Dragon Emperor Martial God จักรพรรดิ์เทพมังกร 422

ตอนที่ 422

[ติดตามข่าวสารได้ที่เพจ : จักรพรรดิ์เทพมังกร ]

บทที่ 422: เพื่อนข้างโต๊ะคนใหม่!

“เห้ย.. นั่นมันหลิงหยุนกับหนิงหลิงยู่นี่นา!”

“จริงด้วย.. หลิงหยุนจริงๆด้วย ไอดอลของฉันกลับมาแล้วเว้ย!”

“เร็วเข้าทุกคน.. หลิงหยุนกลับมาแล้ว!”

“หลิงหยุน.. ฉันรักนาย!”

……….

ช่วงเวลานี้ นับว่าเป็นช่วงที่มีนักเรียนหนาแน่นที่สุด ทันทีที่หลิงหยุนและหนิงหลิงยู่ปรากฏตัวขึ้นที่หน้าประตูโรงเรียน ก็กลายเป็นที่สนอกสนใจของทุกๆคนในทันที เพื่อนนักเรียนต่างก็พากันพูดถึงและกระซิบซาบกัน นักเรียนหญิงบางส่วนถึงกับวิ่งเข้าไปหาหลิงหยุนอย่างคลั่งไคล้!

หลิงหยุนตกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นมาก เขาจ้องมองบรรดานักเรียนหญิงที่พากันวิ่งกรูเข้ามาห้อมล้อมเขาอย่างคลั่งไคล้ หลิงหยุนตกตะลึงและอึ้งไปเล็กน้อยกว่าจะรู้ตัวว่าสิ่งที่เกิดขึ้นนั้นเป็นความจริงไม่ใช่ความฝัน!

“พี่ใหญ่.. ตอนนี้พี่กลายเป็นคนดังของโรงเรียนไปแล้วนะ เมื่อวานเพื่อนในห้องของฉันหลายคนก็ส่งข่าวมาบอกเรื่องนี้เหมือนกัน แต่ฉันไม่ค่อยจะเชื่อ แต่ตอนนี้ได้เห็นกับตาถึงรู้ว่าพี่นี่ฮ็อทจริงๆ!”

หนิงหลิงยู่มองเห็นสีหน้าตกอกตกใจของหลิงหยุนแล้ว ถึงกับหัวเราะคิกคัก!

หลิงหยุนได้แต่พึมพำกับตัวเองว่า “นี่มันบ้าอะไรกัน?!”

หลิงหยุนมองนักเรียนสาวร่างอวบคนหนึ่งที่แต่งหน้าทาแก้มจนแดงราวกับก้นลิง  ทุกย่างก้าวที่วิ่งเข้ามานั้น ทำเอาไขมันในร่างกายของเธอกระเพื่อมไปมาอย่างรุนแรง แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็ยังอ้วนน้อยกว่าเขาในสมัยก่อน

แต่นั่นไม่ใช่เรื่องสำคัญ เรื่องสำคัญก็คือว่านักเรียนหญิงร่างอวบบผู้นั้นกำลังพุ่งเข้ามาหาหลิงหยุนอย่างคลุ้มคลั่งพร้อมกับร้องตะโกนเสียงดัง

“หลิงหยุน.. ฉันรักนาย!”

“โอ้แม่เจ้า..!” หลิงหยุนร้องออกมาอย่างตกใจจนแทบจะลืมตัวกระโดดขึ้นถีบแม่สาวร่างอวบให้กระเด็นออกไป

“หลิงยู่.. เธอกลับไปที่ห้องเองก็แล้วกันนะ พี่ไปก่อนแล้ว!”

หลิงหยุนไม่รอฟังความเห็นจากหนิงหลิงยู่ เขาใช้มังกรพรางร่างขั้นสุด และร่างของเขาก็หายวับไปจากตรงนั้นทันที!

หลิงหยุนไปโผล่อยู่ในห้องเล็กๆห้องหนึ่ง เขายกมือขึ้นเช็ดเหงื่อเย็นๆที่ผุดขึ้นตามหน้าผากด้วยความตกใจสุดขีด พร้อมกับพึมพำอย่างหวาดผวา

“โชคดีนะที่ข้าไม่ได้กินข้าวเช้ามาก่อน ไม่เช่นนั้นข้าคงต้องอาเจียนออกมาแน่ แม่สาวน้อยร่างอ้วนนั่นช่างน่าผวาจริงๆ!”

ตอนนี้รอบตัวหลิงหยุนล้วนรายล้อมไปด้วยสาวงาม ไม่ว่าจะเป็นหลินเมิ่งหาน ฉินตงเฉี่วย และหนิงหลิงยู่ จึงไม่แปลกหากเขาจะเกิดความรู้สึกเปรียบเทียบ

“ข้าหวังว่าเหตุการณ์บ้าๆนี่จะกลับสู่สภาพปกติโดยเร็ว ไม่เช่นนั้นต่อให้ข้าฝึกจนถึงขั้นพลังชี่ ก็คงยากที่จะหนีผู้หญิงพวกนี้พ้น..”

หลังจากตั้งสติได้ หลิงหยุนก็เริ่มมองหาทางที่จะกลับไปยังห้องเรียนของตนเอง แต่แล้วก็นึกขึ้นมาได้ว่า

‘ครั้งก่อนหนิงน้อยเล่าให้ฟังว่าที่โรงเรียนก็เกิดเรื่องเหมือนกัน ไม่รู้ว่าเป็นเรื่องอะไรกันแน่? คืนนี้ข้าคงต้องสอบถามจากฉางหลิงอีกที!’

เมื่อมาถึงที่อาคารเรียน หลิงหยุนก็ไม่สนใจใคร เขารีบวิ่งขึ้นบันไดไปอย่างรวดเร็ว และรีบตรงเข้าไปที่ห้องหกทันที และเมื่อกวาดสายตาไปรอบๆห้อง ก็พบว่าเพื่อนๆส่วนใหญ่แม้กระทั่งเหมี่ยวเสี่ยวเหมาต่างก็นั่งกันอยู่เต็มห้องแล้ว

 “เห้ย.. นั่นมันหลิงหยุนนี่!”

“หลิงหยุนกลับมาแล้วจริงๆด้วย!”

แล้วเสียงปรบมือก็ดังกระหึ่มไปทั่วทั้งห้องเรียน..

เพื่อนนักเรียนในชั้นต่างก็พากันโห่ร้องเรียกชื่อหลิงหยุน และวิ่งกรูเข้าไปหาเขา เว้นแต่เหมี่ยวเสี่ยวเหมาที่เพียงแค่ยืนปรบมือให้หลิงหยุนนิ่งๆ บรรยากาศในห้องต่างก็เปี่ยมไปด้วยความยินดี

“ยินดีต้อนรับกลับห้องหลิงหยุน!” เพื่อนนักเรียนในห้องต่างก็วิ่งออกไปล้อมหลิงหยุนไว้

“พี่หลิง..! ไอดอลของฉัน! ฉันคอยพี่อยู่หลายวัน ในที่สุดพี่ก็กลับมา!” กู่หยวนหลงวิ่งออกมาจากห้อง ตรงเข้าจับมือหลิงหยุนและร้องอุทานออกมาอย่างตื่นเต้น

“พี่หลิง.. ฉันได้เห็นคลิปที่พี่ทุบสำนักงานรื้อถอนกับบ้านสองหลังนั่นแล้ว ยังได้เห็นพี่จัดการกับหัวหน้าสำนักงานรักษาความมั่นคงด้วย โคตรเจ๋งเลย! แล้วพี่ก็หล่อมากด้วย! ฮ่า.. ฮ่า..” ซากัวจิ้งเองก็พร่ำชมหลิงหยุนไม่ขาดปาก

“เห้ย.. หลิงหยุนนายกลับมาแล้วเหรอ? นี่ถ้านายไม่กลับมา ที่นี่คงจะน่าเบื่อมากเลย!” ฉางตงที่สูงหนึ่งเมตรเก้าสิบตบบ่าหลิงหยุนพร้อมกับบ่นออกมา

หลิงหยุนได้แต่ส่ายหน้ากับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เขาได้แต่คิดในใจว่า ขืนปล่อยให้สถานการณ์เป็นแบบนี้คงจะไม่ได้การแน่

“ทุกคนหลีกทางให้ผมได้แล้ว ให้ผมกลับไปนั่งที่โต๊ะก่อน..”

ยิ่งเห็นเพื่อนนักเรียนกรูเข้ามาล้อมเขามากเท่าไหร่โดยเฉพาะนักเรียนหญิง หลิงหยุนก็เริ่มทนไม่ได้ และรีบเบี่ยงตัวหลบเพื่อกลับไปนั่งที่โต๊ะอย่างรวดเร็ว

และเมื่อสามารถกลับไปนั่งที่โต๊ะของตัวเองได้แล้วแม้จะยากลำบากไปนิด หลิงหยุนก็ยกมือขึ้นห้ามเพื่อนๆที่ยังคงปรบมือไม่หยุดพร้อมกับพูดขึ้นว่า

“ขอบคุณเพื่อนๆทุกคนมาก ขอเวลาให้ผมปรับตัวกับสถานการณ์แบบนี้หน่อย แล้วค่อยคุยกันทีหลัง?”

ฉางตงวิ่งเข้าไปยืนอยู่ตรงหน้าหลิงหยุนพร้อมกับบชี้ไปทางด้านขวามือ เป็นการส่งสัญญาณให้หลิงหยุนมองไปทางหน้าต่าง..

“ฟังนะ.. ต่อให้เพื่อนๆในห้องยอมปล่อยให้นายได้หายใจหายคอบ้าง แล้วนายจะจัดการกับนักเรียนคนอื่นๆที่คอยอยู่ด้านนอกได้ยังไง?”

หลิงหยุนมองไปทางหน้าต่างตามที่ฉางตงชี้ ‘แม่เจ้า.. ยังมีคนอยู่ข้างนอกอีกมากมาย!’

ด้านนอกยังมีนักเรียนอีกจำนวนมากที่พากันกรีดร้องและเรียกชื่อหลิงหยุน เขากลัวจนไม่กล้ามองต่อ..

แต่หลิงหยุนก็ไม่กล้าที่โกรธเคืองพวกเขา เพราะทุกคนล้วนเป็นเพื่อนนักเรียนโรงเรียนเดียวกัน หรือต่อให้เขารู้สึกโมโห ก็ไม่ได้อยากมีเรื่องด้วย

หลิงหยุนได้แต่หันกลับไปมองเพื่อนด้านนอกอย่างขลาดๆ พร้อมพูดกับฉางตงว่า “ฉันคงจะหนีสภาพแบบนี้ไปใหนไม่ได้ เพราะยังไงก็ต้องกลับมาเรียน ช่างเถอะ.. ฉางตงกลับมานั่งที่เร็วเข้า!”

หลิงหยุนยกมือขึ้นดึงร่างของฉางตงกลับมา จากนั้นก็สั่งให้ฉางตงนั่งลงตรงที่นั่งของเกาเฉินเฉิน แล้วจึงพยักเพยิดหน้าไปทางหน้าต่างพร้อมกับถามขึ้นว่า

“นี่มันเกิดเรื่องบ้าบออะไรขึ้นกันแน่?”

ฉางตงยิ้มก่อนจะตอบไปว่า “ก็จะเรื่องบ้าบออะไรกันล่ะ? หลิงหยุนตอนนี้นายดังใหญ่แล้วนะ! ฉันจะบอกอะไรให้อีกอย่าง เห็นว่าเสาร์นี้จะมีสาวสวยจากโรงเรียนอื่นมาดูนายโดยเฉพาะเลยนะ บางคนก็ประกาศว่าจะมาตามจีบนาย ตอนนี้นายเตรียมรอรับความสุขที่กำลังจะมาถึงได้เลย..”

“อะไรนะ? ผู้หญิงสองสามคน.. จะมาตามจีบฉัน?!”

หลิงหยุนถึงกับนิ่งไปครู่ใหญ่พร้อมกับคิดในใจว่า ถ้าเป็นแบบนั้นจริง เขาก็จะพาเจ้าขาวปุยไปที่เกาเตียวหยู่เสาร์นี้เลยดีกว่า ไม่เช่นนั้นเขาคงจะรับมือกับสาวๆพวกนั้นไม่ไหวแน่?!

สำหรับหลิงหยุนกับหลินเมิ่งหานที่ยังอยู่ในช่วงของการดื่มน้ำผึ้งพระจันทร์นั้น ต่อให้สาวสวยแค่ใหนก็คงเทียบไม่ได้กับเทพธิดาที่รอเขาอยู่ที่บ้าน!

“นายท่าจะมีความสุขมากสินะ..! ตอนนี้ฉันก็เลยดังไปกับนายด้วย ทุกวันนี้ฉันเองก็แทบไม่เป็นอันได้ทำอะไร ทุกคนเอาแต่วิ่งตามฉันเพื่อถามเรื่องของนาย นี่ถ้าฉันสอบเข้ามหาวิทยาลัยไม่ได้ ฉันจะไปนั่งร้องไห้ที่บ้านนาย.. คอยดูสิ!”

ฉางตงพูดอย่างอึดอัด เพราะสองสามวันนี้เขาเองก็ถูกไล่ตามไม่ต่างจากหลิงหยุน และดูเหมือนว่าเขาเองก็เริ่มจะทนไม่ได้เช่นกัน

หลิงหยุนยิ้มพร้อมกับตอบไปว่า “ไปให้ไกลๆเลย.. นายก็หาวิธีเอาตัวรอดเอง อย่ามาร้องไห้กับฉัน!”

ระหว่างที่พูดคุยกับฉางตงอยู่นั้น สายตาของหลิงหยุนก็คอยเหลือบมองเหมี่ยวเสสี่ยวเหมาอยู่ตลอดเวลา เขากำลังคิดว่าคงต้องหาโอกาสคุยกับเหมี่ยวเสี่ยวเหมาส่วนตัว

หลิงหยุนให้สัญญากับท่านหมอเสี่ยวไว้ว่า เขาจะหาวิธีที่ทำให้ท่านหมอเสี่ยวและเหมี่ยวเฟิงหวงได้มีโอกาสพูดคุยปรับความเข้าใจกันโดยผ่านทางเหมี่ยวเสี่ยวเหมา

ในคืนวันเชงเม้งนั้น เหมี่ยวเสี่ยวเหมาเองก็ปรากฏตัวพร้อมกับดักแด้ทองคำ ทั้งเขาและเธอต่างก็ช่วยกันสังหารหลิวเต๋อหมิง แม้มือสังหารระดับสวรรค์ขององค์กรนักฆ่าทั้งสามคนปรากฏตัว เธอก็ยังไม่ยอมหนีและยืนยันจะต่อสู้เคียงบ่าเคียงไหล่กับหลิงหยุน และนั่นทำให้หลิงหยุนเกิดความรู้สึกที่ดีกับเหมี่ยวเสี่ยวเหมามากขึ้น

หลิงหยุนได้ใช้พลังอมตระชำระล้างร่างกายให้กับเหมี่ยวเสี่ยวเหมาไปไม่น้อย และตอนนี้เหมี่ยวเสี่ยวเหมาก็สามารถเข้าสู่ระดับสูงสุดของขั้นโฮ่วเทียน-7 ได้แล้ว นับได้ว่าเธอเป็นผู้ที่มีพรสวรรค์ไม่น้อยเลยทีเดียว

แม้ว่าหลิงหยุนจะได้ทำการลบเหตุการณ์ที่เกี่ยวกับเรื่องพู่กันจักรพรรดิออกจากความทรงจำของเหมี่ยวเสี่ยวเหมาไป แต่เธอก็ยังคงจำเหตุการณ์ที่ร่วมต่อสู้กับหลิงหยุนได้ เพราะเขาไม่เห็นความจำเป็นที่จะต้องลบความทรงจำช่วงนี้ของเธอทิ้งไป

“ฉางตง.. หลายวันนี้มีใครมาถามหาฉันบ้างไม๊?” หลิงหยุนถามด้วยท่าทางสบายๆ

ฉางตงยิ้มและตอบกลับไปว่า “มีสิ.. ก็พวกที่รอนายอยู่ข้างนอกนั่นไงล่ะ มาถามถึงนายทุกวันเลย..”

หลิงหยุนขมวดคิ้วเล็กน้อยพร้อมกับถามต่อว่า “แล้วนอกจากคนพวกนั้นล่ะ?”

ฉางตงหัวเราะ “ดูเหมือนจะมีผู้หญิงสองคนมาถามหานาย..”

หลิงหยุนได้ฟังถึงกับพูดอะไรไม่ออก พร้อมกับคิดว่าผู้หญิงที่ใหนจะมาถามหาเขาอีก?

หลิงหยุนถอนหายใจเล็กน้อยก่อนจะถามต่อว่า “ผู้หญิงที่ใหน?”

ฉางตงตอบยิ้มๆ “นายนี้เนื้อหอมจริงๆ คนแรกก็เป็นผู้หญิงที่ให้รถมาเซราติกับนายไง? ส่วนอีกคนก็เป็นหญิงสาวเจ้าของร้านอินเทอร์เน็ตคาเฟ่..”

หลิงหยุนเพียงแค่พยักหน้า คนแรกเป็นมู่หลงเฟยจื่ออย่างแน่นอน ส่วนคนที่สองนี่สิเป็นใครกัน?

“หญิงสาวเจ้าของร้านอินเทอร์เน็ตคาเฟ่งั้นเหรอ? แล้วเธอมาหาฉันทำไมกัน?”

หลิงหยุนรู้ดีว่าความทรงจำหลายอย่างของหลิงหยุนคนก่อนได้สูญหายไปจากสมองของเขา เขาจึงไม่ต้องการแสดงพิรุธออกไปให้ใครสงสัย แต่ก็ได้ถามออกไปด้วยความระมัดระวัง

ฉางตงมองหลิงหยุนอย่างไม่อยากจะเชื่อ “หลิงหยุน.. เดี๋ยวนี้พอนายเก่งขึ้นมาหน่อย ก็ลืมเรื่องค่าจ้างเล็กๆน้อยๆไปเลยหรือยังไง? นายถึงลืมเรื่องนี้ไปได้..”

หลิงหยุนนิ่งเงียบไป และรอคอยฟังว่าฉางตงจะพูดอะไรต่อ..

ฉางตงพูดต่อว่า “ก็เมื่อเดือนที่แล้ว นายจะโดดเรียนไปทำงานที่ร้านอินเทอร์เน็ตคาเฟ่ทุกวัน เจ้าของร้านเขาก็เอาค่าจ้างมาให้นายไงล่ะ!”

“ฉันขอถามอะไรนายหน่อยสิ? นายกับสาวเจ้าของร้านเป็นอะไรกันหรือเปล่า ทำไมเขาต้องถึงกับเอาเงินค่าจ้างมาให้นายถึงที่นี่? อีกอย่างพอไม่พบนาย เธอก็ทำหน้าเหมือนกับคนอกหัก..”

หลิงหยุนตอบกลับอย่างโมโห “นี่นายอย่าโยนผู้หญิงมาให้ฉันทุกคนหน่อยเลย ต่อไปถ้าเธอมาอีก ฝากนายบอกเธอด้วยว่าฉันไม่ต้องการเงินค่าจ้างนั่น..”

“ถ้าเธอมาอีกฉันรับแทนนายก็ได้ จะได้เอาไปใช้?” ฉางตงพูดยิ้มๆ

“นายอยากได้ก็เอาไป!” หลิงหยุนตอบอย่างไม่แยแส

“แต่น่าเสียดาย.. เธอคงไม่ยอมฝากเงินนั่นไว้กับฉันแน่ เพราะดูเหมือนเธอต้องการจะให้นายเองกับมือ!”

แต่จู่ๆภายในห้องก็เงียบกริบไปทันที ตามมาด้วยกลิ่นหอมนวล หลิงหยุนทำจมูกฟุดฟิด และเมื่อเงยหน้าขึ้นมองก็พบกับหลงหวู่..

หลิงหยุนถึงกับอ้าปากค้างด้วยความตกตะลึง!

หลงหวู่เข้ามาเรียนที่ห้องเดียวกับเขาได้อย่างไร?!

หลงหวู่สวมกางเกงขาสั้นรัดรูปที่ดูเซ็กซี่ เผยให้เห็นท่อนขาที่เรียวยาวสวยงามและเร่าร้อน!

เธอเดินตรงเข้าไปที่โต๊ะของเกาเฉินเฉินพร้อมกับเหลือบมองหลิงหยุน หลงหวู่ยืนนิ่งอยู่ตรงนั้นพร้อมกับส่งยิ้มให้หลิงหยุนกับฉางตง

ตอนนี้นักเรียนมัธยมปลายทุกห้องต่างก็รู้ดีว่าหลงหวู่คือลูกสาวของหัวหน้าแก๊งมังกรเขียว และเมื่อฉางตงเห็นหลงหวู่มองหลิงหยุน เขาก็รีบลุกขึ้นยืนพยักหน้าให้หลงหวู่ทันที จากนั้นก็กลับไปนั่งที่โต๊ะของตัวเอง

สีหน้าของหลงหวู่นิ่งเรียบไม่แสดงอารมณ์ใดๆ เธอบิดเอวเล็กน้อย และค่อยๆย่อตัวนั่งลงบนเก้าอี้ของเกาเฉินเฉิน จากนั้นก็หยิบนิตยสารแฟชั่นซึ่งเป็นภาษาต่างประเทศออกมานั่งเปิดดู

หลิงหยุนได้แต่มองด้วยความงุนงง พร้อมกับคิดในว่าหลงหวู่ทำอะไรประหลาดๆ

“นี่.. ออกไปข้างนอกได้แล้ว อย่ามาวุ่นวายรบกวนในห้องเรียน!” หลิงหยุนจ้องหน้าหลงหวู่ก่อนจะอ้าปากพูดกับเธอ

หลงหวู่สะบัดผมยาวสีดำขลับพร้อมกับหันไปมองหลิงหยุน จากนั้นริมฝีปากเซ็กซี่ก็กระซิบเบาๆว่า

“สวัสดีเพื่อนข้างโต๊ะ.. ฉันเป็นนักเรียนใหม่ ฝากเนื้อฝากตัวด้วย!”

‘สวัสดีเพื่อนข้างโต๊ะงั้นรึ? นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน?’

เกาเฉินเฉินยังคงไม่กลับมา แต่หลงหวู่กลับมาเรียนห้องเดียวกับเขา แล้วยังนั่งที่เกาเฉินเฉินอีก!

“นี่คุณนักกฎหมาย.. คุณคิดว่านี่เป็นเรื่องสนุกหรือยังไง?”

หลิงหยุนไม่สนใจสายตาที่จ้องมองมาของเพื่อนร่วมห้อง เขาสูดดมกลิ่นหอมจากเรือนร่างของหลงหวู่แล้วจึงกระซิบถาม

“ใครบอกล่ะ.. สนุกจะตายไปต่างหาก! ฉันก็อยากสอบเข้ามหาวิทยาลัยหยานจิงเหมือนกัน อุตส่าห์เสียเงินตั้งเยอะเพื่อให้ได้มาเรียนที่นี่.. ไม่ได้หรือยังไง?”

หลงหวู่ยิ้มและจะรอดูว่าหลิงหยุนจะทำอย่างไรต่อไป

หลิงหยุนได้แต่จ้องหน้าหลงหวู่  แต่หลังจากที่ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งจึงตอบกลับไปว่า

“ได้สิ! ยินดีต้อนรับ.. อย่างอบอุ่น..” หลิงหยุนผายมือพร้อมกับคิดในใจว่า เขารู้แล้วว่าจะรับมือกับบริษัทชิงหยุนโปรดักชั่นอย่างไรดี

ในเมื่อมีนักกฎหมายสาวอยู่ที่นี่ทั้งคน ไม่จำเป็นต้องไปหาที่ใหนอีก!

แต่หลิงหยุนยังไม่รีบร้อนจัดการเรื่องของบริษัทชิงหยุนมากนัก เขาจึงยังไม่ต้องการคุยกับหลงหวู่เรื่องนี้ในตอนนี้ แต่กลับถามไถ่เรื่องอื่นไปก่อน

“นี่คุณ.. ลุงหลงสบายดีไม๊? แล้วเจ้าสองคนที่ผมฝากแก๊งมังกรเขียวเอาตัวไปเป็นยังไงบ้าง?”

หลงหวู่ยิ้มพร้อมกับตอบเสียงเนิบ “นี่นายจะถามถึงพ่อฉัน หรือว่าจะถามถึงไอ้ขยะสองตัวนั่น?”

“ถ้าถามถึงพ่อของฉัน.. ท่านก็สบายดี! แต่เรื่องที่เกี่ยวกับแก๊งมังกรเขียว ฉันไม่รู้เรื่อง และไม่คิดจะเข้าไปก้าวก่าย”

หลิงหยุนกำลังจะถามต่อ แต่ตาของเขาเหลือบไปเห็นหญิงสาวที่คุ้นตายืนอยู่หน้าประตูห้อง จึงรีบส่งยิ้มให้..

ทันทีที่ฉางหลิงวิ่งเข้ามาในห้อง ก็มองไปทางโต๊ะของหลิงหยุนทันที และเมื่อเห็นหลิงหยุนนั่งอยู่ เธอก็แสดงสีหน้าตกใจพร้อมกับร้องอุทานออกมา!

“หลิงหยุน!”

Dragon Emperor Martial God จักรพรรดิ์เทพมังกร

Dragon Emperor Martial God จักรพรรดิ์เทพมังกร

Score 10
Status: Completed

ตอนที่ 1 – 505 อ่านนิยาย

(อ่านตอนต่อไปด้านล่าง)


ความเป็นอมตะของหลิงหยุนได้มลายหายไป.. ทำให้เขาตกลงมาสู่โลกมนุษย์ ในยุคที่เต็มไปด้วยความเสื่อมทรามอย่างที่สุด

จากนั้น.. หลิงหยุนจะค่อยๆ บ่มเพาะพลังในตัวเองทีละขั้น ทีละขั้น และไต่ลำดับขึ้นไปต่อกรกับสวรรค์ได้อย่างไร..


Options

not work with dark mode
Reset