[ติดตามข่าวสารได้ที่เพจ : จักรพรรดิ์เทพมังกร ]
บทที่ 506 : โกรธจนแทบคลั่ง!
หลินมิ่งหานที่จู่ๆก็ได้ยินเสียงของหลิงหยุนดังขึ้นมานั้น รู้สึกราวกับถูกทุบศรีษะด้วยของแข็ง เลือดในตัวพุ่งพล่านตั้งแต่ปลายเท้าจรดหนังหัว และแล้วร่างที่ยืนอยู่ก็อ่อนยวบราวกับโคลน และทรุดลงไปกับพื้นอย่างหมดเรี่ยวหมดแรงทันที!
เพราะเกรงว่าหลิงหยุนจะกลับมานั่นเอง หลินเมิ่งหานจึงต้องรีบไล่หลงเทียนเจียวออกไปจากบ้าน แต่กลับนึกไม่ถึงว่า จู่ๆ หลิงหยุนจะมาถึงตั้งแต่เช้าตรู่เช่นนี้ และหากเขามาเห็นว่าในบ้านมีชายหนุ่มหน้าตาดีอยู่ด้วย ก็คงจะ…
หลิงหยุนจะคิดอย่างไร และจะมองเธอเช่นไร?
ไม่เพียงหลินเมิ่งหานจะอยู่ในบ้านสองต่อสองกับชายหนุ่ม แต่เขายังเป็นคู่หมั้นของเธออีกด้วย!
ชายคนหนึ่งคือคนที่หลินเมิ่งหานรักจนยอมมอบร่างกายที่บริสุทธิ์ให้ ส่วนอีกคนก็เป็นคู่หมั้นคู่หมายที่ทางครอบครัวต้องการให้เธอตบแต่งด้วยในวันข้างหน้า การที่ชายหนุ่มสองคนมาเผชิญหน้ากันโดยบังเอิญ จึงนับว่าเป็นเรื่องใหญ่โตมากทีเดียว!
สำหรับหลินเมิ่งหานนั้น เธอก็คือผู้หญิงของหลิงหยุนอย่างสมบูรณ์แบบแล้ว และเพียงแค่เขาไม่อยู่บ้านเกือบเดือนเท่านั้น กลับต้องมาพบผู้หญิงของตนเองอยู่กับคู่หมั้นคู่หมายสองต่อสองภายในบ้าน การได้พบเห็นภาพเช่นนี้ จะต่างจากการได้เห็นคนทั้งคู่อยู่บนเตียงตรงใหน!
ทางด้านหลงเทียนเจียวซึ่งเป็นหนุ่มเพลย์บอย และเป็นถึงนายน้อยแห่งตระกูลหลงที่ยิ่งใหญ่นั้น.. กลับต้องมาพบความจริงว่า ภรรยาในอนาคตของตนเอง ได้กลายเป็นผู้หญิงของชายอื่นไปแล้ว ก็ย่อมต้องรู้สึกไม่ดีเช่นเดียวกัน!
เมื่อเกิดเหตุการณ์รถไฟชนกันเช่นนี้เข้า หลินเมิ่งหานจึงได้แต่กรีดร้องอยู่ในว่า ‘มันจบแล้ว! ทุกอย่างจบสิ้นแล้ว..’
หลินเมิ่งหานรู้ดีว่า ตัวเธอเองเป็นผู้ที่ทำให้เรื่องราวทุกอย่างยุ่งเหยิงวุ่นวายเช่นนี้ แต่สิ่งที่เธอเป็นกังวลนั้น กลับไม่ใช่เรื่องชื่อเสียงของตัวเอง แต่เป็นเรื่องความปลอดภัยของหลิงหยุน!
เพราะเป็นที่รู้กันดีว่า.. หลงเทียนเจียวนั้นเป็นถึงลูกชายของตระกูลใหญ่ในเมืองหลวง และยังเป็นถึงรองหัวหน้ากลุ่มเทพอินทรี เพียงแค่สองสถานะที่หลงเทียนเจียวครอบครองอยู่นี้ ก็มากพอที่จะทำให้หลิงหยุนถึงตายได้!
เพราะหากหลงเทียนเจียวได้รู้ว่า ภรรยาในอนาคตของเขานั้น ได้มอบกายและใจให้กับชายอื่นไปแล้ว เขาก็คงจะต้องโกรธจนหน้าดำหน้าแดง และอาจบันดาลโทสะถึงขั้นลงมือฆ่าหลิงหยุนก็เป็นได้!
และหากเป็นเช่นนั้นจริง.. ไม่เท่ากับว่าเธอเป็นต้นเหตุให้ชายที่รักถึงแก่ความตายอย่างนั้นหรือ?!
หลินเมิ่งหานล้มพับลงไปกองกับพื้น ใบหน้าซีดเผือด ความคิดหยุดนิ่ง และในใจรู้สึกหวาดกลัวอย่างที่สุด!
หลงเทียนเจียวเองก็มีสีหน้าเปลี่ยนไปทันทีเช่นกัน ใบหน้าของเขาแดงก่ำบิดเบี้ยวด้วยความโกรธพร้อมกับขบฟันเข้าหากันแน่น..
เสียงร้องตะโกนดังออกมาจากนอกบ้านอีกครั้ง “ใครกัน..? กล้ามาตอแยผู้หญิงของข้า..!”
‘นี่หลินเมิ่งหานเป็นผู้หญิงของคนอื่นไปแล้วหรือนี่? นี่มัน..’
หลงเจียนเทียวคิดในใจว่า.. ไม่ว่าใครก็ตามที่กล้าพูดประโยคนี้ออกมา เขาจะไม่มีทางอยู่นิ่งเฉยแน่!
คู่หมั้นของเขาแท้ๆ แต่กลับกลายเป็นผู้หญิงของคนอื่นไปแล้ว!
สำหรับหลงเทียนเจียวนั้น เรื่องนี้จึงนับว่าเป็นเรื่องที่น่าอับอายขายหน้าของเขาอย่างที่สุด!
หลงเทียนเจียวได้แต่แอบคิดอยู่ในใจว่า.. มิน่าหลินเมิ่งหานถึงกับต้องหนีออกจากบ้านมาอยู่ที่นี่เพียงลำพัง ความจริงเธอได้นัดหมายกับชายอื่นไว้นั่นเอง..
หลงเทียนเจียวถึงกับความคิดหยุดนิ่งไปอีกคน เขารู้สึกราวกับถูกตบหน้าอย่างแรง และสาบานว่ากับตัวเองว่า ไม่ว่าใครก็ตามที่กล้าพูดประโยคนี้ออกมา และกำลังจะเดินเข้ามาในบ้าน เขาจะทำให้มันผู้นั้นต้องนึกเสียใจที่ได้เกิดมาบนโลกใบนี้เลยทีเดียว!
หลิงหยุนค่อยๆก้าวเท้าเดินเข้ามาในลานหน้าบ้านอย่างไม่รีบร้อน มือข้างหนึ่งล้วงกระเป๋า ส่วนอีกข้างหนึ่งถือถุงอาหารเช้าที่นำมาด้วย
ระหว่างที่เดินเข้าไปยังห้องนั่งเล่น หลิงหยุนก็ได้ใช้จิตหยั่งรู้สำรวจเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นด้านในไปด้วย ปฏิกิริยาของคนทั้งสองหลังจากที่ได้ยินเสียงของหลิงหยุนจึงไม่อาจหลบพ้นสายตาของเขาไปได้ และหากไม่ใช่เพราะหลินเมิ่งหานมีท่าทีต่อต้าน และขับไล่หลงเทียนเจียวอย่างจริงจังเมื่อครู่ หลิงหยุนคงต้องทำโทษเธออย่างแน่นอน!
“หลิง.. หลิงหยุน.. นายกลับมาแล้วเหรอ?”
หลินเมิ่งหานหวาดกลัวจนเหงื่อเย็นไหลท่วมตัว พร้อมกับแลบลิ้นเลียริมฝีปากที่แห้งผากบนใบหน้าที่ซีดเซียว..
จิตใต้สำนึกของเธอนั้นต้องการจะเรียกหลิงหยุนว่า ‘สามี’ เหมือนเช่นเคย แต่เพราะมีหลงเทียนเจียวอยู่ในห้องนั่งเล่นด้วย เธอจึงได้แต่เปลี่ยนมาเรียกชื่อของเขาแทน
แต่หลิงหยุนกลับยิ้มเพียงแค่เล็กน้อย ดวงตาของเขาหรี่มองหลินเมิ่งหานพร้อมกับร้องถามขึ้นว่า “เมื่อครู่คุณเรียกผมว่าอะไรนะ?!”
เมื่อเห็นท่าทางของหลิงหยุน หลินเมิ่งหานก็ยิ่งหวาดกลัวมากขึ้น เธอนิ่งอึ้งไปเล็กน้อย ก่อนจะพึมพำเสียงเบาว่า “หลิง..”
“อะไรนะ?!” หลิงหยุนทำเสียงไม่พอใจ และเดินตรงเข้าไปหาหลินเมิ่งหานโดยไม่สนใจหลงเทียนเจียวแม้แต่น้อย
“คุณเรียกผมว่าอะไร?!”
หลิงหยุนเดินผ่านหน้าหลงเทียนเจียว และไปหยุดยืนอยู่ข้างหลินเมิ่งหานด้วยท่าทีเคร่งขรึม แต่เขากลับยืนนิ่งโดยไม่แม้แต่จะช่วยพยุงเธอให้ลุกขึ้นมา..
“สา.. สามี..” นี่เป็นคำที่หลินเมิ่งหานใช้เรียกหลิงหยุนหลังจากที่เธอได้มอบร่างกายให้กับเขาไปแล้ว
ต่อหน้าคู่หมั้นของตัวเอง แต่กลับร้องเรียกชายอื่นว่า ‘สามี’ หลินเมิ่งหานจึงรู้สึกกระอักกระอ่วนใจ และอับอายอย่างมาก หากข้างกายของเธอตอนนี้มีหลุมอยู่ คาดว่าเธอคงจะมุดลงไปเพื่อหลบหนีความอับอายไปแล้วอย่างแน่นอน!
“ใช่แล้ว..! ต้องเรียกแบบนี้ถึงจะถูกต้อง.. แล้วนี่คุณลงไปนั่งที่พื้นทำไมกัน? ลุกขึ้นมาเร็วเข้า!”
หลิงหยุนคาดเดาได้อย่างแม่นยำว่า หลงเทียนเจียวที่ยืนอยู่ด้านหลังของเขาในเวลานี้ คงกำลังโมโหจนหน้าดำหน้าแดงไป และหายใจฟึดฟัดด้วยความโกรธอย่างแน่นอน
หลิงหยุนยื่นมือใหญ่โตออกไปโอบไหล่ของหลินเมิ่งหานเพื่อช่วยพยุงเธอให้ลุกขึ้นมา และเมื่อมือใหญ่โตของหลิงหยุนโอบเข้าที่แขนข้างขวา ก็ได้สัมผัสเข้ากับหน้าอกด้านขวาของหลินเมิ่งหานเช่นกัน เธอถึงกับตัวสั่นด้วยความอับอาย
เมื่อเห็นมือใหญ่โตของหลิงหยุนยื่นมาให้ตรงหน้า และเกือบจะสัมผัสเข้ากับหน้าอกข้างขวาของตนเอง
หลินเมิ่งหานก็ถึงกับตัวสั่นด้วยความรู้สึกอับอาย เธอยืนก้มหน้าก้มตาอยู่ในอ้อมแขนของหลิงหยุนจนผมยาวดำขลับร่วงลงมาปิดบังใบหน้าที่แดงก่ำไว้ และไม่กล้ามองหน้าชายหนุ่มทั้งสองคนอีกเลย!
ร่างกายของหลินเมิ่งหานปั่นป่วนราวกับถูกไฟ้ฟ้าช็อต เพราะหลิงยุนไม่เพียงแค่วางมือใกล้หน้าอกด้านขวาของหลินเมิ่งหาน แต่ยังลูบไล้เป็นจังหวะอย่างชำนิชำนาญ
หากหลงเทียนเจียวไม่มาในวันนี้ เธอและหลิงหยุนคงจะมีช่วงเวลาที่ดีไปแล้ว แต่สถานการณ์ในตอนนี้ กลับบทำให้หลินเมิ่งหานรู้สึกอับอาย และกระอักกระอ่วนเสียมากกว่า
เมื่อหลงเทียนเจียวได้เห็นอากัปกิริยาของหลิงหยุน เขาก็ยิ่งโมโหจนแทบคลั่งมากขึ้น!
หากเขาไม่ใช่คนของกลุ่มเทพอินทรี และต้องทำตามกฎ – ไม่ใช้วรยุทธกับคนธรรมดาแล้วล่ะก็ หลงเทียนเจียวคงจะลงมือจัดการกับหลิงหยุนไปแล้ว!
จู่ๆ หลิงหยุนก็มาปรากฏตัวอยู่นอกบ้าน หลงเทียนเจียวในขั้นเซียงเทียน-1 ควรจะต้องรู้ตัวเมื่อหลิงหยุนเดินเข้ามา แต่เขากลับบไม่รู้!
เมื่อครั้งที่ได้ยินเสียงพูดของหลิงหยุน หลงเทียนเจียวคิดว่าหลิงหยุนคงจะต้องเป็นยอดฝีมือระดับสูง แต่เมื่อหลิงหยุนก้าวเท้าเข้ามาในบ้านได้เพียงแค่สองก้าว เขากลับพบว่าตนเองคิดผิดไป ความจริงแล้วหลิงหยุนเป็นเพียงแค่ ‘คนธรรมดาๆ’ ที่ไม่รู้วรยุทธด้วยซ้ำไป!
สำหรับหลิงหยุนในเวลานี้ หากเขาไม่ต้องการให้ผู้ใดเห็นกำลังภายในของตนเอง ก็ยากที่จะมีผู้ใดรู้ได้! เว้นแต่คนผู้นั้นจะเข้าสู่ขั้นเซียงเทียนแล้วเท่านั้น
หลงเทียนเจียวที่จองหอง และคิดว่าตนเป็นคนฉลาดหลักแหลมนั้น เพียงแค่คิดว่าที่เขาไม่ได้ยินเสียงหลิงหยุนอยู่ด้านนอกนั้น ก็เพราะมัวแต่ใจจดใจจ่ออยู่กับหลินเมิ่งหาน เขาจึงไม่ทันได้ยิน และสังเกตเห็น!
ตอนนี้ใบหน้าของหลงเทียนเจียวแทบจะกลายเป็นสีม่วงคล้ำ เขาพูดออกมาอย่างไม่พอใจมาก
“เจ้าหนู.. เจ้ารู้หรือไม่ว่ากำลังโอบกอดใครอยู่?!”
หลิงหยุนเงยหน้าขึ้นมองหลงเทียนเจียว สายตาของเขาบ่งบอกว่ากำลังมองคนหน้าโง่คนหนึ่ง แล้วทำแสร้งไม่เข้าใจพร้อมตอบกลับไปว่า..
“ข้าต้องรู้อยู่แล้ว! ข้าก็กอดผู้หญิงของข้า เจ้าไม่ได้ยินหรือยังไงว่านางเรียกข้าว่าสามี?”
ขณะที่พูด หลิงหยุนก็โอบหลินเมิ่งหานแน่นขึ้นอีก
“เอ่อ..” หลินเมิ่งหานรู้สึกชาไปครึ่งตัว
หลิงหยุนเงยหน้ามองหลงเทียนเจียวพร้อมกับพูดยิ้มๆ “ดูสิ.. เธอก็ไม่ปฏิเสธ..”
“เจ้าหนู.. เจ้าช่างกล้าดีนักนะ! เจ้ารู้หรือไม่ว่าทำเช่นนี้จะมีผลลัพธ์อย่างไร?”
หลงเทียนเจียวมองหน้าคู่หมั้นของตนเอง ก่อนหน้านี้เขาเพิ่งจะถูกคู่หมั้นของตัวเองไล่ออกจากบ้านอย่างไม่ใยดี แต่เมื่อมีชายอีกคนปรากฏตัวขึ้น หลินเมิ่งหานกลับหวาดกลัวจนถึงกับทรุดลงไปที่พื้น และตอนนี้ก็อยู่ในอ้อมกอดของชายผู้นั้น อีกทั้งยังยินยอมให้เขาลูบไล้เนื้อตัว..
หลงเทียนเจียวโกรธจนพูดอะไรไม่ออก ตอนนี้เขาไม่สนใจกฏเกณฑ์อะไรอีกแล้ว เขาต้องจัดการกับหลิงหยุนให้ได้!
“เจ้าต่างหากที่กล้าดี.. เข้ามาในบ้านของภรรายาข้า แล้วยังแทะโลมภรรยาของคนอื่น เจ้าเป็นคนนอกแท้ๆ แต่กลับมาส่งเสียงดังต่อหน้าข้าและภรรยาเช่นนี้ เจ้ารู้หรือไม่ว่าผลลัพธ์จะเป็นอย่างไร?”
หลิงหยุนย้อนถามอย่างเหยียดหยัน..
“วาจาของเจ้าช่างคมคายนักนะ! เจ้าเด็กน่าสมเพช.. เจ้าไม่มีคุณสมบัติที่จะมายืนพูดจาต่อหน้าข้า – หลงเทียนเจียวด้วยซ้ำไป!”
หลงเทียนเจียวทำเสียงโมโหอย่างมาก เขาเดินตรงเข้าไปหาหลิงหยุนพร้อมกับยื่นมือออกไปตรงใบหน้าของเขาทันที!
“นี่คุณจะทำอะไร-”
“ออกไปจากบ้านฉันได้แล้ว!” หลินเมิ่งหานร้องออกไปอย่างไม่พอใจ
หลิงหยุนยิ้มเหยียด พร้อมกับยกมือซ้ายขึ้นฟาดใส่ใบหน้าของหลงเทียนเจียวอย่างแรง..
เพียะ!
ฝ่ามือของหลิงหยุนปะทะเข้ากับใบหน้าของหลงเทียนเจียวอย่างแรง และร่างของเขาก็ลอยละลิ่วออกไปนอกประตูราวกับว่าง..
ปัง!
ร่างของหลงเทียนเจียวที่ลอยละลิ่วออกไปนอกบ้านั้น ได้กระแทกเข้ากับขอบประตูอย่างแรงก่อนจะลอยละลิ่วไปตกอยู่ที่ลานหน้าบ้าน
“นี่.. เจ้าทำประตูบ้านข้าพัง แล้วก็กระถางดอกไม้อีกสองกระถาง เจ้าต้องจ่ายค่าเสียหายเป็นสิบเท่า!”
หลิงหยุนสะบัดข้อมือที่ใช้ตบหน้าหลงเทียนเจียว!