“ขอบคุณอาวุโสหยู สำหรับทักษะวิญญาณระดับกลางอย่าง ตราประทับอสรพิษโลหิต”เย่เฉินเฟิงจ้องมองไปที่อาวุโสหยูด้วยสีหน้าเยาะเย้ยเเละพูดอย่างจงใจ”ข้ารู้สึกพึงพอใจทักษะนี้มาก”
พลังของตราประทับอสรพิษโลหิตนั้น รุนเเรงมากกว่า ทักษะดัชนีทะลวงวิญญาณ เเม้ว่าศิษย์อาวุโสจากนิกายเพลิงผลาญฟ้าต้องการที่จะเเลกเปลี่ยนทักษะนี้จากตำหนักทักษะวิญญาณพวกเขาจะต้องสูญเสียเงินเเละใช้จ่ายจำนวนมาก
ในทางตรงกันข้าม เย่เฉินเฟิง กลับสามารถได้รับทักษะตราประทับอสรพิษโลหิตมาโดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใด ๆ ทั้งเขายังได้รับโอสถเก้าวิญญาณที่เป็นของรางวัลจากอาวุโสหยูต่อหน้าทุกคน ที่เป็นการตบหน้าอาวุโสหยูอย่างเห็นได้ชัด
“เป็นไปได้ไหมว่า เย่เฉินเฟิง จะสามารถเข้าถึงโลกเเห่งการตรัสรู้ได้”อาวุโสหลิวกล่าวคาดเดาในใจ
โลกเเห่งการตรัสรู้ เป็นโลกมิติในจิตใจที่ลึกลับ เมื่อเข้าไปเเล้วความเร็วในการบ่มเพาะพลังเเละความเข้าใจในการตีความนั้นจะเพิ่มมากขึ้น เเต่อย่างไรก็ตามมีหลายคนที่ไม่สามารถเข้าสู่โลกเเห่งการตรัสรู้ได้ถึงเเม้จะใช้ชั่วเวลาทั้งชีวิตก็ตาม
“อัจฉริยะ เป็นอัจฉริยะที่สวรรค์ประทานอย่างเเท้จริง เย่เฉินเฟิง ความสามารถของเจ้านั้นโดดเด่นมากกว่าใครทุกคนที่ข้าเคยพบ เเม้เเต่ในนิกายเพลิงผลาญฟ้าก็ยังยากที่จะหาคนที่มีพรสวรรค์เทียบกับเจ้าได้ เจ้าสมควรได้รับอันดับหนึ่งในการทดสอบครั้งนี้อย่างเเท้จริง”อาวุโสหลิว กล่าวออกมาอย่างตื่นเต้น เขาไม่ได้ปิดบังความชื่นชมที่มีต่อ เย่เฉินเฟิง
“อาวุโสหลิว เนื่องจากข้าสามารถพิสูจน์ความไร้เดียงสาของข้าได้เเล้ว เช่นนั้นพวกเรามาพูดถึงเรื่องของ เสิ่นถู๋เย่ เเละ คนอื่น ๆ ที่สมรู้ร่วมคิดในการลอบสังหารข้าได้เเล้วใช่หรือไม่”
เย่เฉินเฟิง จ้องมองไปที่ ชางกวนเป็ง เสิ่นถู๋เย่ เเละ เสิ่นถู๋เสวี่ย เเละกล่าวพูดอย่างเยือกเย็น
ตราบเท่าที่ เย่เฉินเฟิง ได้รับเวลาที่เพียงพอ เขาย่อมสามารถจัดการ เสิ่นถู๋เสวี่ย เเละอีกสองคนได้ด้วยตนเอง ดังนั้นสิ่งที่เขาต้องการตอนนี้ก็คือความยุติธรรม
“ไม่ต้องกังวล หากเรื่องที่เจ้าพูดเป็นความจริง นิกายเพลิงผลาญฟ้าจะให้คำตอบที่น่าพึงพอใจเเน่นอน”อาวุโสหลิวตอบกลับอย่างรวดเร็ว
“เย่เฉินเฟิง เจ้าอย่าได้ใส่ร้ายพวกเรา พวกเราจะวางเเผนลอบสังหารเจ้า เเละ ฆ่า เหวิ่นเฟยหงไปทำไม อีกอย่างด้วยความสามารถของเจ้า เจ้าเองก็สามารถฆ่า เหวิ่นเฟยหง ได้”เสิ่นถู๋เย่ กล่าวออกมาพร้อมกับสูดลมหายใจเข้าลึก เขากำลังพยายามระงับความกลัวในใจของเขา
“ข้าไม่มีความจำเป็นจะต้องฆ่า เหวิ่นเฟยหง อีกอย่างเป็นพวกเจ้าต่างหากที่ฆ่าเขาตายอย่างโหดร้าย”เย่เฉินเฟิง จ้องมองไปที่ เสิ่นถู๋เย่ เเละ อีกสองคนพร้อมกับตอบกลับอย่างใจเย็น
“เหวิ่นเฟยหง ตายเเล้ว!”
หลังจากได้ยินข่าวนี้คนที่ตกตะลึงมากที่สุดก็คือ จี้ฉิงเสวี่ย เธอจ้องมองไปที่ เย่เฉินเฟิง ด้วยสีหน้าที่เเตกต่างออกไป
“เย่เฉินเฟิง ข้าไม่รู้ว่าทำไม เจ้าถึงต้องการหาเรื่องพวกเรา ถ้าเจ้ายืนกรานเช่นนั้นจริง ไหนล่ะหลักฐาน หากไม่มีเจ้าก็ไม่ควรพูดจาใส่ร้ายพวกเราแบบนี้”ชางกวนเป็งพูดออกมาด้วยสีหน้าน่าเกลียด
“ถ้าเจ้าต้องการหลักฐานได้ ข้าจะช่วยสงเคราะห์ให้”
เย่เฉินเฟิง ได้หยิบศิลาบันทึกที่ จี้ฉิงเสวี่ยให้มาก่อนที่จะกล่าวพูดขึ้น”ข้าได้บันทึกเหตุการณ์ที่พวกเจ้าฆ่า เหวิ่นเฟยหง โดยใช้ศิลาบันทึกนี่ ทีนี้พวกเจ้ายังกล้าไม่ยอมรับความจริงอีกหรือไม่?”
เย่เฉินเฟิง ยกศิลาบันทึกในมือของเขาขึ้นมาชูให้พวก เสิ่นถู๋เสวี่ย,เสิ่นถู๋เย่ เเละ ชางกวนเป็ง เห็น คราวนี้สีหน้าของทั้งสามคนได้เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว เเม้เเต่ในบรรดา เสิ่นถู๋เย่ ที่มีส่วนร่วมน้อยที่สุด คราวนี้ยังปรากฏเหงื่อเย็นบนหน้าผากของเขา
“ทำไมพวกเจ้าไม่พูดอะไรเลยล่ะ?”เย่เฉินเฟิงยิ้มออกมาเเละจ้องมองไปที่ใบหน้าที่ซีดขาวของพวกเข้า”เจ้ายังกล้าหาว่าข้าพูดจาหลอกลวงอยู่อีกหรือไม่?”
“พวกสารเลวน้อยทั้งสาม พวกเจ้ากล้าปิดบังความจริงกับข้างั้นเรอะ!! ถ้าพวกเจ้ายังไม่เล่าความจริงออกมาเชื่อหรือไม่ว่าข้าจะฆ่าพวกเจ้าตอนนี้”เห็นการเเสดงออกของทั้งสามคน อาวุโสหลิวได้เผยเจตนาฆ่าที่รุนเเรงจากร่างของเขา
“น้องเย่พวกเราผิดไปเเล้วได้โปรดยกโทษให้พวกเราด้วย อาวุโสหลิว พวกเราสำนึกผิดเเล้วได้โปรดละเว้นพวกเราด้วย”
เมื่อสถานการณ์ตึงเครียดเเละเห็น อาวุโสหลิว เผยเจตนาฆ่าที่รุนเเรงออกมา เสิ่นถู๋เสวี่ย ได้พูดสารภาพออกมาเป็นคนเเรก
“น้องเย่ได้โปรดให้อภัยพวกเราด้วย ข้ายินดีชดใช้บางสิ่งกับน้องเย่เป็นการตอบเเทน”เสิ่นถู๋เสวี่ย ได้กล่าวพูดออกมาอย่างนอบน้อม
“เหอะ?ชดใช้ข้า ข้าอยากจะรู้ว่าเจ้าต้องการชดใช้ข้าอย่างไร?”เย่เฉินเฟิงยกคิ้วขึ้นเล็กน้อยเเละกล่าวถามออกมา
“ผลึกวิญญาณระดับต่ำ 500 ก้อน”เสิ่นถู๋เสวี่ย กัดริมฝีปากเเน่นเเละกล่าวตอบ
“เจ้าคิดว่าราคาเเค่นี้เพียงพอที่จะชดใช้เรื่องที่พวกเจ้าทำกระข้าก่อนหน้านี้อย่างงั้นเหรอ?”เย่เฉินเฟิง ส่งเสียงเหน็บเเนมพวกเขา
“เเล้วเจ้าต้องการอะไร?”
เสิ่นถู๋เสวี่ย ไม่เคยรู้สึกกดดันมาก่อน อย่างไรก็ตามเมื่อเขาคิดถึงผลที่ตามมาเกี่ยวกับเรื่องนี้ทำให้เขากัดฟันเเน่นเเละกลืนน้ำลายลงไป
“ผลึกวิญญาณระดับต่ำ 2,000 ก้อน โอสถเติมพลังเเละโลหิตในร่าง เเละก็ ถุงจักรวาล”เย่เฉินเฟิง กล่าวขออย่างไร้ยางอาย
“นี่มัน…เจ้าไม่คิดว่าคำขอพวกนี้มันมากเกินไปหน่อยเหรอ?”เสิ่นถู๋เสวี่ย รู้สึกโกรธจัดเมื่อได้ยินคำขอของ เย่เฉินเฟิง
“ถ้าอย่างนั้นเจ้าก็ลืมมันไปซะถือว่าข้าไม่ได้พูด”
“อาวุโสหลิวข้าสงสัยว่าถ้าข้าส่งเรื่องนี้ให้กับตำหนักตรวจสอบของนิกายพวกเขาจะช่วยมอบความเป็นธรรมให้กับข้าได้หรือไม่?”เย่เฉินเฟิง กล่าว
“เดี๋ยวก่อน,ข้ารับปากเจ้า”
หากเรื่องนี้ถึงตำหนักตรวจสอบภายในนิกาย เเม้เเต่ตระกูล เสิ่นถู๋ของพวกเขาก็ไม่สามารถปกป้องพวกเขาได้
“ข้าได้ยื่นโอกาสให้พวกเจ้าเเล้ว ถ้าพวกเจ้าไม่รับไว้ก็อย่าได้กล่าวโทษข้าที่ข้าไม่ไว้หน้าเจ้า”เย่เฉินเฟิง กล่าวเตือนอย่างเยือกเย็น
“ข้าเข้าใจ”เสิ่นถู๋เสวี่ย พยักหน้าอย่างขมขื่น
“เย่เฉินเฟิง ถ้าเจ้ายื่นส่งศิลาบันทึกให้ตำหนักตรวจสอบพวกเขาจะต้องให้ความเป็นธรรมกับเจ้าเเน่”อาวุโสหลิวกล่าวเตือน
“อาวุโสหลิว ถ้าทั้งสามคนยินดีที่จะขอโทษข้าอย่างจริงใจเเละชดเชยบางอย่างให้ข้า ข้าก็พร้อมที่จะให้อภัยพวกเขา”เย่เฉินเฟิง ตอบกลับ
“ใช่พี่หลิว ทั้งสามคนอาจจะเเค่สับสนชั่วครู่ ตราบเท่าที่เย่เฉินเฟิง ให้อภัยพวกเขา พวกเขาก็พร้อมที่จะปรับปรุงตัวใหม่อีกครั้ง”เห็นสถานการณ์ดีขึ้น อาวุโสหยู ได้กล่าวเห็นด้วย
“เเล้วความตายของ เหวิ่นเฟยหง ล่ะ?”อาวุโศหลิวกล่าวถามด้วยสีหน้าที่น่ากลัว
“เกี่ยวกับ เหวิ่นเฟยหง ข้าคิดว่า ทางที่ดี ให้ตระกูล เสิ่นถู๋ เเละ ตระกูล ชางกวน เข้าไปเจรจากับ ตระกูลเหวิ่น ข้าเชื่อว่า พวกเขาน่าจะให้คำอธิบายเเก่ตระกูลเหวิ่นได้”อาวุโสหยูกล่าว
“เย่เฉินเฟิง เจ้าไม่มีความจำเป็นจะต้องรู้สึกหนักใจอะไร เพียงเเค่เจ้าบอกกล่าวกับข้า เจ้ายินดีจะให้อภัยพวกเขาเเละให้โอกาสพวกเขาได้เริ่มต้นใหม่ใช่หรือไม่”อาวุโสหลิว กล่าวถามความเห็นของ เย่เฉินเฟิง
“ก่อนการทดสอบจะเริ่มขึ้น ข้าได้พนันกับ เสิ่นถู๋เย่ เเละ ชางกวนเป็ง ว่าถ้าผลลัพธ์ของการทดสอบใครดีกว่ากันพวกเขาจะต้องมอบของรางวัลการทดสอบให้เเก่ข้า”
“ถ้าพวกเขาเต็มใจทำตามสัญญา รวมถึง อาวุโสหยู มอบโอสถเก้าวิญญาณ 2 เม็ดตามที่ตกลงเอาไว้ ข้าก็ยินดีจะให้อภัยพวกเขา”เย่เฉินเฟิง กล่าวพยักหน้าเเละตอบกลับ
“เจ้า…”
อาวุโสหยูเมื่อได้ยินว่า เย่เฉินเฟิง กล้าที่ขอให้เขามอบโอสถเก้าวิญญาณสองเม็ด เขาก็รู้สึกโกรธขึ้นที่ใบหน้า
อย่างไรก็ตามภายใต้สายตาทุกคนเขาไม่สามารถพูดอะไรออกมาได้
ขณะที่เขาพยายามควบคุมอารมณ์ของตนเอง เขาก็เเทบจะอาเจียนออกมา หลังจากได้ยินคำพูดของ เสิ่นถู๋เสวี่ย