[ติดตามข่าวสารได้ที่เพจ : จักรพรรดิ์เทพมังกร ]
บทที่ 576 : ลาภก้อนโต!
หลิงหยุนกำลังจะได้ลาภก้อนโตโดยที่เขาเองก็ไม่รู้ตัว และนี่ก็เพิ่งจะเริ่มต้นขึ้นเท่านั้น!
“ท่านป้าครับ.. นี่คือ..”
หลิงหยุนถึงกับตกใจแทบล้มทั้งยืน เพราะคิดไม่ถึงจริงๆว่าตระกูลเสี่ยวจะมอบของขวัญมูลค่ามหาศาลถึงเพียงนี้ให้กับเขา
เขาเพียงแค่เปิดคลินิกเล็กๆเท่านั้น แต่กลับได้รับเช็คจำนวนห้าร้อยล้านจากฉินตงเฉี่วยเป็นคนแรก ตามด้วยทองคำแท่งจำนวนหกแท่งจากเหมี่ยวเสี่ยวเหมา และเพิ่งได้รับหยกมังกรเขียวลึกลับจากหลงหวู่..
แต่ตอนนี้เขาก็กำลังจะได้รับบริษัทอีกถึงหกบริษัท!
“รับไว้เถอะจ้ะ! เมื่อตอนงานวันเกิดของหนิงน้อย เธอเองก็ให้ของขวัญล้ำค่ากับหนิงน้อยตั้งมากมาย แต่ตระกูลเสี่ยวของเรากลับไม่มีของขวัญพิเศษมอบให้กับเธอเลย ถ้าเธอปฏิเสธไม่ยอมรับ ป้าคงจะเสียใจมาก!”
แน่นอนว่าเสี่ยวเฉิงเยี่วยนั้นไม่รู้ว่าหลิงหยุนได้ใช้เนตรหยินหยางมองทะลุเข้าไปในซองเอกสารนั่นแล้ว เขาจึงตอบกลับไปยิ้มๆ
“ข้างในเป็นเอกสารโอนบริษัทเล็กๆเพียงไม่กี่บริษัทที่ฉันเตรียมมามอบเป็นของขวัญให้กับเธอ..”
หลิงหยุนหันไปมองท่านหมอเสี่ยวอย่างชั่งใจ..
ท่านหมอเสี่ยวที่ยืนเอามือไขว้หลัง ดวงตาจ้องมองไปทางถังเมิ่ง ตี้เสี่ยวอู๋ และพยาบาลสาวทั้งสามคนที่กำลังเคลื่อนย้ายของจากรถเข้าไปในคลีนิค แต่กลับส่งกระแสจิตพูดหยอกเย้าหลิงหยุนว่า
-พ่อหนุ่ม.. นี่เป็นของขวัญที่พวกเราตั้งใจมอบให้กับเธอ เธอก็รับไว้เถิดนะ! ปกติเธอไม่ใช่คนแบบนี้นี่นา..-
“ขอบคุณอาวุโสปู่เสี่ยวมากครับ ขอบคุณลุงเสี่ยวกับป้าจางด้วยนะครับ! เชิญเข้าไปคุยข้างในจะดีกว่า อย่ายืนอยู่ตรงนี้เลย..”
“ยังจะเรียกอาวุโสเสี่ยวอยู่อีกรึ? เธอควรจะเรียกฉันว่าปู่ได้แล้วนะ!” ท่านหมอเสี่ยวเร่งรัดหลิงหยุน
“ขอโทษครับ.. ผมดีใจจนลืมไปเลย! ขอเชิญท่านปู่เข้าไปนั่งดื่มชาที่ทั้งชั้นสองของคลีนิคก่อนจะดีกว่า..”
จากนั้นหลิงหยุนก็หันไปพูดกับเสี่ยวเม่ยหนิงอย่างอ่อนโยน “หนิงน้อย.. คุณช่วยพาท่านปู่กับคุณลุงคุณป้าขึ้นไปที่ชั้นสองของคลีนิคก่อนนะ ผมต้องอยู่รับแขกอยู่ที่นี่ก่อน!”
“ไม่ล่ะ.. ฉันอยากอยู่กับพี่..” เสี่ยวเม่ยหนิงเกาะแขนหลิงหยุนกระเง้ากระงอด
หลิงหยุนจึงตอบกลับไปว่า “น้าหญิงก็มาถึงแล้วนะ ตอนนี้อยู่ชั้นสอง!”
“ห๊ะ?! จริงเหรอ?”
เสี่ยวเม่ยหนิงรีบปล่อยแชนหลิงหยุน และพาท่านหมอเสี่ยวกับพ่อแม่ของเธอเข้าไปในคลีนิคทันที
ในที่สุดถังเมิ่งก็ย้ายของเข้าไปในคลีนิคจนเสร็จเรียบร้อย จากนั้นจึงรีบเดินกลับไปหาหลิงหยุนพร้อมกับร้องถามอย่างตื่นเต้น
“พี่หยุน.. ป้าจางให้ของขวัญอะไรกับพี่?”
หลิงหยุนยิ้มพร้อมกับยื่นซองเอกสารให้กับถังเมิ่ง และพูดเสียงราบเรียบ “นายดูเอาเองก็แล้ว เสร็จแล้วก็เก็บให้ดีด้วยล่ะ!”
ถังเมิ่งรีบเปิดซองเอกสารดูด้วยความอยากรู้อยากเห็น และเมื่อได้เห็นเอกสารข้างใน ถังเมิ่งก็ถึงกับตกใจจนแทบปล่อยซองเอกสารหลุดมือพร้อมกับร้องอุทานเสียงดังออกมา
“แม่เจ้า.. นี่มันเอกสารการโอนบริษัทนี่!”
ถังเมิ่งรีบดึงเอกสารที่อยู่ในซองออกมาด้วยมือที่สั่นเทา
“ไม่อยากจะเชื่อเลยจริงๆ! ทั้งหมดหกบริษัท พนักงานเป็นพันคน รวมแล้วมูลค่าเป็นพันล้าน!”
ถังเมิ่งแหงนหน้าขึ้นมองท้องฟ้า พร้อมกับกรีดร้องออกมาอย่างบ้าคลั่งจนฟังไม่เป็นคำพูด!
ครึ่งชั่วโมงต่อมา.. ด้านหน้าคลินิกสามัญชนก็มีรถมาจอดยาวจากประตูคลีนิคสามัญชนไปราวหนึ่งร้อยเมตร
ท่ามกลางแขกเหรื่อที่มาแสดงความยินดีกับหลิงหยุนนั้น บางคนเขาก็เคยพบเจอหรือรู้จัก แต่บางคนเขาก็ไม่รู้จักแม้แต่ชื่อด้วยซ้ำไป!
หลิวลี่เดินท้องโตเข้ามา และคนที่เดินตามเธอมานั้นก็คือพี่เลี้ยงเด็กที่เธอจ้างมานั่นเอง
ตามมาด้วยคุณครูประจำชั้นของหลิงหยุน – กงเสี่ยวลู่ นับตั้งแต่หลิงหยุนกลับจากเกาะเตียวหยูนั้น เขาก็ยังไม่ได้แวะไปหากงเสี่ยวลู่เลย และไม่คิดว่าเธอจะมาร่วมยินดีกับเขาด้วย
แต่หากหลิงหยุนรู้ล่วงหน้าว่าเธอจะมา เขาจะต้องขอให้ฉางหลิงช่วยไปรับเธอเช่นกัน
แม้แต่หลี่หงเม่ยซึ่งเป็นเพื่อนบ้านของฉินจิวยื่อก็มาด้วยเช่นกัน และไม่รู้ว่าเธอไปได้ข่าวคราวมาจากที่ใหนกัน
เตาหยงเองก็ไม่พลาดที่จะมาร่วมแสดงความยินดีด้วยตนเอง ตอนนี้หลิงหยุนเป็นลูกพี่ของเขาแล้ว มีหรือที่เขาจะกล้าไม่มาร่วมงาน
แต่คนที่หลิงหยุนคาดไม่ถึงก็คือซูปิงหยานซึ่งเป็นเจ้าของร้านอินเทอร์เน็ตคาเฟ่ แม้เธอจะมอบของขวัญเล็กๆน้อยๆเป็นเงินเพียงแค่แปดร้อยหยวน แต่นั่นก็แสดงถึงน้ำใจที่เธอมีให้
แม้แต่ผู้อำนวนการโรงพยาบาลชื่อซ่งจิงหยางก็มาด้วยเช่นกัน และถังเมิ่งก็ทำหน้าที่ดูแลต้อนรับแทนหลิงหยุน
ตอนนี้คลินิกสามัญชนเต็มไปด้วยผู้คนเยอะแยะมากมาย แต่ถึงกระนั้นผู้คนก็ยังคงหลั่งไหลมาร่วมงานกันอย่างต่อเนื่อง แม้แต่หลิงหยุนเองก็ถึงกับรู้สึกตกใจไม่น้อย!
บรรดาเหล่าอาวุโสที่เคยไปในงานวันเกิดของหนิงน้อย ทุกคนต่างก็พากันมาร่วมยินดีด้วยเช่นกัน!
แม้กระทั่งผู้อำนวยการสำนักงานรักษาความมั่นคงเขตจิงฉี – หลิวจินไล๋ก็นำของขวัญชิ้นใหญ่มามอบให้กับหลิงหยุนด้วยเช่นกัน
หลิงหยุนยุ่งมาก และของขวัญก็มีจำนวนมากจนถังเมิ่งต้องจัดหาโต๊ะมาวางของขวัญทั้งหมดไว้ที่ข้างประตูคลีนิค และเรียกให้หนิงหลิงยู่กับหลงหวู่มาช่วย
ถังเมิ่งและตี้เสี่ยวอู๋รับผิดชอบเรื่องการรับของขวัญ หนิงหลิงหยู่และหลงหวู่ช่วยกันจดรายละเอียด และทั้งคู่ต่างก็ทำงานกันหน้ามืด
วันนี้นับว่าเป็นวันรับทรัพย์ครั้งใหญ่ของหลิงหยุน!
หลิงหยุนได้แต่จ้องมองแขกเหรื่อที่ยังคงทยอยกันเข้ามาไม่ขาดสาย ตอนนี้รถที่จอดอยู่หน้าคลินิคยาวเป็นแถวสุดลูกหูลูตาอยู่สองฟากถนน แม้แต่ตัวหลิงหยุนเองยังรู้สึกประหลาดใจอย่างมาก!
“ถังเมิ่ง.. นี่มันเกิดเรื่องบ้าอะไรขึ้น?! ทำไมถึงมีคนมามากมายแบบนี้ ฉันไม่รู้จักพวกเขาสักหน่อย พวกเขามาอะไรกัน?!”
หลิงหยุนลากถังเมิ่งที่พยายามหลบหน้าหนีออกมาถาม..
ถังเมิ่งยิ้มเจื่อนพรอ้มกับตอบไปว่า “พี่หยุน.. นี่พี่ไม่เข้าใจธรรมเนียมของคนจีนบ้างหรือยังไง..?”
“พี่ลองคิดดูสิว่าท่านปู่เสี่ยวมีชื่อเสียงแค่ใหน? ท่านปู่เสี่ยวจะมามอบของขวัญแสดงความยินดีที่พี่เปิดคลีนิคทั้งที ก็ต้องบอกกล่าวเพื่อนสนิทอยู่แล้ว ในเมื่อเพื่อนๆของท่านปู่เสียวรู้ มีเหรอที่พวกเขาจะไม่มาร่วมยินดีด้วย..?”
“จากหนึ่งก็เลยเพิ่มเป็นสิบ จากสิบก็เพิ่มเป็นร้อย.. แล้วนี่ฉันแค่ยกตัวอย่างปู่เสี่ยวคนเดียวเท่านั้นนะ ใหนจะคนอื่นอีกล่ะ!”
“ยังมีลุงหลี่.. เท่าที่ฉันรู้ตอนนี้ลุงหลี่เองก็กำลังประชุมด่วนอยู่! นายว่าลูกน้องลุงหลี่คนอื่นๆถ้ารู้ข่าวนี้เข้าจะไม่มาร่วมยินดีงั้นเหรอ?”
ตอนนี้ถังเทียนห่าวและหลี่ยี่เฟิงเพิ่งจะเสร็จจากการประชุมด่วน เนื้อหาการประชุมก็มีเพียงแค่เรื่องเดียวซึ่งก็คือเรื่องที่ดินหนึ่งร้อยไร่ คณะกรรมการในที่ประชุมต่างก็เป็นเจ้าหน้าที่ของเมืองจิงฉู เมื่อการประชุมถูกจัดขึ้น ก็มีการส่งข้อความบอกต่อๆกันอีกมากมาย
เจ้าของบริษัทยาต่างๆในเมืองจิงฉู และที่อื่นต่างก็เดินทางมาร่วมแสดงความยินดีกับหลิงหยุนเช่นเดียวกัน พวกเขาไม่ได้โง่!
หลิงหยุนได้แต่ขมวดคิ้วพร้อมกับสั่งถังเมิ่งว่า “เอาล่ะ.. นายพาแขกที่ฉันไม่รู้จักไปรอที่โรงแรมแชงกรีล่า ที่นี่ให้อยู่เฉพาะคนที่ฉันรู้จักเท่านั้น!”
ระหว่างนั้นก็เป็นเวลาเก้าโมงครึ่งพอดี และใกล้ถึงเวลาตัดริบบิ้นแล้ว แต่คลีนิคของหลิงหยุนยังคงคลาคล่ำไปด้วยแขกเหรื่อทั้งภายในและภายนอก
เวลานี้บริเวณสี่แยกถนนกู่เฟิงตัดถนนจิงฉีนั้น การจราจรแน่นิ่งไม่เคลื่อนตัว และรถก็ติดอยู่ที่สี่แยกจนเป็นแถวยาวเหยียด
เมืองจิงฉูปั่นป่วนขึ้นอีกครั้ง!
“เสี่ยวจี๋.. ครั้งนี้นายต้องพบกับหายนะแน่..!”
ข้างๆรถ BMW นั้น หนุ่มเพลย์บอยทั้งห้าคนยังคงยืนสังเกตุการณ์อยู่ อาปิงที่กำลังจ้องมองกับภาพเหตุการณ์ตรงหน้านั้น ถึงกับหันไปบอกเสี่ยวจี๋ด้วยสีหน้าเคร่งเครียด
หากเป็นไปได้ ตอนนี้อาปิงแทบจะไม่อยากรู้จักกับเสี่ยวจี๋ด้วยซ้ำไป!
หนุ่มเพลย์บอยที่ยืนสังเกตการณ์มาตั้งแต่ต้น และได้พบเห็นแขกคนสำคัญมากมาย จึงค่อนข้างตกอกตกใจอย่างมาก!
ชายหนุ่มทั้งห้าคนไม่ได้ตกใจที่มีแขกเหรื่อมาร่วมงานกันจำนวนมาก แต่พวกเขาตกใจเพราะคนใหญ่คนโตในจิงฉูนั้น ล้วนแล้วแต่มารวมกันอยู่ในงานนี้เกือบหมด
พี่เฟยและเจ้าหนูเองก็ถึงกับหน้าเสียเช่นกัน!
“พี่ปิง.. แล้วตอนนี้จะทำยังไงดี?!”
นอกเหนือจากเรื่องการกินแล้ว เจ้าหนูนับว่าเป็นคนขี้ขลาดคนหนึ่ง เมื่อได้เห็นเหตุการณ์ในวันนี้เข้า ก็ถึงกับหวาดกลัวจนหัวหด
เสี่ยวจี๋ที่กำลังยืนหลบอยู่หลังต้นไม้นั้น ก็พูดอะไรไม่ออกอยู่นาน และใบหน้าของเขาก็หาความหล่อเหลาไม่ได้อีกแล้ว เพราะแก้มที่กำลังบวมเป่ง
……….
แขกเหรื่อต่างก็ทยอยกันเข้ามามอบของขวัญล้ำค่ามากมาย มอบเสร็จอวยพรสองสามคำแล้วก็ไป วนเวียนอยู่เช่นนี้..
แต่บางคนเมื่อมอบของขวัญชิ้นใหญ่ให้แล้วก็ไม่ยอมออกไป เพราะต้องการรอดูพิธีตัดริบบิ้น แต่ภายในคลินิกตอนนี้ก็ไม่สามารถจุคนได้อีกแล้ว คนที่เหลือจึงได้แต่ยืนรออยู่ด้านนอก
บางคนไม่รู้ด้วยซ้ำไปว่าเกิดอะไรขึ้นที่นี่ เพียงแค่รู้ว่าวันนี้คลินิกสามัญชนที่สี่แยกแห่งนี้จะเปิดทำการ ก็เข้ามามุงดูด้วยเช่นกัน..
ถังเมิ่งจัดการตามคำสั่งของหลิงหยุน หลังจากแขกที่หลิงหยุนไม่รู้จักนำของขวัญมาให้ เขาก็จัดการพาทุกคนไปที่โรงแรมแชงกรีล่า และเลี้ยงอาหารอย่างดี
ไม่เพียงแค่หลิงหยุนคิดไม่ถึง แม้แต่ถังเมิ่งเองก็คิดไม่ถึงเช่นกัน! ไม่มีใครคาดคิดว่าวันนี้จะมีผู้คนมาร่วมยินดีมากมายถึงเพียงนี้!
ท้ายที่สุด.. เมื่อเห็นจำนวนคนมากมายที่ยังคงหลั่งไหลมาไม่หยุด หลิงหยุนจึงทำได้เพียงแค่ยิ้มทักทาย รับซองเพื่อให้ผ่านๆไปเท่านั้นเอง
‘น่าขันสิ้นดี.. บางคนข้าไม่รู้จักด้วยซ้ำไป..’
หลิงหยุนยืนมองผู้คนที่หลั่งไหลมาราวกับมด และได้แต่บ่นพึมพำอยู่ในใจ
เช่นนี้แล้วยังจะเรียกว่าเป็นการเปิดคลินิกเล็กๆได้อีกอย่างนั้นหรือ?
เพราะหากคนใหญ่คนโตในเมืองจิงฉูจัดพิธีแต่งงาน ก็ยังไม่รู้ว่าจะมีแขกเหรื่อไปร่วมยินดีมากมายถึงเพียงนี้หรือไม่?
“เขาเก่งจริงๆ!”
บรรดาสาวสวยที่อยู่ด้านใน ต่างก็จ้องมองไปยังชายหนุ่มที่สวมเสื้อกาวน์สีขาว และบนใบหน้ามีรอยยิ้มที่มากด้วยเสน่ห์ พร้อมกับพึมพำออกมาเบาๆ
ในเวลานั้นเอง หลิงหยุนก็เดินฝ่าฝูงชนตรงไปที่ถนน..