ตอนที่ 135 ผสาน : ย่นระยะทาง
ไอน้ําควบแน่นบนผนังที่เปียกชื้นจากนั้นจึงไหลลงมาบนพื้นผิวของคริสตัลหินย้อย รว มตัวกันเป็นหยดนมศิลาโปร่งแสง!
“ติ้ง ทิ้ง!”
ทันทีที่นมศิลาถูกควบแน่นและกําลังจะตกลงไปในทะเลสาบด้านล่างจากปลายหินย้อย
แสงสีเหลืองส่องผ่านไปที่ปลายคริสตัลหินย้อยนมศิลาหยดนี้ดูเหมือนจะถูกแช่ แข็งด้วยพลังและเปลี่ยนเป็นสีเหลืองไม่สามารถเคลื่อนไหวได้อีกต่อไป!
“ติ้ง ทิ้ง!”
ไม่กี่วินาทีต่อมา ในที่สุดแสงสีเหลืองก็หายไป และหยดของนมศิลาก็ตกลงไปในทะเลสาบทําให้เกิดระลอกคลื่นกระจายออกไป!
“ในที่สุดฉันก็ทําสําเร็จ!”
จีเยู่ผู้ที่นั่งไขว่ห้างอยู่ข้างทะเลสาบนมศิลานั้นดูเหมือนจะมีสีหน้าเหนื่อยเล็กน้อย
“ประโยชน์ของปฐพีระดับเชี่ยวชาญ!”
หลังจากใช้ค่าประสบการณ์ของเขาเพื่อฝึกฝนครึ่งวัน ในที่สุดเขาก็พัฒนาสกิลอื่นไปถึงระดับ “เชี่ยวชาญ” “ระดับความแข็งแกร่งทางจิตใจ : วิสามัญอันดับ 5!”
ในทํานองเดียวกัน ความแข็งแกร่ทางจิตใจของเขาในที่สุดก็มาถึงระดับวิสามัญอันดับ 5 ซึ่งเป็นจุดเปลี่ยนสําหรับการแปรผันเชิงคุณภาพ
บนดินแดนแห่งมรดก ความแข็งแกร่งทางจิตใจนอกจากจะใช้เพื่อโจมตีทางจิตแล้ว ยังทําให้คิดและตอบสนองได้เร็วขึ้นและทําให้สัมผัสของพวกเขาเฉียบแหลมขึ้น
นั่นเป็นเหตุผลที่จีเย่สามารถฟันดาบและทําลายลูกศรที่ยิงจากมนุษย์อินทรีได้ด้วยปลายดาบงูดําในมหาสมุทรซึ่งไม่ต่างจากการป้องกันกระสุนที่พุ่งออกมาด้วยความเร็วสูงด้วยปลายดาบของ
เขา!
อย่างไรก็ตามจีเย่สามารถทําได้เพียงเพราะเขามองเห็นการเคลื่อนไหวของพวกมัน หากพวกมันโจมตีจากด้านหลัง แทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่เขาตะตอบสนองได้ทันเวลา
แม้ว่าเขาจะลงมือทันทีที่เขาได้ยินเสียงลูกศรพุ่งเข้ามา แต่มันก็ยังคงสายเกินไป
นั่นเป็นเพราะลูกศรแสงสีเขียวของมนุษย์อินทรีดูเหมือนจะไม่สนใจแรงโน้มถ่วงและการเสียดสีในอากาศ พวกมันมีเสียงน้อยมากในระหว่างการพุ่ง นอกจากนี้ลูกศรจากผู้บัญชาการมนุษย์อินทรีนั้นยังเร็วกว่าเสียง
จีเย่ได้เรียนรู้ว่าเมื่อหลู่จือเซ็นรับมือกับผู้บัญชาการมนุษย์อินทรีบนหน้าผา เขายังไม่ได้รู้การมาถึงของลูกศรด้วยเสียงของมัน
แต่หลู่จือเชิ้นกลับสังเกตเห็นแสงสีเขียวในหมอก ต้องขอบคุณการเตือนของจีเย่ จากนั้นเขาจึงทุบลูกศรออกไปทันที
อย่างไรก็ตามเมื่อความแข็งแกร่งทางจิตของเขามาถึงระดับวิสามัญอันดับ 5 จีเยจึงได้รับความสามารถที่คล้ายกับ “สัมผัสที่หก” ซึ่งทําให้เขาสามารถตรวจพบความผิดปกติภายในระยะที่กําหนดได้
สัมผัสทางไกลเป็นการแปรผันเชิงคุณภาพที่เกิดจากความก้าวหน้าของความแข็งแกร่งทางจิตของเขาที่มาถึงระดับวิสามัญอันดับ 5!
หากมนุษย์อินทรีโจมตีเขาจากด้านหลัง จีเย่จะสามารถป้องกันไม่ให้ส่วนสําคัญของเขาได้รับบาดเจ็บ ด้วยความพรสวรรค์การรักษาของเขา เขาจึงมีความมั่นใจมากกว่าเมื่อก่อนแน่นอน!
อย่างไรก็ตามเมื่อกล่าวถึงการซุ่มโจมตีของมนุษย์อินทรี
“มนุษย์อินทรียังไม่ได้ทําอะไรใช่มั้ย?”
หลังจากการทะลวงระดับ จีเย่เดินออกจากถ้ําที่มีชื่อว่า “ถ้ํานมศิลา” เขามองขึ้นไปบนท้องฟ้าที่ดวงอาทิตย์กําลังจะตกลับฟ้า
ผ่านไปครึ่งวันแล้วนับตั้งแต่ที่ผู้เล่นกลุ่มสองออกจากระบบ โดยธรรมชาติแล้วจีเยู่ไม่ได้ออกจากระบบ เขาไม่เสียเวลาฝึกฝนและสร้างความก้าวหน้าในถ้ําแห่งนี้ซึ่งมีพลังงานเหลือล้น
ในเวลาเดียวกัน เขาก็ได้ปกป้องสถานที่แห่งนี้ในกรณีที่มีการโจมตีของมนุษย์อินทรี
อันที่จริงแล้ว ป้อมปราการก็ไม่เสี่ยงต่อการโจมตีของมนุษย์อินทรี ท้ายที่สุดแล้ว มัน ถูกป้องกันอย่างแน่นหนาด้วยปืนใหญ่มากกว่าหนึ่งกระบอก
ทรัพยากรนั้นหายากอย่างแท้จริง หากมนุษย์อินทรีขโมยหรือทําลายทรัพยากรที่สามารถเพิ่มความแข็งแกร่งได้โดยตรง เช่น เมล็ดสีชาดและนมศิลา มันจะเป็นการสูญเสียครั้งใหญ่
“ยังครับ!” ทหารทั้งสองคนที่อยู่นอกถ้ําของเขาตอบกลับ
“เก็บรวบรวมนมศิลาแล้วกลับไปที่ป้อมปราการ คืนนี้ต้องระวังเป็นพิเศษ!”
จีเยู่ขมวดคิ้วเล็กน้อย
นมศิลาสามารถเก็บได้แล้ว และเนื่องจากสวนของเมล็ดสีชาดอยู่ใกล้อาณาเขตของมนุษย์อินทรีมันจึงได้รับการปกป้องอย่างดีมาโดยตลอด ดังนั้นเขาจึงไม่จําเป็นต้องกังวลอย่างแท้จริง
ทรัพยากรที่ยุ่งยากอย่างแท้จริงก็คือทรัพยากรที่เคยอยู่นอาณาเขตของมนุษย์ต่างดาว
ตัวอย่างเช่น ปาสีม่วงในถิ่นฐานของมอนเตอร์พงไพรไม่สามารถเคลื่อนย้ายออกไปได้ ดังนั้นมนุษย์อินทรีจึงสามารถโจมตีได้
“บางทีฉันควรจัดตั้งหน่วยลาดตระเวนมืออาชีพหรือทกองทหารรักษาการณ์!”
เมื่อคิดอย่างนั้น จีเยก็กลับไปที่ป้อมปราการพร้อมกับทหารทั้งสองคน
ในทางทฤษฎี เขาสามารถป้องกันทรัพยากรไหนก็ได้ แต่ด้วยความแข็งแกร่งอันดับ 5 ของเขาและไอเทมของเขาที่เต็มไปด้วยระดับเหนือธรรมชชาติ มนุษย์อินทรีคงจบไม่สวยหากพวกมันวิ่งเข้ามาหาเขา
อย่างไรก็ตามการโจมตีของมนุษย์อินทรีก็เป็นเพียงความเป็นไปได้เท่านั้น และจะมีคนมาบอกเขาว่าเป้าหมายของพวกมันคืออะไร ดังนั้นมันจะดีกว่าหากเขาอยู่ในถิ่นฐานและไปเสริมกําลังเมื่อไหร่ก็ได้เมื่อถูกโจมตี
นอกจากนี้ อีกอย่างหนึ่งเกิดขึ้นหลังจากที่เขากลับมาที่ป้อมปราการ พรสวรรค์การผสานของเขาก็หมดคูลดาวน์แล้ว
เวลาในการผสานจี้หยกรักษานั้นสั้นอย่างน่าประหลาดใจ และพรสวรรค์ก็คูลดาวน์หมดลงแล้วในตอนนี้
มันยังไม่มืด มนุษย์อินทรีจึงยังไม่ทําการโจมตีในตอนนี้
ดังนั้นจึงมีเวลามากพอที่จะใช้พรสวรรค์การผสานอีกครั้ง
อย่างไรก็ตามสิ่งที่เขาควรผสานตอนนี้คืออะไร?
จีเมีสองทางเลือก
อย่างแรก เขาสามารถผสานแท่งไม้สีม่วงขั้นเหนือชั้นระดับวิสามัญอันดับ 5 ที่สองชิ้นที่เขาได้รับหลังจากการสังหารราชามอนเตอร์พงไพร เขาอาจได้รับเครื่องบูชายัญขันสมบูรณ์หลังจากการผสาน
อีกทางเลือกหนึ่งของเขาก็ค่อนข้างน่าประหลาดใจ เขาสามารถผสานประโยชน์ของปฐพี่กับเคล็ดวิชาวิญญาณสายฟ้าสวรรค์ทั้งห้าที่เขาได้รับจากกงซุนเชิง
เคล็ดวิชาวิญญาณสายฟ้าสวรรค์ทั้งห้าเป็นศิลปะหลักของปรมจารย์หลัวซึ่งน่าจะระดับตํานานมันยังเป็นเหตุผลว่าทําไมกงซุนเซิงซึ่งไม่โด่งดังมากนักสามารถผ่านบททดสอบของเครื่องบูชายัญขั้นสมบูรณ์และมาถึงภูเขามังกรคู่ได้!
สายฟ้าทั้งห้าหมายถึงอะไร?
มันไม่ใช่ปรากฏการณ์ที่มาพร้อมกับสายฟ้า
อันที่จริง สายฟ้าทั้งห้าตามลัทธิเต๋ ได้แก่ สายฟ้าสวรรค์ สายฟ้าปฐพี สายฟ้าวารี สายฟ้าเทพและสายฟ้าบูชา!
“สายฟ้าสวรรค์เกี่ยวข้องกับลําดับของฤดูกาล โชคลาภและภัยพิบัติ และการชําระล้างความชั่วร้ายและภัยพิบัติ
“สายฟ้าปฐพี่เกี่ยวข้องกับการสืบพันธุ์ของสิ่งมีชีวิตทั้งหมด การประหารชีวิตปีศาจและมอนเตอร์และการกําจัดภูติผี”
สายฟ้าทั้งสองประเภทนี้เกี่ยวข้องโดยตรงกับการลงโทษและการกลับชาติมาเกิดของสวรรค์เขายังไม่สามารถควบคุมพวกมันได้อย่างแน่นอน!
“สําหรับประเภทที่สาม… สายฟ้าวารีเกี่ยวข้องกับปริมาณน้ําฝนและความแห้งแล้ง และการกําจัดมังกรกับงูที่ชั่วร้าย”
สายฟ้าประเภทนี้เป็นสิ่งใกล้เคียงกับ “สายฟ้า” ในธรรมชาติ
แต่พวกมันก็ไม่เหมือนกันเสียทีเดียว
นั่นเป็นเพราะสายฟ้าประเภทนนี้สามารถโจมตีสิ่งมีชีวิตในน้ําได้นอกจากการเรียกฝน
หากจีเยู่เชี่ยวชาญสายฟ้าวารีก่อน เขาอาจจะทําลายมอนเตอร์ลวงตาจํานวนมากได้อย่างง่ายดายสายฟ้าประเภทนนี้สามารถปราบปรามมังกรน้ําได้!
แน่นอนว่าจีเยู่ไม่คิดว่าการปราบปรามจะได้ผลเสมอไป สิ่งที่สําตัฐก็คือฝ่ายไหนทรงพลังมากกว่ากัน!
สําหรับประเภทที่สี่ สายฟ้าบูชา มันสามารถอัญเชิญเทพเจ้าได้!
แม่ทัพเกราะทองและทหารสวรรค์ที่เขาอัญเชิญมาพร้อมกับยันต์ของเขาใยนตอนที่กงซุนเชิงมาถึงนั้นเป็น “สายฟ้า” ดังกล่าวอย่างแท้จริง
ประเภทสุดท้ายคือสายฟ้าเทพซึ่งเป็นสายฟ้าของธาตุทั้งห้าที่มีหน้าที่หลักในการสังหารและการลงโทษ
เมื่อถูกสายฟ้าทั้งห้าผ่า สิ่งหนึ่งหนึ่งที่ถูกผ่าอย่างแท้จริงก็คือธาตุทั้งห้า ทอง ไม้ น้ํา ฟ้าและดิน!
ประโยชน์ของปฐพี่และเคล็ดวิชาวิญญาณสายฟ้าสวรรค์ทั้งห้าเป็นประเภทที่ขัดแย้งกันและไม่สามารถบ่มเพาะได้ในเวลาเดียวกัน แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าพวกมันจะไม่สามารถผสานกันได้
“ฉันควรผสานเคล็ดวิชา!”
ในที่สุดจีเยก็ได้ตัดสินใจ
เขายังไม่จําเป็นต้องได้รับเครื่องบูชายัญขั้นสมบูรณ์ในตอนนี้ ท้ายที่สุดพิธีต้อนรับต้อง การทั้งเครื่องบูชายัญและวิญญาณแห่งอารยธรรมในระดับเดียวกัน
มนุษย์ต่างดาวใกล้ภูเขามังกรคู่ถูกกําจัดหมดแล้วยกเว้นมอนเตอร์ลวงตาที่เหลือประชากรเพียงครึ่งหนึ่งเท่านั้น แม้ว่าจะมีทรัพยากรในมหาสมุทรมากกว่า แต่ก็ไม่น่าจะเป็นไปได้ที่ผู้บัญชาการระดับวิสามัญอันดับ 5 จะปรากฏขึ้นท่ามกลางพวกมัน
ดังนั้นเขาจึงสามารถรับเอาวิญญาณแห่งอารยธรรมจากมนุษย์อินทรีเท่านั้น
ในกรณีเช่นนี้ การผสานเครื่องบูชายัญจึงไม่มีประโยชน์ เพราะเป็นไปไม่ได้ที่จะต้อนรับวีรบุรุษคนอื่นก่อนการต่อสู้กับมนุษย์อินทรี มันจะเป็นทางเลือกที่สมเหตุสมผลมากกว่าในการผสานสกิล
ด้วยแสงที่เปล่งประกายขึ้นจากตัวเขา เขาได้รับผลลัพธ์ของการผสานประมาณครึ่งชั่วโมงต่อมา
(ไร้นาม]
[ระดับ : วิสามัญ
ขั้น : เหนือชั้น]
[รายละเอียด : นี่เป็นสกิลแขนงหนึ่งหลังจากการผสานประโยชน์ของปฐพี่เข้าไปในเคล็ดวิชาวิญญาณสายฟ้าสวรรค์ทั้งห้า ด้วยการควบแน่นพลังแห่งสายฟ้าปฐพีในม้าม คุณสามารถควบคุมกลิ่นอายปฐพีและใช้เทคนิคเต๋ เช่น ย่นระยะทางและสลับตําแหน่งกับหิน!]