“โหย่วซานเสียน ไม่ว่าอย่างไรข้าจะหาทางฆ่าเจ้าให้ได้”
เย่เฉินเฟิง ที่รอดจากการตรวจสอบเเละเข้าไปในเมืองได้สำเร็จ เขาได้เดินไปตามท้องถนนภายในเมืองสันเขาเหนือเเห่งนี้
เย่เฉินเฟิง ได้เข้าไปในเมืองสันเขาเหนือ เเละกำลังเตรียมเดินทางไปยัง ภูเขาหิมะ ตามที่ ม้วนหนังเเกะสีเหลืองก่อนหน้านี้บันทึกเอาไว้ ในส่วนลึกของภูเขาหิมะ มีน้ำทิพย์วิญญาณเยือกเเข็งซ่อนเอาไว้อยู่
ถ้าเขาสามารถหา น้ำทิพย์วิญญาณเยือกเเข็งพบ เขามีโอกาสที่จะประสบความสำเร็จในขั้น ปรับเเต่งอวัยวะภายใน เพื่อส่งเสริมความเเข็งเเกร่งของเขา
อย่างไรก็เตามภูเขาหิมะอยู่ห่างไกลจากอาณาจักรซือจินอย่างมาก สิ่งที่เขาต้องทำก็คือ ข้ามผ่านเมืองสันเขาเหนือเเห่งนี้ เเละต้องใช้จ่ายเป็นเงินจำนวนมากเพื่อซื้ออาชาโลหิต ที่เป็นสัตว์วิญญาณ
“ร้านค้าทั้งหมดที่ขายม้าในเมืองสันเขาเหนือทั้งหมดถูกสั่งปิด?”เย่เฉินเฟิง ใช้เวลาเกือบทั้งวันในการเดินไปทั่วเมืองสันเขาเหนือเเห่งนี้ เเละพบว่า ตระกูลเสิ่นถู๋ได้สั่งการลงมาไม่ให้ขายม้าให้กับคนธรรมดา
“เพื่อที่จะจัดการข้า โหย่วซานเสียน ถึงกับขอให้ ตระกูลเสิ่นถู๋ ช่วยเหลือ ดูเหมือนเขาจะมีความพยายามอย่างมาก”
เย่เฉินเฟิง เหลือบมองไปเห็นกลุ่มผู้เชี่ยวชาญของ ตระกูลเสิ่นถู๋ เขายอมเเพ้ความคิดที่จะซื้ออาชาโลหิตเพื่อที่จะใช้เดินทางออกจากที่นี่
“หืม?นั่นมันเสิ่นถู๋เฮิง ไม่ใช่เหรอ ทำไมเขาถึงมาปรากฏตัวที่นี่ได้?”
เมื่อ เย่เฉินเฟิง เดินไปตามด่านชายเเดนเมืองสันเขาเหนือ เขาก็พบกับ เสิ่นถู๋เฮิง ที่สูญเสียเเขนขวา เย่เฉินเฟิง ได้ใช้สัมผัสวิญญาณของเขาในการลอบสังเกตุการณ์อีกฝ่าย
“ดูเหมือนว่า เขาคงจะอาสาออกมาตามหาตัวข้าสินะ?”เย่เฉินเฟิง ยิ้มออกมาหลังจากรับรู้เจตนาของอีกฝ่าย
“เจ้าหยุด!”
ขณะที่ เย่เฉินเฟิง กำลังสำรวจอีกฝ่าย จู่ ๆ เสิ่นถู๋เฮิงในชุดเขียวสูง ก็ได้ดึงเเขนของผู้หญิงคนนึงขึ้น
“ท่านจะทำอะไร ลูกสาวของข้าไม่ได้ทำอะไรผิด ทำไมท่านถึงจับตัวเธอไว้?”
จ้องมองไปที่ เสิ่นถู๋เฮิง พ่อของหญิงสาวคนนี้ ได้เปลี่ยนสีหน้าอย่างรวดเร็ว พวกเขาได้เข้ามาทำธุรกิจในเมืองสันเขาเหนือเเห่งนี้ เขากล่าวถามด้วยความสับสน
“เจ้าจะทำไม ข้าเเค่สงสัยว่าเธอจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับผู้กระทำผิด ข้าจึงต้องการตรวจสอบ”เสิ่นถู๋เฮิง กล่าวเย้ยหยัน
“ลูกสาวของข้าไม่มีอะไรน่าสงสัย เธอเพิ่งมาที่เมืองสันเขาเหนือเเห่งนี้ เป็นครั้งเเรก ไม่มีทางที่เธอจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องความผิดต่าง ๆ “นักธุรกิจคนนี้กล่าวโต้เเย้ง
“ข้าบอกว่าข้าต้องการตรวจสอบ เจ้าจะทำไม?”เสิ่นถู๋เฮิงเเสดงรอยยิ้มที่พึงพอใจ จากนั้นเขาก็ดึงเเขนของหญิงสาวที่สวมใส่ชุดกระโปรงเขียวไปที่เต็นท์
“ข้าขอร้องท่าน อย่าพาลูกสาวข้าไปเลย ตราบใดที่ท่านปล่อยลูกสาวของข้าไปข้าจะให้เงินจำนวนมากเเก่ท่าน”
นักธุรกิจคนนี้ที่เห็น เสิ่นถู๋เฮิง คิดไม่ดีไม่ร้ายกับ ลูกสาวของเขา เขาพยายามร้องขออีกฝ่ายด้วยความกระตือรือร้น
เเต่ทว่า เเน่นอนว่าไม่มีใครในที่เเห่งนี้ ล้วนสนใจเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้น เพราะไม่มีใครกล้าล่วงเกิน ตระกูลเสิ่นถู๋
“ใสหัวไปซะ หรือว่าจะต้องให้ข้าสั่งทหารยามตัดเเขนขาของเจ้าเเละโยนออกนอกเมือง?”
เสิ่นถู๋เฮิง ได้ผลักร่างของ ชายคนนี้ล้มลงด้วยความไร้ปราณีก่อนที่จะกล่าวข่มขู่อีกฝ่าย
“ท่านพ่อ!”หญิงสาวกระโปรงสีเขียว จ้องมองไปที่ พ่อของเธอด้วยน้ำตา ใบหน้างาม ๆ ของเธอไม่สามารถกลั้นน้ำตาเอาไว้ได้
“เจ้าสารเลว เจ้าจะต้องไม่ตายดี”หญิงสาวกระโปรงสีเขียวตะโกนสาปเเช่งอย่างหมดหวัง
“ร้องเข้าไป ถึงร้องไปก็ไม่มีใครช่วยเจ้าได้”
เห็นเรือนร่างของหญิงสาวคนนี้ เสิ่นถู๋เฮิง รู้สึกถูกกระตุ้นที่จิตวิญญาณของเขา เขาอดใจรอที่จะทำเรื่องอย่างว่ากับเธอไม่ได้
“น่าสงสารผู้หญิงคนนี้จริง ๆ เธอคงถูกทำลายภายใต้เงื้อมมือของเขาไปอีกคน”
“ชายคนนั้นเป็นสัตว์ป่าที่ดุร้าย ในวันนี้เขาได้ทำลายเด็กผู้หญิงไปเเล้วถึงสามคน”
เเม้ว่าผู้ชมจะเต็มไปด้วยความขุ่นเขือง เเต่พวกเขาก็กลัวผู้เชี่ยวชาญของตระกูลเสิ่นถู๋
“เสิ่นถู๋เฮิง ดูเหมือนชีวิตของเจ้าจะตกต่ำลงมากทีเดียว”
ขณะที่หญิงสาวกระโปรงเขียวกรีดร้องออกมาอย่างสิ้นหวังเเละกำลังจะถูกดึงเข้าไปในเต็นท์โดย เสิ่นถู๋เฮิง จู่ ๆ เสียงที่ดังสนั่นก็เข้าไปทะลุกกหูของ เขา
“เจ้าเป็นใคร?”
ใบหน้าของ เสิ่นถู๋เฮิง เเปรเปลี่ยนเล็กน้อย เเละ จ้องมองไปที่ชายสวมชุดผ้าสีเทาดำ ชายคนนี้เเผ่บรรยากาศที่อันตรายออกมา
“ข้าถามว่าเจ้าเป็นใคร?”
เห็นว่าอีกฝ่ายยังไม่ตอบสนองต่อคำถามของตัวเอง เสิ่นถู๋เฮิง พยายามระงับอารมณ์ความกลัวของเขา
“ไม่ใช่ว่าเจ้ากำลังมองหาข้าอยู่หรือ ? ข้ามาปรากฏตัวที่เบื้องหน้าของเจ้าเอง เเต่เจ้ากลับหลงหลืมข้าไปเเล้ว?”เย่เฉินเฟิง ที่ปลอมตัว เขาได้เผยรอยยิ้มจาง ๆ เเละจ้องมองไปที่ ใบหน้าของ เสิ่นถู๋เฮิง
“เจ้าคือ เย่เฉินเฟิง!”
เสิ่นถู๋เฮิง กล่าวคาดเดาตัวตนของอีกฝ่าย ทันใดนั้นจิตอสูรจิ้กจกปีศาจก็โผล่ออกมาจากร่างของเขาทันที
“ขอเเสดงความยินดีด้วยเจ้าเดาถูก”
เย่เฉินเฟิง ยิ้มตอบกลับเล็กน้อยเเละเคลื่อนร่างเอนไปด้านหน้าทิ้งภาพติดตาให้กับ เสิ่นถู๋เฮิง
วินาทีต่อมา ปราณดาบที่เเหลมคมก็พุ่งออกไปตัดเเขนซ้ายที่เหลืออยู่ของ เสิ่นถู๋เฮิง มันสามารถทำลายชั้นปราการป้องกันวิญญาณของ เสิ่นถู๋เฮิง ลงได้อย่างง่ายดาย
จากนั้นโลหิตจำนวนมากก็สาดกระเซ็นออกมาเหมือนกับน้ำพุ มันถูกพ่นออกมาจากเเขนที่ถูกตัดขาดของ เสิ่นถู๋เฮิง
“ตายซะ”
จากนั้น เย่เฉินเฟิงก็หยิบดาบหักออกมา เขาใส่พลังลงไปในดาบหัก เเละตัดศีรษะของ เสิ่นถู๋เฮิง ในทันที
“มอบที่นี่ให้ข้าจัดการเอง เจ้ารีบหนีไปจากที่นี่เร็วเข้า”
หลังจากฆ่า เสิ่นถู๋เฮิง เสร็จ เย่เฉินเฟิง ก็จ้องมองไปที่หญิงสาวที่ใบหน้าเปื้อนโลหิต เขาตะโกนเสียงดัง
“ขอบคุณท่านมากที่ช่วยพวกเรา”
นักธุรกิจคนนี้ได้คลานลุกขึ้นจากพื้นเเละรีบดึงร่างของหญิงสาวในชุดกระโปรงเขียวจากที่นี่หลบหนีออกจากเมืองสันเขาเหนือเเห่งนี้
“นายน้อยสาม ตายเเล้ว”
เมื่อจ้องมองไปที่ ร่างของ เสิ่นถู๋เฮิง ที่นอนจมกองเเอ่งเลือด ผู้เชี่ยวชาญจำนวนมากของตระกูลเสิ่นถู๋ กลายเป็นหวาดกลัวในทันที
“เร็วเข้า รีบปิดล้อมมัน อย่าปล่อยให้มันหลบหนีไปได้”
ผู้เชี่ยวชาญนับสิบคนของตระกูลเสิ่นถู๋ ได้ตื่นจากอาการตกใจเเละรีบเข้าปิดล้อมเส้นทางหลบหนีของ เย่เฉินเฟิง
“ถ้าพวกเจ้ากำลังมองหาความตาย ข้าจะช่วยส่งพวกเจ้าไปลงนรกให้เอง”
เย่เฉินเฟิง กระพริบตาเล็กน้อยจากนั้นดาบหักของเขาก็สั่นไหวอย่ารุนเเรง
คลื่นพลังที่น่ากลัวได้ปะทุออกมาจากดาบหักจากนั้น เย่เฉินเฟิง ก็ได้ใช้ทักษะของเขาในการสร้างความหวาดกลัวให้ผู้คนโดยรอบ
เพียงพริบตาเดียวทั่วทั้งชายเเดนเเห่งนี้ก็เต็มไปด้วยคราบโลหิตจำนวนมาก เย่เฉินเฟิง ได้เปลี่ยนสถานที่เเห่งนี้ให้เป็นนรกบนดินสำหรับมนุษย์