวปลอมเท่านั้นเพราะหวังเข้าไม่เคยพบจางเหว่ยมาก่อนและเคยเห็นจากในรูปภาพเท่านั้นเขาจึงแยกแยะความต่างระหว่างตัวจริงกับตัวปลอมไม่ได้ และตัวปลอมคนนี้ก็ค่อนข้างมีฝีมือทีเดียว
หวังเย้าแปลกใจที่เขาสามารถต้านทานพิษสลายกระดูกได้ แถมบนร่างของชายคนนั้นก็ยังมีกลิ่นยาจีนอยู่ด้วย ซึ่งเป็นกลิ่นที่เขาคุ้นเคย
“ใช่ เขาร้ายกาจเหมือนจิ้งจอก แถมยังมีเก้าชีวิตเหมือนแมว” เจี้ยจื้อจายพูด
“แล้วเคยเกิดเรื่องแบบนี้มาก่อนรึเปล่าครับ?” หวังเย้าถาม
“เคยส์ เขาเคยปลอมการตายของตัวเองเพื่อล่อเหยื่อ แล้วย้อมบริษัทด้วยเลือดมาก่อน”เจี้ยจื้อจายพูด
“เป็นแผนการที่ฉลาด” หวังเย้าพูด
“เชียนเชิง พวกเราเจอกันหน่อยไหม?” เจี้ยจื้อจายถาม
“ไม่ดีกว่า คุณอยู่ในที่แจ้ง” หวังเย้าพูด “เขาอยู่ในที่มืด พยายามหาให้ได้ว่าตัวจริงของเขาอยู่ที่ไหนผมเริ่มจะสนใจในตัวผู้ชายคนนี้มากขึ้นเรื่อยๆแล้ว”
“โอเค ฉันจะหาให้ได้เร็วที่สุด” เจี้ยจื้อจายวางสาย แล้วโยนมือถือลงไปในท่อระบายน้ำ