[ติดตามข่าวสารได้ที่เพจ : จักรพรรดิ์เทพมังกร ]
บทที่ 582 : เปิดของขวัญ! (2)
“พี่หลิงหยุน.. เช็คสองร้อยล้านหยวนนั่นเป็นของขวัญจากฉันเอง!” เสี่ยวเม่ยหนิงกระซิบบอกข้างหูของหลิงหยุนอย่างตื่นเต้น
หลิงหยุนยิ้มพร้อมกับยื่นมือออกไปบีบจมูกเล็กๆของเสี่ยวเม่ยหนิงพร้อมกับพูดขึ้นว่า “เป็นของขวัญที่ยอดเยี่ยม!”
“นี่เฒ่าถัง.. อย่างนี้ที่ดินหนึ่งร้อยไร่ของพวกเราคงจะไม่มีความหมายอะไรเลยสินะ!” หลี่ยี่เฟิงมองของขวัญบนโต๊ะ แล้วรีบหันไปกระซิบข้างหูถังเทียนห่าว
ถังเทียนห่าวถึงกับกลืนน้ำลายแล้วถอนหายใจ.. เขาได้แต่คิดอยู่ในใจว่าเด็กหนุ่มคนนี้ช่างหาเงินได้รวดเร็วราวกับปล้น! เพียงแค่ชั่วพริบตาก็มีบริษัทที่มีมูลค่ากว่าพันล้านเป็นของตนเอง!
แต่ยังมีอีกหนึ่งคนที่ตกตะลึงไม่แพ้กัน.. ซึ่งก็คือเฉิงเทียนนั่นเอง!
เฉิงเทียนเป็นเจ้าของธุรกิจยา ดังนั้นเพียงแค่เห็นสมุนไพรล้ำค่าที่ท่านหมอเสี่ยวมอบให้กับหลิงหยุน เขาก็รู้ได้ทันทีว่ามันมีมูลค่านับเป็นพันล้าน แต่ที่สำคัญก็คือสมุนไพรเหล่านั้นล้วนเป็นสมุนไพรหายากที่ไม่อาจประเมินเป็นเงินได้!
สมุนไพรเหล่านี้ต่อให้มีเงินก็ยากที่จะหาซื้อได้! ท่านหมอเสี่ยวล้วนได้มาจากการรักษาทั้งสิ้น คนไข้ในตระกูลใหญ่ๆ ล้วนมอบให้เขาเป็นการตอบแทนที่ได้ช่วยชีวิตไว้!
ส่วนเข็มทองทั้งสามร้อยหกสิบห้าเล่มนั้น แม้จะมีประโยชน์กับหลิงหยุนมาก แต่หากผู้ใดมีทองขนาดเท่ากันก็สามารถมีสั่งทำได้เช่นเดียวกัน
ดังนั้นแม้ว่าเข็มทองนั้นจะมีค่า และมีความหมายอย่างมาก แต่ก็ไม่อาจเทียบกับเงินสองร้อยล้าน และบริษัททั้งหกบริษัทได้เลย
เฉิงเทียนอยู่ในธุรกิจยามานานหลายสิบปี เขาจึงรู้ดีว่าบริษัท เสี่ยวฟาร์มาซูติคัล สาขาเจียงหนานทั้งหกบริษัทที่หลิงหยุนได้รับไปนั้น มูลค่าอย่างต่ำต้องไม่น้อยกว่าหนึ่งพันล้านหยวน หรืออาจสูงถึงหนึ่งพันห้าร้อยล้านหยวนเลยก็เป็นได้
สรุปได้ว่าของขวัญที่ท่านหมอเสี่ยวนำมามอบให้หลิงหยุนในวันเปิดคลินิกนั้น หากประเมินเป็นตัวเงินแล้วต้องไม่ต่ำกว่าสองพันล้านอย่างแน่นอน!
เฉิงเทียนถึงกับกระวนกระวายใจอย่างมาก และไม่สามารถทำใจให้สงบนิ่งได้ เขาได้ชื่อว่าเป็นนักธุรกิจที่ร่ำรวยที่สุดในเมืองจิงฉูคนหนึ่ง แต่กลับมอบของขวัญที่มีมูลค่าอันน้อยนิดให้กับหลิงหยุน ไม่เพียงเขาจะไม่ได้หน้าในครั้งนี้ แต่กลับจะต้องเสียหน้า และถูกผู้คนหัวเราะเยาะเอาอีกด้วย!
แต่เพียงแค่หุ้นมูลค่าห้าร้อยล้านก็ทำให้เขาเจ็บปวดใจอย่างมากแล้ว หากเขาต้องควักเงินเพิ่มมากกว่านี้ เขาคงแทบกระอักเลือดแน่!
ระหว่างที่เฉิงเทียนกำลังคิดคำนวณอยู่ในใจเงียบๆนั้น เฉิงเมี่ยนที่เป็นคนไม่ยอมแพ้ใคร ไม่รู้ว่ามาจากใหน จู่ๆก็มายืนอยู่ข้างเฉิงเทียนพร้อมกับสะกิดไหล่เขาเบาๆ แล้วกระซิบว่า
“พ่อคะ.. ดูเหมือนหุ้นมูลค่าห้าร้อยล้านของพ่อจะน้อยเกินไป คงจะต้องเพิ่มเงินเข้าไปอีกห้าร้อยล้าน!”
ในโอกาสสำคัญเช่นนี้.. เฉิงเมี่ยนไม่ต้องการพ่ายแพ้ให้แก่เสี่ยวเม่ยหนิง และไม่ต้องการให้ตระกูลเฉิงพ่ายแพ้ต่อตระกูลเสี่ยวเช่นกัน!
เฉิงเทียนถึงกับอึ้งไป.. ‘นี่ลูกสาวของเขากำลังพูดถึงเงินหนึ่งพันล้าน หรือเงินไม่กี่สิบหยวนกันแน่?!’
เฉิงเมี่ยนกดดันพ่อของเธอต่อ “พ่อคะ.. แขกเหรื่อมากมายกำลังจ้องมองพ่ออยู่นะคะ พ่อดูแต่ละคนที่นั่งอยู่ในนี้สิ! พ่อเป็นถึงนักธุรกิจที่ร่ำรวยที่สุดในจิงฉูนะ ถ้าพ่อให้แค่หุ้นมูลค่าห้าร้อยล้าน พ่อจะต้องขายหน้าแน่ๆ!”
“อีกอย่างพ่อก็เห็นแล้วไม่ใช่เหรอว่าพี่หลิงหยุนมีอำนาจบารมีแค่ใหน! เหตุการณ์ทุกอย่างพ่อก็เห็นด้วยตาตัวเองแล้วนี่! ตอนนี้พี่หลิงหยุนร่ำรวยขนาดใหน.. เขาจะมาสนใจหุ้นมูลค่าแค่ห้าร้อยล้านของพวกเราเหรอ?”
ไม่รู้ว่าเพราะเหตุใดเฉิงเมี่ยนจึงได้เรียกหลิงหยุนว่า ‘พี่หลิงหยุน’ แม้จะรู้สึกกระดากอยู่บ้าง แต่การเรียกหลิงหยุนเช่นนั้น ทำให้เธอรู้สึกเหมือนสนิทสนมกับหลิงหยุนมากขึ้น
“ให้พี่หลิงหยุนหนึ่งพันล้าน ครอบครัวของเราก็ใช่ว่าจะจนนี่คะ! และถ้าเรายอมให้.. ไม่เพียงเป็นการให้หน้าพี่หลิงหยุน แต่พวกเราเองก็จะได้หน้าไปด้วยไม่ใช่เหรอ?”
เฉิงเทียนกัดฟันพร้อมกับขมวดคิ้วแน่นระหว่างตัดสินใจ ความจริงแล้วเฉิงเทียนก็นึกชมลูกสาวอยู่ในใจที่สามารถไตร่ตรองได้อย่างมีเหตุมีผล และเขาเองก็คิดไม่ต่างกัน แต่เนื่องจากเป็นเงินจำนวนไม่น้อย จึงยากที่จะตัดสินใจได้ง่ายๆ
สำหรับเฉิงเทียนแล้ว ของขวัญมูลค่าหนึ่งพันล้านที่จะมอบให้หลิงหยุนนั้น ก็นับว่าเป็นเพียงแค่เศษเสี้ยวของทรัพย์สินที่เขามีอยู่ อาจไม่ถึงหนึ่งในสิบด้วยซ้ำไป แต่หากวันนี้เขาตัดสินใจมอบของขวัญมูลค่าหนึ่งพันล้านนี้ให้กับหลิงหยุน ไม่เพียงเขาจะได้หน้า แต่ยังสามารถทำให้หลิงหยุนรู้สึกประทับใจในตัวเขาได้ด้วย
แต่หากเขามอบหุ้นที่มีมูลค่าเพียงแค่หนึ่งร้อยล้านไป หลิงหยุนคงต้องไม่ใยดีอย่างแน่นอน เฉิงเทียนสามารถประหยัดเงินได้มาก แต่ผู้คนก็จะนินทา และถึงตอนนั้นเขาก็จะไม่สามารถกลับไปแก้ไขอะไรได้อีก!
หลิงหยุนยิ้มพร้อมกับเหลือบมองไปทางครอบครัวของเฉิงเทียน แล้วรีบมองไปทางอื่นทันที
ด้วยจิตหยั่งรู้ และประสาทสัมผัสทั้งห้าที่เหนือมนุษย์ของหลิงหยุนในเวลานี้ มีหรือที่ความเคลื่อนไหวทั้งภายใน และภายนอกคลีนิคสามัญชนจะไม่อยู่ในการรับรู้ของเขา?
นับได้ว่าคำพูดของเฉิงเมี่ยนในวันนี้ ได้ช่วยเฉิงเทียนและตระกูลเฉิงไว้มากเลยทีเดียว!
วันนี้เฉิงเมี่ยนถึงกับกล้ามอบของขวัญมูลค่าหนึ่งพันล้านให้กับหลิงหยุน ทำให้เขารู้สึกประทับใจในตระกูลเฉิงขึ้นมาก
หลิงหยุนไม่ได้สนใจจำนวนเงินที่จะได้รับจากตระกูลเฉิงเลย เพราะตอนนี้เขาเองก็มีเงินถึงห้าร้อยล้านแล้ว และเมื่อไหร่ก็ตามที่เขาสามารถปรุงยา และผลิตออกมาขายได้ เมื่อนั้นเขาจะมีรายได้อย่างมหาศาลเลยทีเดียว!
แต่ที่หลิงหยุนรู้สึกดีขึ้นกับตระกูลเฉิงนั้นไม่ใช่เพราะเรื่องเงิน แต่เป็นเพราะเขาเห็นว่าเฉิงเทียนเริ่มรู้ว่าตนเองได้ทำผิดพลาด และกำลังจะเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้นต่างหาก!
แม้ว่าเฉิงเทียนจะดูลังเล แต่ในที่สุดก็ตัดสินใจที่จะทำตามคำแนะนำของเฉิงเมี่ยน!
“ได้.. พ่อเชื่อแก!”
เฉิงเทียนพยักหน้าให้กับลูกสาว “แต่สัญญาโอนหุ้นนั่นทำเรียบร้อยไปแล้ว จะแก้ไขตอนนี้ได้ยังไงกัน?”
แต่เฉิงเมี่ยนได้เตรียมการไว้แล้ว เธอจึงบอกเฉิงเทียนไปว่า “พ่อคะ.. พ่อมีสมุดเช็คไม่ใช่เหรอ? พ่อก็เขียนเช็คให้แทนสิ!”
เฉิงเทียนฝืนยิ้ม “จริงด้วย..! เฮ้อ.. มีลูกสาวอย่างแก นับวันมีแต่จะทำให้ฉันจนลง..”
แต่ถึงกระนั้น.. เฉิงเทียนก็หยิบเช็คออกมาเขียนตัวเลขลงไปเก้าร้อยล้านหยวนทันที!
เฉิงเทียนไม่คิดอะไรมาก สิ่งสำคัญที่สุดในเวลานี้คือการรักษาหน้าตาของตนเอง!
ระหว่างที่สองพ่อลูกกำลังกระซิบกระซาบกันอยู่นั้น ไม่มีใครสนใจสองพ่อลูกเลยแม้แต่นิดเดียว เฉิงเทียนจึงแอบยื่นเช็คมูลค่าเก้าร้อยล้านให้กับเฉิงเมี่ยน
“เอาไปเร็วเข้า!”
หลังจากที่จัดการทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว เฉิงเทียนก็ถอนหายใจราวกับได้ยกภูเขาออกจากอก เขารู้สึกผ่อนคลายมากขึ้น และนั่งมองเฉิงเมี่ยนที่มีสีหน้าภาคภูมิใจ แต่ในใจลึกๆกลับนึกถึงลูกสาวคนโต – เฉิงเม่ยเฟิง
‘เม่ยเฟิง.. พ่อขอโทษ! วันนี้พ่อได้ชดเชยให้กับลูกแล้วนะ หุ้นสิบเปอร์เซ็นต์ของลูก พ่อได้จัดการมอบให้กับหลิงหยุนแล้ว!’
‘น่าเสียดายที่ลูกไม่ได้เห็น..’
เฉิงเทียนได้แต่ครุ่นคิดอย่างเศร้าใจ และขอบตาก็เริ่มแดง..
เฉิงเมี่ยนเดินไปด้านหน้าโต๊ะใหญ่พร้อมกับยื่นเช็คในมือให้กับซูหลิงเฟย และไม่ลืมที่จะเหลือบมองไปทางหลิงหยุน
หลิงหยุนยังคงแสร้งทำเป็นไม่มองเฉิงเมี่ยน เฉิงเมี่ยนรู้สึกหงุดหงิด และได้แต่นึกในใจอย่างมีความสุขว่า อย่างน้อยวันนี้หลิงหยุนก็ไม่ขับไสไล่ส่งเธอ และไม่ปฏิเสธตระกูลเฉิงเหมือนที่ผ่านมา!
ซูหลิงเฟยมองเช็คในมือของเฉิงเมี่ยน และได้แต่กรีดร้องอยู่ในใจพร้อมกับคิดว่าวันนี้เป็นวันอะไรกันแน่!? หากเป็นเช่นนี้เศรษฐกิจในเมืองจิงฉูต้องสั่นสะเทือนอย่างแน่นอน!
เพียงแค่ชั่วพริบตาเดียว บริษัทมากมายก็ถูกเปลี่ยนมือมาเป็นชื่อของหลิงหยุน ทำให้หลิงหยุนกลายเป็นคนดังในเมืองจิงฉู และแม้แต่ในเจียงหนานขึ้นมาทันที เช่นนี้แล้วจะไม่กระทบต่อภาคเศรษฐกิจของเจียงหนานทั้งมณฑลได้อย่างไรกัน!
หลังจากตั้งสติได้ ซูหลิงเฟยก็ประกาศออกไปด้วยน้ำเสียงที่ดังและชัดเจน
“ตระกูลเฉิงแห่งจิงฉูมอบเช็คเงินสดจำนวนเก้าร้อยล้านหยวน และหุ้นของบริษัทเฉิงเมดิคัลคอร์ปอรเรชั่นมูลค่าห้าร้อยล้านหยวนให้กับหลิงหยุน!”
“พระเจ้า!”
“โอ้โห.. บ้าไปแล้ว!”
ทันทีที่สิ้นเสียงประกาศของซูหลิงเฟย ทั้งด้านใน และด้านนอกคลีนิคก็มีเสียงดังอื้ออึงไปหมด!
เสียงร้องตะโกนด้วยความตื่นเต้นดังกระหึ่มจนคลีนิคแทบระเบิด ตระกูลเฉิงให้ของขวัญมูลค่าถึงหนึ่งพันห้าร้อยล้านเชียวหรือนี่!
ครั้งนี้นับว่าเฉิงเมี่ยนได้หน้าอย่างที่สุด! ดวงตาของเธอเป็นประกายสดใสขณะที่เหลือบมองหลิงหยุนพร้อมกับยิ้มหวาน เธอได้แต่คิดในใจว่า
‘ดูสิว่าครั้งนี้นายจะกล้าไม่ใยดีกับฉันอีกมั๊ย?!’
เมื่อสัมผัสได้ถึงอาการตกตะลึงของแขกเหรื่อที่อยู่ในงาน เฉิงเทียนก็รู้สึกได้ทันทีว่าครั้งนี้เขาตัดสินใจได้ถูกต้อง! เพราะแม้ว่าเขาจะไม่ใช่พ่อตาของหลิงหยุน แต่อย่างน้อยเงินหนึ่งพันห้าร้อยล้านนี้ก็ทำให้เขาได้หน้าไปเต็มๆ!
“พี่หลิงหยุน.. นี่พี่ยังจะรออะไรอีกล่ะ? ยังไม่รีบเซ็นต์รับมอบหุ้นอีก?!”
เฉิงเมี่ยนได้เรียนรู้วิธีที่จะทำตัวสนิทสนมกับหลิงหยุนจากเสี่ยวเม่ยหนิง เธอรีบยื่นเอกสารในมือให้หลิงหยุนเซ็นต์ทันที
เสี่ยวเม่ยหนิงได้แต่ถอนหายใจพร้อมกับทำปากคว่ำอย่างไม่พอใจ แต่ก็ไม่สามารถทำอะไรได้!
แต่น่าประหลาดที่หลิงหยุนกลับไม่มีท่าทีเก้อเขินเลยแม้แต่น้อย ท่ามกลางสายตามากมายที่จ้องมองมา หลิงหยุนเพียงแค่ก้มศรีษะเล็กน้อย พร้อมกับยื่นมือออกไปรับเช็คจำนวนเก้าร้อยล้าน และเก็บเข้ากระเป๋าไป
“ขอบคุณลุงเฉิง..”
หลิงหยุนใช้มังกรคำรามเอ่ยขอบคุณเฉิงเทียน และเสียงของหลิงหยุนก็ดังเข้าสู่แก้วหูของทุกคนที่อยู่ในงาน
คำขอบคุณของหลิงหยุน และคำเรียก ‘ลุงเฉิง’ นั้น แสดงให้เห็นว่าหลิงหยุนได้ยกโทษให้กับเฉิงเทียน และยอมรับตระกูลเฉิงแล้ว นั่นย่อมหมายความว่าจากนี้ไปตระกูลเฉิงจะอยู่ภายใต้การคุ้มครองของหลิงหยุนเช่นกัน!
‘เม่ยเฟิง.. เจ้ามั่นใจได้ว่าตราบใดที่มีข้าอยู่ จะไม่มีใครทำอันตรายครอบครัวของเจ้าได้อย่างแน่นอน!” หลิงหยุนได้แต่นึกอยู่ในใจเงียบๆ
หลิงหยุนไม่ได้โง่ แม้ว่าเขาจะไม่เคยใส่ใจกับตระกูลเฉิง แต่เขาก็สามารถคาดเดาได้อย่างง่ายดายว่า ชีวิตของเฉิงเทียนตอนนี้คงจะไม่สู้ดีนัก และนั่นคือสาเหตุที่ทำให้เฉิงเทียนยอมมาร่วมงานในวันนี้
‘เจ้าเด็กคนนี้..’
ท่านเสี่ยวหมอเทวดา และเหล่ากุ่ยต่างก็พยักหน้า และทั้งคู่แอบก็ได้แต่นึกชื่นชมหลิงหยุนอยู่ในใจเงียบๆ
“โอ้แม่เจ้า.. เฉิงเทียนใจป้ำมาก! เขามอบของขวัญมูลค่าหนึ่งพันห้าร้อยล้านให้กับพี่หยุน! ”
ด้านนอกคลินิกนั้น พี่เฟยที่ยืนอยู่หน้ากระจกถึงกับร้องอุทานออกมาอย่างตกใจจนลูกตาแทบถลนออกนอกเบ้า
“ช่างกล้า..! นี่มันอะไรกัน ของขวัญมูลค่าหนึ่งพันห้าร้อยล้าน! ไม่อยากจะเชื่อเลยจริงๆ!”
อาปิงเองก็ตาเป็นประกายด้วยความตื่นเต้น เพราะไม่เคยพบเห็นอะไรเช่นนี้มาก่อน
ตอนนี้ทุกคนต่างก็เข้าใจแล้วว่า เพราะเหตุใดถังเมิ่งจึงได้เคารพ และศรัทธาในตัวหลิงหยุนอย่างมาก จนถึงขนาดยอมตัวเป็นลูกน้องของเขา!
“นี่พวกนายว่าวันนี้พี่หยุนจะได้ของขวัญสักเท่าไหร่?” เจ้าหนูรีบร้องถามออกมาอย่างตื่นเต้น
“ไม่สามพันล้าน ก็สี่พันล้านล่ะ?” อาปิงคาดเดา
ตันตันเองที่จับตามองอยู่เช่นกันก็ถึงกับร้องออกมา “ฉันว่าน่าจะมากกว่าห้าพันล้านล่ะมั๊ง..”