“เจ้าคือ เย่เฉินเฟิง?”
เมื่อเห็นการปรากฏตัวของ เย่เฉินเฟิง,โหย่วซานเสียน ได้จ้องมองไปที่อีกทิศทางหนึ่งด้านหน้าของเขา
“เจ้าไม่เป็นอะไรใช่มั้ย?”
เย่เฉินเฟิง ไม่สนใจ โหย่วซานเสียน เขากล่าวถาม จี้ฉิงเสวี่ย เป็นอันดับเเรก
เห็นสายตาของ เย่เฉินเฟิง ที่จ้องมองมาที่ตนเอง จี้ฉิงเสวี่ย ร่างกายของเธอสั่นไหวด้วยความสุข น้ำตาได้ปรากฏคลอบนหางตาทั้งสองของเธอ
เธอไม่คิดเลยว่า เย่เฉินเฟิง จะปรากฏตัวขึ้นเพื่อช่วยเหลือเธอในสถานการณ์ที่คับขันเเละสิ้นหวังที่สุด
“ข้าไม่เป็นอะไร!”
จี้ฉิงเสวี่ย สั่นศีรษะ เเละ กัดริมฝีปากของเธอเเน่น เธอพยายามไม่ให้น้ำตาไหลลงมา
“เย่เฉินเฟิง เจ้าช่างหยิ่งยโสสมคำร่ำลือจริง ๆ “
โหย่วซานเสียน ที่เห็น เย่เฉินเฟิง ไม่สนใจตัวเอง เเววตาของเขาเผยเเววเเห่งโทสะออกมา
“เจ้าไม่ใช่คนของนิกายเพลิงผลาญฟ้าส่วนนอก?”
เมื่อรับรู้ได้ถึงเเรงกดดันจากความเเข็งเเกร่งของ โหย่วซานเสียน เย่เฉินเฟิง คาดเดาตัวตนของอีกฝ่าย ไม่มีทางที่ศิษย์คนนึงที่มีความเเข็งเเกร่งระดับนี้จะเป็นของนิกายส่วนนอก
“ไม่เลวเลย”โหย่วซานเสียน พูดอย่างหยิ่งยโส”เย่เฉินเฟิง ข้าจะให้โอกาสเจ้า ถ้าเจ้าส่งผู้หญิงคนนั้นให้ข้าเเต่โดยดีข้าจะไม่ทำร้ายเจ้า”
“เเละถ้าข้าตอบว่าไม่ล่ะ?”
“เช่นนั้นเจ้าก็รอรับผลกรรมที่ตามมาหากคิดจะท้าทายข้า!”โหย่วซานเสียน เเผดเสียงคำรามออกมาอย่างบ้าคลั่ง
“เย่เฉินเฟิง อย่าประมาท”เมื่อเห็นว่า เย่เฉินเฟิง ไม่รู้เรื่องอะไรปรากฏตัวขึ้น อาวุโสหลิวได้กล่าวพูดขึ้นทันที”โหย่วซานเสียน เป็นศิษย์ตำหนักหยินหยางฝ่ายในของ นิกายเพลิงผลาญฟ้า เขาเป็นผู้เชี่ยวชาญระดับปฐพีขั้น 5 ปู่ของเขา เป็นผู้อาวุโสของตำหนักหยินหยาง ไม่ว่าจะเป็นความเเข็งเเกร่ง หรือพื้นหลัง เจ้าไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขา”
“หลานของผู้อาวุโสตำหนักหยินหยาง?”
เย่เฉินเฟิง ในที่สุดเขาก็เข้าใจว่าทำไม โหย่วซานเสียน ถึงกล้าจองหองมากขนาดนี้
“เย่เฉินเฟิง ข้าจะทำให้เจ้ารู้ถึงผลลัพธ์ที่กล้าท้าทายข้า”
โหย่วซานเสียนจ้องมองไปที่ เย่เฉินเฟิง ที่ทำตัวกบฏต่อเขาอย่างเปิดเผย เขาได้เผยอารมณ์บ้าคลั่งออกมา จากนั้น เเรดยักษ์ที่มีความยาวเกือบ 5 เมตร ก็ปรากฏตัวขึ้น ก่อนที่จะพุ่งออกไป หวังจะเหยียบย่ำ เย่เฉินเฟิง
“ปราณดาบเเท้จริง”
เห็นปีศาจเเรดยักษ์ พุ่งเข้ามาที่เบื้องหน้าของตัวเอง เย่เฉินเฟิง ได้ใช้ปราณดาบของเขา เพื่อโจมตีไปที่ร่างกายของ เเรดยักษ์นั่น
“ปั้ง”
ภายใต้การโจมตีของ เย่เฉินเฟิง เเรดยักษ์ที่เเข็งเเกร่งนั่นได้เเผดเสียงร้องคำรามออกมาก่อนที่มันจะพุ่งหาเขาด้วยความโกรธเคือง
ฟุ่บ
เย่เฉินเฟิงไม่คิดเลยว่า ปีศาจเเรดยักษ์ จะมีพละกำลังที่เเข็งเเกร่งเเละน่ากลัวขนาดนี้ ปราณดาบเเท้จริงของเขาไม่สามารถทำอันตรายร่างของมันได้ เสียงฝีเท้าที่บ้าคลั่งของ เเรด ได้พุ่งเข้ามาหาตนเองจากไม่ไกล เย่เฉินเฟิง ได้ใช้ทักษะร่างเเปลงเงา เคลื่อนตัวไปที่ทิศทางของ จี้ฉิงเสวี่ย ก่อนที่จะโอบกอดเธอเพื่อหลบไปด้านข้าง
“ปั้ง!”
บ้านไม้ที่ จี้ฉิงเสวี่ย อาศัยอยู่ ได้ถูกทำลายจากการพุ่งชนเเละทรุดตัวลงทันที เสียงขนาดใหญ่เหล่านี้ได้ดังไปทั่วนิกายเพลิงผลาญฟ้าส่วนนอก
“เย่เฉินเฟิง ข้าเองก็อยากจะรู้ว่าเจ้าจะสามารถรับมือ โหย่วซานเสียน ได้อย่างไร?”ในระยะไกลจากตำเเหน่งของ เย่เฉินเฟิง เสิ่นถู๋กวง ได้จ้องมองไปที่ การต่อสู้ที่เกิดขึ้นเเละเฝ้ามองอยู่ห่าง ๆ
เขารู้สึกยินดีอย่างมาก ที่ เย่เฉินเฟิง ได้ไปกระตุ้นโทสะของ โหย่วซานเสียน เรื่องนี้ทำให้ เขาประสบความสำเร็จตามเเผนเช่นเดียวกัน
เพราะยังไงเขาก็ต้องการยืมมือ โหย่วซานเสียนในการฆ่า เย่เฉินเฟิง
“ศิษย์ฝ่ายในนั้นเเข็งเเกร่งเกินไป ตอนนี้ข้าไม่ใช่คู่มือของ โหย่วซานเสียนด้วยซ้ำ”เย่เฉินเฟิงถอนหายใจเข้าลึกเเละพยายามระงับอารมณ์ต่าง ๆ ที่ปรากฏบนใบหน้าของเขา
“เฉินเฟิง เจ้าไม่เป็นอะไรนะ?”
จี้ฉิงเสวี่ย ที่อยู่ในอ้อมเเขนของ เย่เฉินเฟิง หลังจากเห็นการหายใจที่หอบถี่ของ เย่เฉินเฟิง เธอรู้สึกกังวลอย่างมาก
“ไม่เป็นไร เจ้ารอข้าอยู่ตรงนี้ห้ามไปไหน”
เย่เฉินเฟิง สั่นศีรษะเเละหยิบดาบหักออกมาจากถุงจักรวาลของเขา เขาก้าวเดินไปข้างหน้าอย่างหนักหน่วง
“นายน้อยโหย่ว ที่นี่คือสถานที่พำนักของศิษย์ฝ่ายนอกของนิกายเพลิงผลาญฟ้า ท่านไม่ควรจะทำแบบนี้”อาวุโสหลิวเเละอาวุโสถาน ที่เห็นสถานการณ์เริ่มไม่ดี เขาพยายามเป็นสื่อกลางในการห้ามปราม
“เหอะ,ไม่ใช่ว่าข้าสั่งให้พวกเจ้าใสหัวไป พวกเจ้าไม่ได้ยินที่ข้าสั่งงั้นเหรอ?”โหย่วซานเสียน ได้กล่าวเตือนอีกครั้ง”หากพวกเจ้าไม่ไปซะตอนนี้อย่าข้าว่าข้าโหดร้ายกับพวกเจ้า”
“ท่าน…”
อาวุโสหลิวเเละอาวุโสถานสั่นด้วยความกลัว ไม่ใช่ว่าเขาไม่กล้าต่อสู้ เเต่เพราะศักดิ์ฐานะของ โหย่วซานเสียน นั้นสูงเกินไป พวกเขาไม่สามารถทำอะไรได้
“เย่เฉินเฟิง ตอนนี้เจ้าคงรู้ความเเตกต่างระหว่างพวกเราเเล้วใช่หรือไม่”โหย่วซานเสียนพูดอย่างดูถูกอีกฝ่าย”เเต่ข้าจะให้โอกาสเจ้าอีกครั้ง ตราบใดที่เจ้าคุกเข่าลงที่เบื้องหน้าของข้าเเละโขกศีรษะขอขมาร้อยครั้ง บางทีข้าอาจจะปล่อยชีวิตสุนัขน้อย ๆ ของเจ้าไป”
“โหย่วซานเสียน ไว้ค่อยพูดตอนเจ้าสามารถชนะข้าได้ก่อนเถอะ”
เย่เฉินเฟิง สูดลมหายใจเข้าลึก ในตอนนี้พยายามปรับรากฐานการบ่มเพาะพลังที่ไม่มั่นคงของเขาด้วย
หลังจากที่เก็บตัวฝึกฝนในพื้นที่ลานบ้านของเขา เย่เฉินเฟิง ก็ติดคอขวด เเละ ใกล้จะทะลวงระดับ เเต่เขาฝืนกลั้นมันไว้เพื่อปรับรากฐานการบ่มเพาะพลังของเขา
เพราะว่าก่อนหน้านี้ เย่เฉินเฟิง ได้ทะลวงระดับขั้นพลังรวดเร็วเกินไป หากเขาฝืนทะลวงระดับขั้นพลังอีกครั้ง รากฐานการบ่มเพาะพลังของเขาจะไม่มั่นคง
“เจ้าใกล้จะตัดผ่านขอบเขตขั้นพลัง?”
เมื่อรู้สึกได้ถึงลมหายใจของ เย่เฉินเฟิง ที่กำลังพุ่งสูงขึ้น โหย่วซานเสียน เเสดงสีหน้าเเปลก ๆ เขาไม่คิดเลยว่า เย่เฉินเฟิง ใกล้จะทะลวงระดับขั้นพลังในตอนนี้
“น่าสนใจ,น่าสนใจจริง ๆ เเต่เจ้าไม่คิดหรือว่ามันไร้ประโยชน์เเม้ว่าเจ้าจะสามารถบุกทะลวงกลายเป็นผู้ใช้จิตอสูรระดับชำนาญขั้น 6 ได้ในตอนนี้?”โหย่วซานเสียน เผยเจตนาฆ่าที่รุนเเรงออกมา”ข้าสามารถฆ่าเจ้าได้อย่างง่ายดายราวกับเชือดไก่ตัวหนึ่ง”
“ปะทุขั้นพลัง”
เย่เฉินเฟิง ได้อาศัยเเรงกดดันของ โหย่วซานเสียนในการปรับรากฐานพลังของเขา จากนั้น เย่เฉินเฟิง ก็ทะลวงระดับกลายเป็นผู้ใช้จิตอสูรระดับชำนาญขั้น 6 พละกำลังความเเข็งเเกร่งของ เย่เฉินเฟิง พุ่งสูงขึ้นถึง 70,000 จิน มวลอากาศโดยรอบตอนนี้ไม่สามารถเข้าถึงตัวของเขาได้
“หืม?”
สัมผัสได้ถึงความเเข็งเเกร่งทางพละกำลังทางกายที่น่าทึ่งของ เย่เฉินเฟิง ใบหน้าที่ เย่อหยิ่งของ โหย่วซานเสียนได้เเข็งค้าง เพราะเเม้เเต่ตัวเขาก็ไม่ได้ครอบครองความเเข็งเเกร่งทางร่างกายที่เเข็งเเกร่งขนาดนี้
“ทักษะร่างเเปลงเงา”
หลังจากระเบิดพละกำลังความเเข็งเเกร่งออกมาทั้งหมด เย่เฉินเฟิง ก็ได้พุ่งออกไปอย่างรวดเร็ว ก่อนที่จะปรากฏตัวขึ้นที่ด้านหลังของ โหย่วซานเสียน
“บัดซบ,ศิษย์ภายนอกอย่างมัน จะสามารถครอบครองทักษะวิญญาณระดับนี้ได้อย่างไร?”
เมื่อเห็น เย่เฉินเฟิง หายตัวไปเเละปรากฏขึ้นที่ด้านหลังของเขา โหย่วซานเสียนรู้สึกตกตะลึงมาก เพราะทักษะการเคลื่อนไหวที่รวดเร็วเช่นนี้ เเม้เเต่ตำหนักศิษย์ฝ่ายใน ยังถือว่าเป็นทักษะที่หาได้ยากยิ่ง
“ปราณดาบ”
ทันทีที่ปรากฏตัวขึ้นที่ด้านหลังของ โหย่วซานเสียน ปราณดาบที่บ้าคลั่งก็ได้พวยพุ่งออกมาจากดาบหักมันได้พุ่งโจมตีใส่ด้านหลังของ โหย่วซานเสียน
“คลื่นเพลิงทะลวงวิญญาณ”
โหย่วซานเสียน ได้ตอบสนองในทันที จากนั้น เขาก็ปลดปล่อยทักษะวิญญาณของเขาออกมา
ปราณดาบที่บ้าคลั่งได้ปะทะกับคลื่นเพลิงทะลวงวิญญาณของ โหย่วซานเสียน เเต่ทว่า คลื่นเพลิงทะลวงวิญญาณของ โหย่วซานเสียนได้ทำลายปราณดาบของ เย่เฉินเฟิง จนทะลุโจมตีโดนอีกฝ่าย
“อั๊ก”เย่เฉินเฟิงสำลักโลหิตคำโตออกมา เขาพยายามกัดริมฝีปากเเน่น เเละ ใช้ทักษะพุ่งโจมตีไปที่หน้าอกของโหย่วซานเสียน พละกำลังมากกว่า 70,000 จิน ได้ระเบิดออกมา
“ปั้ง”
โหย่วซานเสียนที่ไม่สามารถตอบสนองการโจมตีของ เย่เฉินเฟิงได้ทัน ท้องของเขา ถูกพละกำลังมากกว่า 70,000 จินทะลวง กระดูกซี่โครงของเขาได้เเตกหักหลายส่วน
ในการต่อสู้ที่ดุเดือดครั้งนี้พวกเขาทั้งคู่ต่างฝ่ายต่างได้รับบาดเจ็บ