ตอนที่ 185 มังกรดําตัวจริง?
คฤหาสน์แห่งอสูรที่สว่างไสวนั้นเต็มไปด้วยเสียงอึกทึก
ตอนนี้โต๊ะถูกจัดเตรียมแล้ว และอาหารทุกจานก็เต็มไปด้วยอาหารที่แปลกใหม่ เช่น ขาหมาป่าหรือฝ่ามือหมี
“ปรมจารย์จี ขออวยพรให้คุณ ฉันอยากจะขอโทษที่ทําให้คุณอุ่นเคืองก่อนหน้านี้!”
ซื้อคนที่สี่หยิบชามขนาดเท่าหัวของเขา เติมสุรา และกล่าวกับจีเย่ ในขณะที่จีเย่นั่งหัวโต๊ะ
จากนั้นชายคนนี้ก็ดื่มหมดชามในคราวเดียว
“พี่ชายจี ฉันขอดื่มอวยพรให้คุณด้วย!”
ก๊วยเซียงยิ้มเช่นกัน และเช่นเดียวกับซื้อคนที่สี่ เธอยกแก้วและดื่มมัน แต่เธอไม่ได้ดื่มสุราแต่มีไวน์ผลไม้ที่กลั่นจากผลไม้หายากบางชนิดที่ปลูกในคฤหาสน์แห่งอสูร
จีเย่ต้องการให้เธอกลับไปที่โรงเตี้ยม เนื่องจากพี่น้องของเธอกังวล
แต่เด็กสาวคนนี้เป็นคนเรียบง่าย ในไม่ช้าเธอก็ฟื้นตัวจากความหวาดกลัวที่เธอได้รับจากสัตว์ร้าย
อย่างไรก็ตาม ในตอนที่เธอได้ยินว่าพี่น้องตระกูลซื้อกําลังจะจัดงานเลี้ยงต้อนรับจีเยีและหยางกัวเธอก็นยืนยันว่าเธอจะอยู่ต่อ
ดังนั้นจีเยจึงทําได้เพียงแค่ปล่อยให้คฤหาสน์แห่งอสูรส่งคนรับใช้กลับไปเพื่อส่งข้อความถึงพี่น้องของเธอ รวมทั้งบอกผู้อาวุโสเมิ่งว่าเขาเป็นยังไงบ้าง ผู้อาวุโสเพิ่งรู้ว่าควรทํายังไงต่อ
หลังจากงานเลี้ยงยามค่ําคืน จีเย่ หยางจื้อ หล่จัน และคนอื่นก็พักที่คฤหาสน์แห่งอสูรในคืนนี้
“ท่านหัวหน้า ศพจิ้งจอกหายไปแล้ว!”
พวกเขาได้ยินข่าวในเช้าวันรุ่งขึ้นในขณะที่รับประทานอาหารเช้ากับพี่น้องตระกูลซื้อ
และเป็นหมู่จันอี้ที่กล่าวด้วยน้ําเสียงประหลาดใจ
“อะไรกัน? กล้าดียังไงมาขโมยในคฤหาสน์แห่งอสูร?”
ซือคนที่สี่ที่มีอารมณ์ฉุนเฉียวรีบสรุปทันทีว่ามีคนรับใช้ขโมยมันไป
ท้ายที่สุดแล้ว จิ้งจอกนั้นก็หายากจนแม้แต่ขนของมันก็มีมูลค่ามหาศาล
“จิ้งจอกเก้าหางนั้นฉลาดแกมโกงมาก มันต้องแกล้งตายอย่างแน่นอน!”
พี่ชายคนโตดูเหมือนจะรู้อะไรบางอย่าง
“มันแกล้งตายงั้นแหรอ?”
จีเยู่ประหลาดใจก่อนที่จะมีสีหน้าผิดหวัง
“พูดตามตรง อันที่จริงภูเขามังกรคู่รู้วิธีการเลี้ยงสัตว์เช่นกัน”
“เนื่องจากว่าจิ้งจอกเป็นสิ่งมีชีวิตหายาก เราจึงพยายามจับมันมาก่อนและคิดว่าเราบังเอิญฆ่ามันซึ่งเป็นเรื่องที่น่าเสียใจทีเดียวแต่สุดท้ายมันก็แค่แกล้งตายฉันพลาดไปได้ยังไงกัน?”
พี่น้องตระกูลซื้อไม่ได้สงสัยแม้แต่น้อย
เนื่องจากพวกเขาเห็นว่าหลังจากที่จีเย่ปรากฏตัว หมาป่าที่พวกเขาเลี้ยงมาหลายปีก็ยอมจํานนทันที
พวกเขาเชื่อว่าชายคนนี้มีความสามารถในการฝึกสัตว์ร้ายมากกว่าพวกเขา
สิ่งที่พวกเขาไม่รู้ก็คือจเย่นั้นสามารถควยบคุมหมาป่าได้เพียงเพราะสัตว์ร้ายนั้นถูกฝึกฝนโดยพวกเขาแล้ว
ไม่อย่างนั้นจะไม่ใช่เรื่องง่ายสําหรับจีเย่ที่จะควบคุมฝูงหมาป่าได้อย่างแท้จริง
เนื่องจากพวกมันไม่ใช่หมาป่าน้ําเงินหลังโลหะ
เหมือนกับสิ่งที่เกิดขึ้นนอกวัดหลานรั่ว แม้ว่าพวกมันจะหวาดกลัวเขจา แต่พวกมันก็ไม่แสดงความจงรักภักดีต่อเขา
“รู้มั้ยว่าถ้ําจิ้งจอกอยู่ที่ไหน?”
ดูเหมือนว่าหลู่จัน จะมีความคิดบางอย่าง และเขาก็เอ่ยถามพี่น้องทั้งห้า
“มันอยู่ในหนองน้ําห่างจากที่นี่ประมาณ 5 กม. และสถานที่แห่งนั้นถูกเรียกว่า “บึงมังกรดําโคลนมีความลึกกว่า 30 เมตร และไม่มีใครเข้าไปได้ มีถ้ําจิ้งจอกอยู่ใจกลาง” พี่ชายคนโตของพี่น้องตระกูลซื้อกล่าวออกมา
“อย่างไรก็ตาม เราทําให้จิ้งจอกตกใจ และมันจะไม่ออกมาจากบึงอีก”
นั่นเป็นเหตุผลที่พวกเขาสิ้นหวังเมื่อเห็นว่าจิ้งจอกหนีไป
“ไม่ต้องกังวล เราจัดการเอง!”
“นอกจากนี้ ในการทําครีมหยกดําซึ่งเป็นยาลับของเรา เราจะต้องใช้โคลนจากบึงนั้น การเดินทางจะคุ้มค่า”
จีเย่พยักหน้าและพร้อมที่จะไปเยี่ยมบึงมังกรดํา
“ปรมจารย์จี ฉันจะไปกับคุณ!” หยางกัวกล่าวออกมา
เขารู้สึกไม่สบายใจที่จะรับความช่วยเหลือจากจีเย่เพราะเขาไม่ได้ทําอะไรให้จีเย่ ในขณะที่จีเย่กําลังจะเตรียมครีมให้กับเขา
แน่นอนว่าเขาต้องไปกับจีเย่
“พี่ชายจี ฉันอยากไปเหมือนกัน!”
แววตาของก๊วยเซียงเปล่งประกาย และเธอก็ต้องการไปกับจีเยู่เพื่อจับ จิ้งจอกขาวตัวน้อย
“เธอจะต้องอยู่ในคฤหาสน์แห่งอสูร พี่สาวคนโตของเธอกําลังมาหา หลังจากที่ฉันจับจิ้งจอกได้แล้วฉันจะพามันไปที่เมืองซงหยง”
แน่นอนว่าจีเย่ไม่สามารถพาเธอไปได้
พูดตามตรง เหตผลหนึ่งที่เขารีบไปที่บึงมังกรดําก็คือเขาต้องหารหยุดหยางกัวจากการไปพบก๊วยฟู
ด้วยความแค้นเก่าระหว่างพวกเขา นี่ไม่ใช่เวลาที่เหมาะสมสําหรับพวกเขาที่จะพบกัน!
“ปรมจารย์จีบึงมังกรดําอยู่ข้างหน้าแล้ว!”
หยางกัวเป็นหนึ่งในผู้ฝึกสกิลคล่องแคล่วที่ดีที่สุดในตํารา แต่จีเย่ก็เก่งกาจพอกันเราะเขาก็เคยเป็นนักกีฬาพาดโผนแร้งก็อยู่กับพวกเขาเช่นกัน
ชายสองคนและนกหนึ่งตัวไม่เร่งรีบ แต่พวกเขาก็ยังมาถึงบึงมังรดําก่อนดวงอาทิตย์ตก
“อมิตาพุทธ! ฉันชื่ออิดเต็งไต้ซื้อ และฉันก็อยากพบกับป้าหยิน”
ก่อนที่พวกเขาจะเข้าไปใกล้ พวกเขาก็ได้ยินเสียงมาจากทางบึงมังกรดํา
คนคนนั้นไม่ปรากฏตัวออกมาให้เห็น แต่เขาก็ได้ยินเสียงอยู่ใกล้เขา
“นั่นคือเทคนิค “เสียงพันลี้!”
“ฉันไม่คิดว่าจะได้พบกับอิดเต็งไต้ซื้ออีกครั้งที่นี่”
เมื่อได้ยินเสียงนั้น หยางกัวก็ยิ้มหลังหน้ากาก
“เรามาที่นี่ตรงเวลา!”
จีเยคิดกับตัวเอง
เขารู้ว่าจิ้งจอกแกล้งตาย แต่เขาก็ยังปล่อยมันหลุดมือ เห็นได้ชัดว่าเขาตั้งใจทําแบบนั้น
เนื่องจากเขาต้องการให้โอกาสนี้เพื่อค้นหารังของมันและจิ้งจอกตัวอื่น
ยิ่งไปกว่านั้น เขายังต้องการดูเนื้อเรื่องในหนังสือ
หลังจากที่พวกเขาเข้าสู่วิ่งมังรดํา พวกเขาก็เห็นชายคนหนึ่งยืนอยู่บนหิมะ เคราสีขาวของเขายาวไปถึงหน้าอกและเขาก็สวมชุดคลุมของพระสงฆ์สีเทา
“อิดเต็งที่น่านับถือ นี่เป็นเกียรติกับเรามาก!”
หยางกัววิ่งไปที่ด้านข้างวของไต้ซื้อเฒ่าและโค้งคํานับเขา
“หยางกัว เพื่อนรักของฉันนายเป็นยังไงบ้าง?”
อิดเต็งก็ประหลาดใจเช่นกันเขาจับมือหยางกัวทันที หยุดดเขาจากการโค้งคํานับ
“นั่นเซียนที่น่านับถือไม่ใช่เหรอ? เกิดอะไรขึ้น?!”
หยางกัวยึดตัวขึ้นและพบชายคนหนึ่งนอนอยู่บนพื้นข้างอิดเต็งที่น่านับถือ ตาของเขาปิดอยู่และเขามีใบหน้าที่ซีดเซียวนอกจากนี้เขายังแทบจะไม่หายใจ
เมื่อหยางกัวเห็นใบหน้าของชายคนนั้น เขาก็ประหลาดใจ
“เขาได้รับบาดเจ็บฉันได้ทําทุกอย่างที่ทําได้แล้ว แต่ตอนนี้ฉันก็ยังไม่สามารถทําอะไรได้”
อิดเต็งที่น่านับถือส่ายหัวและมีสีหน้าเศร้า
“ด้วยความสามารถของเชียนที่น่านับถือ ฉันสงสัยว่าใครกันที่ทําให้เขาบาดเจ็บสาหัส?”
หยางกัวรู้สึกประหลาดใจมากยิ่งขึ้น
เนื่องจากเชียนไม่ใช่ไต้พระ แต่เขาคือคิวเชียนหรันซึ่งครั้งหนึ่งเคยเป็น “กําปั้นเหล็กทลายวารี”ในด้านของความสําเร็จศิลปะการต่อสู้ เขาเป็นคนที่ใกล้เคียงกับห้าผู้ยิ่งใหญ่มากที่สุด
ด้วยระดับการบ่มเพาะของเขา ใครกันที่สามารถทําร้ายเขาได้เช่นนี้?!
“มันเป็นชาวหยวน เขากับฉันอาศัยอยู่อย่างสันโดดในฮูหนาน แต่ก็มีข่าวลือว่าเพราะกองทัพหยวนไม่สามารถยึดครองซงหยงได้หลังจากการล้อมที่ยาวนาน พวกมันจึงโจมตีต้าหลี่ก่อนยที่จะจัดกลุ่มใหม่และโจมตีซงหยง อีกครั้ง”
“เมื่อเห็นว่าฉันกังวลเรื่องบ้านเกิดเมืองนอน เชียนจึงไปที่ต้าหลี่เพื่อรวบรวมข้อมูล แต่เขาก็ได้พบกับผู้เชี่ยวชาญด้านศิลปะการต่อสู้ของกองทัพหยวนซึ่งทําให้เขาบาดเจ็บหลังจากการต่อสู้อันดุเดือด…”
อิดเต็งที่น่านับถือมีสีหน้าเคร่งขรึม
“ชาวหยวนได้ก่อตั้งอาณาจักรของพวกมันด้วยความสามารถในการต่อสู้ และชายคนนั้นสามารถทําให้เชียนที่น่านับถือได้รับบาดเจ็บสาหัส ดังนั้นเขาน่าจะเป็นหนึ่งในสี่ขุนนาง!”
เมื่อได้ยินแบบนั้น หยางกัวก็มีสีหน้าจริงจัง
จีเย่ได้เรียนรู้บางสิ่งจากการสนทนานี้
ในสนามรบแห่งโชคชะตานี้ ขุนนางหยวนมีความสามารถเท่ากับห้าผู้ยิ่งใหญ่
ดูเหมือนว่าพวกเขาจะต้องพัฒนาความสามารถของพวกเขาหากพวกเขาต้องการทํางานให้สําเร็จ
“อิดเต็งที่น่านับถือนายมาที่นี่เพื่อขอให้ใครบางคนในบึงช่วยเชียนที่น่านับถือใช่มั้ย?” จีเย่เอ่ยถาม
แน่นอนว่าเขารู้ว่าไต้ซื้อมาที่นี่เพื่ออะไร เขาจึงกล่าวเพื่อเริ่มต้นการสนทนา
“ฉันเกรงว่าอาการบาดเจ็บของเชียนนั้นเกินกว่าที่จะรักษาได้ พูดตามตรง ลูกศิษย์ของฉันมาที่นี่พร้อมที่จะตายแล้วแต่เขาก็มีความปรารถนาสุดท้าย เขาหวังว่าผู้ที่อาศัยในบึงจะให้อภัยเขาได้ ไม่อย่างนั้นเขาคงไม่มีวันได้พักผ่อนอย่างสงบสุขได้”
“อย่างไรก็ตาม ฉันอยู่ที่นี่มาแปดวันแล้ว แต่เธอก็ยังไม่ออกมาพบฉัน ฉันเกรงว่าเชียนจะอยู่ได้อีกไม่นาน”
อิดเต็งที่น่านับถือส่ายหัวและถอนหายใจ
คิวเชียนหรันกลายเป็นลูกศิษย์ของเขา เปลี่ยนมาเป็นนับถือศาสนาพุทธ และได้รับบาดเจ็บสาหัสจากปรมจารย์ชาวหยวนในตอนที่ไปทําธุระให้กับเขา หากความปรารถนาสุดท้ายของเชียนไม่สามารถทําได้แม้แต่ไต้ซื้อผู้มีชื่อเสียงอย่างอิดเต็งก็พบว่ายากที่จะยอมรับความจริง
“อิดเต็งที่น่านับถือไม่ยากเลยที่จะนําบุคคลนั้นออกมาจากในบึง ขอโทษสําหรนับเรื่องนี้ด้วย!” จีเย่กล่าวด้วยรอยยิ้ม
บูม!
เขาปลดปล่อยพลังงานออกไปหลังจากนั้น
ทันใดนั้นน้ําที่ละลายจากหิมะก็เริ่มไหลอย่างรวดเร็วเหนือทิ้ง
บูม! บูม!
หลังจากนั้น ยิ่งมังกรดําก็สั่นสะเทือนอย่างรุนแรงราวกับมีแผ่นดินไหว
“อืมมม..
ทั้งหยางกัวและอิดเต็งที่น่านับถือต่างก็ดูประหลาดใจ
พวกเขาเป็นผู้ฝึกศิลปะการต่อสู้ชั้นนําในโลกนี้ แต่ถึงอย่างนั้นพวกเขาก็ยังไม่สามารถสร้างผลกระทบด้วยความพยายามทั้งหมดของพวกเขาได้
สิ่งทีจีเยู่ทํานั้นอยู่เหนือพลังของมนุษย์
“ห้ะ?”
ไม่เพียบงแค่พวกเขาเท่านั้น แม้แต่จีเยก็ประหลาดใจเช่นกัน
เขาได้เปิดใช้งานเลือดมังกรน้ําเพียงเพื่อควบคุมหิมะที่ละลายโดยดวงอาทิตย์เพื่อที่เวจะได้แสดงพลังของเขาเพื่อขับไล่คนที่ซ่อนตัวอยู่ในบึงออกมา
อย่างไรก็ตาม เมื่อเลือดมังกรน้ําถูกเปิดใช้งาน บึงมังกรดําก็มีการตอบสนองที่แปลกประหลาด
หลังจากนั้น เขาก็สามารถรับรู้ได้ถึงคุณสมบัติของบึง
[วิ่งมังกรดํา]
[ระดับ : วิสามัญ]
[ขั้น : ทั่วไป]
[รายละเอียด : ในตํานานเล่าว่ามังกรดําเคยอาศัยอยู่ที่นี่ หลังจากได้รับผลกระทบจากพลังงานของมันคตลอดหลายปีที่ผ่านมา บึงมังกรดําก็ได้ผ่านการเปลี่ยนแปลงที่ผิดปกติบางอย่าง]
ในตอนแรก จีเย่คิดว่า มังกรดํา เป็นเพียงชื่อ แต่จากลักษณะแล้ว มังกรดําน่าจะเคยมีอยู่จริง
โคลนในบึงทั้งหทมดได้ตอบสนองต่อเขา ปลุกทั้งบึงมังกรดํา
ใช่แล้ว มังกรมีอยู่จริงในหนังสือ
เนื่องจากในหนังสือต้นฉบับของอาจารย์กิมย้ง (เวอร์ชั่นแฟนตาซีพลังภายใน) การโจมตีปราบมังกรซึ่งควรนจะเป็นเทคนิคหมัดที่น่าเกรงขามที่สุดในโลกนั้นถูกสร้างขึ้นจากการหลอมรวมวิธีการต่อสู้ของมังกรน้ําสีดําและคัมภีย์แห่งการแปรผัน
บางทีบึงมังกรดําอาจเป็นที่ที่มังกรดําตัวนั้นเคยอาศัยอยู่
แม้ว่าสิ่งต่างๆ จะถูกลดพลังในสนามรบแห่งโชคชะตา แต่ก็ยังมีบางสิ่งที่โดดเด่น!