755 กลิ่นหรวนกู่(กระดูกอ่อน)
“มันได้ผล!” หวังเย้าเอาจุกไม้ปิดฝาขวด
เขาเดินเข้าไปสังเกตสภาพร่างกายของเจี๋ยจื้อจาย ก่อนจะยื่นมือออกไปจับชีพจร
“รู้สึกยังไงบ้าง?” หวังเย้าถามเสียงเบา
“ฟืดดด ซีดด ฟืดด” เจี๋ยจื้อจายรู้สึกหายใจลำบาก ถ้าเขายังพอมีแรงเหลือละก็ เขาคงจะจัดการสั่งสอนบทเรียนให้ไอ้หน้าอ่อนตรงไปนานแล้ว
เขาคิด แม่งเอ้ย! เขาใช้ฉันเป็นตัวทดลองยาและดูผลลัพธ์สินะ ไร้มนุษย์ธรรม! ยังจะมาถามอีกเหรอว่าฉันรู้สึกยังไง?
เพียงการสะบัดมือของหวังเย้าไม่กี่ครั้ง สายลมก็พัดพาเอากลิ่นลอยออกไปจากห้องจนหมด
จงหลิวชวนที่ยืนรออยู่ด้านนอกได้ยินเสียงที่ดังจากด้านในตัวบ้าน จึงหันไปมองดู แต่ก็ไม่ได้เดินเข้าไป อยู่ๆเขาก็ได้กลิ่นหอมบางอย่างลอยมาตามลม จากนั้นเขาก็รู้สึกมึนหัว โชคดีที่ความรู้สึกนั้นมาไวไปไว
“หลิวชวน เข้ามาได้แล้ว!” หวังเย้าที่อยู่ด้านในส่งเสียงตะโกนออกไป
จงหลิวชวนได้ยินเสียงเรียกจึงเดินกลับเข้าไปด้านใน เขาเห็นเจี๋ยจื้อจายนอนกองอยู่ที่พื้นราวกับหมาตายตัวหนึ่ง “หมอ เขา…”
“อ่อ ผมแค่ใช้เขาเป็นตัวทดลองยาน่ะ” หวังเย้าส่ายขวดกระเบื้องที่อยู่ในมือ “ยาได้ผลดีทีเดียว”
“เมื่อกี้ ตอนที่ผมยืนอยู่ข้างนออก ผมก็ได้กลิ่นหอมอ่อนๆ แล้วก็รู้สึกมึนหัว แต่ไม่นานก็หาย” จงหลิวชวนพูด
“อ่อ นั่นเป็นกลิ่นของยาน่ะ” หวังเย้าพูด “คุณได้กินยาสูตรพิเศษของผมไป เลยทำให้คุณต้านทานฤทธิ์ของยาตัวนี้ได้ เอาเขาลุกขึ้นมาแล้วมัดเขาไว้ ผมจะคอยดูว่าฤทธิ์ยาจะอยู่ได้นานแค่ไหน”
“ครับ หมอ” จงหลิวชวนตอบ
“เดี๋ยวนะ ฉันอยู่ในสภาพนี้แล้วยังคิดจะมัดฉันอีกเหรอ?” เจี๋ยจื้อจายถามอย่างอ่อนแรง
“กันไว้ดีกว่าแก้ยังไงล่ะ” หวังเย้าพูด “เอาล่ะ หลิวชวนคอยดูเขาเอาไว้นะ ถ้าเขาดูมีเรี่ยวแรงขึ้นมาเมื่อไหร่ให้บอกผมทันที”
หลังจากที่พวกเขาเดินออกมาจากห้องแล้ว จงหลิวชวนก็ถามขึ้นมาว่า “ยาตัวนี้มีชื่อว่าอะไรเหรอครับ?”
“คุณคิดยังไงกับชื่อ ผงซื่อเซียง?” หวังเย้าเสนอขึ้นมา
“ฟังดูดีนะครับ แต่ดูเหมือนว่าผมจะเคยได้ยินชื่อนี้จากที่อื่นมาก่อนน่ะครับ” จงหลิวชวนพูด
“หืมมม ผมไม่อยากมีปัญหาเรื่องลิขสิทธิ์ซะด้วยสิ” หวังเย้าพูด “งั้นชื่อ กลิ่นหรวนกู่ เป็นยังไง?”
ตัวยาที่เกิดขึ้นมาจากความซุ่มซ่ามของเขาเอง กลิ่นเฉพาะตัวของยานั้นได้มาจากกลิ่นของดอกเซียงซิวหลัว
หลังจากนั่งอยู่ที่บ้านของจงหลิวชวนได้สักพัก หวังเย้าก็กลับไปที่คลินิกของเขา
…
ทางใต้ของซินเจียง กั๋วเจิ้งเหอมองออกไปยังถนนเส้นเล็กๆของเมืองที่ห่างไกลแห่งนี้ เขาอยู่ที่นี่ได้ปีกว่าแล้ว เขาได้รับการเลื่อนตำแหน่งจากผู้ว่าของเมืองไปสู่ผู้ว่าเขตในเวลาอันสั้น ความสำเร็จเหล่านี้ล้วนเกิดจากความพยายามของเขาทั้งสิ้น โดยที่เขาไม่ได้ใช้ชื่อเสียงของตระกูลเข้ามาช่วยเลย
เสียงมือถือของเขาดังขึ้น หลังจากที่ได้ฟังอยู่ครู่หนึ่ง เขาก็ตอบกลับไปว่า “แน่ใจเหรอ? เอาล่ะ ผมเข้าใจแล้ว ทำดีมาก ทำต่อไปก่อน”
หลังจากวางสายเรียบร้อยแล้ว เขาก็มองออกไปนอกหน้าต่างด้วยใบหน้าที่นิ่งเฉย เขาถอนหายใจออกมา ไม่นานก็มีเสียงเคาะประตูดังขึ้น
เขาพูดเสียงเรียบ “เข้ามา”
“ผู้ว่าเขตครับ เรื่องที่คุณสั่งไปเรียบร้อยแล้วนะครับ” ชายคนนั้นพูด
“ครับ ผมเข้าใจแล้ว” กั๋วเจิ้งเหอพูด “กลับไปทำงานของคุณต่อเถอะ”
เขตเล็กๆแห่งนี้มีสถานที่พักผ่อนหย่อนใจอยู่ไม่มาก ในเนินเขาที่อยู่ไม่ไกลมีรีสอร์ทแห่งหนึ่งตั้งอยู่ วิลล่าบางหลังถูกสร้างไว้ใกล้กับตัวเนินเขา โดยไม่มีการทำลายต้นไม้และสภาพแวดล้อมเดิม มันเป็นโครงการที่กั๋วเจิ้งเหอรับผิดชอบหลังจากที่เขามาถึงที่นี่ ในตอนแรก เขาคิดจะพึ่งพาแค่ภูเขา, ความเขียวขจี, และสายน้ำที่ใสสะอาดเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยว แต่ดูเหมือนข้อมูลจะพิสูจน์ให้ได้เห็นว่า การสร้างวิลล่าขึ้นมาถือเป็นตัวเลือกที่ถูกต้อง
ผลจากความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นของประชาชนในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ผู้คนจึงเริ่มให้ความสนใจในเรื่องของคุณภาพชีวิตและการท่องเที่ยวมากขึ้นเรื่อยๆ ภาพวิวทิวทัศน์ในเมืองเล็กๆทำให้ผู้คนหลงเสน่ห์ ป่าเขาครอบคลุมพื้นที่ขนาดใหญ่สร้างความประทับใจแก่ผู้มาเยือน ตั้งแต่ที่รีสอร์ทบนเนินเขาถูกสร้างขึ้นมา ก็เริ่มมีคนจากเมืองใกล้เคียงเดินทางเข้ามา และยิ่งเพิ่มจำนวนขึ้นในช่วงหน้าร้อน
กั๋วเจิ้งเหอขับรถไปยังวิลล่าหลังหนึ่งของรีสอร์ท
“สวัสดีครับ ผู้ว่า” ชายคนหนึ่งพูด
“คนอยู่ไหนเหรอ?” กั๋วเจิ้งเหอถาม
“อยู่ในห้องครับ” เขาพูด
“ถ้าไม่มีคำสั่งจากผม ห้ามให้ใครเข้ามารบกวนเด็ดขาด” กั๋วเจิ้งเหอพูด
“เข้าใจแล้วครับ” ชายคนนั้นรับคำ
กั๋วเจิ้งเหอผลักประตูเข้าไปในห้อง ชายวัยสี่สิบที่หน้าตาและเสื้อผ้าล้วนธรรมดาอยู่ด้านใน
“สวัสดีครับ” กั๋วเจิ้งเหอพูด
เมื่อเห็นกั๋วเจิ้งเหอ เขาก็รีบลุกขึ้นทันที “สวัสดีครับ ผู้ว่ากั๋ว”
“เชิญนั่งครับ อย่าประหม่าเลยครับ” กั๋วเจิ้งเหอพูด “ทำไมถึงได้อยากเจอผมเหรอครับ?”
“คือ ช่วงนี้ผมมีปัญหาใหญ่น่ะครับ” เขาพูด “หลังจากคิดอยู่นาน ผมก็คิดถึงผู้ว่าได้แค่คนเดียวเท่านั้น”
“ปัญหาใหญ่? การปลูกสมุนไพรของคุณได้รับการสนับสนุนจากทางเขตมาตลอด แล้วจะมีปัญหาใหญ่ได้ยังไงล่ะครับ?” กั๋วเจิ้งเหอถามเสียงกลั้วหัวเราะ
ชายตรงหน้าดูธรรมดาสามัย แต่ความเป็นจริง เขากลับมีค่าอย่างมาก เขาคือผู้ปลูกสมุนไพรที่มีชื่อเสียงคนหนึ่งของเขต ในช่วงสิ้นปีของปีที่แล้ว เขาได้เข้าร่วมโครงการผลิตสมุนไพร และเขายังได้ร่วมลงทุนถึงยี่สิบล้านหยวน ตัวโครงการอยู่ภายใต้การดูแลของกั๋วเจิ้งเหอ และยังได้รับการสนับสนุนจากทางเขตด้วย การดำเนินการทุกอย่างเป็นไปอย่างราบรื่น
“คือ มันไม่เกี่ยวกับเรื่องโครงการหรอกครับ” ชายคนนั้นพูด
“แล้วเรื่องอะไรเหรอครับ?” กั๋วเจิ้งเหอถาม
ชายคนนั้นลังเลเล็กน้อย ก่อนจะพูดขึ้นมาว่า “ผมรู้สึกว่า ชีวิตของผมกำลังถูกคุกคามน่ะครับ”
“อะไรนะ?” สีหน้าของกั๋วเจิ้งเหอเปลี่ยนไป “จากใครครับ?”
“ผมไม่รู้ครับ” ชายคนนั้นส่ายหน้า “ช่วงหลังมานี้ผมถูกคนตามตลอด แล้วสมุนไพรบางตัวที่ผมปลูกอยู่ก็หายไปบางส่วนโดยที่ไม่มีใครรู้ด้วย”
“แล้วคุณได้แจ้งตำรวจรึยังครับ?” กั๋วเจิ้งเหอถาม
“ครับ แต่ก็ไม่ได้ผล” ชายคนนั้นพูด
กั๋วเจิ้งเหอลุกขึ้นและเดินไปมาอยู่ภายในห้อง “คุณมีศัตรูที่ไหนรึเปล่าครับ?”
“ไม่มี ผมเป็นแค่คนปลูกสมุนไพรคนหนึ่งเท่านั้น” ชายคนนั้นพูด
“แล้วสมุนไพรที่หายไปคือต้นอะไรครับ?” กั๋วเจิ้งเหอถาม
“เป็นสมุนไพรจำพวกโสมที่อายุได้สิบกว่าปีครับ” เขาพูด “ทั้งหมดเป็นโสมป่าและมีค่ามาก”
“แล้วทำไมคุณถึงคิดว่า ตัวเองกำลังถูกคุกคามอยู่ล่ะครับ?” กั๋วเจิ้งเหอถาม
“เอ่อออ ผมจะอธิบายยังไงดี?” ชายคนนั้นเกาหัว “ผมรู้สึกว่าตัวเองถูกพิษกู่ครับ!”
“อะไรนะ?” กั๋วเจิ้งเหอตกตะลึง
ในระหว่างที่เขามีอำนาจอยู่ในพื้นที่นี้ เขาเคยได้ยินเรื่องพิษกู่มาบ้าง มันเป็นวัฒนธรรมที่มีอยู่ฉพาะในทางใต้ของซินเจียง และมันก็มีความลึกลับมาก มีคนไม่มากที่เคยพบเห็นพิษกู่ของจริง รวมไปถึงกั๋วเจิ้งเหอ ถึงเขาจะเคยได้ยินมาบ้าง แต่ก็ไม่เคยได้เห็นกับตาตัวเองสักครั้ง
“พิษกู่อย่างนั้นเหรอครับ? แล้วคุณมีหลักฐานอะไรไหม?” เขาถาม
“สองวันมานี้ ผมรู้สึกไม่สบายท้องอยู่ตลอด แล้วผมก็ยังอ้วกหลายครั้งแล้วด้วย” เขาพูด “ทั้งยังมีหนอนออกมากับอ้วกของผมด้วย”
“แมลง? หรือว่าพยาธิ?” กั๋วเจิ้งเหอถาม
“ไม่ครับ ไม่ใช่” ชายคนนั้นพูด “มันไม่ใช่พวกพยาธิ มีคนมาหาผม แล้วพูดกับผมว่าเขาต้องการภูเขาที่ผมดูแลอยู่ และต้องการให้ผมส่งภูเขาให้กับเขา แต่ตอนนั้นผมไม่ได้ตกลงน่ะครับ”
“แล้วเขาได้ข่มขู่อะไรคุณไหม?” กั๋วเจิ้งเหอถาม
“ไม่ครับ เขาแค่บอกให้ผมคิดให้ดีดีเท่านั้น” ชายคนนั้นพูด
กั๋วเจิ้งเหอคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะถามขึ้นมาว่า “คุณรู้ไหมว่าเขาเป็นใคร?”
“ไม่รู้ครับ” ชายคนนั้นส่ายหน้า “ผู้ว่ากั๋ว ผมกลัวครับ ผมเคยให้คนสืบเรื่องนี้ดูแล้ว ท่าทางของพวกเขาเหมือนกับพวกเผ่าเมี่ยวเลยครับ”
“เผ่า?” กั๋วเจิ้งเหอถาม
“มันถูกเรียกว่า หุบเขาพันโอสถ ครับ คนที่อยู่ที่นั่นมีความสามารถพิเศษในเรื่องการปลูกสมุนไพรและทำยา” เขาพูด
“เอาล่ะ คุณไปตรวจที่โรงพยาบาลดูก่อนนะครับ” กั๋วเจิ้งเหอพูด “ถ้าเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นกับคุณอีก ให้คุณรีบแจ้งตำรวจทันทีเลยนะครับ”
กั๋วเจิ้งเหอไม่คิดจะจัดการกับเรื่องนี้เอง แต่เขาจะยังคงให้ความร่วมมือบางส่วน ในเมื่อชายคนนี้มาขอความช่วยเหลือจากเขาโดยตรง ชายคนนี้เป็นคนท้องถิ่นและได้รับความนับถือจากคนในพื้นที่ กั๋วเจิ้งเหอจึงต้องแสดงให้คนที่อยู่ภายใต้เขาได้เห็นว่า เขานั้นรักและพูดเพื่อคนของเขา ถ้าไม่อย่างนั้น เขาคงดูแลจัดการคนเหล่านั้นไม่ได้
“ครับ ผมเข้าใจแล้ว” ชายคนนั้นพูด
“โอเคครับ ถ้าโรงพยาบาลช่วยเรื่องนี้ไม่ได้ ผมจะบอกอีกที่หนึ่งที่คุณสามารถไปได้แทน แต่ถามเอ่ยชื่อผมเด็ดขาดนะครับ” กั๋วเจิ้งเหอพูด