ตอนที่ 170 การผสาน : ดาบมังกรหยก
“ผสาน!”
ในห้องของเขาในป้อมปราการภูเขามังกรคู่ จีเย่กําลังนั่งไขว่ห้างอยู่บนพื้นพร้อมกับไอเทมแต่ละข้างในมือ
ในมือข้างหนึ่งของเขาก็คือดาบงดําที่หัก ยกเว้นว่าดาบทั้งสองส่วนถูกยึดติดเข้ากันด้วย และมันก็ดูดซับเลือดบางส่วน
ในมืออีกข้างหนึ่งของเขามีซองดาบสีขาวซึ่งมียันต์ดาบโราณติดอยู่
แน่นอนว่ามีดาบอยู่ในซองดาบด้วยเช่นกัน
ดาบในนั้นไม่ใช่สิ่งอื่นนอกจากดาบบินหยกขาวจากสนามรบแห่งโชคชะตา!
หวูดดด! หวูดดด!
ในขณะที่จีเย่กล่าวออกมา ไอเทมทั้งสองในมือของเขาต่างก็ปล่อยแสงสีขาวของการผสานออกมา
สิบนาทีต่อมา แสงสีขาวก็หายไป และซองดาบก็ไม่เปลี่ยนแปลงมากนัก
ยันต์บ่มเพาะดาบจากหยานซีเซียยังคงติดอยู่กับมัน ยกเว้นว่าจะดูซีดจากเดิม
อย่างไรก็ตามดาบงูดําในมืออีกข้างของเขากลับได้กลายเป็นดาบเล่มใหม่ที่มีความยาวประมาณ 1.4 เมตร และดูเหมือนหยกขาวที่ดีที่สุด!
[ไร้นาม]
[ระดับ : วิสามัญอันดับ 5]
[ขั้น : สมบูรณ์]
รายละเอียด : นี่คืออาวุธที่ผสานดาบงูดําและดาบบินหยกขาวเข้าด้วยกัน มันได้ผสานการแปรผันเชิงคุณภาพเพราะเลือดมังกรน้ําในนั้น โปรดทายว่ามันไม่เรียบง่ายอย่างที่เห็น!]
จีเย่ลืมตาขึ้นมาโดยไม่มีอาการเหนื่อยหอบแม้แต่น้อย
หวูดดดด!
ดาบสั้นและหนาขึ้นเล็กน้อยพุ่งออกไปกลางอากาศ
มันกลายเป็นริ้วแสงสีขาวและวนเวียนอยู่ในห้องอย่างรวดเร็ว
จากนั้นมันก็หันกลับมาอย่างรวดเร็วและมุ่งไปที่กึ่งกลางหน้าผากของจีเย่!
ปัป!
จีเย่ยื่นมือของเขาที่ถูกปกคลุมไปด้วยแสงสีเหลืองและจับดาบ!
เครั้งง!
หลังจากที่จีเย่จับดาบ ดาบก็เปล่งแสงสีแดงออกมา แลละดาบเล่มเล็กที่ยาวประมาณ 1 ฟุตและโปร่งใส พุ่งออกมาพร้อมกับตรงไปที่หน้าผากของจีเย่!
อย่างไรก็ตามดาบสั้นไม่ได้โจมตีโดนจีเย่ เนื่องจากจีเย่ได้ดึงดาบบางสีแดงออกมาจากดาบหยกขาวและป้องกันวิถีของดาบโปร่งใส!
เคร้งงง!
อย่างไรก็ตามดาบโปร่งใสมีการระเบิดพลังที่น่าตกตะลึงออกมา
แม้ว่าดาบสีแดงงจะถูกเบี่ยงไปเล็กน้อย แต่ก็ยังโดนแสงสีเหลืองที่ด้านหนึ่งของหัวจีเย่ ตัดแสงสีเหลืองออกเป็นชิ้นๆ ก่อนที่มันจะพุ่งเข้าไปและแทงเข้าไปในผนังห้องของจีเย่
“ไม่เลวเลย หากดาบถูกเก็บไว้กับเลือดมังกรน้ําสักพักหนึ่ง มันจะสามารถโจมตีด้วยพลังระดับวิสามัญอันดับ 7 ในตอนที่ใช้ครั้งแรกได้”
จีเย่พยักหน้าอย่างพึงพอใจหลังจากการทดสอบ
จากนั้นเขาก็ใส่ดาบสีแดงและโปร่งใสลงไปในดาบสีขาวเล่มแรก มองอย่างผิวเผิน พวกมันดูเหมือนดาบเล่มเดียว
อย่างไรก็ตามหากสังเกตุดีพอ พวกเขาจะสังเกตเห็นรอยสีแดงบนดาบหยกขาวซึ่งคล้ายกับยันต์บ่มเพาะดาบบนซองดาบที่อยู่ใกล้ๆ
การผสานในตอนนี้เป็นเทคนิคหกรวมเป็นหนึ่ง!
องค์ประกอบที่จะผสานประกอบด้วยสองส่วนของดาบงูดํา เลือดมังกรน้ําที่ปลดปล่อยออกมาจากดาบงูดํา ซองดาบยันต์บ่มเพาะดาบ และดาบบินหยกขาวที่อยู่ในนั้น
จีเย่ค้นพบมานานแล้วว่ามีช่องโหว่ในพรสวรรค์ของเขาที่เขาสามารถใช้ประโยชน์ได้
ตราบใดที่แต่ละชิ้นสามารถพิจารณารวมกันได้ พวกมันก็จะสามารถผสานได้ในครั้งเดียว
การผสานครั้งนี้เป็นความพยายามของเขาอย่างแท้จริง แทนที่จะผสานทั้งสองชิ้นเข้าด้วยกัน เขาตั้งใจที่จะสร้างดาบพิเศษเล่มนี้ขึ้นมา
หลังจากที่ดาบงูดําซึ่งเคยประสบกับการแปรผันเชิงคุณภาพหลังจากหลอมรวมกับเลือดมังกรน้ํา ถูกหุ้มไว้ในดาบบินหยกขาว มันสามารถบินได้แม้ว่าจะไม่มีน้ําอยู่บริเวณโดยรอบก็ตาม
นอกจากนี้ดาบสั้นโปร่งใสยาว 1 ฟุตซึ่งซ่อนอยู่ที่ปลายดาบสามารถทําการโจมตีที่ไม่คาดคาดได้ในบางสถานการณ์
จีเย่ได้เรียนรู้บทเรียนนั้นจากผีผาบุษราคัมซึ่งเป็นเครื่องดนตรีที่มีดาบซ่อนอยู่ในนั้น
เขาไม่รังเกียจที่จะถูกมองว่าเป็น “คนเจ้าเล่ห์ สําหรับอาวุธนี้บนสนามรบแห่งโชคชะตา
ท้ายที่สุดแล้ว ดินแดนแห่งมรดกก็เป็นสถานที่ที่เกียรติยศและความซื่อสัตย์ไร้ประโยชน์อย่างสิ้นเชิง
หากเขาสนใจเรื่องนั้น เขาจะไม่ควบคุมมนุษย์อินทรีหนุ่มเพื่อป้องกันลูกศรสําหรับทหารของกองกําลังฟันมังกร
สิ่งเดียวที่น่าเสียใจเล็กน้อยก็คือดาบเล่มนี้ไม่ได้เป็นขั้น “สมบูรณ์
ท้ายที่สุดแล้ว เขาก็ได้ผสานไอเทมมากเกินไป และเขาก็พยายามที่จะแทรกแซงด้วยการผสาน เป็นเรื่องธรรมดาที่ดาบจะไม่ใช่ขั้นสมบูรณ์
“เรามาดูกันว่ามันทํางานยังไงในสนามรบแล้วค่อยตัดสินใจว่าควรผสานอีกครั้งหรือไม่… ดูเหมือนว่าจะไม่เหมาะสมที่จะเรียกมันว่า “งูดํา” แล้วในตอนนี้ เรียกแกว่า “ดาบมังกรหยก” ก็แล้วกัน!”
หลังจากการผสานดาบ จีเย่ก็เดินออกจากห้องของเขาไปที่วัดแห่งโชคชะตาในบริเวณใกล้เคียง
“ท่านหัวหน้า! ท่านหัวหน้า!”
ด้านนอกของวัดแห่งโชคชะตา ชนพื้นเมืองจํานวนมากของสถานที่แห่งนี้ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้หญิงและเด็กกําลังรออยู่ พวกเขาทุกคนโค้งคํานับและแสดงความเคารพต่อจีเย่เมื่อเห็นเขา
เป็นเวลาสองวันแล้วนับตั้งแต่ที่พวกเขาต่อสู้กับมนุษย์อินทรี
ในตอนนี้ ประชากรของป้อมปราการภูเขามังกรคู่ได้รับการฟื้นฟูมาสู่สภาพก่อนการต่อสู้ เนื่องจากวัดแห่งโชคชะตามีพิธีกรรมไม่หยุดหย่อนในช่วงสองวันที่ผ่านมา
“ท่านหัวหน้า!”
เมื่อจีเย่มาถึงวัดแห่งโชคชะตา ทหารชั้นยอดของกองกําลังฟันมังกรซึ่งเอาชนะภาพลวงตามนุษย์อินทรีซึ่งถูกฉายโดยหนึ่งในสินสงคราม ได้เปลี่ยนจากเงาให้กลายเป็นตัวตนที่แท้จริง เขามองไปรอบๆและโค้งคํานับแก่จีเย่ด้วยความยินดี
“นายไม่กลัวความตายในการต่อสู้ นายเป็นผู้ชายที่แท้จริง ไปหาผู้นําหย่วนและรับรางวัลของนาย นอกจากนี้ลูกของนายจะได้รับส่วนแบ่งจากน้ําค้างหวาน!”
จีเย่พยักหน้าให้กับทหารระดับวิสามัญของกองกําลังฟันมังกรและยกย่องเขา
“ขอบคุณครับท่านหัวหน้า”
“อาเหลียน ฉันกลับมาแล้ว ฟังนะ ฉันบอกเธอแล้วว่าการต่อสู้ไม่เป็นอันตรายเลย… เฮ้ อย่าร้องไห้สิ!”
ทหารของกองกําลังฟันมังกรก้าวออกจากวัด อุ้มเด็กที่อยู่ข้างหญิงสาวคนหนึ่งมาไว้บนคอของเขาและปลอบโยนพวกเขา ในขณะที่บางคนข้างนอกมองเขาด้วยความสุขและบางคนก็ผิดหวัง
ป้อมปราการไม่เพียงแค่ได้รับวิญญาณแห่งอารยธรรมอันดับ 5 แต่ยังได้รับอันดับ 4 และแม้กระทั่งอันดับที่ต่ํากว่า ซึ่งใช้ในการอัญเชิญญาติของทหารที่เสียชีวิตกลับมาได้
“เราฟื้นคืนชีพมากี่คนแล้ว?”
ในทางกลับกัน จีเย่เอ่ยถามซุนงวิ่งผู้ที่ทํางานอยู่ในวัด
“อืมม เขาคือคนที่สิบห้า!” ซูนงอิงตอบกลับ
ในการต่อสู้กับมนุษย์อินทรี ป้อมปราการภูเขามังกรคู่ซึ่งมีอาวุธ เช่น ปืน ปืนใหญ่ และวีรบุรุษที่มีความสามารถสูงอย่างกงซุนเซิ่ง อู่ซงและหยางจื้อนั้นได้รับชัยชนะในท้ายที่สุด
แต่พวกเขาก็ประสบกับความสูญเสียมากกว่าที่พวกเขาคาดไว้มาก ทหารเกือบร้อยคนเสียชีวิต แม้แต่ทหารพิเศษบางคนในทหารเกราะดํา ผู้พิทักษ์ชุดเงิน และกองกําลังฟันมังกรก็ถูกสังหารเช่นกัน
ท้ายที่สุดแล้ว เป็นมนุษย์ที่เริ่มโจมตีถิ่นฐานมนุษย์อินทรี และมนุษย์อินทรีที่ควบคุมทรัพยากรของถิ่นฐานมนุษย์ต่างดาวสามแห่งนั้นไม่ง่ายเลยที่จัดการ
โชคดีที่มีโอกาสฟื้นคืนชีพทหารที่ตายไปแล้ว!
รางวัลสําหรับการทําภารกิจการแข่งขันสิบสายพันธุ์ให้สําเร็จนั้นให้มากกว่าหินแห่งอารยธรรมอย่างแน่นอน
ภูเขามังกรคู่ก็ได้รับรางวัลเช่นกัน ด้วยวิญญาณแห่งอารยธรรมผู้บัญชาการหนึ่งชิ้น วิญญาณแห่งอารยธรรมกึ่งผู้บัญชาการระดับวิสามัญ 4 สองชิ้น วิญญาณแห่งอารยธรรมชั้นยอดระดับวิสามัญอันดับ 2 สิบชิ้น
นอกจากนี้ยังสามารถอัญเชิญผู้คนที่เสียชีวิตระหว่างภารกิจด้วยวิญญาณแห่งอารยธรรมและนําพวกเขากลับ มามีชีวิตอีกครั้ง
นั่นเป็นสิ่งที่สําคัญมากอย่างไม่ต้องสงสัย
หมายความว่าตราบใดที่ถิ่นฐานแห่งหนึ่งได้รับชัยชนะอย่างต่อเนื่อง ชนพื้นเมืองของถิ่นฐานนั้นก็จะเป็นอมตะ เหมือนกับผู้เล่น
เรื่องนั้นสามารถกระตุ้นให้ชนพื้นเมืองต่อสู้อย่างกล้าหาญในการต่อสู้และยังคงภักดีต่อถิ่นฐานของพวกเขา แต่ก็ยังมีข้อจํากัดอยู่ ผู้ที่ฟื้นคืนชีพเป็นชนพื้นเมืองทั้งหมดที่มีแต้มเกียรติยศบางส่วน และพวกเขาทั้งหมดก็ได้รับการฟื้นคืนชีพตามจํานวนแต้มเกียรติยศ!
ตัวอย่างเช่น ทหารชั้นยอดคนนี้ของกองกําลังฟันมังกรสังหารมนุษย์อินทรีมากกว่า 5 ตัวด้วยตัวเอง เมื่อเขาต้านทานการโต้กลับของมนุษย์อินทรี
แม้แต้มเกียรติยษของเขาถูกรีเซ็ตหนึ่งจากการฟื้นคืนชีพ แต่ก็ยังดีกว่าการสูญเสียความทรงจําทั้งหมดของเขา และไปเกิดใหม่ที่ถิ่นฐานอื่น
นอกจากนี้แม้ว่าเกียรติยศของเขาจะถูกรีเซ็ต แต่ก็ไม่มีใครในป้อมปราการที่จะลืมผลานของพวกเขาได้
จีเย่ได้ขอให้ซุนงอิงและอันหยวนเขียนว่าจะใช้เครื่องบูชายัญเป็นรางวัลแก่ชนพื้นเมืองที่ฟื้นคืนชีพอย่างไร
“อย่างไรก็ตาม เครื่องบูชายัญที่เรามีนั้นเพียงพอสําหรับวิญญาณแห่งอารยธรรมครึ่งหนึ่งในคลัง ยังมีช่องว่างขนาดใหญ่อยู่!” ซูนงอิงขมวดคิ้วและตั้งข้อสังเกต
“ไม่เป็นไร เราจะได้เครื่องบูชายัญเพิ่มเติมหลังจากที่เราเข้าสู่สนามรบแห่งโชคชะตาในภายหลัง!”
“นอกจากนี้ฉันได้ตัดสินใจให้ทุกคนเข้าสู่สนามรบแห่งโชคชะตาเดียวกันในครั้งนี้ ตราบใดที่เราทํางานได้ดี เราก็ควรจะได้รับเครื่องบูชายัญอย่างไร้ที่สิ้นสุด!” จีเย่กล่าวออกมา
แน่นอนว่าเนื่องจากทหารจํานวนมากําลังไปที่สนามรบแห่งโชคชะตา ป้อมปราการจึงต้องได้รับการป้องกันด้วยวิธีอื่น เช่น อัญเชิญวีรบุรุษคนใหม่!