ขิงยิ่งแก่ก็ยิ่งเผ็ด!
คงปฏิเสธไม่ได้ว่า หลี่ยี่เฟิงเหมาะกับคำพูดประโยคนี้อย่างที่สุด!
ถังเมิ่งครุ่นคิดกลับไปกลับมาอยู่หลายรอบ ก็ยังคิดไม่ออกว่าหลี่ยี่เฟิงทำเช่นไร และต้องเรียกประชุมคณะกรรมการกันกี่รอบ ถึงได้ผลลัพธ์ออกมาเช่นนี้ได้!
แต่ความจริงแล้วหลี่ยี่เฟิงเพียงแค่นั่งจิบน้ำชาอยู่ในห้องทำงาน นั่งฟังบรรดาผู้เชี่ยวชาญสาขาต่างๆ พูดจาสรรเสริญเยินยอ แล้วก็สรุปทุกอย่างไปตามที่เขาต้องการ
ทุกอย่างล้วนเป็นเรื่องของเวลาที่เหมาะสม ศูนย์วิจัยและพัฒนายาแห่งนี้จะเป็นภาพลักษณ์ และแสดงถึงศักยภาพของเมืองจิงฉู!
ครั้งนี้หลี่ยี่เฟิงไม่เพียงสามารถทำให้หลิงหยุนประทับใจในตัวเขาได้ แต่ยังทำให้อนาคตทางการเมืองของตนเองสดใสอีกด้วย จึงแทบไม่ต้องพูดถึงเงินทองที่จะหลั่งไหลเข้ามาในวันข้างหน้า!
เพียงแค่คำพูดประโยคเดียวของหลี่ยี่เฟิง ก็ทำให้ผู้บริหารระดับสูงขององค์กรต่างๆที่ติดตามหลงเทียนเจียวมาถึงกับตกใจสุดขีด จนแทบผลุดลุกขึ้นจากเก้าอี้ทันที!
หลี่ยี่เฟิงแสดงออกถึงการสนับสนุนหลิงหยุนอย่างชัดเจน!
ดูจากศักยภาพของหลิงหยุนเวลานี้ ยากที่คนอย่างหลัวจ้ง และเสียเจิ้นติงจะเข้ามาสร้างความวุ่นวายให้กับหลิงหยุนได้! หากทั้งคู่กล้าคิด ก็คงไม่ต่างจากการฝันกลางวัน..
“ตอนนี้แค่พี่หยุนคนเดียวก็ร่ำรวยกว่าพวกเราห้าคนรวมกันซะอีก!”
ด้านนอกคลินิก.. เด็กหนุ่มเพลย์บอยทั้งห้าคนที่พากันตกตะลึงนั้น ในใจมีทั้งอิจฉา ตื่นเต้น และตกใจไปพร้อมๆกัน
“ฉันคิดถูกจริงๆ ที่ตัดสินใจมาทำงานที่คลินิกแห่งนี้..”
พยาบาลสาวชางเสี่ยวเหมิงตาโตเป็นประกายด้วยความตื่นเต้น พร้อมกับหายใจแรงจนหน้าอกใหญ่โตนั่นกระเพื่อมไปมา
“ดีจัง.. อย่างนี้ก็มีโอกาสได้เจอหลิงหยุนทุกวัน..”
หลี่จินเหลียนที่มีนิสัยเจ้าชู้ นั่งมองหลิงหยุนด้วยความตื่นเต้น ตอนนี้เธอแทบไม่รู้ตัวว่า หากเธอเองได้มีโอกาสอยู่กับหลิงหยุนสองต่อสอง เธอคงจะวิ่งเข้าไปซุกอยู่ในอ้อมอกของเขาแล้วเป็นแน่!
“เป็นไปได้ยังไง?!”
ซันเทียนเจียวยังคงรักษาท่าทางจองหองเย็นชา แต่ใบหน้าแดงก่ำของเธอนั้นกลับเผยความรู้สึกแท้จริงที่ซ่อนอยู่ภายในออกมาจนหมด
“นี่ก็สายมากแล้ว ผมขอจบการกล่าวปาฐกถาไว้เท่านี้ก็แล้วกัน!”
พูดจบ.. หลี่ยี่เฟิงก็เดินออกมาจากด้านหลังโต๊ะ และกลับไปนั่งที่ม้ายาวฝั่งตรงข้ามดังเดิม
ท่านหมอเสี่ยวส่งยิ้มให้หลี่ยี่เฟิง ในขณะที่ถังเทียนห่าวก็แอบยกนิ้วโป้งให้กับเขาเช่นกัน ส่วนหลินเจิ้งกังได้แต่มองด้วยแววตาครุ่นคิดก่อนจะหันไปพูดกับหลินเจิ้งกังด้วยน้ำเสียงที่ได้ยินกันแค่สองคนว่า
“เลขาหลี่.. คืนนี้ถ้าคุณมีเวลา พวกเราทานข้าวร่วมกันสักมื้อจะได้มั๊ย?”
หลี่ยี่เฟิงตอบกลับอย่างเบิกบานใจ “เรื่องสถานที่ผมจะจัดการเอง..”
…………..
หลี่ยี่เฟิงนั่งลงด้วยสีหน้าสบายอกสบายใจ ราวกับว่าได้ตัดสินใจทำเรื่องที่ตนเองสามารถนอนตายตาหลับได้แล้ว
หลิงหยุนเปิดคลินิกเล็กๆก็จริง แต่เหตุการณ์ในวันนี้กลับอัศจรรย์จนน่าตกใจ!
และการที่ฉินตงเฉี่วยมอบเงินให้หลิงหยุนห้าร้อยล้านนั้น ก็เป็นเพียงจุดเริ่มต้นของการเป็นเศรษฐีพันล้านของหลิงหยุนในวันนี้!
ตามมาด้วยเหมี่ยวเสี่ยวเหมาที่มอบทองคำแท่งให้หลิงหยุนทั้งหมดหกแท่ง โดยมีน้ำหนักทองรวมกันถึงสามร้อยกิโลกรัม และมีมูลค่าถึงสี่สิบล้าน!
อีกทั้งท่านหมอเสี่ยวยังมอบสมุนไพรล้ำค่า เช็คจำนวนสองร้อยล้าน และบริษัทอีกหกบริษัทซึ่งมีมูลค่าไม่ต่ำกว่าพันล้าน หากคำนวณเฉพาะทรัพย์สินที่ประเมินค่าได้ หลิงหยุนได้รับของขวัญจากท่านหมอเสี่ยวไปร่วมหนึ่งพันสองร้อยล้าน!
ทางด้านเฉิงเทียนก็ได้มอบเช็คจำนวนเก้าร้อยล้าน บวกกับหุ้นบริษัทที่หากคำนวณจากราคาหุ้นในวันนี้ก็จะมีมูลค่าถึงห้าร้อยล้านเลยทีเดียว สรุปแล้วหลิงหยุนได้ของขวัญจากเฉิงเทียนไปราวหนึ่งพันสี่ร้อยล้าน!
ตระกูลหลินเองนอกจากมอบสมบัติล้ำค่าที่ประเมินค่าไม่ได้อย่างศิลากลั่นวิญญาณแล้ว ยังได้มอบเช็คจำนวนสองร้อยล้านให้หลิงหยุนอีกด้วย!
หลี่ยี่เฟิงและถังเทียนห่าวมอบที่ดินเปล่ากว่าหนึ่งร้อยไร่ให้กับหลิงหยุน ซึ่งหากคำนวณเฉพาะราคาที่ดินก็มีมูลค่าร่วมพันล้าน แต่คนที่ฉลาดย่อมรู้ว่าหากมีการก่อสร้างอาคารขึ้นมาในพื้นที่เมื่อใด มูลค่าก็จะเพิ่มขึ้นอีกในทันทีเช่นกัน!
จากการคำนวณมูลค่าของขวัญที่สามารถประเมินค่าได้ของหลิงหยุนทั้งหมดในวันนี้ รวมแล้วก็ราวสี่พันสี่ร้อยล้านหยวน!
นอกเหนือจากทรัพย์สินที่ประเมินค่าได้ ก็ยังมีทรัพย์สินที่ไม่อาจประเมินค่าได้อีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นสมุนไพรหายากที่อยู่ในสวนของเท่านหมอเสี่ยว หยกมังกรเขียวที่หลงคุนเป็นผู้มอบให้ และศิลากลั่นวิญญาณของหลินเจิ้งกัง
นี่ยังไม่นับรวมงบประมาณที่หลิงหยุนจะได้รับมาเพื่อใช้ในการก่อสร้างอาคารศูนย์วิจัยอีก!
อีกทั้งยังมีสมบัติล้ำค่าที่เหล่ากุ่ยรอมอบให้กับหลิงหยุน!
ยังมีเหล่ากุ่ยที่ดูเหมือนจะนำสมบัติล้ำค่ามารอมอบให้กับหลิงหยุน!
หากนับรวมทรัพย์สินของหลิงหยุนที่ได้รับในวันนี้ทั้งที่ประเมินค่าได้ และประเมินค่าไม่ได้ กับทรัพย์สินเดิมที่หลิงหยุนมีอยู่นั้น รวมๆกันแล้วก็คงไม่ต่ำกว่าหมื่นล้าน!
ไม่ว่าจะเป็นทรัพย์สินที่เขาได้รับจากแก๊งมังกรเขียว อีกทั้งสมบัติล้ำค่าที่ไม่อาจประเมินค่าได้อย่างไข่มุกราตรี โสม และสมุนไพรเหอโชวูหลายพันปี เรียกได้ว่าเพียงแค่เวลาช่วงสั้นๆ หลิงหยุนก็สามารถก้าวขึ้นมาเป็นเศรษฐีระดับหมื่นล้านได้สำเร็จ!
หลิงหยุนออกอาการตื่นเต้นเพียงเล็กน้อย จากนั้นก็สามารถสงบจิตสงบใจได้เป็นปกติ สีหน้าของหลิงหยุนกลับมาดูสงบนิ่งเป็นปกติเช่นเคยอีกครั้ง ราวกับว่าทรัพย์สินเงินทองจำนวนมากนั้น ไม่ได้มีความหมายอะไรกับเขาเลยแม้แต่น้อย!
แต่ก็เป็นเช่นนั้น.. เพราะของขวัญที่สามารถดึงดูดความสนใจหลิงหยุนได้มากที่สุดกลับเป็นหยกมังกรเขียวจากหลงคุน ศิลากลั่นวิญาณจากหลินเจิ้งกัง และสมุนไพรล้ำค่าจากท่านหมอเสี่ยวเท่านั้น
ส่วนเข็มทองคำบริสุทธิ์ที่ท่านหมอเสี่ยวสั่งทำให้กับหลิงหยุนเป็นพิเศษนั้น แม้จะไม่ได้ล้ำค่าอะไรมากมาย แต่ก็นับว่าเป็นประโยชน์กับหลิงหยุนอย่างมาก เขาจึงเก็บมันเข้าไปไว้ในแหวนพื้นที่แล้ว
นี่เป็นเวลาใกล้เที่ยง และได้เวลาพาแขกที่มาในงานไปร่วมรับประทานอาหารกันที่โรงแรมแชงกรีล่าแล้ว หลิงหยุนจึงสั่งให้ถังเมิ่ง และตี้เสี่ยวอู๋จัดการที่เหลือต่อ ส่วนตัวเขาก็เตรียมจะพาแขกคนสำคัญอย่างท่านหมอเสี่ยวขึ้นไปพูดคุยกันต่อที่ชั้นสอง
ขณะที่ถังเมิ่งเดินไปยืนที่หลังโต๊ะใหญ่ และกำลังจะกล่าวปิดงานนั้น ก็มีแขกคนหนึ่งลุกขึ้นยืนประกาศเสียงดัง..
เขาคือหลงเทียนเจียว!
“น้องหลิง.. ข้าขอแสดงความยินดีกับการเปิดคลินิกของเจ้าในวันนี้ ตระกูลหลงแห่งปักกิ่งของเราก็มีของขวัญมามอบให้กับเจ้าด้วย..”
หลงเทียนเจียวกล่าวคำว่า ‘ตระกูลหลงแห่งปักกิ่ง’ ด้วยน้ำเสียงที่ภาคภูมิใจอย่างมาก
ท่านเสี่ยวหมอเทวดาไม่พูดอะไร หลินเจิ้งกังก็มองด้วยสายตาเป็นปกติ และแม้แต่หลี่ยี่เฟิงก็สงบนิ่งกว่าปกติ..
ในฐานะรองหัวหน้ากลุ่มเทพอินทรี หลงเทียนเจียวจึงค่อนข้างมีสิทธิพิเศษในการรับรู้ข้อมูลลับต่างๆได้มากกว่าผู้อื่น ดังนั้นสองสามวันที่ผ่านมาเขาจึงวุ่นวายอยู่กับการไปเยี่ยมเยียนท่านเสี่ยวหมอเทวดา หลี่ยี่เฟิง ถังเทียนห่าว และแม้แต่หลินเจิ้งกัง
เพราะเหตุนี้จึงไม่มีใครมีสีหน้าแปลกประหลาดใจ..
มีเพียงเฉิงเทียนเท่านั้น ทันทีที่ได้ยินคำว่า ‘ตระกูลหลง’ เขาก็ถึงกับหูผึ่งขึ้นมาทันที
ทุกคนที่อยู่ในคลินิกต่างก็หันไปมองหลงเทียนเจียวอย่างพร้อมเพรียงกัน..
“เอาล่ะ.. ในเมื่อเจ้าเองก็มาถึงที่นี่แล้ว ข้าก็จะรับเฉพาะคำอวยพรของเจ้าก็แล้วกัน แต่ไม่ขอรับของขวัญที่เจ้านำมา..”
หลิงหยุนขมวดคิ้วเล็กน้อย และไม่อยากจะแม้แต่จะเรียกหลงเทียนเจียวว่าพี่หลง เขาเกลียดขี้หน้าหลงเทียนเจียว เมื่อเช้าเพียงแค่ได้เห็นหน้าหลงเทียนเจียว หลิงหยุนก็รู้สึกเบื่อหน่ายขึ้นมาทันที
ปฏิกิริยา สีหน้า และท่าทางของหลิงหยุนนั้น ดูเย็นชาอย่างยิ่ง! และน้ำเสียงที่พูดก็สงบเยือกเย็นมากด้วยเช่นกัน ทำให้หลงเทียนเจียวถึงกับเก้อเขินอย่างมาก แต่ในเมื่อต้องทำภารกิจที่ได้รับมอบหมายมาจากตระกูลให้สำเร็จ เขาจึงต้องบากหน้าต่อไป..
“น้องหลิง.. เจ้าฟังรายการของขวัญที่ตระกูลหลงเตรียมมาให้ก่อน แล้วจึงค่อยตัดสินใจว่าจะรับหรือไม่รับไม่ดีกว่าหรือ? รับรองว่าของขวัญที่ข้านำมามอบให้กับเจ้านั้น ไม่อาบยาพิษไว้อย่างแน่นอน!”
หลงเทียนเจียวแสร้งทำเป็นตลกกลบเกลื่อน แต่ช่างโชคร้ายที่มันไม่ตลกอย่างที่เขาคิดไว้!
หลิงหยุนตั้งป้อมกีดกันหลงเทียนเจียวไว้ในใจตั้งแต่แรกแล้ว เขาเพียงแค่ยิ้มเล็กน้อยและตอบกลับไปว่า
“ต่อให้เจ้ามอบของอาบยาพิษให้กับข้าจริงๆ เจ้าคิดว่ายาพิษของพวกเจ้าจะทำอันตรายข้าได้งั้นรึ..?!”
และคำพูดของหลิงหยุนนั้นก็เป็นเรื่องจริง เขาไม่ได้โอ้อวดเลยแม้แต่น้อย!
หลิงหยุนพูดต่อ..
“อีกอย่าง.. พวกเราสองคนต่างก็ไม่ใช่เครือญาติ ทั้งยังไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกัน เจ้านำของขวัญมามอบให้กับข้าเช่นนี้ ข้าจะรับไว้ได้อย่างไร?!”
หลงเทียนเจียวถึงกับอึ้ง และไม่รู้จะโต้เถียงอย่างไร! เขาคิดไม่ถึงจริงๆว่าคนโลภมากอย่างหลิงหยุน จะไม่สนใจใยดีของขวัญที่เขานำมามอบให้จริงๆ อย่างน้อยหลิงหยุนก็น่าจะอยากดูของขวัญที่เขาเตรียมาให้บ้าง!
แต่จะตำหนิหลงเทียนเจียวที่รู้สึกผิดหวังอย่างมากไม่ได้ เพราะวันนี้เขาได้นำเช็คมามอบให้กับหลิงหยุนถึงสามใบ ใบละเก้าร้อยล้าน รวมเป็นเงินทั้งสิ้นสองพันเจ็ดร้อยล้าน!
หลิงหยุนไม่เพียงไม่ยอมรับ แม้แต่ดู.. หลิงหยุนยังไม่ต้องการ!
หลงเทียนเจียวกับหลิงหยุนนั้นไม่ต่างจากน้ำกับน้ำมันที่ยากจะเข้ากันได้ หลงเทียนเจียวได้แต่กระวนกระวายอยู่ในใจ แต่ก็ฝืนบอกกับหลิงหยุนไปว่า
-น้องหยุน.. ข้านำเช็คมาให้เจ้าทั้งหมดสามใบ รวมเป็นเงินทั้งสิ้นสองพันเจ็ดร้อยล้านหยวน! เจ้าจะไม่รับไว้จริงๆหรือ?-
หลิงหยุนได้แต่นึกขันตระกูลหลงที่มอบของขวัญเป็นเงินไม่เท่าไหร่ให้กับเขา ในสายตาของหลิงหยุนนั้น นี่เท่ากับเป็นการดูถูกเขาอย่างมาก ตระกูลหลงคงคิดว่าเขาจะต้องรีบตะครุบมันไว้สินะ!
“เสียใจด้วยพี่หลง.. เช็คมูลค่าสองพันเจ็ดร้อยล้านนั่น เจ้านำกลับไปเถิด เพราะข้าไม่ได้ขาดแคลนเงินทอง..”
หลงเทียนเจียวใช้กระแสจิตพูดกับหลิงหยุน แต่หลิงหยุนกลับใช้มังกรคำรามประกาศออกไปต่อหน้าทุกคนในคลินิก
“แม่เจ้า.. สองพันเจ็ดร้อยล้าน?”
“หลิงหยุนไม่แม้แต่จะขอดู?!”
“นี่มัน..”
ผู้คนในคลินิกต่างก็ส่งเสียงอื้ออึง ทุกคนต่างก็ร้องอุทานออกมา หลิงหยุนเองก็ทะนงมากที่ไม่ยอมรับเงินจำนวนนี้
“พี่หยุน.. นี่มันไม่ใช่สไตล์พี่ไม่ใช่เหรอ?!”
ถังเมิ่งได้ยินคำตอบของหลิงหยุนถึงกับตัวเย็น และรีบเข้าไปกระซิบถามหลิงหยุนทันที
-นายจะไปรู้อะไร? สไตล์ของฉันก็คือการให้นายแป็นคนหาเงินให้ฉันใช้ไงล่ะ! ตระกูลหลงให้เงินฉันถึงสองพันเจ็ดร้อยล้าน ก็ต้องมีจุดประสงค์ซ่อนอยู่-
-ขืนฉันรับเงินของพวกเขามา ต่อไปพวกเราพี่น้องคงไม่มีทางได้อยู่อย่างสงบสุขเหมือนทุกวันนี้แน่!-
หลิงหยุนส่งกระแสจิตบบอกกับถังเมิ่ง ที่กำลังจะกลายเป็นหนูให้แมวไล่จับเพียงเพราะแค่อยากได้เงิน!
แต่แล้วถังเมิ่งก็กระซิบบถามด้วยสีหน้าหวาดระแวง “พี่หยุน.. แล้วถ้าพวกเราไม่รับ เกิดตระกูลหลงโกรธขึ้นมา พวกเราจะทำยังไงกัน?”
สมองของถังเมิ่งนั้นทำงานได้อย่างรวดเร็ว หลิงหยุนจึงยิ้มออกมาอย่างพอใจ
-นายอย่าโง่ไปหน่อยเลย! ถ้าตระกูลหลงต้องการทำอะไรฉัน พวกเขาก็คงทำไปนานแล้ว ด้วยความแข็งแกร่งของตระกูลหลง ทำไมต้องรอมาถึงตอนนี้?!-
ยังไม่ทันที่เขาจะพูดจบดี ก็มีคนเดินเบียดแขกเหรื่อเข้ามากระซิบข้างหูหลิงหยุนสองสามคำ..
หลิงหยุนฟังแล้วถึงกับสีหน้าเปลี่ยนไปทันที!