“ฉันเข้าใจแล้ว ดังนั้นผู้เล่นกลุ่มที่สองจะถูกกำหนดตามที่ที่พวกเขาอยู่งั้นเหรอ?” จีเย่พึมพำหลังจากแลกเปลี่ยนข้อมูลกับซางเยี่ยนและเจี่ยงเหวินหมิง “รอเดี๋ยว นั่นไม่ถูกต้อง เกณฑ์ไม่ใช่ ‘ตำแหน่งปัจจุบัน’ แต่เป็นเมืองที่คุณคิดว่าพวกคุณจากมา”
จีเย่รู้เรื่องนี้เพราะมีคนในกลุ่มที่ไม่ได้อยู่ในเมืองหยางเมื่อพวกเขาถูกอัญเชิญมา เช่น ชายชราร่างสูงที่ใช้ชีวิตในเมืองหลวงมาหลายสิบปี
“ฉันขอทราบชื่อคุณได้มั้ย?” จีเย่เอ่ยถามอย่างสุภาพ เขาจะไม่ดูหมิ่นใครเพียงเพราะพวกเขาดูแก่เกินไป
ผู้เล่นกลุ่มแรกไม่ได้เป็นเพียง ‘ผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์’ เท่านั้น แต่ยังมีอายุระหว่าง 15 ถึง 35 ปี พวกเขาอาจจะเก่งหากอาชีพของพวกเขาขึ้นอยู่กับเงื่อนไขด้านสุขภาพของพวกเขาเช่นนักกีฬา
แต่สำหรับอาชีพที่ต้องใช้ภูมิปัญญาและทักษะที่จะได้รับเมื่อเวลาผ่านไป เช่น แพทย์ วิศวกรและศิลปิน คนที่อายุ 35 ปียังถือว่าอายุน้อย ในประเทศมังกร แพทย์อายุ 35 ปีแทบจะไม่มีประสบการณ์ทางคลินิกมากนักหลังจากได้รับปริญญาเอก ไม่มีหมอหนุ่มที่ช่ำชอง
เงื่อนไขของผู้เล่นใหม่เหล่านั้นบอกจีเย่ว่า ‘อายุ’ ไม่ใช่ข้อกำหนดสำหรับกลุ่มที่สอง ในกรณีนี้ เขาคาดหวังว่าจะได้พบกับผู้เชี่ยวชาญและช่างฝีมือที่แท้จริงในสายงานของพวกเขา
“เจี้ยวฉางเซิง ช่างที่เคยทำวิจัยเชื้อเพลิงาก่อน” ชายชราร่างสูงกล่าวทักทายจีเย่อย่างมีชีวิตชีวาซึ่งทำให้เขาดูอ่อนกว่าวัยหลายปี “เมืองที่ฉันเคยเรียนมีโรงงานและสถานบันมากมายที่มุ่งเน้นไปที่การขัดเกลาวิศวกรใในอนาคต ดังนั้น… อาชีพของฉันจึงไม่ได้หายากมากนัก”
“เดี๋ยวก่อน… คุณคือศาสตราจารย์เจี้ยวฉางเซิงจากมหาวิทยาลัยโจโต!” จีเย่เอ่ยออกมา
“โฮ คุณรู้จักฉันงั้นเหรอ ‘ท่านหัวหน้า’?” เจี้ยวฉางเซิงตั้งใจจะพูดติดตลก
“ฉันเคยเรียนที่นั่น ฉันแม้กระทั่งเคยฟังการบรรยายของคุณ เสียดายที่คุณนำเสนอเพียงเรื่องเดียวในช่วงหนึ่งปีที่ฉันเรียนที่นั่น”
นักศึกษามหาวัยโจโตส่วนใหญ่อาจไม่รู้จักชายชราคนนี้เพราะเขาเกษียณมานานแล้ว แม้ว่าจีเย่จะไม่ลืมนักวิชาการที่มีชื่อเสียงในฐานะชาวเมืองหยาง สำหรับเขาแล้ว ศาสตราจารย์และนักวิชาการมักจะสมควรได้รับความเคาระจากเขามากกว่าเมื่อเทียบกับคนในวงการบันเทิง
มีเรื่องสำคัญอีกอย่างหนึ่ง นั่นคือช่างชรามีความหมายอย่างมากกับภูเขามังกรคู่ เนื่องจากเขาสามารถสอนทักษะที่เป็นประโยชน์ทุกประเภทให้กับชนพื้นเมืองได้
“เขาจบการศึกษาจากโจโต… ไม่แปลกใจเลยที่เขาจะถูกเลือกกลุ่มแรก” ใครบางคนพึมพำ
แม้ว่าผู้ประกอบการและผู้ประกอบธุรกิจในเมืองหยางไม่ได้ให้ความสำคัญกับนักศึกษารุ่นใหม่มากนัก แต่พวกเขาก็ยังรู้ว่ามหาวิทยาลัยโจโตเป็นหนึ่งในสถาบันการศึกษาชั้นนำของประเทศ ในแต่ละปีจะมีนักเรียนมัธยมปลายเพียงไม่กี่คนในเมืองหยางเท่านั้นที่สามารถทำคะแนนได้สูงพอที่จะสอบเข้าได้ นั่นหมายความว่าจีเย่เป็นของจริง
แต่เมื่อเทียบกับจีเย่แล้ว ผู้คนต่างประหลาดใจมากขึ้นที่ได้รู้จัก ‘อาชีพ’ ของชายชรา แม้แต่ดาราอย่างซวีเสวียก็เลือกที่จะเงียบ
ในระหว่างการเตรียมตัว ผู้เล่นใหม่พยายามอย่างเต็มที่เพื่อเรียนรู้เกี่ยวกับพื้นฐานของดินแดนแห่งมรดก พวกเขาเข้าใจว่าการมีนักวิชาการที่ชาญฉลาดอยู่ด้วยหมายความว่าอะไร
“เจี้ยวฉางเซิง… เป็นนายจริงๆ ด้วย” ทันใดนั้นชายชราร่างเตี้ยก็ขยับเข้ามาใกล้และจ้องมองช่างชราอย่างกระตือรือร้น เขาตัวสั่นด้วยเหตุผลบางอย่าง
เจี้ยวฉางเซิงมองไปทางนั่น “คุณคือ…?”
“ฉันเอง เมิ่งเหรินไงเพื่อน… จากโรงงานเครื่องกลไฟฟ้าเป่ยเหอจำได้มั้ย? เราย่างมันฝรั่งด้วยไฟ และเรา…” ชายชราร่างเตี้ยดูตื่นเต้นมากจนจับมือเจี้ยวฉางเซิงแน่น
“นะ-นายคือน้องเมิ่ง? โอ้นายเปลี่ยนไปใสกจนฉันจำไม่ได้เลย”
“อนิจจา… ฉันป่วยโรคร้าย บอกตามตรง ฉันไม่คิดว่าจะมีโอกาสแล้ว ใครจะคิดว่าฉันจะได้รับโอกาสเช่นนี้? อย่างที่คุณเห็นสายตาของฉันแย่พอๆ กับส่วนอื่นของร่างกายที่แก่ชราของฉัน นั่นเป็นสาเหตุที่ฉันจำคุณไม่ได้ตั้งแต่แรก…”
ดูเหมือนว่าชายชราคนนี้ที่มีชื่อว่าเมิ่งเหรินไม่ได้สั่นด้วยความมตื่นเต้น เขามักจะเป็นเช่นนี้เนื่องจากสภาพร่างกายของเขา
“ไม่เป็นไร ในดินแดนแห่งมรดก คุณอาจพบสิ่งมหัศจรรย์ ฉันจะลองหาสอ่งที่คุณสามารถใช้ได้ในช่วงบ่าย เชื่อฉันเถอะว่าคุฯจะกลับมาเป็นปกติได้อีกครั้งในเวลาไม่นาน” จีเย่ตัดสินใจที่จะให้ความช่วยเหลือเพราะเขาไม่ต้องการเห็นชายชราที่ดูอ่อนแอตายในทันที
ในทางทฤษฏี การตายในดินแดนแห่งมรดกไม่ได้ส่งผลกระทบต่อสภาพร่างกายของผู้เล่นในโลกจริง แต่ก็ไม่มีใครบอกได้ว่าคนที่อ่อนแออาจจะได้รับผลกระทบจากความตกใจทางด้านอารมณ์มากเกินไปจนพวกเขาไม่ตื่นขึ้นมาอีก
“เฮ้ๆ… ฉันเมิ่งเหรินเป็นอาจารย์ที่เกษียณแล้ว” เมิ่งเหรินทิ้งเพื่อนชราของเขาและแนะนำตัวเองกับคนอื่น
เจี้ยวฉางเซิงไม่ปล่อยเขา “อย่าพูดแค่นี้สิ คุณมีฐานะมากกว่านี้นิ? ผู้ที่เป็นตัวแ่ทนเมืองหยางเพื่อพบกับเจ้าหน้าที่สมาพันธ์ที่มาเยี่ยมเยียน! และเป็นผู้ก่อตั้งวิทยาลัยภาษาของเรา! พูดมาเลย เราทุกคนเป็นพลเมืองของเมืองหยาง พูดตามความจริงเลยโอเคมั้ย?”
“คุณคืออาจารย์ใหญ่เมิ่ง??” จีเย่รู้สึกประหลาดใจอีกครั้งเพราะเขาใช้เวลาหนึ่งปีกในวิทยาลัยของเมิ่งเหรินในฐานะนักเรียนแลกเปลี่ยน น่าเสียดายที่เขาไม่เคยพบกับอาจารย์ใหญ่คนนี้
ทันใดนั้นก็มีบางสิ่งเข้ามาในใจของเขา
‘ศาสตราจารย์จากมหาวิทยาลัยของฉัน อาจารย์ใหญ่จากวิทยาลัยอื่นที่ฉันเคยไปเรียนมาก่อน และคนที่ฉันเพิ่งร่วมงานด้วยเจี้ยวเหวินหมิงกับซางเยี่ยน…’
‘ผู้เล่นใหม่เกี่ยวข้องกับผู้เล่นกลุ่มแรกไม่ทางใดก็ทางหนึ่งใช่มั้ย? นี่คือวิธีการคัดเลือกใช่หรือไม่?’
Fanpage : ผีเสื้อกลางคืน