[เมืองแห่งมนุษย์เปิดแล้ว ผู้ที่มีคุณสมบัติจะสามารถใช้โชคชะตาและแต้มเกียรติยศในถิ่นฐานเพื่อ ‘เข้าสู่ระบบ’ เมืองแห่งมนุษย์รอบแรก]
ในวันที่สอง จีเย่และหลู่จือเซินก็ได้รับการแจ้งเตือนในใจของพวกเขาในตอนเที่ยง
ในเวลาเดียวกันในที่สุดพวกเขาก็เข้าใจข้อมูลโดยละเอียดของเมืองแห่งมนุษย์
เช่นเดียวกันชื่อ เมืองแห่งมนุษย์นั้นเป็นเมืองที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อเผ่ามนุษย์โดยเฉพาะ
อย่างไรก็ตามมันไม่ใช่ ‘ถิ่นฐานระดับเมือง’ อย่างที่จีเย่คาดการณ์ไว้
อันที่จริงมันเป็นเมืองพิเศษที่เกิดจากการรวมโชคชะตาของถิ่นฐานเผ่ามนุษย์หลายแห่ง
คล้ายกับตอนที่พวกเขาเข้าสู่ระบบในดินแดนแห่งมรดกจากโลก ผู้ที่มีคุณสมบัติจะถูกอัญเชิญไปยังเมืองแห่งมนุษย์จากห้องโถงหลักในถิ่นฐานของพวกเขา
อย่างไรก็ตามไม่เหมือนกับคนบนโลกที่จะหายตัวไป แต่คนที่เข้าสู่เมืองแห่งมนุษย์นั้นจะยังคงอยู่ในถิ่นฐานของพวกเขา
ดังนั้นพวกเขาจะเสียชีวิตหากถิ่นฐานของพวกเขาถูกยึด
ตราบเท่าที่ถิ่นฐานยังคงยืนหยัดไว้ ในระหว่างตอนที่พวกเขาอยู่ในเมืองแห่งมนุษย์ ร่างกายของพวกเขาจะถูกป้องกันโดยพลังแห่งโชคชะตา และพวกเขาก็ไม่จำเป็นต้องกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัย
จุดประสงค์หลักประการหนึ่งในการก่อตั้งเมืองแห่งมนุษย์ก็คือ ‘การแลกเปลี่ยน’ ผู้ที่มีคุณสมบัติจะสามารถนำวัตถุบางอย่างติดตัวมากับพวกเขาในตอนที่พวกเขาเข้าสู่เมืองแห่งมนุษย์ ตัวอย่างเช่น พวกเขาสามารถแลกเปลี่ยนกับถิ่นฐานเผ่ามนุษย์อื่นด้วยทรัพยากรระดับวิสามัญจากถิ่นฐานของพวกเขา
แน่นอนว่าทุกอย่างเกี่ยวข้องกับการใช้พลังแห่งโชคชะตาในถิ่นฐานซึ่งเป้นเหตุผลที่มีการแจ้งเตือนอย่างชัดเจนในก่อนหน้านี้ว่าพวกเขาควรรักษาพลังแห่งโชคชะตาในถิ่นฐาน
“นี่… นี่คือข่าวดี!”
“ถ้าเป็นแบบนั้น เราจะไม่สามารถหาถิ่นฐานในอารยธรรมยุคใหม่บางแห่งเพื่อแลกเปลี่ยนวัตถุเทคโนโลยีขั้นสูงโดยตรงงั้นเหรอ?”
“หากเรารู้เรื่องนี้ก่อน เราคงไม่เปลี่ยนหินแห่งอารยธรรมเป็นวัตถุเทคโนโลยี ทำไมพวกเขาไม่เตือนเราก่อน? พวกเขาหลอกเรา! ช่างเป็นการสิ้นเปลือง!”
เมื่อได้ยินข้อมูลจากจีเย่ คุณชายบักผู้ที่ตอนนี้มีพระถังซัมจั๋งสักอยู่บนแขนของเขาก็ได้กล่วออกมาด้วนน้ำเสียงตัดพ้อ
“เราไม่ได้เสียอะไรเลย!”
“เหตุผลแรกสำหรับการแลกเปลี่ยนระหว่างถิ่นฐาน เราต้องมอบสิ่งที่มีมูลค่าเทียบเท่ากัน”
“ส่วนเหตุผลที่สอง ตามสถานการณ์ก่อนหน้านี้ วัตถุที่มีภูมิหลังที่แตกต่างจากถิ่นฐานของเราเองจะมีใช้โชคชะตาจ่ายมากขึ้น ฉันสงสัยว่าจะต้องเสียมันจะใช้โชคชะตาในการโอนวัตถุที่แลกเปลี่ยนกันซึ่งมีภูมิหลังที่แตกต่างจากเรากลับมาที่นี่มากเกินไป โชคชะตาทั้งหมดที่จะใช้ไปไม่น้อยกว่าการที่เราใช้โชคชะตาเปลี่ยนแปลงหินแห่งอารยธรรม”
“แน่นอนว่าไม่ว่าจะเหตุผลไหน แต่มันก็ยังคงเป็นโอกาสสำหรับเราที่จะได้รับทรัพยากรและพัฒนาต่อไป!”
เมื่อลูบเคราแพะของเขาที่เปลี่ยนจากสีขาวเป็นสีเทา ผู้อาวุโสเมิ่งก็ได้วิเคราะห์
ในช่วงเวลาสองสามวันที่ผ่านมา จีเย่ก็ได้ตระหนักว่าเขาอาจจะให้อาจารย์ใหญ่อาวุโสคนนี้ทำผิดงาน เมื่อเทียบกับผู้อาวุโสเจีเยวที่ทำงานในอุตสาหกรรมได้ดี ผู้อาวุโสเมิ่งนั้นรอบรู้ในเรื่องราวคลาสสิกและแม้กระทั่งวัฒนธรรมโลกเป็นอย่างดีซึ่งอาจเป็นผู้ที่มีคุณสมบัติที่สมบูรณ์สำหรับการเป็นที่ปรึกษาทางทหารในสถานที่พิเสษอย่างภูเขามังกรคู่
จีเย่รู้สึกว่าหากไม่มีนับคนระดับวิสามัญ ผู้อาวุโสเมิ่งอย่างน้อยก็ดีเท่ากับ ‘ทรัพยากรที่มีคุณค่า’
“ท่านหัวหน้า ฉันขอแนะนำให้ท่านและผู้นำหลู่เอาเมล็ดสีชาด นมศิลา หญ้าวิญญาณ และหยกวิญญาณบางส่วนไปกับพวกคุณ นอกเหนือจากการแลกเปลี่ยนพวกมันกับคนอื่น พวกมันอาจมีประโยชน์ในบางสถานการณ์”
ผู้อาวุโสเมิ่งแนะนำ
ทั้งสี่อย่างเป็น ‘ทรัพยากรพิเศษ’ ที่ภูเขามังกรคู่ควบคุมและสามารถหาได้อย่างต่อเนื่อง
แน่นอนว่านอกเหนือจากหญ้าวิญญาณ ภูเขามังกรคู่ก็ไม่มีไอเทมทั้งสามอย่างเพียงพอสำหรับตัวพวกเขาเอง อย่างไรก็ตามมันจะดีกว่าหากพวกเขาสามารถแลกเปลี่ยนพวกมันเพื่อสิ่งที่สำคัญกว่าในเมืองแห่งมนุษย์
“นอกจากนั้น ฉันยังคิดว่าท่านและผู้นำหลู่ควรนำอาวุธของพวกคุณติดตัวคนละชิ้นไปด้วย!”
ผู้อาวุโสเมิ่งกล่าว
“อาวุธ? ตามกฏของเกม ในแผนที่ลักษณะนี้มักจะไม่อนุญาตให้ต่อสู้ไม่ใช่เหรอ?”
หนึ่งในผู้เล่นใหม่ที่ทำผลงานได้ดีในช่วงสองสามวันนี้ก็ได้รับอนุญาตให้เข้าร่วมการประชุมในวันนี้ และเขาก็เอ่ยถามด้วยความงุนงง
“หากกฏไม่ได้ห้ามไว้ล่ะ? การเตรียมตัวไว้ก่อนดีกว่ามานั่งรู้สึกเสียใจภายหลัง!”
ผู้อาวุโสเมิ่งส่ายหัว
“ผู้อาวุโสเมิ่งพูดถูก อันที่จริงฉันก็คิดแบบนั้นเช่นกัน”
จีเย่พนักหน้าเห็นด้วย
หากเขาไม่คำนึงถึงเรื่องนี้ เขาคงไม่ใช้เวลาทั้งวันของเมื่อวันก่อนเพื่อเรียนรู้จากอู่ซง
“แล้วก็อู่ซงในขณะที่เราเข้าสู่เมืองแห่งมนุษย์ นายกับลุงเก้าจะรับผิดชอบในการป้องกันภูเขามังกรคู่ของพวกเรา!”
จีเย่กล่าวออกมา
“ท่านหัวหน้ากับพี่ชายไม่ต้องกังวล ฉันสัญญาว่าภูเขาจะปลอดภัย หากเผ่ามนุษย์ต่างดาวกล้าโจมตีเรา ฉันจะแสดงให้พวกมันเห็นว่ากระบี่วิญญาณเสือนั้นแหลมคมมากแค่ไหน!”
ผมของอู่ซงห้อยลงปิดหน้าของเขาเล็กน้อย และแม้แต่แถบคาดหัวบนหน้าผากของเขาที่แสดงให้เห็นถึงสถานะผู้แสวงบุญของเขาก็ไม่สามารถปกปิดความปรารถนาที่จะต่อสู้ของเขาได่
ในความจริง ก่อนที่อู่ซงจะถูกอัญเชิญมาที่นี่ จีเย่นั้นไม่แน่ใจเกี่ยวกับการไปกับหลู่จือเซิน
ท้ายที่สุดแล้วลุงเก้านั้นถูกจำกัดด้วยอาชีพของเขาและสามารถปลดปล่อยความแข็งแกร่งของขั้นผู้บัญชาการได้เมื่อเผชิญหน้ากับเผ่ามนุษย์ต่างดาวบางสายพันธุ์เท่านั้น
แต่หลังจากที่อู่ซงมาที่นี่ ทุกอย่างก็ต่างกัน
เนื่องจากเมื่อเทียบกับหลู่จือเซินผู้ที่ทำให้คนอื่นรู้สึกว่าเขาเป็นคนหยาบกร้าน อู่ซงนั้นเป็นทหารผ่านศึกที่มีประสบการณ์มากที่สุดในซ้องกั๋งรวมทั้งเป็นคนที่มีความรอบคอบ
ตัวอย่างเช่น หากพวกเขาทั้งคูาเข้าไปในที่พักที่ไม่น่าไว้วางใจของซุนเอ้อร์เหนึยง ในขระที่หลู่จือเซินผู้ที่ไม่สงสัยอะไรเลยจะถูกวางยาและเกือบจะกลายเป็นเนื้อบด แต่อู่ซงจะแสร้งทำเป็นว่าเขาถูกวางยาด้วยเหล้าเพื่อหลอกล่อซุนเอ้อร์เหนียง และเขาก็จะจับเธอในตอนที่เธอเข้ามาลากกเขาออกไป
หากพวกเขาทั้งคู่ต้องไปเจอกับสถานการณ์ที่หลวงจีนหรือนักบวชลัทธิเต๋สเป็นคนร้าย ในขณะที่หลู่จือเซินเข้าใจผิดว่าพวกเขาเป็นคนดีตั้งแต่แรก แต่อู่ซงจะเข้าใจว่าพวกเขาคิดอะไรและทำลายรังโจร
ด้วยการมีวีรบุรุษเช่นนี้ปกป้องถิ่นฐานของเขา จีเย่จึงสามารถเข้าสู่เมืองแห่งมนุาย์ได้อย่างมั่นใจ
“เข้าสู่เมืองแห่งมนุษย์!”
หลังจากวางวัตถุที่พวกเขาจะเอาไปกับพวกเขาในห้องโถง จีเย่ก็กล่าวออกมา จากนั้นมังกรห้ากรงเล็บสีเหลืองแห่งโชคชะตาทั้งสองก็พ่นพลังแห่งโชคชะตาออกมาซึ่งโอบล้อมจีเย่และหลู่จือเซินผู้ซึ่งนั่งไขว่ห้างอยู่ในห้องโถงหลัก
[คุณครอบครอง ‘บัตรทองของเมืองแห่งมนุษย์’ จากผลงานในการพัฒนาของคุณ คุณได้รับเหรียญอารยธรรมเพิ่มเติม : 915 เหรียญ!]
ในเมืองแห่งมนุษย์ ผู้คนจากถิ่นฐานที่แตกต่างกันสามารถแลกเปลี่ยนวัตถุของพวกเขาได้
แต่การแลกเปลี่ยรเพียงอย่างเดียวคงไม่เพียงพอ ดังนั้นพวกเขาจึงต้องการ ‘สกุลเงิน’ บางประเภท
เหรียญอารยธรรมนั้นเป็นสกุลเงินเดียวของที่นี่ ไม่ว่าใครก็สามารถบอกได้ว่าชื่อสกุลเงินนี้อาจไม่ได้ใช้เพียงแค่ในเมืองแห่งมนุษย์เท่านั้น
สำหรับเหรียญอารยธรรม นอกเหนือจากการได้รับเป็นรางวัลจากภารกิจการพัฒนาก่อนหน้านี้
ยังสามารถแลกเปลี่ยนมันจากแต้มเกียรติยศด้วยอัตราส่วน 1:10
อย่างไรก็ตามการแลกเปลี่ยนนี้ไม่สามารถย้อนกลับได้
[คุณได้เลือกนำดาบงูดำ โทเท็มวิญญาณหมาป่า เมล็ดเถาวัลย์วิญญาณกระหายเลือด… เข้าไปในเมืองแห่งมนุษย์รอบแรก ราคารวทของเหรียญอารยธรรมคือ 910 เหรียญ ยอดคงเหลือในบัตรหลังหักค่าใช้จ่าย : 5]
ใช่แล้ว นอกเหนือจากทรัพยากรพิเศษ จีเย่ยังเอาอาวุธไปสองชิ้นซึ่งก็คือดาบงูดำและโทเท็มวิญญาณหมาป่า!
ระหว่างอาวุธทั้งสอง โทเท็มวิญญาณหมาป่ามีค่าใช้จ่ายมากที่สุด
ท้ายที่สุดแล้วแม้ว่ามันจะเป็นวัตถุระดับวิสามัญอันดับ 4 (มันเพิ่มอันดับขึ้นหลังจากสังหารเผ่าวิญญาณและกลืนกินพลังวิญญาณ) แต่โดยพื้นฐานแล้วมันอยู่ในหมวดหมู่ ‘เหนือชั้น’
ดังนั้นเขาจะใช้เหรียญอารยธรรมในบัตรทองของเขาเกือบทั้งหมด
โชคดีที่มันเป็นการจ่ายเพียงครั้งเดียว เขาไม่จำเป็นต้องจ่าย ‘ค่าธรรมเนียม’ เพิ่มเติมในครั้งต่อไปหากไอเทมนั้นไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลง
[คุณได้เข้าสู่เมืองแห่งเผ่ามนุษย์รอบแรก!]
กระบวนการส่งผ่านนั้นใช้เวลาน้อยกว่าในตอนที่พวกเขาเข้าสู่ดินแดนแห่งมรดกบนโลก
ประมาณครึ่งนาทีต่อมา จีเย่ก็รู้สึกถึงการสั่นสะเทือนและแสงสีเหลืองก็หายไปจากสายตาของเขา