แน่นอนว่าสำหรับภูเขามังกรคู่ สิ่งแรกที่พวกเขาต้องทำไม่ใช่การพักผ่อนหลังการต่อสู้ แต่เป็นการมุ่งหน้าไปยังถิ่นฐานของชาววิญญาณและรับเอา ‘แกนกลางถิ่นฐาน’ ของพวกเขา!
นี่เป็นเพราะในเวลากลางวัน ด้านล่างหน้าผาที่เผ่าวิญญาณอาศัยอยู่จะมีหมอกอยู่อย่างหนาแน่น มันยากที่จะมองเห็นมากกว่าตอนกลางคืน
ยิ่งไปกว่านั้นเพื่อเหตุผลด้านความปลอดภัย พวกเขาควรได้รับแกนกลางถิ่นฐานของชาววิญญาณให้เร็วที่สุด
…
พรึบ… พรึบ…
ในหุบเขา ลมภูเขาพัดอย่างรุนแรง
กลุ่มคนเดินตรงไปข้างหน้าอย่างรวดเร็วโดยการใช้แสงจันทร์อันสว่างไสวนำทาง
“ไม่มีสิ่งมีชีวิตที่ผิดปกติภายในระยะ 100 เมตรข้างหน้า ชาววิญญาณมาจากทิศทางนี้…”
ต้องขอบคุณ ‘สเกาเตอร์’ ที่คล้ายกับในดราก้อนบอลรวมทั้งหลี่ชิงผู้ที่เคยเป็นทหารพรานมาก่อน ภูเขามังกรคู่จึงไม่จำเป็นต้องคิดวิธีลงจากหน้าผา พวกเขาสามารถเดินตามทางที่ชาววิญญาณเข้ามาโจมตีได้
นอกเหนือจากจีเย่แล้วมีคนไม่มากนักในทีม เนื่องจากสภาพแวดล้อมของชาววิญญาณนั้นแตกต่าง คนกลุ่มนี้จึงประกอบด้วยคนขั้นชั้นยอดจากถิ่นฐาน
นอกจากหลู่จือเซินผู้ที่คอยคุ้มกันป้อมปราการ ลุงเก้าผู้ที่ดื่มนมศิลาเพื่อฟื้นพลังเวทมนตร์บางส่วนของเขา ฉินเยว่หยู่ผู้ที่มีธนูและลูกศรยันต์รวมทั้งทหารขั้นชั้นยอดระดับสามัญอันดับ 7 ทั้งสี่คนที่เชี่ยวชาญหมัดอรหันต์
“ไม่มีอะไรผิดปกติเกิดขึ้นกับร่างกาย จากลักษณะแล้วไม่น่าจะมีแบคทีเรียในอาณาเขตของมนุษย์ต่างดาวที่เป็นอันตรายต่อมนุษย์ นอกจากนี้ยังไม่มีอะไรในอากาศที่เป็นพิษต่อมนุษย์”
ฉินเยว่หยูถือคันธนูไว้ในมือของเธอในขณะที่เธอสูดอากาศ
“ทำไมเธอถึงมีความคิดที่แปลกประหลาดแบบนี้?”
จีเย่รู้สึกสงสัยเล็กน้อยเกี่ยวกับความคิดของเธอ
“มันถูกเขียนในนิยายบางเรื่องในเว็บโนเวล หากฉันไม่ใส่เข้าไป ผู้อ่านจะคิดว่านักเขียนไม่ใส่ใจ” ฉินเยว่หยูกล่าว
“เว็บโนเวล? มันคืออะไร?”
คิ้วของลุงเก้ากระตุกในขณะที่เขามีสีหน้าสงสัย
“โอ้ ในอนาคตให้เธอลองเล่าให้ฟังเมื่อมีเวลา… ลุงเก้า คุณอาจได้รับควาใทรงจำบสงอย่างเกี่ยวกับตัวตนของคุณ”
จีเย่ยิ้มเล็กน้อย
มีนิยายหลายเรื่องในเว็บโนเวลที่เขียนเกี่ยวกับลุงเก้า
อย่างไรก็ตามแม้ว่าพวกเขาจะพูดล้อเล่นกันตลอดทาง แต่พวกเขาก็ไม่ได้ผ่อนคลายมากนั
ถึงอย่างนั้นพวกเขาก็ไม่พบการโจมตีใดจากผู้ที่ไม่ใช่มนุษย์โลกตลอดทาง
เห็นได้ชัดว่าชาววิญญาณได้ออกไปต่อสู้ทั้งหมด สำหรับมอนเตอร์ในอาณาเขตของพวกเขา พวกเขาได้สังหารพวกมันไปแล้ว
“มีบางอย่างเกิดขึ้นข้างหน้า!”
เมื่อพวกเขามาถึงด้านล่างของหุบเขา หลี่ชิงผู้ที่สวมสเกาเตอร์ก็ได้ส่งสัญญาณบอกทุกคน
“ข้างหน้ามีสัญญาณทางชีวภาพ เราไม่สามารถระบุระดับของมันได้เพราะไม่ได้อยู่ในระยะ!”
ระยะการตรวจจับของสเกาเตอร์มีขีดจำกัดซึ่งคือประมาณหนึ่งร้อยเมตรหรือมากกว่านั้น แต่เอฟเฟกต์นั้นทรงพลังมาก แม้แต่สิ่งมีชีวิตที่หลบซ่อนบางตัวก็สามารถตรวจพบได้
อย่างไรก็ตามเนื่องจากมีต้นไม้สีดำไร้ใบจำนวนมาก พวกเขาจึงไม่สามารถเข้าใกล้สิ่งมีชีวิตได้โดยตรง
“หยุดสักพัก ฉันจะตรวจสอบเอง” จีเย่ตอบกลับ
นี่เป็นเพราะวิญญาณหมาป่าสีดำที่มีขนาดเท่ากับลูกสุนัขที่เกิดจากพลังวิญญาณได้กระโจนออกจากอ้อมแขนของเขาไป จากนั้นมันก็เปิดตาที่เหมือนทับทิมของมันออกมาและมองไปข้างหน้า
วิญญาณหัวหน้าหมาป่าเป็นสมบัติโดเมนระดับวิสามัญอย่างแน่นอน มันสามารถใช้เพื่อเสริมความแข็งแกร่ง ต่อสู้และสอดแนมได้
ข้อบกพร่องเพียงอย่างเดียวก็คือจีเย่จำเป็นต้องควบคุมการเคลื่อนไหวของวิญญาณหัวหน้าหมาป่่าด้วยสมาธิของเขาก่อนที่สัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของเขานั้นจะทรงพลังมากพอที่จะ ‘แบ่งแยกความคิด’ ได้
มันคงเป็นเรื่องยากที่จะควบคุมวิญญาณหมาป่าในขณะที่ต่อสู้ด้วยกำลังทั้งหมดของเขา
โอ้? นี่คือ…
อย่างไรก็ตามสีหน้าของจีเย่ก็เปลี่ยนไปในไม่กี่วินาทีต่อมา
“มีบางอย่างไม่ถูกต้อง ตามฉันมา อย่าลืมซ่อนตัวและเตรียมพร้อมต่อสู้!”
จากนั้นสีหน้าของเขาก็เปลี่ยนเป็นจริงจังทันทีในขณะที่เขาหันกลับไปกล่าวกับคนรอบข้าง
“ครับ!”
ทหารขั้นชั้นยอดหลายคนตอบกลับด้วยเสียงที่สั่นเล็กน้อย
หลังจากการฝึกฝนไม่กี่วันที่ผ่านมาและการต่อสู้กับชาววิญญาณ พวกเขาก็มีทหารขั้นชั้นยอดแล้ว!
“โอ้ เสียงการต่อสู้งั้นเหรอ?”
หลังจากคนทั้งกลุ่มตามจีเย่และแอบเข้าไปในป่าด้วยการซ่อนตัวที่มิดชิดมากขึ้น
ทันใดนั้นพวกเขาก็ได้ยินเสียงบางอย่างราวกับว่ามีสิ่งมีชีวิตกำลังต่อสู้กัน
เนื่องจากลมภูเขานั้นแรงมากเกินไป และพวกเขาต้องต้านลม พวกเขาจึงไม่ได้ยินเสียงก่อนหน้านี้
“นี่คือ…”
เมื่อพวกเขามาถึงใจกลางป่าสีดำที่แปลกประหลาด กลุ่มคนทั้งหลายก็เห็นสถานการณ์อย่างชัดเจน
สิ่งแรกที่พวกเขาเห็นก็คือพื้นที่โล่งที่มีเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 100 ฟุต ในใจกลางนั้นมี ‘ต้นไม้’ ประหลาดที่สูงประมาณเจ็ดถึงแปดเมตรและมีโคนที่หนา มันดูเหมือนว่าจะเกิดจากเถาวัลย์สีแดงเข้มจำนวนมากที่มีความหนาเท่ากับแขน!
[ต้นไม้เถาวัลย์วิญญาณกระหายเลือดร้อยปี]
[ระดับ : วิสามัญอันดับ 3]
[ขั้น : กึ่งผู้บัญชาการ]
[รายละเอียด : สิ่งมีชีวิตพิเศษที่มีความสัมพันธ์ทางชีวภาพกับเผ่าวิญญาณ ร่างกายของมันมีแกนกลางถิ่นฐานของเผ่าวิญญาณ นอกจากนี้มันยังเป็นการป้องกันที่ทรงพลังที่สุดของถิ่นฐานเผ่าวิญญาณ!]
บางทีอาจเป็นเพราะมันเป็นแกนกลางถิ่นฐาน ทุกคนจึงสัมผัสได้ถึงคุณสมบัติของสิ่งมีชีวิตตัวนี้
ด้านบนต้นไม้เถาวัลย์วิญญาณกระหายเลือดร้อยปีนั้นคือพื้นที่แสงสีเขียวขนาดใหญ่ที่ดูคล้ายกับร่างหลักของชาววิญญาณ ภายในพื้นที่โล่งสามารถมองเห็นสิ่งมีชีวิตเจ็ดถึงแปดตัว
มันเป็นสิ่งมีชีวิตอ่อนนุ่มสีน้ำตาลที่ดูเหมือนโคลนที่กระจัดกระจายไปทั่วพื้น
ในขณะนั้นสิ่งมีชีวิต ‘โคลน’ แปลกประหลาดเหล่านี้กำลังกวาดทราย หิน และรากไม้เข้าหาร่างกายที่กระดุกกระดิกของพวกมัน
จากนั้นพวกมันก็ยิงสิ่งที่รวบรวมมาไปที่ต้นไม้เถาวัลย์วิญญาณกระหายเลือดที่อยู่ใจกลางของพื้นที่โล่งราวกับ ‘เทรบูเชต’
ต้นไม้เถาวัลย์กระหายเลือดที่อยู่ใจกลางก็ได้โบกเถาวัลย์คล้ายกับหนวดเพื่อโจมตีสิ่งมีชีวิต ‘โคลน’ ตลอดเวลา
บนเถาวัลย์สองเส้นมีเปลือกคล้ายกับแมงกระพรุนสีน้ำตาลสองตัวที่ขาดน้ำ
อย่างไรก็ตามเห็นได้อย่างชัดเจนว่าสิ่งมีชีวิตโคลนมีสติปัญญาในระดับหนึ่ง พวกมันเลือกที่จะเสียสละพวกพ้องสองตัวเพื่อกำหนดระยะการโจมตีของเถาวัลย์วิญญาณกระหายเลือด จากนั้นพวกมันก็เลือกที่จะยืนห่างกันเพื่อป้องกันไม่ให้เถาวัลย์ที่โจมตีที่ฉีกขาดจากการโจมตีของพวกมัน มันยากสำหรับต้นเถาวัลย์วิญญาณกระหายเลือดที่จะป้องกันร่างกายของมันจาก ‘ลูกปืนใหญ่’ ที่ถูกโยนเข้ามา!
“มันเป็นมนุษย์ต่างดาวประเภทหนึ่งที่ถูกเรียกว่ามอนเตอร์โคลน ระดับของพวกมันมีตั้งแต่อันดับ 6 ถึงอันดับ 7 ร่างกายของพวกมันดูเหมือนจะไม่มีวิญญาณ!”
หลี่ชิงอธิบายเกี่ยวกับสิ่งมีชีวิตและข้อมูลให้กับกลุ่มคนที่ซ่อนตัวอยู่เบื้องหลังหินในป่า
“มอนเตอร์โคลน? ชื่อมันดูน่ารักมาก…”
ฉินเยว่หยูกระพริบตา
“อะแฮ่มอย่าพูดมาก เตรียมพร้อมและโจมตีตามสถานการณ์!”
จีเย่ไอและกล่าวอย่างเคร่งขรึม
เขาลืมไปแล้วว่าชื่อของมนุษย์ต่างดาวนั้นถูกตั้งตามมนุษย์คนแรกที่เห็นพวกมัน เขาควรจะคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้และคิดชื่อที่โดดเด่นซึ่งคล้ายกับเผ่าวิญญาณ…
ไม่มีใครคาดคิดว่าจะได้พบกับสายพันธุ์ที่สามที่นี่
ยิ่งไปกว่านั้นเผ่ามนุษย์ต่างดาวเผ่านี้ก็พยายามที่จะใช้ประโยชน์จากสงครามระหว่างมนุษย์และเผ่าวิญญาณ!
นี่อาจเป็นเผ่ามนุษย์ต่างดาวที่อาศัยอยู่ในหุบเขาหมอก เป็นไปได้มากว่าพวกมันจะให้ความสนใจกับเผ่าวิญญาณอย่างลับๆ หลังจากที่พวกมันพบว่าเผ่าวิญญาณโจมตีเผ่ามนุษย์ พวกมันจึงส่งทีมไปแอบเข้าไปในรังของเผ่าวิญญาณ
หากไม่ใช่เพราะความจริงที่ว่าถิ่นฐานของชาววิญญาณมีความสามารถในการป้องกันระดับหนึ่ง ก็เป็นไปได้มากว่ามนุษย์ต่างดาวที่มีร่างกายเป็นโคลนพวกนี้คงประสบความสำเร็จไปแล้ว
โชคดีที่จีเย่ตัดสินใจทันทีหลังจากที่เขาได้รับชัยชนะ ไม่อย่างนั้นหากมอนเตอร์โคลนแย่งชิงแกนกลางถิ่นฐานที่สำคัญที่สุดออกไปแล้ว ภูเขามังกรคู่คงจะต้องเสีนใจอย่างแน่นอน!