ตู้ม!
กำปั้นสีเหลืองที่มีขนาดใหญ่เท่าศีรษะของผู้ใหญ่ชนเข้ากับก้ามที่มีขนาดใหญ่กว่าของแมงป่องทั่วไป ทำให้มันล้มลงกระแทกกับพื้นด้านล่าง
หลู่จือเซินได้ยินเสียงบางอย่างที่แหลมคมเคลื่อนไหวไปมาในอากาศและรีบกระโดดหลบโดยหลีกเลี่ยงก้ามอีกอันหนึ่งที่เกือบจะโดนหน้าอกของเขา
เป้าหมายในปัจจุบันของจีเย่และหลู่จือเซินคือแมงป่องตัวใหญ่ที่มีขนาดใหญ่เทียบเท่ากับรถแท็กซี่ มันเป็นหนึ่งในมอนเตอร์ที่ ‘ดูเหมือนจะเป็นระดับวิสามัญ’ สามตัวที่หน่วยสอดแนมค้นพบในไม่กี่วันที่ผ่านมา
ก้ามที่ดูคล้ายกับกรรไกรพวกนี้ไม่ใช่อาวุธที่อันตรายที่สุดสำหรับแมลงขนาดหญ่ที่หุ้มด้วยเปลือกสีเหลือง มันคือเหล็กไนที่ดูราวกับคริสตัลที่ปลายหางซึ่งสามารถยืดออกได้ยาวกว่าปกติหลายเท่าในชั่วพริบตาและสังหารศัตรู
พวกเขาพบว่ามันรับมือได้ยากมากเมื่อสหายคนหนึ่งของหลู่จือเซินถูกเเหล็กไนแทงเมื่อวันก่อน เกราะหนังงูของเหยื่อถูกเจาะราวกับกระดาษ ไม่มีรอยฟกช้ำที่เห็นได้ชัด หรือร่องรอยของพิษรอบบาดแผล แต่ถึงอย่างนั้นหน่วยสอดแนมที่ได้รับบาดเจ็บก็อ้างว่าเขาเจ็บปวดมากเกินกว่าจะหายใจได้และเข้าสู่อาการโคม่าแล้วตื่นขึ้นมาด้วยความเจ็บปวดซ้ำไปซ้ำมาในเวลาต่อมา
จนกระทั่งจีเย่กลับมา เขาดึงเมล็ดสีชาดที่โตเต็มที่อีกหนึ่งเม็ดจากถ้ำลิงออกมาและใช้มันเพื่อรักษาบาดแผลของชายคนนั้น
เพื่อกำจัดศัตรูที่อันตรายเช่นนี้ จีเย่และหลู่จือเซินจึงตัดสินใจตามเขาไปทันที มันดูแข็งแกร่งเท่ากับลิงแมนดริล ดังนั้นพวกเขาจึงไม่สามารถขอความช่วยเหลือจากชนพื้นเมืองคนอื่นได้
“ระวังหางด้วยนะผู้นำหลู่ มันจะขยับอีกครั้งแล้ว!”
ด้วยการใช้ถุงมืออันใหม่ของเขา หลู่จือเซินสามารถรักษาระยะห่างกับแมงป่องได้สำเร็จ ในขณะเดียวกันจีเย่ก็ได้ให้การสนับสนุนโดยการยืนในระยะที่ปลอดภัยด้วยหน้าไม้ของเขา ทันทีที่เขาเกือบจะถูกรบกวนด้วยเสียงคำรามจากมอนเตอร์ เขาจึงเรียกหลู่จือเซินให้ถอยออกมา
ทันทีที่เขากล่าวคำพูดสุดท้ายเสร็จ แมงป่องก็ยิงหางของมันออกมาซึ่งพุ่งไปทางหน้าอกของหลู่จือเซินราวกับงูพิษพุ่งเข้าหาเหยื่อ
ปัก!
ในเวลาเดียวกัน ลูกศรสีทองแดงก็กระแทกหางจากอีกด้านหนึ่ง ป้องกันไม่ให้หางของมันไปถึงเป้าหมายได้
“ตายซะ!”
หลู่จือเซินพุ่งไปข้างหน้าและจับหางก่อนที่แมงป่องจะดึงกลับไป
ด้วยการใช้ความแข็งแกร่งที่ไม่น่าเชื่อของนักรบในตำนาน เขาจึงเหวี่ยงแมงป่องตัวใหญ่เข้าใส่ก้อนหินที่อยู่ใกล้ๆ
แม้ว่าเปลือกของสิ่งมีชีวิตจะดูแข็งแกร่งเหมือนกับแผ่นเซรามิก แต่ก็ไม่สามารถทนต่อพลังอันรุนแรงที่เพิ่มเข้ามาพร้อมกับน้ำหนักของตัวมันเองได้ เมื่อกระแทกกับหิน ขาหลายข้างของมันก็หัก ในขณะที่จุดที่ถูกกระแทกถูกเจาะเข้าไปเผยให้เห็นร่างกายที่อ่อนนุ่มและเปราะบางของมัน
ลูกศรเพลิงสีเงินพุ่งเข้ามาและเข้าไปข้างทางเปลือกที่แตกออกก่อนที่แมงป่องจะตั้งขาของมันกลับมาที่พื้นได้
ช้าแต่ชัวร์ สิ่งมีชีวิตนั้นถูกปกคลุมไปด้วยเปลวไฟที่รุนแรงโดยไม่มีท่าทีที่จะมอดดับลง
“เชื้อเพลิง” บนลูกศรระเบิดเพลิงหมดลงเมื่อจีเย่ใช้มันกับงูดำ แต่โชคดีที่ลูกศรเป็นผลิตภัณฑ์การผสานของไฟแช็กซิปโป้ซึ่งสามารถเติมน้ำมันได้หลายครั้งอย่างง่ายดาย
[สังหารแมงป่องผีผาบุษราคัม (ระดับวิสามัญอันดับ 2 ขั้นกึ่งผู้บัญชาการ) ค่าประสบการณ์ที่ได้รับ : 320 แต้มเกียรติยศที่ได้รับ : 2]
เปลวไฟมอดดับในไม่ช้าเพราะจีเย่ตั้งใจเติมเชื้อเพลิงให้กับลูกศรน้อยลงเพื่อเป็นการรักษาทรัพยากร แต่ถึงอย่างนั้นมันก็เพียงพอที่จะย่างแมงป่องจนสุกจากภายในสู่ภายนอก
ศพแมงป่องให้ ‘ไอเทมทรงกลม’ เพียงชิ้นเดียวซึ่งมีบางสิ่งที่เขาไม่คาดคิดโดยสิ้นเชิง มันเป็นเครื่องดนตรีที่คล้ายกับพิณซึ่งทำจากวัสดุสีเหลืองที่สวยงาม มันดูราวกับอัญมณีบุษราคัมเช่นเดียวกับเปลือกมันวาวของแมงป่อง
เครื่องดนตรีไม่ได้ดูมีประโยชน์มากนักสำหรับพวกเขา แต่จีเย่ก็เปลี่ยนใจทันทีที่เขาตรวจสอบรายละเอียดของไอเทม
[ผีผาบุษราคัม]
[ระดับ : วิสามัญอันดับ 3]
[ขั้น : ยอดเยี่ยม]
[สิ่งประดิษฐ์เวทมนตร์ที่มีรูปร่างคล้ายกับแมงป่องผีผาบุษราคัม นักดนตรีที่เข้ากันได้ดีกับอาวุธดังกล่าวจะสามารถดึงพลังระดับวิสามัญที่ซ่อนอยู่ภายในออกมาได้ หมายเหตุ : โปรดระวังกลไกลับอื่น]
จีเย่และหลู่จือเซินทั้งสองคนลองเล่นผีผาด้วยความสงสัย แต่ก็ไม่สามารถเปิดใช้งาน ‘พลังระดับวิสามัญ’ ได้ นี่อาจเป็นเพราะพวกเขาไม่มีใครมีพรสวรรค์ด้านดนตรีเลย โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลู่จือเซินผู้ที่ดูเหมือนกับนักสู้มากกว่านักกวี
ในฐานะคนที่ไม่ชอบถูกปิดกั้นโดยความลับ จีเย่จึงใช้เวลาค้นหา ‘กลไกลับ’ และในที่สุดก็ค้นพบมัน มีดคริสตัลขนาดเล็กซ่อนอยู่ในผีผา มันดูราวกับเหล็กไนของแมงป่อง เขาสามารถยิงมันออกมาได้โดยใช้เชือกหรือใช้มันเหมือนกับมีดสั้น ตราบใดที่เขาไม่ได้ใช้นิ้วจิ้มมันโดยไม่ตั้งใจ
นั่นเป็นอีกหนึ่งอาวุธระดับวิสามัญอันดับ 3 เช่นเดียวกับดาบงูดำของเขาซึ่งหมายความว่ามันรุนแรงเทียบเท่ากัน
จากประสบการณ์ที่ผ่านมาของพวกเขา พวกเขาพบถ้ำใต้ดินที่พื้นถูกปกคลุมด้วยหญ้าของแมงป่องซึ่งมีหินย้อยห้อยอยู่จำนวนมากที่สามารถนำมาสร้างทรัพยากรอื่นที่พวกเขาสามารถหามาได้
[ยาอายุวัฒนะปฐพี]
[ระดับ : วิสามัญอันดับ 1]
[ขั้น : ทั่วไป]
[ของเหลวที่ถูกเสริมพลัง ถูกสร้างขึ้นในสภาพแวดล้อมพิเศษที่มีแก่นแท้ของปฐพี ผู้ที่ดื่มมันจะเพลิดเพลินไปกับความแข็งแรง จิตวิญญาณและสมรรถภาพทางร่างกายที่ดีขึ้น ข่าวลือโบราณอ้างว่ายาอายุวัฒนะปฐพีคุณภาพสูงสามารถมอบให้ได้แม้กระทั่งความเป็นอมตะ]
“สิ่งที่ดี” จีเย่อ่านคำอธิบายด้วยแววตาที่เปล่งประกาย นั่นเป็นยาอัศจรรย์อีกชนิดหนึ่งที่สามารถกระตุ้นความบ้าคลั่งของคนรวยที่ปรารถนาการมีชีวิตที่ยืนยาว
ในกรณีของจีเย่ มันจะช่วยให้เขาพัฒนาสกิลประโยชน์ของปฐพีได้อย่างมาก เนื่องจากทั้งสองเกี่ยวข้องกับ ‘พลังแห่งปฐพี’
ในขณะเดียวกันหลู่จือเซินก็ได้ค้นพบบางสิ่งในถ้ำ เขากล่าวว่า “ท่านหัวหน้า สถานที่แห่งนี้ก็เป็นสมบัติเช่นกัน องค์ประกอบของ ‘ปฐพี’ นั้นอุดมสมบูรณ์มากที่นี่ซึ่งจะช่วยเร่งการฝึกฝนประโยชน์ของปฐพีของท่านได้มาก”
“ฉันเข้าใจแล้ว หากเป็นเช่นั้น ให้ฉันอยู่ที่นี่สักพัก ผู้นำหลู่ช่วยดูทางเข้าให้ฉันด้วย”
“ตามที่ท่านต้องการ ท่านหัวหน้า”
เมืื่อจีเย่ถูกทิ้งให้อยู่คนเดียว เขาก็นั่งลงบนพื้นแข็ง จากนั้นเขาก็จิบของเหลวจากแอ่งน้ำใกล้ๆ แล้วหยิบ ‘ไอเทมทรงกลม’ ที่มีคำอธิบายของสกิลประโยชน์ของปฐพีขึ้นมา
“ผสาน”
แทนที่จะใช้ค่าประสบการณ์เพื่อเพิ่มระดับประโยชน์ของปฐพีทันที เขาตัดสินใจใช้สกิลการผสานก่อนเพื่อรับความรู้ทั้งหมดของสกิล ตามความเชื่อของเขา เขาสามารถเพิ่มสกิลไประดับสูงได้อย่างรวดเร็วโดยการรวมความรู้ใหม่และยาอายุวัฒนะปฐพีที่พบในถ้ำแห่งนี้
เขายังมีเครื่องมืออื่นที่สามารถเพิ่มความสามารถของเขาได้ซึ่งก็คือเลือดงูดำ เขาตัดสินใจที่จะเก็บความคิดนั้นไว้จนกว่าจะสามารถกำหนดผลลัพธ์บางอย่างออกมาได้ ตามคำแนะนำของเลือด เขาไม่สามารถลบมันออกจากร่างกายของเขาได้เมื่อมันถูกผสานเข้ามา
ด้วยการควบคุมโดยสกิลการผสาน ไอเทมทรงกลมลอยเข้ามาที่หน้าผากของเขาอย่างช้าๆ
ในระหว่าง ‘การฝึกเวลาเสมือน’ เขาจะหยุดเป็นครั้งคราวและจิบยาอายุวัฒนะปฐพีอีกครั้งก่อนที่จะดำเนินการต่อไป
เมื่อมองจากภายนอก เขาจะนั่งอยู่ที่นั่นเป็นเวลาสองชั่วโมงในระหว่างที่องค์ประกอบที่มองไม่เห็นของปฐพีรอบตัวเขาซึ่งกำลังจมเข้าไปในอกของเขาราวกับว่าถูกดูดด้วยพลังที่ไม่รู้จัก
การฝึกได้ใช้ค่าประสบการณ์ทั้งหมดที่เขาเก็บไว้จนหมดในวันนั้น แต่ผลลัพธ์ที่ได้มาก็คุ้มค่า เขารู้สึกได้ถึงพลังใหม่ที่พร้อมที่จะปลดปล่อยและลืมตาตื่นขึ้นมาด้วยความยินดี
เขาทำการพิจารณการทดสอบเล็กน้อยและเปิดใบมีดหยกม่วงที่ข้อมือขวาของเขา จากนั้นก็เล็งใบมีดไปที่หน้าอกของเขา
แต่ในก็มีความคิดใหม่เข้ามาในหัวของเขา เขาเลือกที่จะทดสอบอาวุธที่มือซ้ายของเขาแทน
เคร้ง!
เมื่อกระทบนิ้วของเขา ใบมีดอันแหลมคมก็กระเด็นออกไปโดยมีบาร์เรียสีเหลืองจางๆ ที่ปกป้องผิวของเขาราวกับเกราะ
[ฝ่าย : มนุษย์ (โลก)]
[พรสวรรค์ : การผสาน (ระดับวิสามัญขั้นมรดก)]
[ระดับ : วิสามัญอันดับ 1 ขั้นกึ่งผู้บัญชาการ]
[สกิล : พละกำลังโกลาหลดั้งเดิม (ระดับพื้นฐาน) หมัดตั๊กแตนเจ็ดด้าน (ระดับเชี่ยวชาญสูง) ประโยชน์ของปฐพี (ระดับพื้นฐาน)]
[ไอเทม : ดาบงูดำ รองเท้าบู๊ทหนังวัว ใบมีดคู่หยกม่วง ชุดคลุมล่องหนตั๊กแตนหมายเลข 1…]
ระดับของเขายังคงไม่เปลี่ยนแปลง ยกเว้นแท็กที่ถูกเพิ่มเข้ามาใหม่ซึ่งเป็น ‘กึ่งผู้บัญชาการ’ นี่หมายความว่าตอนนี้เขามีสกิลและความแข็งแกร่งเพียงพอที่จะต่อสู้กับมอนเตอร์ขั้นกึ่งผู้บัญชาการลงมาได้
“ฝึกเสร็จแล้วเหรอครับนายท่าน?” หลู่จือเซินเอ่ยถามเมื่อเขาเห็นจีเย่เดินออกมา ดูเหมือนว่าเขาจะนั่งอยู่หน้าถ้ำราวกับรูปปั้น
“ใช่แล้ว การเรียนรู้ประสบความสำเร็จ ต้องขอบคุณสำหรับการปกป้องของนาย ผู้นำหลู่”
“ฮ่าๆๆ ฉันพูดถูกแล้วในตอนที่ฉันพูดว่าท่านคือสุดยอดอัจฉริยะ ศิลปะการบ่มเพาะไม่ใช่สิ่งที่สามารถเรียนรู้ได้ภายในสองชั่วโมง แต่ท่านสามารถทำได้”
และเมื่อเผชิญหน้ากับคำชมของหลู่จือเซินที่บอกว่าเขาเชี่ยวชาญในพละกำลังโกลาหลดั้งเดิม จีเย่ก็ตอบกลับด้วยรอยยิ้ม
“ฉัจจะนับคำชมของนายก็แล้วกันผู้นำหลู่”
ทันใดนั้นชนพื้นเมืองก็วิ่งเข้ามาหาสายตาของพวกเขาในขณะที่ตะโกนอะไรบางสิ่งอย่างบ้าคลั่งในระหว่างลมหายใจที่สั้นลงของเขา ‘ทะ-ทา-ท่าน-หัวหน้า! มี ‘ผู้ถูกเลือก’ เหมือนที่ท่านบอก พะ-พวกเขาเข้ามาที่ถิ่นฐานของเรา!’
หลังจากวิ่งไปเกือบครึ่งนาที ชนพื้นเมืองคนนี้ก็ถอนหายใจทันทีที่พูดหมดประโยค
Fanpage : ผีเสื้อกลางคืน