ตอนที่ 180 ความสงสัยของก๊วยเซียง
“ปรมจารย์จี!”
ก๊วยพั่วลู่สืบทอดธรรมชาติที่ดีและความมีระดับของก๊วยเจ๋ง ดังนั้นเขาจึงทักทายจีเย่ทันที
“ฉันคิดว่าฉันทําให้คุณดูแก่ด้วยการเรียกคุณว่า “ปรมจารย์” ฉันขอเรียกคุณว่า “พี่ขายจี” ได้มั้ย?”
ในทางกลับกัน ก๊วยเซียงมองไปที่จีเย่ด้วยตากลมโตของเธอและกล่าวด้วยน้ําเสียงที่ซุกซน
“ได้เลย!”
จีเย่ขยิบตาให้เด็กสาว
[ก๊วยเซียง]
[ฝ่าย : เป็นมิตร]
[ระดับ : วิสามัญอันดับ 3]
[การประเมิน : ชั้นยอด]
[รายละเอียด : ลูกสาวคนที่สองของก๊วยเจ๋งและหวงหรงง เธอมีชีวิตชีวา ไร้เดียงสา อารมณ์ดี และมีพรสวรรค์การในศิลปะการต่อสู้อย่างมาก!]
เมื่อเทียบกับก๊วยพู่ที่ตัดแขนหยางกัว และมีนิสัยที่หยิ่งผยอง นิสัยของก๊วยเซียง เด็กสาววัย 15 ปีเป็นที่ชื่นชอบของชาวประเทศมังกรอย่างมาก
ในสนามรบแห่งโชคชะตา ภาพฉายของเด็กสาวคนนี้นั้นอ่อนแอกว่าเมื่อเทียบกัน
แต่จีเย่รู้ดีว่าเด็กสาวกําลังจะก่อตั้งสํานักง้อไปในภายหลังด้วยความช่วยเหลือจากดาบอิงฟ้าของเธอ
ยิ่งไปกว่านั้น ศิลปะเก้าหยางของสํานักง้อไบ๊ที่เขารับมาก็ถูกสร้างขึ้นโดยเด็กคนสาวคนนี้จากศิลปะเก้าหยางศักดิ์สิทธิ์
“ยังไงก็ตาม พี่ชายจี คุณรู้จักแร้งนักดาบหรือไม่?”
หลังจากแลกเปลี่ยนกันอย่างสนุกสนาน พวกเขาก็คุ้นเคยกันมากขึ้น ก๊วยเซียงมองไปที่เยด้วยดวงตาที่สุดใสของเธอและเอ่ยถาม
ผู้คนในห้องรับรองกําลังกล่าวถึงวีรกรรมของแร้งนักดาบซึ่งก๊วยเซียงรู้สึกทิ่งอย่างมาก
“ฮึ่ม! แร้งนักดาบ? เธอทําให้เขาฟังดูเหมือนวีรบุรุษบางคน!”
เมื่อได้ยินคําพูดของก๊วยเซียง ก๊วยพู่นั้นไม่ชอบกล่าวถึงชื่อนั้น
ลึกลงไป เธอยังคงนึกถึงหยางกัว และเมื่อเธอได้ยินคนกล่าวถึงแขนที่ขาเของแร้งนักดาบ เธอก็มีสีหน้าซีดเซียว
“เมื่อไหร่ฉันจะได้เจอเขากันนะ?”
ในการสนทนากับก๊วยพู่ในภายหลัง ก๊วยเซียงได้รู้ว่าเธอเคยพบนักดาบคนนี้มาก่อน และชายคนนั้นก็กอดเธอไว้ในอ้อมแขนของเขาในตอนที่เธอยังเด็ก หลังจากนั้นเธอก็ตั้งตารอที่จะได้พบเขามากขึ้น
“คุณผู้หญิง การท่าอย่างนั้นไม่ยาก คืนนี้ฉันจะพาคุณไปพบกับเขา”
มีคนกล่าวออกมาหลังจากที่เธอเอ่ยถาม
ที่มุมหนึ่งของห้องรับรอง คนที่ซุกตัวอยู่และกําลังหลับลุกขึ้นยืน เขาสูงไม่เกิน 150 ซม. อย่างไรก็ตามหัว แขน ขา มือ และเท้าของเขานั้นใหญ่กว่าคนทั่วไปมาก เขาดูเหมือนตุ๊กตาประหลาดที่มีหัวโต
“แน่นอนว่าฉันไม่รู้จักเขา มันเหมาะสมงั้นเหรอที่ฉันจะไปพบเขาอย่างไร้เหตุผล? ฉันไม่รู้ว่าเขาอยากเจอฉันมั้ย”
ก๊วยเซียงยินดีที่ได้รับข่าว
“หากวันนี้คุณไม่เจอเขา ก็ไม่มีวันได้เจอเขาอีก”
ชายร่างเตี้ยที่ดูแปลกประหลาดกล่าวด้วยน้ําเสียงแปลกๆ
“ทําไม?”
ดวงตาของก๊วยเซียงเบิกกว้าง และเธอก็เอ่ยถามด้วยความงุนงง
“ขอฉันรู้ชื่อคุณได้มั้ย?”
ก๊วยพู่ลุกขึ้นยืนและเอ่ยถามด้วยน้ําเสียงระมัดระวัง
“คุณไม่สามารถหาใครที่น่าเกลียดได้เหมือนกับฉันได้อีก หากคุณไม่รู้ว่าฉันเป็นใคร ให้กลับบ้านไปถามพ่อแม่ของคุณนะ”
ขายที่ดูแปลกประหลาดสูดลมหายใจ
“จากฝูงภูติผีแห่งภูเขาตะวันตก เก้าในสิบอยู่ที่นี่ ผีหัวโต นายมัวรออะไรอยู่?”
ทันใดนั้นก็มีเสียงกล่าวออกมาเป็นระยะๆ ราวกับกําลังล่องลอยไปในสายลม
หลังจากนั้น ก๊วยพู่ก็พบว่าชายหัวโตคนนี้นั้นเลวทรามและต้องการหยุดน้องสาวของเธอ
“แม้ว่าคืนนี้ฉันจะต้องเจอกับปีศาจ แต่ฉันต้องได้พบกับนักดาบ ผู้อาวุโส โปรดพาฉันไปด้วย!”
อย่างไรก็ตาม ก๊วยเซียงยังคงวิ่งไล่ตามชายหัวโตด้วยความสงสัยและตื่นเต้น
“น้องสาว กลับมา!”
หลังจากก๊วยพู่ออกไป ทั้งสองก็ไม่พบใครเลย
มันเป็นคืนที่หิมะตก และไม่มีดวงจันทร์บนท้องฟ้า
ด้วยระดับการบ่มเพาะของเธอ เธอไม่สามารถมองเห็นในเวลากลางคืนได้ ดังนั้นเธอจึงไม่รู้ว่าเธอควรไปทางไหน
“คุณก๊วย ไม่ต้องกังวล ปรมจารย์ของฉันตามพวกเขาไปและเขาจะนําคุณหนูก๊วยกลับมา!”
ฉินเยว่หยู อู่เฉียว และคนอื่นออกมาในตอนนั้น และพวกเขาก็พยายามปลอบก๊วยพู่
“ปรมจารย์ของพวกคุณ?”
ก๊วยพู่หันกลับมาและเห็นว่าจีเย่ หัวหน้าของภูเขามังกรคู่นั้นหายตัวไปแล้ว
ภูเขามังกรคู่สู้กับอาณาจักรหยวนมาหลายปี คนทั่วไปจํานวนมากไม่รู้จักพวกเขามากนัก แต่เธอเคยได้ยินเรื่องนี้มาจากพ่อแม่ของเธอ
สนามรบไม่เหมือนกับในสนามประลอง และจีเย็ดูเหมือนจะยังเด็กอยู่ แม้ว่าก๊วยพู่จะไม่รู้ว่าการบ่มเพาะของเขาก้าวไปถึงระดับไหน แต่เนื่องจากเขาสามารถติดตามพวกเขาได้โดยที่เธอไม่สังเกตเห็น ความสามารถของเขาจึงน่าจะเพียงพอ
ยิ่งไปกว่านั้น ทั้งสามคนมาที่เพิ่งหลิงตูภายใต้คําสั่งของก๊วยเจ๋ง พวกเขาควรจะไปจินหยางเพื่อเชิญคูชูกหัวหน้าสํานักฉวนเงินเพื่อให้เขามาที่ซงหยงเพื่อเป็นเจ้าภาพในการประชุมของเหล่าวีรบุรุษ พวกเขาจะกลับไปที่ซุงหยงหลังจากนั้น
ในตอนนี้ที่น้องสาวของเธอหนีไปแล้ว ก๊วยพู่ก็ไม่สามารถกลับไปรายงานให้กับพ่อแม่ของเธอหรือตามน้องสาวไปได้ ดังนั้นเธอจึงทําได้เพียงแค่รอข่าวจากจีเย่เท่านั้น
หวูดดด!
จีเย่เดินในคืนที่หิมะตก
หิมะยังคงเป็นรูปแบบน้ํา ดังนั้นแม้ว่าจีเยจึงไม่ได้ฝึกฝนสกิลคล่องแคล่ว แต่เขาก็ยังคงสามารถเคลื่อนที่ได้รวดเร็วราวกับสายฟ้า
ในตอนที่มีสิ่งกีดขวาง เขาก็จะวิ่งผ่านพวกมันด้วยประกายแสงสีเหลือง และออกห่างไปสามเมตรทันที
กุบกับ กุบกับ กุบกับ…
ประมาณ 500 เมตรข้างหน้าเขา มีมาหลายสิบตัวกําลังวิ่งอยู่
ก๊วยเซียงขี่ม้าตัวหนึ่งในขณะที่ชายหัวโตขี่ม้าอีกตัวหนึ่ง เก้าคนที่มีรูปร่างหน้าตาและเครื่องแต่งกายเหมือนกันขี่ม้าที่เหลือ
สิบคนที่รู้จักในนามกลุ่มภูติผีแห่งภูเขาตะวันตก
คนที่พาก๊วยเซียงออกไปก็คือผีหัวโตซึ่งอยู่ในรอันดับ 5 ในหมู่พวกเขา
ในทางทฤษฎีของผู้อาวุโสเพิ่งผู้ที่รู้จักมังกรหยกราวกับหลังมือของเขา ภูเขามังกรคู่สามารถหยุดก๊วยเซียงไม่ให้ติดตามชายคนนั้นไปได้
แต่พวกเขาไม่ทํา เนื่องจากตามที่ผู้อาวุโสเพิ่งกล่าว “ผี” กําลังท้าทายหยางกัว
เนื่องจาก “ผีอสูร อันดับ 6 ในสิบคนถูกตัดหูโดยแร้งนักดาบเพื่อเป็นการลงทัณฑ์
นี่เป็นครั้งแรกที่ก๊วยเซียงได้พบกับหยางกัวก็เหมือนกับคํากล่าวที่ว่า ตั้งแต่เธอพบกับหยางกัวที่เพิ่งหลิงตู เธอก็ไม่สามารถลมเขาได้อีกเลย
ในสนามรบแห่งนี้ ความสําคัญของหยางกัวซึ่งเป็นตัวละครหลักของมังกรหยกเป็นอันดับ 2 รองจากก๊วยเจ๋ง และหวงหรงเท่านั้น ดังนั้นแน่นอนว่าพวกเขาต้องผูกมิตรกับเขา
จําเป็นต้องกล่าวว่าสนามรบแห่งโชคชะตาอาจไม่เป็นไปตามเนื้อเรื่องดั้งเดิมของหนังสือ
ดังนั้นจีเย่จึงเตรียมพร้อมสําหรับเรื่องนี้
เมื่อก๊วยเซียงไม่ได้สังเกต หน้ากากโปร่งใสก็ได้หลอมรวมเข้ากับร่างกายของเธอ
ในทางทฤษฎี แม้ว่าเธอจะตกอยู่ในอันตราย แต่จีเย่ก็สามารถปกป้องวิญญาณของเธอได้
หลังจากนั้น ด้วยพรสวรรค์การรักษา เขาจะสามารถนําเธอกลับมาได้ ไม่ว่าเธอจะได้รับบาดเจ็บสาหัสขนา ไหน
ดังนั้นพวกเขาจึงไม่จําเป็นต้องกังวลเกี่ยวกับการตอบคําถามก๊วยเจ๋งและหวงหรงหากมีอะไรเกิดขึ้นกับก๊วยเซียง
หวูดดด!
แต่เขาไม่ได้ติดตามอย่างใกล้ชิดมากเกินไป
แต่เขากลับใช้สายสัมพันธ์ระหว่างตัวเขากับหน้ากากและติดตามม้าจากระยะห่าง 500 เมตร